องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess – ตอนที่ 33

ตอนที่ 33

มีเพียงเมิ่งฉางเต๋อและฮูหยินของเขา นายหญิงอาวุโสเมิ่งในลานอายุมั่นขวัญยืนเมื่อซูมู่เกอเดินเข้ามา

ระหว่างทางนางได้รับแจ้งจากเม่งเถียนเถียนว่าพ่อของนางออกไปที่เมืองหย่าเหมินเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนนี้แล้ว ด้วยตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เขาไม่สามารถหย่อนยานในการทำงานได้ง่ายๆ

“ท่านขุนนางเมิ่งและท่านนายหญิงอาวุโสเมิ่ง ข้าขอคาราวะ”

“คุณหนูใหญ่ซูไม่จำเป็นต้องสุภาพเกินไป” รอยยิ้มของเมิ่งฉางเต๋อนั่นอ่อนโยน และใบหน้าของผู้อาวุโสเมิ่งก็แสดงความอ่อนโยน

“เมื่อคืนเจ้านอนหลับสบายในคฤหาสน์เมิ่งหรือไม่?”

“เจ้าค่ะ หลับสบายดี นายหญิงผู้อาวุโสเมิ่ง ขอบคุณสำหรับคำถามเจ้าค่ะ”

มาม่าเปิดม่านและเดินออกมาจากห้องหลักในขณะที่พวกเขากำลังทักทายกัน

“ท่านขุนนางเมิ่ง นายหญิงอาวุโสเมิ่ง นายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งตื่นแล้วเจ้าค่ะ”

เมิ่งฉางเต๋อลุกขึ้นยืน “คุณหนูใหญ่ซู โปรดมากับข้าและไปดูท่านแม่ของข้าด้วย”

ซูมู่เกอพยักหน้า “เจ้าค่ะ”

เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้อง หญิงชราเมิ่งกำลังนั่งพร้อมความช่วยเหลืออย่างระมัดระวังของมาม่า

แม้ว่าใบหน้าของนางจะยังซีดและเทาอยู่บ้าง แต่หญิงชราเมิ่งก็มีจิตใจปรอดโปร่งขึ้น

“ท่านแม่ ท่านรู้สึกดีขึ้นหรือไม่?” เมื่อคืนนี้หลังจากกินยาไม่นานแม่เฒ่าเมิ่งหลับสนิท

นางมองไปที่ซูมู่เกอและพยักหน้า “ดีขึ้นมาก”

ซูมู่เกอเดินเข้าไปหานาง “ข้าขออนุญาตตรวจชีพจรของท่านเจ้าค่ะ”

“ได้สิ”

นายหญิงเมิ่งเอื้อมมือออกมาจากผ้าห่มและซูมู่เกอนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็กข้างเตียง ตรวจจับชีพจรของหญิงชราอย่างระมัดระวัง

ครู่ต่อมาซูมู่เกอขมวดคิ้วทั้งสองข้างของนางแทบจะชนกัน

เมิ่งฉางเต๋อที่ผ่อนคลายจิตใจก่อนหน้านี้ขมวดคิ้วตามนาง แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ

ซูมู่เกอวางมือลง ก่อนที่เมิ่งฉางเต่อจะเปิดปากถาม หญิงชราถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น? ข้ากำลังจะตายหรือ?”

นางพูดคำเหล่านั้นด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายโดยไม่มีทีท่าตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว มีคนตายอยู่เสมอ มันน่าเสียดายที่จะตายตอนนี้แต่นางก็ยอมรับมันได้

“ท่านแม่!” ใบหน้าของเมิ่งฉางเต๋อบิดเบี้ยว

“ท่านย่าของข้าเป็นอย่างไร? บอกเรามาเถอะ!” เมิ่งซูซูใช้ความเงียบนี้เป็นสัญญาณว่าซูมู่เกอต้องการให้ทุกคนคาดเดาอย่างจงใจ

ซูมู่เกอก้มนา ไม่ได้พูดชั่วขณะ ในที่สุดนางก็พูดว่า “สภาพร่างกายของนายหญิงเมิ่งค่อนข้างซับซ้อน”

นายหญิงอาวุโสเมิ่งตกอยู่ในความกังวล “รักษาให้หายได้ไหม?”

ซูมู่เกอขมวดคิ้วหนักขึ้น

“คุณหนูใหญ่ซู ถ้าท่านมีปัญหาหนักใจใด มันไม่เป็นไร แต่โปรดแจ้งให้เราทราบ” หลังจากหลายปีในการรับราชการ ในไม่ช้าเมิ่งฉางเต๋อก็เข้าใจว่ามีบางอย่างที่ไม่สะดวกสำหรับ ซูมู่เกอที่จะพูดออกมา

“อาการเจ็บป่วยของนายหญิงเมิ่งสามารถรักษาให้หายได้ หากโรคเรื้อรังและโรคดื้อได้รับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม มันอาจไม่สามารถรักษาได้ มันขึ้นกับเรื่องของเวลา”

เมิ่งฉางเต๋อสับสนเล็กน้อย ในขณะที่นายหญิงอาวุโสเมิ่งและหญิงชราเมิ่งรู้ได้ทันทีว่าซูมู่เกอพูดถึงอะไร

ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานเช่นซูมู่เกอ ถ้านางไปคฤหาสน์เมิ่งบ่อยเกินไป อาจมีข่าวลือที่อาจทำลายชื่อเสียงของนาง เมื่อเป็นเช่นนั้น นางจะสามารถหาครอบครัวที่สืบเชื้อสายมาเพื่อแต่งงานได้อย่างไร?

ด้วยการสบตาโดยปริยาย ทั้งนายหญิงอาวุโสและนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งต่างรู้เหตุผลเบื้องหลังความลังเลของนาง

หากชื่อเสียงของซูมู่เกอถูกทำลายลง ตระกูลเมิ่งก็ไม่ต้องสงสัยเลย เนื่องจากนางเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถให้ลูกชายของพวกนางแต่งงานกับลูกนางสนมที่ไร้ชื่อเสียงและห่างไกล……

ซูมู่เกอกำลังคิดหนังกับการบำบัดหลังจากนี้ที่ต้องอยู่ที่นี่ นางไม่ต้องการเชื่อมต่อกับครอบครัวเมิ่ง อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ แต่ตราบเท่าที่นางสามารถได้รับอิสรภาพในการเข้าออกคฤหาสน์ซู นางไม่มีข้อติเตียนใด เพียงแค่นางไม่ได้คาดหวังว่าแม่และลูกสะใภ้จะถูกพิจารณามากขนาดนี้

เมิ่งฉางเต๋อไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีใครพูดอะไร แต่ดูเหมือนว่าเขาจะถามมากกว่านี้ก็ไม่เหมาะ เขาจึงพูดขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ซู ถ้าเจ้าคิดว่ามันไม่สะดวก เราสามารถจัดคนไปที่คฤหาสน์ซูเพื่อรับเจ้าทุกวันได้”

นายหญิงอาวุโสเมิ่งขยับริมฝีปากเมื่อนางได้ยินเมิ่งฉางเต๋อพูดเช่นนั้น แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไร ถ้านางห้ามไม่ให้ซูมู่เกอมาที่คฤหาสน์เมิ่งในตอนนี้ สามีของนางคงคิดว่านางไม่ต้องการให้แม่สามีของนางหายขาด!

หญิงชราเมิ่งมองไปที่ซูมู่เกออย่างลึกซึ้ง “ข้างวางใจให้เจ้ารักษาร่างกายชราของข้า!”

ซูมู่เกอพยักหน้าเบาๆ “ข้าจะทำให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ”

หลังจากรักษาด้วยการฝังเข็มอีกครั้ง ซูมู่เกอออกจากห้องอายุมั่นขวัญยืน

นางปฏิเสธคำเชิญร่วมรับประกชทานอาหารกลางวันของนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งโดยบอกว่านางคิดถึงแม่และน้องชายของนาง

เมิ่งฉางเต๋อบอกว่านางต้องมาที่คฤหาสน์เมิ่งทุกวันตลอดทั้งเดือนนี้ เพราะแม่เฒ่าเมิ่งต้องการการรักษาทุกวัน

นางทิ้งสิ่งอื่น ๆ ไว้ข้างหลังให้เมิ่งฉางเต่อซึ่งกำลังจะคุยกับซูหลุน พ่อของนางเกี่ยวกับการเตรียมการ และนางเชื่อว่าซูหลุนจะมีความสุขมากที่ได้พบกับเมิ่งฉางเต๋อ

…………………….

ในเมืองห่างจากเมืองชุนหยางเพียงไม่กี่ไมล์ มีเงาสีดำสองสามเงาพุ่งเข้ามาในบ้านที่ต่ำต้อย

ไม่มีใครอยู่ในสนาม อากาศรอบ ๆ ก็จมลงเมื่อเงามืดเข้าไปข้างใน

ซีเยว่มองไปรอบ ๆ “นั่นคือพวกเรา”

ไม่นาน อากาศก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

หว่เยว่ช่วยหลิวเยว่เดินเข้าไปในห้องที่ส่วนกลางสุด

มันค่อนข้างสลัวและอาจทำให้คนรู้สึกอึดอัดเมื่อเข้ามาครั้งแรก

“ท่านขุนนาง หลิวเยว่กลับมาแล้ว”

เซี่ยโฮวโม่กำลังอ่านข้อมูลในมือของเขาจากสายลับเมื่อพวกเขาเข้ามา เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองพวกเขา

เพียงแค่มองเพียงครั้งเดียวทั้งสามคนก็อยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกหายใจลำบาก

“ข้าขออภัยที่เรื่องสายลับคนนั้นข้าไร้ความสามารถและได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าไม่ควรปล่อยเขาหลบหนีไป!”

“ออกไปและรับการลงโทษของเจ้าซะ” น้ำเสียงของเซี่ยโฮวโม่เป็นปกติโดยไม่มีความสุขหรือความโกรธ อย่างไรก็ตามหลิวเยว่และผู้ที่รับใช้เขามานานหลายปีรู้ดีว่านั่นเป็นสัญญาณแห่งความโกรธ!

“ขอรับ”

ทั้งสามคนกำลังจะจากไป

“เดี๋ยว”

ทั้งสามตัวแข็งทื่อขึ้นทันที

“นายท่าน ท่านจะสั่งการใด?”

ดวงตาสีเข้มของเซี่ยโฮวโม่ถูกพุ่งเจาะจงไปที่หลิวเยว่

“เจ้าบอกว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเขา?”

“ขอรับ ข้าถูกเขายิ่งด้วยลูกศรเข้าที่ช่องท้องในระหว่างที่ข้าหมดสติไปชั่วขณะ….ถ้าไม่ใช่หญิงอัศจรรย์ – หมอรักษา ข้าอาจจะ….”

เซี่ยโฮวโม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แพทย์หญิงที่ทำการรักษาอย่างอัศจรรย์?”

หลิวเยว่พยักหน้า เขายังจำมันได้อย่างชัดเจนว่าเขาหายใจด้วยความเจ็บปวดและเกือบจะตายก่อนการรักษาของหมอหญิงคนนั้น แต่แล้วนอกจากความอ่อนแอที่เขารู้สึกได้ บาดแผลของเขาก็เกือบจะหายแล้ว!

ถ้าไม่ใช่เพราะพบหมอด้วยตัวเอง เขาไม่เคยเชื่อเลยว่านอกจากหมอกุ่ยจะมีคนที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

เมื่อมองลงไปเล็กน้อย ร่างเพรียวบางก็ฉายแววในความคิดของเซี่ยโอวโม่

“ตอนนี้เจ้าออกไปได้”

“ขอรับ”

ตงหลินเดินเข้ามาเพื่อพวกเขาออกไปแล้ว

“นายท่าน มันเหมือนว่าจะมีการกระทำที่ผิดปกติจากคนป่าเถื่อนของพวกตะวันตกเหล่านั้น ข้าคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์หญิงฮวาเจิ้งเกี่ยวข้องกับพวกเขา”

เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เซี่ยโฮวโม่ส่งองค์หญิงฮวาเจิ้งไปยังเมืองหลวงพวกทางตะวันตกก็พร้อมที่จะสร้างปัญหา ดังนั้นจักรพรรดิจึงขอให้เขากลับไปที่ชายแดนเพื่อปกป้องเมือง

“อืม ฝนตกมากี่วันแล้ว?”

ตงหลินไม่เร็วพอที่จะตอบสนองต่อคำถามนี้ และเขาหยุดชะงัก นายท่านขอเขากำลังเปลี่ยนหัวข้าสนทนาอย่างรวดเร็ว!

“มันเป็นเวลาสามวันเต็มแล้วขอรับ”

เซี่ยโฮวโม่เคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ กระดูกข้อต่อของนิ้วเขาชัดเจนพอกับไม้ไผ่

“เร็วๆนี้”

ตงหลินมองอย่างงงงวย เร็วๆนี้? นายท่านหมายถึงเรื่องอะไร?

ก่อนที่ตงหลินจะเอ่ยปากถาม ประตูก็เปิดออกด้วยแรงผลัก ทันใดนั้นร่างที่เต็มไปด้วยความโกรธก็วิ่งถลาเข้ามาในห้อง

“เซี่ยโฮวโม่! ไอ้บ้า! ความเป็นชายของเจ้าผิดปกติ? หัวของมันถูกลาเหยียบไปแล้วหรือ? ข้าอยู่ในอ่างอาบน้ำมีโฟมเต็มตัวแล้วพวกเขาก็ลากข้าออกไป! ข้าต้องการหน้าข้ากลับคืนมา!” เสียงด่าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

ตงหลินเงยหน้าขึ้นและเห็นชายคนหนึ่งที่มีผมเผ้ายุ่งเหยิง ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมครึ่งตัวโปร่งใส ซึ่งเกือบจะถือได้ว่าโล่งโจ้งเลยแหละหากมีแสงสว่างเพียงเล็กน้อย …

เซี่ยโฮวโม่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นชายคนนั้น

“พาเขาออกไปและแต่งตัวให้เขา”

ชายคนนั้นแทบจะกระโดดย่ำเท้าอยู่ตรงนั้นเมื่อได้ยิน

“ดี เจ้ารักความสะอาดและเจ้าไม่สามารถทนมองข้าแบบนี้ได้ เจ้าน่าจะรู้ดีกว่าคนอื่นว่าใครทำให้ข้าเป็นแบบนี้! เจ้ากล้าไม่ชอบได้อย่างไรและหลีกเลี่ยงข้าแบบนี้ได้ยังไง!”

กุยหม่ากำลังจะเสียสติ!

เขากำลังอาบน้ำในโรงแรมแห่งหนึ่งของเมืองชุนหยาง เมื่อจู่ๆก็มีคนจำนวนมากบุกเข้ามา และอุ้มเขาขึ้นไปบนถนนโดยไม่พูดอะไร เขาแทบจะขย้อนอาหารออกจากกระเพาะตั้งแต่เมื่อคืนเพราะการกระแทก!

แต่เมื่อเขามาถึงตำแหน่งของตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังฉากนั้น เขาก็ถูกตำหนิว่าสกปรกและไม่เป็นระเบียบ!

มีบางอย่างแกว่งไปมาภายใต้เสื้อคลุมสีขาวของชายคนนั้นและเซี่ยโฮวโม่ไม่สามารถยืนมองมันได้อีกต่อไป

“พาเขาออกไป!”

“หมอกุย ได้โปรดมากับข้าแล้วเราจะแต่งตัวให้ท่าน…”

ดูเหมือนว่าการสบถไม่เพียงพอสำหรับกุยหม่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นดวงตาของเซี่ยโฮวโม่ที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เขาตะคอก โบกแขนเสื้อและจากไป

“ข้าอยากอาบน้ำร้อน และโรยด้วยกลีบดอกลิลลี่! กลีบดอกลิลลี่ทั้งตะกร้า! สบู่หอมด้วย!”

เซี่ยโฮวโม่ชอบความสะอาดและเขาไม่ชอบกลิ่นใด ๆ ? เยี่ยม! ตอนนี้เขาคงมีกลิ่นหอมมากพอแล้ว!

……………………

ซูมู่เกอถูหว่างคิ้วของนางอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อนางเห็นคนที่ขวางทาง

“ซูมู่เกอ บอกข้ามา เจ้าเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์เหล่านั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!” ซูจิงเหวินจ้องมองซูมู่เกอด้วยความอิจฉาราวกับว่านางกำลังจะฉีกซูมู่เกอออกเป็นชิ้นๆ

“แน่นอน มันเป็น….มันเป็นช่วงเวลาที่เจ้าไม่มีทางรู้”

“เจ้า! อย่าคิดว่าพี่เมิ่งจะชอบเจ้า! ผู้หญิงชั้นต่ำเช่นเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนางบำเรอเขาได้!”

“อืม เจ้าหมายความว่าเจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนางบำเรอของนายท่านเมิ่งเหรอ?” ซูมู่เกอยิ้มเยาะ

“เจ้า!” ซูจิงเหวินหน้าอกกระเพื่อมจากการหายใจแรงๆด้วยความโกรธ

“นังเลว ถ้าเจ้ากล้าเอาชนะความเสน่หาจากพี่เมิ่งของข้า….ข้าจะแก้แค้นเจ้ากลับอย่างสาสมแน่!”

ประโยคสุดท้ายฟังดูเหมือนสงครามได้เกิดขึ้นแล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซูมู่เกอขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่านางจะไม่สามารถนึกถึงวิธีการที่ยอดเยี่ยมของซูจิงเหวินได้ แม่และน้องชายของนางยังไม่เข้มแข็งพอที่จะต่อสู้ไปพร้อมกับนางได้

ความคิดดังกล่าวทำให้เกิดความโกรธและความเกลียดชังกับซูมู่เกอ นางเลิกคิ้วและจ้องมองซูจิงเหวินอย่างเยือกเย็น จ้องนิ่ง

“ซูจิงเหวิน เจ้าอย่าทำให้ตัวเองเสียใจจะดีกว่า ข้าสามารถช่วยชีวิตคน ๆ หนึ่งได้ และข้าสามารถทำให้คนตายอย่างเงียบ ๆ ได้ด้วย!”

“ยังไง เจ้ากล้า!”

“ทำไมข้าจะไม่กล้า? ทำไมไม่ลองมันดูล่ะ?”

ซูมู่เกอไม่สนใจนางและมุ่งหน้าไปที่ลานดอกท้อบาน

ดูร่างของซูมู่เกอที่หายไปที่ประตูโค้ง ซูจิงเหวินเซและเกือบล้มลง สาวใช้จับนางได้ทันเวลา

“คุณหนูสอง ท่านสบายดีไหม?”

หงายฝ่ามือขึ้น ซูจิงเหวินพบว่าฝ่ามือของนางเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น นาง…กลัวซูมู่เกอจนเหงื่อแตก!

เมื่อซูมู่เกอเข้าไปในลานดอกท้อบาน นางเห็นหลีหม่ายืนอยู่นอกประตู ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา

หลีหม่าเห็นซูมู่เกอเช่นกัน นางเดินมาข้างหน้าและโค้งคำนับด้วยความสุภาพ “คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว”

“ใช่” นางอันและนางจ้าวนั่งอยู่ในห้องเมื่อซูมู่เกอเข้ามาและพวกเขาก็กำลังยิ้มแย้ม!

องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess

องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess

ซูมู่เกอ หญิงสาวที่พระเจ้าโปรดปรานในวงการแพทย์ กลายเป็นเด็กสาวขี้เหร่เนื่องจากการเดินทางข้ามเวลา  พ่อของเธอเกลียดเธอและแม่ของเธอก็ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะปกป้องเธอ!  เซี่ยโฮวโม่ หมาป่าผู้โดดเดี่ยวผู้หยิ่งผยองและเคยมีชัยชนะในสนามรบถูกจักรพรรดิขอให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ไร้ประโยชน์และอัปลักษณ์!

 

ในวันแต่งงานของพวกเขา มีนักฆ่าเข้ามาลอบสังหารและเขาใช้เธอเป็นโล่  ผลที่ตามมา เธอได้รับบาดเจ็บ  ซูมู่เกอยิ้มน้อยๆพร้อมดวงตาสีแดงเข้ม  “เซี่ยโฮวโม่ ข้าเป็นหนี้ท่านและข้าจะชดใช้ให้ท่านเดี๋ยวนี้แล้ว”  เมื่อเห็นเลือดสีแดงไหลนองของนาง หัวใจของเขาก็เจ็บปวด…..”ซูมู่เกอ เจ้าเป็นหนี้ข้าอย่างมากและเจ้าต้องจ่ายคืนข้าหลังให้กำเนิด!

 

ตัวนางไม่สวยและไม่มีอำนาจใดทั้งสิ้น แต่นางมีแสงสีทองและมือวิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท