Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล – ตอนที่ 109

ตอนที่ 109

ตอนที่ 109 ช่างตีเหล็ก และ บลิซซาร์ด

“บอส! ไหนคุณบอกว่าจะอยู่ที่ SHIELD ไม่ใช่หรอ ? แล้วทําไมคุณถึงได้กลับมาที่นี่พร้อมกับชายคนนี้ล่ะ เขาเป็นใครงั้นหรอ ?” เมื่อเห็นว่าซู่เจินกลับมาพร้อมกับชายวัยกลางคนที่ไม่สวมเสื้อ บริ้งค์และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

”เขาชื่อว่าเอลเลียตแรนดอล์ฟ เป็นช่างตีเหล็กของชาวแอสการ์ด ซึ่งถ้าเกิดว่าพวกคุณต้องการอาวุธอะไรพวกคุณก็สามารถไปขอความช่วยเหลือจากเขาได้ และนี่ก็คือชุดเครื่องแบบประจํากลุ่มของพวกเราที่ผมได้ทํามาให้กับพวกคุณ นอกจากนี้มันยังจะเป็นชุดเครื่องแบบที่แสดงถึงการมีอยู่ของพวกเรากลุ่ม “พันธมิตรสงคราม” อีกด้วย เอาล่ะ! เชิญพวกคุณเลือกชุดที่เหมาะสมกับขนาดร่างกายของพวกคุณได้เลย” ซู่เจินแนะนําตัวของเอลเลียตแรนดอล์ฟขึ้นมาคร่าว ๆ หลังจากนั้นเขาก็หยิบชุดที่ฟิทซ์ทําขึ้นมาให้กับพวกเขาดู

สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนให้หันมามองทันที

“ผมจะไม่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับฟังก์ชั่นของชุดพวกนี้ให้กับพวกคุณรู้ ดังนั้นพวก คุณก็ลองไปทดสอบกันดูเอาเองก็แล้วกัน เอ่อ … บริ้งค์พาผมไปหาดอนนี่หน่อย”

ในเมื่อเขากลับมาที่นี่แล้ว ดังนั้นเขาก็ควรที่จะจัดการกับปัญหาของดอนนี่ให้มันจบ ๆ ไป

บริ้งค์ส่งชุดเครื่องแบบให้กับแมโรและบอกให้เฉินห่าวหรานพาเอลเลียตแรนดอล์ฟไปเลือกที่พักและจัดหาเสื้อผ้าให้กับเขา หลังจากนั้นเธอก็พาซ่เงินไปหาดอนนี่

จะเห็นได้ชัดว่าบริ้งค์ในตอนนี้เริ่มที่จะเหมือนกับหัวหน้าของที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ

ดอนนี่ในตอนนี้ได้ถูกจัดให้อยู่ในห้องพิเศษ ซึ่งเดิมที่ห้องนี้มันมีไว้สําหรับการใช้ขังศัตรู โดยที่ห้องนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุพิเศษและมีสนามแม่เหล็กที่สามารถป้องกันการโจมตีจากความสามารถพิเศษได้ ทําให้คนที่ถูกขังอยู่ที่นี่จะไม่สามารถออกไปไหนได้

เมื่อซู่เจินเดินเข้าไปข้างในเขาก็เห็นว่าดอนนี่ในตอนนี้กําลังนั่งอย่างเบื่อหน่ายอยู่ข้าง ๆ กําแพง ซึ่งทางด้านของดอนนี่ที่ได้ยินเสียงของคนเดินเข้ามาเขาก็รีบเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขาเห็นว่าเป็นซูเจินเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

“คุณพาฉันมาที่นี่ทําไม …. แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะปล่อยฉันออกไป ? ”

ซู่เจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับโบกมือเบา ๆ เพื่อให้ดอนนี่สงบสติลงและพูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ ว่า ”ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้ร่างกายของคุณมันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ซึ่งผมก็เล็งเห็นถึงความสามารถนี้ของคุณ ผมจึงสั่งให้บริ้งค์พาตัวของคุณมาที่นี่ และคุณก็มีอยู่สองทางเลือกในตอนนี้ ทางเลือกที่หนึ่ง : ติดตามผมและเข้าร่วมกับพันธมิตรสงครามเพื่อช่วยกันปกป้องโลกใบนี้ ทางเลือกที่สอง : ผมจะกลืนกินความสามารถพิเศษของคุณ ทําให้คุณกลายเป็นคนธรรมดา หลังจากนั้นผมก็จะส่งตัวของคุณให้กับ SHIELD เพื่อที่จะให้เขาจัดการกับคุณต่อไป เอาล่ะ! คุณเชิญเลือกมาได้เลยว่าคุณจะเอาทางเลือกแบบไหน ?”

” พันธมิตรสงคราม ? คุณไม่ได้เป็นคนของ SHIELD อย่างงั้นหรอ ? ” ดอนนี่ถามขึ้นมาด้วยความมึนงง

“แน่นอนว่าผมเป็นที่ปรึกษาของ SHIELD แต่ถึงอย่างนั้นผมก็มีหน้าที่ในการให้คําปรึกษาเท่านั้น ส่วนพันธมิตรสงครามก็คือองค์กรที่ผมสร้างขึ้นมา ซึ่งพวกคนที่คุณเห็นอยู่ที่นี่คือคนของผมทั้งหมด ” ซู่เจินพูดอธิบายขึ้นมาอย่างช้า ๆ

ในตอนนี้พรรคพวกของซู่เจินยังมีน้อยอยู่มาก บวกกับการที่ดอนนี่มีความสามารถที่ดี ทําให้ซู่เจินต้องการให้เขาเข้ามาอยู่กับพันธมิตรสงคราม แต่ถ้าเกิดว่าดอนนี้ไม่เห็นด้วย เขาก็แค่กลืนกินความสามารถพิเศษของเขาและส่งตัวของเขากลับไปที่ SHIELD

เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่เสียแรงไปเปล่า ๆ อย่างแน่นอน

“ถ้าเกิดว่าฉันเข้าร่วมกับคุณ และต้องการออกจากพันธมิตรสงครามขึ้นมา….คุณจะไม่ฆ่าฉันใช่ไหม ? ” ดอนนี่ถามขึ้นมาด้วยความไม่แน่ใจ

“แน่นอนว่าคุณสามารถออกได้ และผมก็ขอสัญญาว่าผมจะไม่ฆ่าคุณอย่างแน่นอน!” ซู่ เจินยิ้มขึ้นมาและพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจต่อว่า “เพราะถึงอย่างไรผมก็เชื่อว่าคุณจะไม่ออกจากพันธมิตรสงครามอย่างแน่นนอน ถ้าเกิดว่าคุณเข้าใจเกี่ยวกับพวกเราและสถานการณ์บนโลกในตอนนี้”

“ถ้าอย่างนั้น ฉันตกลง!”

ดอนนี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเขาก็เลือกที่จะเข้าร่วมกับพันธมิตรสงคราม

เขาเป็นคนที่เลือกได้ฉลาด แต่ถึงอย่างนั้นซูเจินก็แค่บอกว่าเขาสามารถออกจากพันธมิตรสงครามได้และจะไม่ฆ่าเขา ซึ่งมันก็ไม่ได้รวมถึงเรื่องที่ว่าซู่เจินจะไม่กลืนกินความสามารถพิเศษของเขา หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะออกจากพันธมิตรสงคราม

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณก็เดินออกไปพร้อมกับผมเลย ส่วนเรื่องชุดคุณก็เลือกมาสักตัวก็แล้วกัน เพราะถึงอย่างไรในอนาคตคุณก็จะถูกเรียกว่า “บลิซซาร์ด” ดังนั้นถ้าเกิดว่าคุณไม่ชอบแบบของชุดนี้ คุณก็สามารถเปลี่ยนมันได้ด้วยตัวของคุณเองเลย เพราะถึงยังไง มันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากสําหรับคุณ” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

แน่นอนว่าซู่เจินยังไม่ได้กลับไปที่ SHIELD ในทันที ซึ่งในขณะที่คนอื่น ๆ กําลังเลือกชุดกันอยู่ เขาก็เดินไปหาเอลเลียตแรนดอล์ฟเพื่อสอบถามเกี่ยวกับมีดคู่แห่งความกลัวทั้งสองเล่มนี้

“มีดเล่มสีเงินมีไว้สําหรับการดูดกลืนความกลัว ส่วนมีดเล่มสีดํามีไว้สําหรับการปลดปล่อย ดังนั้นตราบใดที่ผมถือมีดทั้งสองเล่มเอาไว้ในมือมันก็จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผมอย่างมหาศาล แล้วทําไมตอนที่ผมถือมีดเล่มสีดํามันถึงไม่ได้มีความรู้สึกที่พิเศษอะไรเกิดขึ้นมาเลยล่ะ ?” ซู่เจินถามขึ้นมา

เอลเลียตแรนดอล์ฟพยักหน้าและพูดขึ้นมาว่า “มันค่อนข้างมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในขั้นตอนการทํา ซึ่งจริง ๆ แล้วฉันสามารถทําให้มันแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ได้ถ้าเกิดว่าคุณสามารถหาวัสดุที่เหมาะสมสําหรับการอัพเกรดมันมาได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เอฟเฟกต์อันนี้มันหายไป ดังนั้นถ้าเกิดว่าคุณไม่ได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเกินไป เพียงแค่มีดเล่มสีดําเพียงเล่มเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้วสําหรับการจัดการกับคู่ต่อสู้ของคุณ!”

“นั่นสินะ “ ซู่เจินขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะถึงยังไงเขาก็ถนัดในการใช้มีดคู่มากที่สุด บวกกับผลของมันที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาได้

“จริง ๆ แล้วตราบใดที่คุณควบคุมไม่ให้มันดูดกลืนความกลัว มันก็จะไม่ดูดกลืนความกลัว เพราะถึงยังไงผลกระทบของมีดคู่เล่มนั้นมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับคุณอยู่แล้ว ทําให้คุณสามารถควบคุมมันได้! ซึ่งถ้าเกิดว่าลองเปลี่ยนมาเป็นฉันล่ะก็…ฉันจะไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างแน่นอน และฉันก็จะไม่มีวันแตะต้องเจ้ามีดคู่พวกนั้นอีกเด็ดขาด!”

“ดีแล้ว!”

ซู่เจินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะถ้าเกิดว่าเขาจะต้องดูดกลืนพลังแห่งความกลัวทุกครั้งที่เขาจะใช้มีดคู่เล่มนี้ มันก็คงจะลําบากไม่น้อยเลยทีเดียว แถมมันยังส่งผลกระทบต่อผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งถ้าเกิดว่าเขาสามารถควบคุมมันได้ดั่งใจแล้ว ปัญหาพวกนี้มันก็คงจะหมดไปอย่างแน่นอน

หลังจากที่ถามเรื่องเอฟเฟกต์ต่าง ๆ และวิธีการใช้งานมีดคู่แห่งความกลัวเรียบร้อยแล้ว มันก็ถึงเวลาที่ซ่เงินจะต้องจากไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่เขาจะจากไปเขาก็ได้แวะไปดูความคืบหน้าของฐานเขาก่อน ซึ่งก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดี เพราะว่าพวกเขาสามารถทํางานกันได้อย่างรวดเร็วมาก

หลังจากที่ซู่เจินบินออกมาจากเกาะ เขาก็ไม่ได้กลับไปหาสกายในทันที แต่เขาเลือกที่จะร่อนลงที่เมืองที่อยู่ติดกับชายฝั่งเพื่อซื้อของกินก่อนกลับไป

ถึงแม้ว่าอาหารบนยานบินมันจะมีรสชาติที่ดีมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นซู่เจินก็ค่อนข้างที่จะเบื่อกับรสชาติแบบเดิม ๆ พวกนั้นแล้ว ซึ่งซู่เจินก็ไม่ได้กินอาหารจีนมานานมากแล้วเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องการซื้ออาหารจีนกลับไปให้สกายและคนอื่น ๆ ลองกินดู เพราะถึงอย่างไรท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ยุ่งกันอยู่ตลอดเวลาทําให้พวกเขาไม่ค่อยจะมีเวลาออกมาข้างนอกสักเท่าไหร่

แต่ไม่ว่าซู่เจินจะเดินหาไปนานสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่เจอร้านอาหารจีนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนี้เลย ทําให้เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเตรียมที่จะค้นหาในอินเตอร์เน็ต แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงโห่ร้องดังขึ้นมาจากบริเวณใกล้เคียง

ซึ่งเสียงที่เขาได้ยินมันก็คล้าย ๆ กับเสียงของพวกแฟนคลับที่กําลังเจอดารากําลังเดินอยู่บนท้องถนน

ซู่เจินเหลือมองไปตามทิศทางของเสียงที่เขาได้ยินโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเขาก็เห็นว่าตรงนั้นนั้นมีคนอยู่มากมาย และบางคนก็กําลังถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือของพวกเขาอยู่ และถึงแม้ว่าตรงนั้นจะมีคนอยู่หลายคน แต่ซู่เจินก็สามารถแยกออกได้ในทันทีเลยว่าใครเป็นคนที่ทําให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นมา

คนพลังภูผาหิน หนึ่งในสมาชิกของแฟนแทสติกโฟร์!

Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล

Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล

Status: Ongoing

คนธรรมดาคนหนึ่งได้ข้ามไปยังโลก Marvel พร้อมกับความสามารถในการกลืนกิน!

แถมเขายังถูกรายล้อมไปด้วยสาวงาม และค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นจนกลายเป็นราชาของโลกมาเวล!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท