ตอนที่ 99 ผลกระทบที่ตามมา
S.H.I.E.L.D. , นิค ฟิวรี่
เมื่อมองไปยังหมายเลขที่โทรเข้ามา ซู่เจินก็รู้สึกรําคาญขึ้นมาเล็กน้อย
เพราะไม่ว่าเขาจะทําอะไร SHIELD ก็จะรู้ข้อมูลของเขาได้อย่างรวดเร็ว … พวกเขาว่างมากงั้นหรอ ? ถึงได้มาจับตาดูเขาในทุก ๆ วัน ?
หลังจากนั้นไม่นานซู่เจินก็กดรับโทรศัพท์และพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงรําคาญเล็กน้อยว่า “คุณควรพูดเข้ามาเรื่องมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นคุณก็วางสายไป!”
“ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอก … ฉันก็แค่อยากขอบคุณคุณที่ช่วยสไปเดอร์แมนเอาไว้…” นิคฟิวรี่ถึงกับชะงักเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงของซู่เจิน และค่อย ๆ พูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ
“มันไม่ได้สําคัญอะไรมากมายนัก ไม่ว่าคุณจะขอบคุณผมด้วยวิธีไหนก็ตาม และ ใครบอกว่าผมอยากจะช่วยเขา ? มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเกิดว่าผมปล่อยเขาเอาไว้แบบนั้น” ซู่เจินพูดขึ้นมาอย่างโกรธ ๆ และพูดตัดบทต่อทันทีว่า ” คุณไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วใช่ไหม ? ผมจะได้วางสาย”
” บลา ๆ…”
นิคฟิวรี่รีบตะโกนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่สายมันตัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผู้ชายคนนี้!”
นิคฟิวรี่ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ เพราะว่าไม่เคยมีใครที่กล้าวางสายของเขาแบบนี้มาก่อน ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาก็รู้สึกขอบคุณซู่เจินมากจริง ๆ ที่ได้ช่วยสไปเดอร์แมนเอาไว้ และในทางกลับกันเขาก็แค่อยากเตือนซู่เจินว่าอย่าได้ทําตัวหยิ่งผยองให้มากนัก เพราะว่าการที่ซู่เจินฆ่าดร.อ๊อกโตปุสกลางถนนแบบนั้นมันจะทําให้ประชาชนคนธรรมดารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาได้
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศที่มีการใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทําให้ผู้คนของที่นี่ค่อนข้างจะคุ้นชินกับการที่อาชญากรถูกจับกุมและนําไปคุมขัง ซึ่งมันก็จะมีอาชญากรเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่โดนประหาร โดยส่วนมากจะเป็นอาชญากรที่ก่อเหตุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง!
และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถเกลี้ยกล่อมซู่เจินได้อีกต่อไป เพราะว่าซู่เจินไม่มีการไว้หน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย!
คนงานเก่าที่อยู่บนเกาะถูกบริงค์ส่งตัวกลับไปที่เมืองอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าซู่เจินก็จ่ายเงินให้กับคนงานพวกนี้ไปไม่ใช่น้อยเช่น แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เขาได้รับมามันก็มากกว่าอยู่ดี ดังนั้นพวกคนงานทุกคนจึงรู้สึกขอบคุณซู่เจินเป็นอย่างมาก และหลังจากที่ส่งพวกเขาออกไปหมดแล้ว ซู่เจินก็เริ่มทําความสะอาดเกาะทันที
หลักจากที่ซู่เจินทําอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เรียกทุกคนเข้ามาประชุมภายในยานบินทันที
บริ๊งค์ , แมโร , เฉินห่าวหราน , เปปเปอร์ และ ดาร์คเอลฟ์ ที่ดํารงตําแหน่งคนขับยานบิน
คนยังน้อยไปหน่อย!
ซู่เจินถอนหายใจออกมาอย่างลับ ๆ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “อีกไม่นานหลังจากนี้จะมีบริษัท Damage Control เข้ามารับช่วงต่อในการสร้างฐานของพวกเรา และมันก็น่าจะเสร็จภายในหนึ่งเดือน ดังนั้นในช่วงหนึ่งเดือนนี้ผมจะไปอยู่ที่ SHIELD ส่วนบริ้งค์และเปปเปอร์ ผมจะต้องขอรบกวนพวกคุณให้คอยช่วยดูแลความคืบหน้าของฐานให้ผมหน่อย และเฉินห่าวหรานกับแมโร พวกคุณขึ้นไปอยู่บนยานบินและพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกคุณให้ได้มากที่สุด เพราะว่าอีกไม่นาน … มันจะมีเหตุการณ์ที่จะทําให้พวกคุณต้องต่อสู้”
“รับทราบ!”
ไม่มีใครพูดคัดค้านขึ้นมากับการตัดสินใจของซู่เจินเลยแม้แต่น้อย ซึ่งในขณะที่ซู่เจินกําลังพูดอยู่ เปปเปอร์ก็อ้าปากของเธอขึ้นมาเล็กน้อย ราวกับว่าเธอต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แน่นอนว่าซู่เจินก็เห็นปฏิกิริยาของเปปเปอร์เช่นกัน แต่เขากับแกล้งทําเป็นมองไม่เห็นมันแทน
ซึ่งที่เปปเปอร์อยู่ที่นี่ก็เพราะว่าเธอต้องการที่จะตอบแทนบุญคุณของซู่เจิน และเห็นได้ชัดว่าถ้าฐานสร้างเสร็จเมื่อไหร่ เธอก็คงจะจากไปทันที ทําให้ซู่เจินได้แต่บอกใบ้ให้กับเธอว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดว่าเธอเริ่มคุ้นเคยกับการอยู่ที่นี่แล้ว แต่เปปเปอร์ก็ไม่ได้สังเกตุถึงมัน ทําให้ซู่เจินจึงทําได้เพียงแต่หางานให้เธออยู่ช่วยเขาบนเกาะเท่านั้น เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นคนที่คอยติดต่อและจัดการเรื่องของบริษัท Damage Control ให้กับเขา!
และเมื่อฐานสร้างเสร็จแล้ว เขาก็จะต้องหาวิธีอื่นเพื่อรั้งเธอเอาไว้ให้ได้
“เจ้านาย! ฉันตรวจพบว่ากําลังมีใครบางคนกําลังมุ่งหน้ามาที่นี่!”
ดาร์คเอลฟ์พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“โอ้ ? รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร”
ซู่เจินรีบถามดาร์คเอลฟ์เอลฟ์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นานก็มีภาพปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ
เรือสปีดโบ๊ทลําหนึ่งกําลังแล่นเข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว และเมื่อซู่เจินเห็นคนที่อยู่บนเรือ มันก็ทําให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
และไม่นานมุมปากของซู่เจินก็ค่อย ๆ ยกขึ้นเล็กน้อย เพราะว่าตอนนี้ซู่เจินรู้แล้วว่าทําไมเขาถึงได้มาที่นี่อย่างกะทันหัน
” ต่อไปนี้นายจะต้องเรียกผมว่า บอส เหมือนกับพวกเขา”
ซู่เจินหันไปพูดกับดาร์กเอลฟ์
ดาร์คเอลฟ์รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันทีและรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ดาร์คเอลฟ์คนนี้ก็ค่อนข้างจะมีความความประพฤติที่ดีมาโดยตลอด เพราะว่าเขาไม่เคยมีความคิดที่จะทรยศต่อซู่เจินเลยแม้แต่น้อย ทําให้ซู่เจินอยากยกสถานนะของเขาขึ้นมาเล็กน้อย
“บริ๊งค์ คุณไปพาตัวของเขามาให้ผมหน่อย!”
” ค่ะบอส!”
บริ้งค์พูดตอบขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็เปิดประตูพอร์ทัลและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานประตูพอร์ทัลก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับบริงค์ที่พาชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องประชุม!
ศาสตราจารย์ลิซาร์ด!
คนที่บริ้งค์พามาก็คือศาสตราจารย์ลิซาร์ด
เมื่อมองไปยังผู้คนที่อยู่ในห้องประชุม ศาสตราจารย์ลิซาร์ดก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย โดยเฉพาะตอนที่เขาต้องเผชิญหน้ากับซู่เจิน มันทําให้เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองซู่เจินเลยแม้แต่น้อย
“ไหนลองบอกเหตุผลมาซิว่าทําไมคุณถึงได้มาหาผมอย่างกะทันหันแบบนี้”
ซู่เจินเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับเอาเท้าทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะอย่างลวก ๆ และเหลือบมองไปที่ศาสตราจารย์ลิซาร์ด ..
ศาสตราจารย์ลิซาร์ดลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้นมาว่า “ฉัน ฉันเป็นลูกน้องของคุณไม่ใช่หรอ ? ตอนนั้นฉันยังมีธุรอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งหลังจากที่ฉันทําเสร็จแล้ว ฉันก็เลยรีบมาหาคุณนี่ไง ?
“โอ้! ผมจําได้ว่ามันผ่านมาสักพักแล้วใช่ไหม ? และถ้าเกิดว่าคุณมีความคิดเช่นนั้นจริง ๆ แล้ว ทําไมคุณถึงไม่มาที่นี่ให้เร็วกว่านี้ล่ะ ?” ซู่เจินถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ศาสตราจารย์ลิซาร์ดถึงกับพูดไม่ออก
“หึ! มันจะเป็นอะไรไปได้อีกล่ะ นอกจากความกลัว” แมโรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
แน่นอนว่าเธอรู้สึกไม่ค่อยดีกับศาสตราจารย์ลิซาร์ดสักเท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไร .. ศาสตราจารย์ลิซาร์ดก็เป็นคนที่ต้องการจับตัวของเธอไปทําการทดลองในตอนแรก
ซู่เจินไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาแม้แต่น้อย เขาทําเพียงแต่จ้องมองไปที่ศาสตราจารย์ลิซาร์ดอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าศาสตราจารย์ลิซาร์ดจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แต่เขาก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าตอนนี้ซู่เจินกําลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ตลอดเวลา ทําให้เขารู้สึกอึดอัดและเริ่มหายใจไม่ออก หลังจากที่ลังเลอยู่นานศาสตราจารย์ลิซาร์ดก็กัดฟันของเขาและพูดขึ้นมาว่า “ใช่ … ฉันกลัว! เพราะว่าหลังจากที่ฉันหนีรอดออกมาได้ในครั้งนั้น ฉันก็พยายามซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งฉันกลับมาที่นี่ … แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะต้องกลายมาเป็นลูกน้องของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันรู้ว่า คุณไม่ได้มาตามหาฉันเลยแม้แต่น้อย มันก็ทําให้ฉันคิดว่าคุณแค่ต้องการขู่ให้ฉันกลัวก็แค่นั้น! จนกระทั่งฉันเห็นข่าว ข่าวที่คุณได้ฆ่าดร.อ๊อกโตปุสทิ้งกลางถนน ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันก็เคยติดต่อกับดร.อ๊อกโตปุสอยู่สองสามครั้ง มันก็เลยทําให้ฉันกลัวว่าฉันจะกลายเป็นแบบเขา ฉันจึงตัดสินใจมาที่นี่!”
หลังจากที่ศาสตราจารย์ลิซาร์ดพูดจบ เขาก็หมดเรี่ยวแรงลงในทันที พร้อมกับรอคําตอบของซู่เจินอย่างประหม่า
หลังจากนั้นไม่นานซู่เจินก็ค่อย ๆ พูดขึ้นมาว่า ”ต่อไปนี้คุณจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งผมมียาอยู่ตัวหนึ่งที่ต้องการให้คุณลองทําการวิจัยเกี่ยวกับมันดู”
” เฮ้อ!” ศาสตราจารย์ลิซาร์ดถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพร้อมกับพยักหน้าอย่างรวด
“ผมจะไม่พูดเตือนอะไรคุณ เพราะคุณก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไง” ซู่เจินลุกขึ้นปรบมือและพูดว่า “เอาล่ะ! ไปทํางานของตัวเองกันได้แล้ว และถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ให้บริ้งค์รีบติดต่อผมทันที”
ซู่เจินไม่กังวลว่าศาสตราจารย์ลิซาร์ดจะสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาบนเกาะ และถ้าเกิดว่าเขาสร้างปัญหาจริง ๆ แค่แมโรและเฉินห่าวหรานก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะจัดการกับเขา เพราะในช่วงที่ผ่านมานี้พวกเขาทั้งสองคนสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเขาไปได้อย่างรวดเร็ว จนตอนนี้พวกเขาสามารถจัดการกับศาสตราจารย์ลิซาร์ดได้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนซู่เจินในตอนนี้ก็กําลังมุ่งหน้าไปหาสกายอย่างรวดเร็ว ซึ่งในระหว่างทางซู่เจินก็ถามขึ้นมากับฟิทซ์เล็กน้อยว่าตอนนี้ชุดของเขาเสร็จแล้วหรือยัง ?