“ข้าอยากบีบคอมันให้ตายนักไอ้ลูกไม่มีพ่อ!”
“ปัง!” นางอันทุบโต๊ะลูกแพร์อย่างแรง
“โอ้ นายหญิงของข้า ท่านกำลังทำอันใด? มันจะทำร้ายตัวท่านเอง”
“ทำไมนางไม่ตายๆไปซะ!” นางอันโกรธแทบคลั่ง อกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างหนัก หลายปีที่ผ่านมา นางได้สรรหาวิธีการต่างๆในการฆ่านางเจ้าและมู่เก๋อ แต่นางไม่ได้ลงมือทำ เหตุผลที่นางยังให้นางเจ้าท้องหลายเดือนเป็นเพราะนางตั้งใจจะทำให้นางเจ้าและลูกในท้องของนางตายทั้งคู่ จะได้ไม่ใครสงสัยนางได้
“ผ่านคลายเจ้าค่ะ นายหญิง ตอนนี้เด็กอยู่ที่นี่ ท่านกังวลอันใด?”
“ไอ้เด็กไม่พ่อนั่น? เจ้าคิดว่าข้าควรจะเลี้ยงมันไว้เหรอ? อย่าลืมว่ามันเป็นลูกของนางเจ้า และเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนังสารเลวนั่น!”
หลี่หม่าเข้าใจว่านางอันมีชาติกำเนิดที่สูงกว่านางเจ้าที่ต่ำต้อย นางอันดูถูกนางเจ้ามาตลอด อย่างไรก็ตามนางอันไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายได้
แต่นางหลี่พูดออกมาไม่ได้
“นายหญิง นายน้อยเป็นสมบัติของนายท่านและไม่สามารถมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาได้ เขายังเล็กเกินไปที่จะรู้ว่าแม่ตัวเองคือใคร ท่านสามารถเอาเขามาเป็นลูกชายของท่านได้ เพื่อให้เขาดูแลท่านภายหลังเมื่อคุณหนูสองแต่งงานแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางอันก็ไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
นางไม่สามารถมีลูกได้อีก เพราะตอนที่นางเจ้ามาที่คฤหาสน์ซูและทำให้นางโกรธมากจนต้องเจ็บท้องคลอด นั่นทำให้นางมีปัญหาในการตั้งครรภ์
“ข้าคิดดูก่อน”
นางหลี่หยุดพูด นางรู้ว่าไม่ใช่เรื่องงายเลยที่นางอันจะระงับความแค้นได้
…………………………
“มู่มู่….” นางเจ้าเปิดริมฝีปากที่แห้งผากของนางขึ้นเล็กน้อย มองไปที่มู่เก๋อนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงและดวงตาของนางเปียก
“ท่านแม่ ในที่สุดท่านก็ตื่น” เมื่อได้ยินเสียงมู่เก๋อก็ลืมตาขึ้น
“ข้าเป็นตัวไร้ประโยชน์…..”
นางเจ้าเกือบจะร้องไห้ มู่เก๋อให้น้ำอุ่นกับนางดื่มหนึ่งถ้วย
“ท่านแม่ อย่าร้องไห้ ท่านอยู่ในช่วงพักรักษาตัว การร้องไห้ไม่ดีต่อสุขภาพของท่าน น้องชายของข้ายังเด็กเกินไปและเขาต้องการท่าน ดังนั้นท่านต้องมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง”
นางเจ้าดูอ่อนแอ แต่ภายในนางแข็งแกร่ง ลูกชายของนางยังเด็กมากจนไม่สามารถปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวได้
“ได้ แล้วน้องของเจ้าอยู่ที่ใด? อุ้มเขามาให้ข้าดูเขาหน่อย”
“ท่านแม่ ไม่ต้องรีบ ท่านมีอาการย่ำแย่ทั้งวันทั้งคืน กินอะไรก่อนดีกว่า”
“ได้จ๊ะ”
หลังจากที่นางเจ้ากินข้าวเสร็จ มู่เก๋อพูด “พ่อของข้าจ้างพี่เลี้ยงให้น้องชายของข้า ท่านไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี ท่านฟื้นตัวดีแล้ว น้องชายของข้าจะกลับมา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นางเจ้าก็ค่อนข้างกังวล
“มันคือนางอัน นางพาน้องชายของเจ้าไปใช่หรือไม่?”
มู่เก๋อปลอบโยนนางและพูดว่า “ท่านแม่ ไม่ต้องกังวล ท่านเชื่อข้าไหม?”
นางเจ้าตกใจกลัวและเงยหน้าขึ้นมองมู่เก๋อ หลังจากเห็นดวงตาที่สดใจและใสสะอาดของนาง นางเจ้าพูดว่า “แน่นอน แม่เชื่อเจ้า”
“มันง่ายมาก ข้ารับประกันว่าเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
“แต่…..”
“ไม่มีแต่”
มองไปที่ดวงตาแน่วแน่ของนาง นางเจ้าขยับริมฝีปากเล็กน้อย แต่หยุดพูด
มู่มู่ของนางแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
มู่เก๋อมาที่ห้องนั่งเล่น นางมองชอนจูที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างไม่แยแส
นางเจ้าอยู่ในห้องคลอดและเป็นช่วงเวลาสำคัญ แต่ชอนจูวิ่งเข้าไปในห้องและพูดเสียงดังว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับแม่ของนางเจ้า นางต้องไม่มีเจตนาดี!
“ใครบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องยายของข้า?”
ชอนจูไม่กลัวซูมู่เก๋อเลย แต่ตั้งแต่มู่เก๋อตื่นขึ้นมาจากโลงศพ นางรู้สึกว่ามู่เก๋อดูคุกคามเล็กน้อยและน่ากลัว
“ข้า….ข้าอยากไปเชิญหมอ และพบกับเพื่อนชาวบ้านของนายหญิงที่ประตูทางเข้าหมู่บ้าน ที่เคยมาส่งของให้นายหญิงมาก่อน นางบอกว่ายายของท่านประสบอุบัติเหตุล้มและกำลังจะสิ้นลมหายใจ”
มูเก๋อยังคงสีหน้าเดิมและวางถ้วยกระเบื้องลง “นางอยู่ที่ไหน?”
“นางมาส่งข่าวและกลับไปแล้ว ข้าไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหน”
มู่เก๋อมองต่ำลงและชายตามองนาง “แม่ของข้าล้มลงได้อย่างไร?”
ดวงตาของชอนจูเป็นประกายและหมอบลงแทบพื้นเพื่อขอความเมตตา “อภัยให้ข้าด้วย คุณหนู นายหญิงเจ้าเหนื่อยขณะเดินและบอกว่าอยากดื่มน้ำ ข้าจึงไปเอาน้ำมาให้นายหญิง แต่นางล้มลงกับพื้นแล้วเมื่อข้ากลับไปถึง ข้าไม่รู้จริงๆ”
ซูมู่เก๋อเหล่มองและตะคอก “เจ้าไม่รู้งั้นรึ? อะไรกันแน่ที่นายหญิงเจ้าต้องการจากเจ้า!”
“คุณหนูมู่เก๋อ อภัยข้าด้วย อภัยข้าด้วย” ชอนจูตกใจเมื่อนึกถึงคุณหนูสองถูกคุณหนูใหญ่กดลงไปในอ่างและเกือบหมดสติไป
“ให้อภัยเจ้างั้นรึ? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ของข้า เจ้าสามารถชดใช้ได้หรือไม่? ลากนางออกไป! และโบยนางสี่สิบครั้ง! แล้วโยนนางออกจากคฤหาสน์!”
มู่เก๋อไม่เปิดโอกาสให้ชอนจูร้องขอความเมตตา นางเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที
ชอนจูตกใจมาก “คุณหนูมู่เก๋อ ข้ารับใช้นายหญิง ท่านไม่สามารถขับไล่ข้าออกไปได้!”
มู่เก๋อหยุดการก้าวเดินของนางและมองไปที่ชอนจู “รับใช้ให้นายหญิงรึ นายหญิงคนไหน?”