หลังจากที่ซู่เจินออกมาจากยานบิน เขาก็บินไปที่เกาะแถวชายฝั่งตะวันตกด้วยความเร็วเสียงทันที และไม่นานเขาก็บินมาถึง โดยที่เขายังไม่ได้เข้าไปภายในเกาะ เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศพร้อมกับมองไปที่คนงานที่กำลังทำการก่อสร้างกันอย่างขยันขันแข็ง มันชั่งเป็นภาพที่ดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากและเขาก็เห็นว่าบริ๊งค์กำลังเปิดประตูพอร์ทัลเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการขนส่งอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ
ซู่เจินค่อย ๆ ร่อนลงพื้นอย่างช้า ๆ
“บอส คุณกลับมาแล้วงั้นหรอ“
บริ๊งค์พูดทักทายขึ้นมาทันที เมื่อเห็นซู่เจินที่กำลังร่อนลงมา
เมื่อซู่เจินเห็นเม็ดเหงื่อที่หน้าผากของบริ๊งค์ เขาก็พูดขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงว่า “อย่าทำงานหนักเกินไป หาเวลาไปพักผ่อนบ้าง!”
“เรื่องเล็กน้อย … ไม่มีปัญหาอะไรหรอก!” บริ๊งค์พูดขึ้นมาพร้อมกับเช็คเหงื่อที่หน้าผากของเธอ
“แล้วตอนนี้ความคืบหน้าเป็นยังไงบ้าง ?” ซู่เจินรู้ดีว่านิสัยของบริ๊งค์ตามปกติแล้วเธอเป็นคนดื้อรั้น แต่ตอนนี้เธอมีพฤติกรรมที่แปลกออกไป เธอนิ่งและเงียบผิดปกติ แต่ซู่เจินก็ไม่ได้ซักไซ้ถามอะไรเธอให้มากความ และเปลี่ยนไปถามเรื่องความคืบหน้าแทน
ตามความคิดของซู่เจินเขาไม่ต้องการสร้างฐานทัพของเขาไว้เพียงแค่บนพื้นดินเท่านั้น เขาต้องการสร้างฐานทัพของเขาเอาไว้ใต้ดินด้วย! ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ก็คือวิศวกรและคนงานจำนวนมาก
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะเสร็จภายในครึ่งปี!” บริ๊งค์คิดอยู่สักพักหนึ่งและตอบซู่เจิน
ครึ่งปี? ดูเหมือนว่ามันจะช้าไปหน่อย
แต่ถึงยังไงพวกเขาก็มีกันแค่สามคนบวกกับคนงานที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด ทำให้การก่อสร้างไม่สามารถเร่งเวลาไปได้มากกว่าอีกนี้แล้ว … ดูเหมือนว่าฉันจะต้องอยู่ช่วย….
“บอส! ดูเหมือนว่าจะมีแขกมาหาพวกเรา“
ในขณะที่ซู่เจินกำลังยืนคิดอยู่ บริ๊งค์ก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ซู่เจินเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า แล้วมองไปที่แสงที่กำลังส่องแสงแวววับมาแต่ไกล
“ไอรอนแมนงั้นหรอ ? เขามาทำอะไรที่นี่!” ซู่เจินขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
หรือว่าผู้ชายคนนี้ยังต้องการศึกษายานบินของดาร์กเอลฟ์อยู่อีก ?
“เธอไปบอกดาร์กเอลฟ์ให้เปิดระบบป้องกันของยานบินให้เรียบร้อย เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเขาจะมาดีหรือมาร้าย” ซู่เจินหันไปกระซิบกับบริ๊งค์ บริ๊งค์พยักหน้าเบา ๆ และเปิดประตูพอร์ทัลไปหาดาร์กเอลฟ์ทันที
ในขณะเดียวกันตอนนี้ไอรอนแมนได้มาอยู่เหนือหัวของซู่เจินเรียบร้อยแล้ว และกำลังค่อย ๆ ร่อนลงอย่างช้า ๆ
แต่เมื่อดูจากท่าทางที่โคลงเคลงขณะร่อนลงแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยชำนาญสักเท่าไหร่ ?
“ทำไมคุณถึงมาที่นี่! อย่าบอกนะว่าคุณมาที่นี่ก็เพื่อยานบินของดาร์กเอลฟ์ ? และถ้ามันเป็นอย่างงั้นจริง ๆ ผมจะสอนให้คุณรู้เองว่าการวิ่งหนีที่ถูกต้องมันเป็นยังไง!” ซู่เจินโค้งริมฝีปากของเขาขึ้น ในขณะที่จ้องมองไปยังไอรอนแมนที่กำลังร่อนลงพื้นอย่างช้า ๆ
หมวกของชุดเกราะไอรอนแมนค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ และคนที่อยู่ด้านในไม่ใช่โทนี่ แต่เป็นเปปเปอร์
เมื่อซู่เจินเห็นว่าเธอกำลังเดินออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนอย่างยากลำบาก ก็ทำให้เขารู้สึกมึนงงทันที
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?
“ขอโทษ! ผมคิดว่าเป็นโทนี่“ ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
เปปเปอร์ยิ้มออกมาพร้อมกับโบกมือเบา ๆ ให้กับซู่เจิน “ไม่เป็นไร ๆ “
“คุณมาที่นี่เพื่อมาหาผมงั้นหรอ?” ซู่เจินถามขึ้นมาทันที
เปปเปอร์พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ฉันมาที่นี่ก็เพื่อพบคุณโดยเฉพาะ และฉันก็รู้ด้วยว่าโทนี่กำลังสนใจเกี่ยวกับยานบินของคุณอยู่ แต่ที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้มันเป็นความต้องการส่วนตัวของฉันเอง ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับโทนี่“
“ความต้องการส่วนตัว ? แล้วที่ … คุณมาหาผมแบบนี้คุณไม่กลัวว่าโทนี่จะหึงงั้นหรอ?” ซู่เจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับพูดติดตลกเล็กน้อย เขาก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมเปปเปอร์ถึงได้มาหาเขา และมันยังเป็นความต้องการส่วนตัวอีกด้วย ?
เปปเปอร์พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังว่า “คุณซู่เจิน ฉันคิดว่าคุณกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับโทนี่ ฉันเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยของเขาเท่านั้น ไม่ใช่แฟนของเขา! “
“เอ่อ … ไม่ใช่งั้นหรอ“ ซู่เจินรู้สึกประหลาดมากใจจริงๆ เมื่อมองจากสิ่งที่โทนี่ได้ทำให้กับเปปเปอร์มากมายซะขนาดนั้น เขาก็คิดว่าพวกเขาเป็นคู่สามีภรรยากันซะอีก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด “ขอโทษนะ คุณ … ยังไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากันเลยงั้นหรอ? “
“จะเป็นอย่างงั้นไปได้ยังไง ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยของเขาไม่ใช่แฟน!” เปปเปอร์พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง “แน่นอนว่าฉันรู้จักกับเขามาหลายปีแล้ว ดังนั้นสามารถนับได้ว่าเขาเป็นเพื่อนของฉัน แม้ว่าฉันจะเป็นผู้ช่วยของเขาก็ตาม และมันก็ไม่เคยเกินเลยไปมากกว่านั้น และเมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันกำลังหาผู้ช่วยคนใหม่ให้กับเขาอยู่ แต่มันก็ยังไม่เจอคนที่เหมาะสม และที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อขอบคุณคุณ!”
“ขอบคุณผม ? เรื่องไวรัสเอ็กซ์ตรีมมิสงั้นหรอ ? “
“ใช่!”
“ไม่จำเป็น เพราะผมเคยพูดไปแล้วว่าผมต้องการไวรัสเอ็กซ์ตรีมมิสจากคุณในตอน!” ซู่เจินไม่คิดว่าเธอจะยังจำมันได้อยู่ แถมเธอยังมาขอบคุณเขาด้วยตัวของเธอเองอีกด้วย
“แต่สำหรับฉันคุณคือผู้มีพระคุณที่ได้ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่ก็เพื่อขอบคุณคุณ“ เปปเปอร์ก็ยังคงยืนยันคำเดิม เธอลังเลไปครู่หนึ่งและพูดต่อว่า “แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนคุณยังไงดี“
“เอ่อ … ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน … ตอบแทนด้วยร่างกายของคุณล่ะเป็นยังไง ? “ ซู่เจินพูดขึ้นมาแบบติดตลกเล็กน้อย
เปปเปอร์ถึงกับตัวแข็งค้างไปชั่วขณะ เธอไม่คิดว่าซู่เจินจะพูดขึ้นมาแบบนี้
เมื่อซู่เจินเห็นท่าทางของเปปเปอร์ เขาก็รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “แน่นอนว่าผมแค่ล้อเล่น อันที่จริงถ้าคุณอยากจะขอบคุณผมจริง ๆ ละก็ ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยนิดหน่อย“
“คุณลองพูดมาสิ!”
“ชุดเกราะเหล็กของโทนี่น่าจะมีอยู่อีกจำนวนมาก และมันสามารถควบคุมจากระยะไกลได้ … คุณลองมองไปรอบ ๆ สิ ตอนนี้ผมกำลังสร้างฐานขึ้นมาและต้องการทำให้มันเสร็จเร็วยิ่งขึ้น แต่ติดปัญหาตรงที่ผมมีคนไม่เพียงพอ ดังนั้น … “
“ฉันจะคุยกับเขาให้!”
เปปเปอร์ตอบขึ้นมาทันที
“ขอบคุณมาก! และถ้าเกิดว่าโทนี่ปฏิเสธผมจะได้ลองหาวิธีอื่นดู“
“เดี๋ยวฉันจะส่งข่าวมาให้คุณ!”
หลังจากเปปเปอร์พูดจบเธอก็เดินไปสวมชุดไอรอนแมนและบินจากไปอย่างรวดเร็ว
ซู่เจินปล่อยโล่พลังงานมาครอบคลุมร่างกายของเขาเอาไว้อย่างเงียบ ๆ และรอจนกว่าควันจะสลายหายไปจนหมด และพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ว่า“ไม่ว่าจะเป็นรถหรือชุดเกราะไอรอนแมน ถ้าเกิดว่าผู้หญิงเป็นคนขับหรือบังคับมัน มันจะออกมาแย่มาก …. “