ตอนที่ 110 มนุษย์หินที่ถูกทารุณกรรม
แฟนแทสติกโฟว์เป็นซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มแรกที่ประชาชนคนธรรมดาได้รู้จักถึงการมีอยู่ของพวกเขา หรือก็คือ … หลังจากที่พวกเขาได้รับความสามารถพิเศษมาพวกเขาก็ไม่เคยคิดที่จะปกปิดหรือซ่อนตัวตนของพวกเขาเอาไว้เลยแม้แต่น้อย และพวกเขาก็ถือว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตอนนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่คนพลังไฟหรือจอห์นนี่ สตอร์มได้สูญเสียความสามารถของเขาไป ทําให้พวกเขาในตอนนี้ได้รับความสนใจจากพวกนักข่าวเป็นจํานวนมาก ซึ่งในช่วงนี้จอห์นนี่ก็ไม่ได้ออกไปไหนทั้งสิ้น เพราะถ้าเกิดว่าเขาคิดจะออกไปข้างนอกเขาก็จะถูกพวกนักข่าวเข้ามาลุมล้อมทันที บวกกับการที่วันนี้คนพลังกายสิทธิ์และสาวน้อยพลังล่อนหนไม่อยู่และจอห์นนี่เกิดอยากกินอาหารจีนขึ้นมา แต่เขาก็ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ทําให้จอห์นนี่จําเป็นที่จะต้องขอร้องกับคนพลังภูผาหินหรือเบน กริมม์ให้ออกมาซื้อให้กับเขา โดยที่เบนพยายามที่จะปกปิดตัวตนของเขาให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่เป็นจุดสนใจของคนอื่น ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีความสามารถพิเศษที่ไม่ค่อยเหมือนกับคนอื่น ๆ สักเท่าไหร่ เพ ราะด้วยรูปร่างที่เป็นหินของเขาเกือบทั้งหมดทําให้ไม่ว่าเขาจะสวมหมวกหรือสวมเสื้อโค้ทมันก็ไม่ได้ช่วยทําให้คนอื่น ๆ จําเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะทันทีที่เขาเดินออกมามันก็มีผู้คนที่สามารถจดจําเขาได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบเดินเข้ามาทักทายทันที
ซึ่งในตอนแรกมันก็มีแค่ประชาชนคนธรรมดาที่เข้ามาขอถ่ายรูปกับเขาเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ไม่รู้ว่าพวกนักข่าวพวกนี้มาจากไหนกันตั้งเยอะแยะเต็มไปหมดพร้อมกับล้อมรอบตัวของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว บวกกับการที่มีไมโครโฟนที่กระแทกเข้ากับร่างของเขาอยู่ตลอดเวลา ทําให้เขาในตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ซึ่งเขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้มากนัก และเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะหลุดออกไปจากคนพวกนี้ได้!
และในขณะที่เบนกําลังค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับนักข่าวที่อยู่ล้อมรอบตัวเขา ทันใดนั้น เขาก็สังเกตไปเห็นใครคนหนึ่ง
คนที่เขาจําได้ไม่เคยลืม!
ซู่เจิน!
“เป็นเขานั่นเองที่กลืนกินความสามารถของจอห์นนี่ ทําให้จอห์นนี่ในตอนนี้อยู่ในสภาพที่แย่มาก”
“เป็นเขานั้นเองที่ทําร้ายซูซานและลักพาตัวของเธอไป”
“เป็นเขานั่นเองที่ทําให้ฉันถูกนักข่าวพวกนี้เข้ามารุมล้อม!”
ยิ่งเบนคิดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ความโกรธของเขามันก็ยิ่งทวีคุณความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้เขารีบผลักไมโครโฟนที่อยู่ข้าง ๆ ตัวของเขาออกไปอย่างรุนแรงพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาซ่เงินอย่างรวดเร็ว ซึ่งพวกนักข่าวทั้งหลายก็อดรู้สึกทั้งไม่ได้กับการกระทําของเบน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเบนเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขากับรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับมันมากกว่า
คนพลังภูผาหินเกิดอาการคลั่งและพุ่งเข้าโจมตีใส่นักข่าว ?
นี่จะต้องเป็นข่าวที่ดังมากแน่ ๆ
แน่นอนว่านี่คือวิธีการทํางานของพวกนักข่าวพวกนี้
“ซู่เจิน… คุณหยุดอยู่กับที่เดี๋ยวนี้!”
เบนตะโกนไปทางซู่เจิน ทําให้ซู่เจินขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับหยุดเดินทันที
ในขณะเดียวกันพวกนักข่าวพวกนั้นก็มองไปทางเบนและซู่เจินด้วยความสนใจเล็กน้อย ซึ่งพวกเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่เบนเข้าไปหาเรื่องเขาเป็นใครกันแน่ ?
พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มคาดเดากันไปต่าง ๆ นา ๆ พร้อมกับเริ่มอัดวิดีโอเหตุการณ์ตรงหน้าเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพราะนี่จะต้องเป็นเหตุการณ์ที่หาดูได้ยากอย่างแน่นอน!
ตูม!ตูม!ตูม!
การวิ่งของเบนทําให้พื้นที่บริเวณรอบ ๆ ถึงกับสั่นสะเทือนพร้อมกับตัวพื้นที่ทรุดตัวลงไปกลายเป็นรอยเท้าของเขา หลังจากนั้นไม่นานเบนก็มายืนอยู่ตรงหน้าของซู่เจินที่กําลังยืนยิ้มอย่างสบายใจด้วยความสงบ ซึ่งตรงกันข้ามกับเบนที่ตอนนี้กําลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“มีปัญหาอะไรกับผมงั้นหรอ?” ซู่เจินถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา
เบนไม่คิดว่าซู่เจินจะถามเขาขึ้นมาว่ามีปัญหาอะไรงั้นหรอขึ้นมาเป็นประโยคแรก ? นี่คุณไม่รู้งั้นหรอว่าพวกเราเป็นศัตรูกัน ? ในขณะที่เบนกําลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ทันใดนั้นเขาก็ล้มเลิกความคิดของเขาทิ้งไปพร้อมกับกําหมัดของเขาขึ้นมาและต่อยไปที่ซู่เจินอย่างรวดเร็ว!
“เกิดอะไรขึ้น…..”
ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ กรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะพวกเขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเบนจะโจมตีไปที่ซู่เจินอย่างกะทันหันแบบนั้น ซึ่งก็ดูเหมือนว่าซู่เจินจะเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ทําให้พวกเขาในตอนนี้รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากเรื่องความปลอดภัยของเขา
“แชะ ๆ”
ทันใดนั้นก็มีนักข่าวที่มากประสบการณ์รีบถ่ายภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเอาไว้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจจริง ๆ ก็คือการที่ซู่เจินกระโดดถอยหลังออกมาเบา ๆ พร้อมกับหลบหลีกหมัดของเบนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในขณะเดียวกันซู่เจินก็ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
เมื่อเบนเห็นว่าซู่เจินสามารถหลบหมัดของเขาได้อย่างง่ายดาย มันก็ยิ่งทําให้เขารู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก ทําให้เขารีบเหวี่ยงหวัดไปทางซู่เจินอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
แต่ทันใดนั้นหมัดของเบนก็ถูกมือของซู่เจินจับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับเหวี่ยงร่างของเบนออกไปอย่างรุนแรง
ร่างของมนุษย์หินขนาดใหญ่บินออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่ร่างกายของเขาลอยอยู่เหนือพื้นประมาณหนึ่งเมตร
ในขณะเดียวกันร่างของซู่เจินก็หายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือร่างของเบนพร้อมกับยกเท้าขวาของเขาขึ้นมา และกระแทกไปที่ตัวของเบนอย่างรุนแรง!
“ตูม!”
ร่างของเบนถูกกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง ทําให้ถนนที่ทํามาจากปูนคอนกรีตในตอนนี้ถูกกระแทกจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ บวกกับแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทําให้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกสั่นสะท้าน ซึ่งเบนในตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของเขาในตอนนี้กําลังจะขาดออกจากกันและเขาก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าซู่เจินจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ เมื่อเขามองไปยังซู่เจินที่กําลังยืนมองมาที่เขาอยู่ด้านบน เขาก็พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น และในขณะที่เขากําลังจะลุกขึ้นยืนนั้น เขาก็สังเกตเห็นว่ามีค้อนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาในมือของซู่เจิน
ซู่เจินยกมือของเขาขึ้นและเอาค้อนทุบลงไปที่เบนอย่างรุนแรง
เบนรีบเอามือมากันไว้ตรงหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว
“ตุม!”
ค้อนกระแทกไปที่แขนของเบนอย่างรุนแรง ทําให้ร่างกายของเขาจมลงไปที่พื้นเล็กน้อย
“ตูม!” “ตูม!” “ตูม!” “ตูม!” “ตูม!” ….
ซู่เจินตีไปที่เบนราวกับว่าเขากําลังตีตัวตุ่น ซึ่งตอนนี้ค้อนกําลังโบกสะบัดขึ้นลงไปมาอย่างรวดเร็ว …
ในช่วงแรก ๆ เบนก็ยังพอที่จะต้านทานการโจมตีจากค้อนได้อยู่ แต่เมื่อเวลามันผ่านไปนานเข้า เขาก็เริ่มที่จะทนมันไม่ได้อีกต่อไป
หลังจากที่ซู่เจินทุบไปที่เบนได้เกือบ 20 ครั้งเขาก็หยุดลงพร้อมกับเหลือบมองไปที่เบนเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเก็บพลังงานจากค้อนกลับมาและเดินจากไปทันที
แสงของกลุ่มก้อนพลังงานสีเขียวเข้มพุ่งกลับเข้าไปในแหวนของซู่เจินอย่างรวดเร็ว ทําให้ร่างกายของซู่เจินเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ก็มองไปที่ซู่เจินด้วยความตกใจและความไม่อยากจะเชื่อว่าซู่เจินจะสามารถจัดการกับคนพลังภูผาหินได้อย่างง่ายดาย … ซู่เจินส่ายหัวของเขาขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับเดินเข้าไปในฝูงชนและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
“มันเกิดอะไรขึ้น”
ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า “พระเจ้า! ฉันรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร … เขาคือคนที่ฆ่าดร.อ๊อกโตปุส!”
“ไม่ใช่ว่าเขาก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่เหมือนกันอย่างงั้นหรอ ? แล้วทําไมพวกเขาถึงได้ต่อสู้กันเอง ? ซึ่งก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความแค้นกันมาก่อนหน้านี้”
“มนุษย์หินเป็นคนเริ่มก่อน”
“เห็นตอนที่เขาต่อสู้ไหม … เขาเท่มาก!”
คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ พูดคุยกันอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้ลืมว่าตอนนี้เป็นกําลังถูกฝังอยู่ในหลุม เพราะหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ค่อย ๆ ช่วยเบนออกมาจากหลุมด้วยความยากลําบาก!
เบนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับหันหัวไปมองรอบ ๆ ด้วยแววตาขอบคุณ ซึ่งอารมณ์ของเบนในตอนนี้ก็ดีขึ้นมามากแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดนักข่าวพวกนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็เกลียดคนที่ช่วยเขาเอาไว้ได้ไม่ลงหรอกจริงไหม ?
” คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? บาดเจ็บตรงไหนหรือปาว ? “
” ฉันไม่เป็นอะไรมากขอบคุณ!”
เบนค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างยากลําบากเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไรร่างกายของเขาก็เป็นหิน ทําให้เขามีความสามารถในการต้านทานการโจมตีที่สูงมาก
“ในเมื่อคุณไม่ได้เป็นอะไรมาก ดังนั้นคุณช่วยบอกกับพวกเราหน่อยได้ไหมว่าทําไมคุณถึงได้พุ่งเข้าไปโจมตีชายคนนั้นอย่างกะทันหัน ? เขาเป็นใคร ? พวกคุณเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนอย่างงั้นหรอ ?” นักข่าวรีบถามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เฮ้อ!
เบนรู้สึกขึ้นมาได้ในทันทีเลยว่าเรื่องที่เขาคิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ มันเป็นเรื่องที่เขาคิดขึ้นมาเองทั้งสิ้น โดยที่มันเกิดขึ้นมาจากการที่เขาวิตกกังวลมากเกินไปว่าเขาจะตกเป็นข่าว
เบนส่ายหัวขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับหันหลังเดินจากไปทันที โดยที่เขาไม่ได้สนใจพวกนักข่าวเลยแม้แต่น้อย
ร้านอาหารจีน!
หลังจากที่ซู่เจินเดินเข้ามาภายในร้านเขาก็พบว่ากิจการของที่นี่ค่อนข้างที่จะดีมากเลย เขาเดินไปหาที่นั่งและรอจนกระทั่งพนักงานเสิร์ฟเดินมาถามซู่เจิน ซึ่งซู่เจินก็สั่งอาหารจีนที่มีชื่อเสียงของที่นี่ไปสองสามอย่างพร้อมกับบอกกับพนักงานเสิร์ฟว่าเขาจะเอากลับบ้านและก็ขอให้เขาทําอาหารจีนแบบต้นตํารับแท้ ๆ !
แต่ถึงอย่างไรท้ายที่สุดแล้วอาหารจีนก็ได้แพร่หลายไปในหลาย ๆ ประเทศทําให้พวกผู้ประกอบการจึงจําเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนรสชาติเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับคนในท้องถิ่น ทําให้อาหารจีนมันไม่ค่อยจะมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับรสชาติต้นตํารับสักเท่าไหร่