องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess – ตอนที่ 27

ตอนที่ 27

ด้วยคำพูดที่ออกมาจากปากนางอันต่อหน้าฝูงชนจำนวนมาก มันบอกเป็นนัยว่าซูมู่เกอลงจากรถม้าระหว่างทาง

หญิงชราเมิ่งไม่ได้ช่วยซูมู่เกอในครั้งนี้

มีความเย็นชาในดวงตาของนางเมื่อซูมู่เกอมองลงมา แล้วมันก็กลายเป็นความเกลียดชัยเมื่อนางเงยหน้าขึ้นสบตากับนางอัน

“ดีเยี่ยม มันไม่ใช่ท่านหรือนายหญิงที่จัดหาคนรับใช้เจ้าเล่ห์เหล่านั้นให้ทิ้งข้าไว้กับรถม้าเพียงลำพัง?” เสียงของนางไม่ดัง แต่เพียงพอสำหรับทุกคนที่อยู่ตรงนั้นจะได้ยินมันอย่างชัดเจน

แม้ว่าจะตกใจอยู่ในอกและคว้าผ้าเช็ดหน้าของนางด้วยความเข้มแข็งตามสัญชาตญาณ ท่าทางสงบลงพร้อมกับลมหายใจของนางคลายลงเมื่อคิดถึงคนรับใช้โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะรับคำสั่งจากนาง

“มู่เกอ อย่างไร อย่างไรเจ้าถึงคิดว่าพ่อของเจ้าเป็นคนแบบนี้? คนคุ้มกันได้รับการคัดเลือกจากเขาด้วยตนเองทั้งหมด และพวกเขาจะทำร้ายเจ้าได้เยี่ยงไร?”

นางไม่ได้โง่ขนาดนั้น ดังนั้น นางจึงไม่ได้พูดถึงสาวใช้ที่นางจัดหาไว้แม้แต่คำเดียว แต่มีเพียงคนคุ้มกันที่ซูหลุนส่งมา ซูมู่เกอเคยเห็นกลอุบายทั้งหมดนี้ผ่านมาแล้ว

สำหรับนางอัน นางเคยล้มเหลวในการต่อสู้กับซูมู่เกอ เมื่อนางปล่อยให้เรื่องมันออกสู่สาธารณชน

ซูมู่เกอจ้องไปที่ดวงตาของนางอันอย่างไม่เกรงกลัว มันทำให้นางอันก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวด้วยรูปลักษณ์ที่ขุ่นใจของนาง

“ข้าลงจากรถม้าเพียงแค่อยากได้อากาศบริสุทธิ์ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้รับใช้ชั่วร้ายทิ้งข้าไว้ที่นั่น? ถ้าไม่ใช่เพื่อนบ้านที่แสนดีในหมู่บ้านของท่านยายที่ได้ช่วยข้าไว้ ข้าก็คงจะตายไปแล้ว!”

“นั่นเป็นไปไม่ได้ คนรับใช้บอกว่าเจ้าหนีไปกับใครบางคน!”

ซูมู่เกอมองไปที่นางอันด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง

“คำพูดที่เต็มไปด้วยการดูถูก เป็นข้อแก้ตัวของคนรับใช้ที่จะแก้ต่างให้ตัวเองจากการถูกลงโทษ ท่านเชื่อพวกเขาได้อย่างไรเจ้าค่ะ นายหญิง?”

“ข้า….”

“นายหญิง ท่านสับสนเกินไปจนบอกว่าถูกเป็นผิดหรือไม่?”

ก่อนที่นางอันจะตอบได้ เสียงดุเข้มงวดก็ดังมาจากด้านหลังของนาง มันคือซูหลุน และใบหน้าของเขามืดมนด้วยความโกรธ

“นายท่านของข้า….”

เขาไม่ได้มองไปที่นางอัน แต่เดินตรงไปยังแม่เฒ่าเมิ่ง เขายื่นมือทับซ้อนกันที่ด้านหน้าโค้งคำนับให้นางเมิ่ง

“ข้าน้อยขออภัยอย่างจริงใจขอรับ สำหรับความหยาบคายของลูกสาวของข้า ได้โปรดอภัยให้นางจะได้หรือไม่ขอรับ?” ซูหลุนเหลือบมองซูมู่เกออย่างเฉยเมยหลังจากพูดคำเหล่านั้นออกไป

“ข้าได้รับแจ้งว่านายหญิงดูแลมู่เกอมาตลอดการเดินทาง ข้าจะพานางไปที่คฤหาสน์ของท่านเพื่อขอบคุณต่อท่านในวันข้างหน้า มู่เกอเจ้าต้องเหนื่อยมากหลังจากการเดินทางอันยาวนาน กลับไปที่คฤหาสน์และพักผ่อนเถอะ”

ซูมู่เกอเข้าใจว่าซูหลุนต้องการยุติละครเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด มันไม่ควรแพร่กระจายออกไปตั้งแต่แรก!

แต่มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับนางที่จะต่อสู้กับซูหลุนเนื่องจากนางยังไม่มีอะไรอื่นแต่มีเพียงแม่ที่อ่อนแอของนางและน้องชายที่เพิ่งลืมตามาดูโลก

“เจ้าค่ะ ท่านพ่อ”

ซูมู่เกอหันหน้าไปด้านข้างและโค้งคำนับให้นายหญิงแม่เฒ่าเมิ่ง หญิงชราพยักหน้ารับ

“กลับเข้าบ้านเถอะ”

ซูมู่เกอไม่สนใจนางอันที่รวบรวมตัวเองจากความโกรธและความเจ็บปวด และเดินเข้าคฤหาสน์ไป

“ข้าก็เหนื่อยเหมือนกัน เจียง มาพาข้ากลับบ้านที”

นายหญิงเมิ่งและนายหญิงเมิ่งเจียงพากันมาพยุงแม่เฒ่าเมิ่งอย่างเชื่อฟัง “เจ้าค่ะ”

เมื่อเห็นหญิงชราเมิ่งและนายหญิงเมิ่งกลับไปแล้ว นางอันนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีผู้คนอีกมากจะหลีกเลี่ยงอย่างไรให้สุภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หญิงชราเมิ่งทำและพูดคำพูดเหล่านั้นติดอยู่ในลำคอของนางโดยไม่ได้เอ่ยออกมา

“นายหญิงซู มันเริ่มค่ำแล้วและมันไม่สะดวกที่เราจะอยู่นานต่อไปกว่านี้อีก เราจะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว”

หลังจากแม่เฒ่าเมิ่งจากไป ผู้ที่มาเพื่อแสวงหาความสัมพันธุ์กับตระกูลซูในนามของวันเกิดของซูจิง เหวินก็จากไปเช่นกัน มันง่ายที่บอกว่า นางอันไม่ด้อยู่ในอารมณ์ที่จะยินดีต้อนรับขับสู้แขกในตอนนี้

แม้ว่านางจะได้รับรูปลักแปลกๆมากมาย ซูมู่เกอกลับไปที่ลานดอกท้อโดยไม่ได้มองรอบข้างเลย

ลานดอกท้อเป็นสถานที่ที่เงียบที่สุดในคฤหาสน์ซู แม้ว่าจะมีเสียงดังและมีชีวิตชีวาที่สวนหน้าบ้านก็ตาม มันยังคงรู้สึกห่างไกลที่นี่ในลานแห่งนี้

เหมยฮัวแบกอ่างน้ำออกมาเมื่อซูมู่เกอเดินตรงเข้าไปในลานดอกท้อและนางก็หยุดด้วยความตกใจ

“คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ใช่ไหม?”

ซูมู่เกอพยักหน้าให้นางด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ ข้าเอง”

ความยินดีอันสวยงามแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าของเหมยฮัว “มันเป็นความจริงที่คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว!”

หลังจากโค้งคำนับด้วยความสุภาพกับซูมู่เกอแล้ว เหมยฮัวกลับไปที่ห้องของนางจ้าว

ซู่มู่เกอเดินก้าวต่อไปและได้ยินเสียงของนางจ้าวรีบร้อน “มูมู่กลับมาแล้ว?”

เมื่อซูมู่เกอก้าวเข้ามาในห้อง นางเห็นนางจ้าวกำลังจะลงจากเตียงโดยได้รับความช่วยเหลือจากเหมยฮัว

“มูมู่ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว”

ซูมู่เกอเดินไปที่เตียงของนางจับมือและนั่งลง

“ท่านแม่ อย่าร้องไห้ ข้ากลับมาแล้ว ท่านยังอยู่ในเดือนแห่งการพักรักษาและระวังร่างกายของท่านนะเจ้าค่ะ”

ดูเหมือนว่านางจ้าวน้ำหนักลดลงไปหลังจากที่นางจากไป

“มันดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง ตอนนี้เจ้ากลับมาแล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเจ้าแล้ว แล้ว…ท่านยายของเจ้าล่ะ?”

“ท่านแม่ ท่านทำใจให้สบาย ท่านยายของข้าสบายดีและนางจะหายดีในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว”

นางจ้าวไม่ได้คาดหวังต่อสิ่งนี้

นางเตรียมตัวต่อการเสียชีวิตและงานศพของแม่นางระหว่างที่ซูมู่เกอไม่อยู่ ดังนั้น มันจึงเป็นเหมือนคำปลอบโยนเมื่อซูมู่เกอพูดเช่นนั้น

“เจ้าแน่ใจใช่หรือ?”

“แน่นอน! ท่านยายบอกอีกว่านางจะมาเยี่ยมเราเมื่อนางรู้สึกดีขึ้น”

“จริงๆรึ?”

นางจ้าวไม่เคยเห็นแม่ของนางเลย นางจาง ตั้งแต่พวกเขาพบกันครั้งสุดท้ายก็เมื่อหลายปีก่อนพร้อมกับซูมู่เกอตอนเป็นทารกอยู่ เมื่อได้ยินว่านางจางจะมาเยี่ยมนาง นางเริ่มสดใสขึ้น แต่ในไม่ช้านางก็รู้สึกเสียใจอีกครั้งด้วยความกังวล เมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของนาง

ซูมู่เกอไม่พูดอะไรอีก ขอเพียงเหมยฮัวดูแลแม่ของนางให้ดีและกลับไปที่ห้องของนางเอง

เยว่รู่ถือถ้วยชาร้อนเข้ามาในห้องพร้อมกับความสุขที่เปล่งประกายบนใบหน้าของนาง

“คุณหนูใหญ่ ในที่สุดท่านก็กลับมา”

“ทุกอย่างในคฤหาสน์เป็นเยี่ยงไรบ้าง?”

“หลังจากท่านออกเดินทาง นายหญิงอันส่งคนมาที่นี่ทุกวันเพื่อรายงานท่านแม่ของท่านเกี่ยวกับนายน้องที่เกิดใหม่ และท่านแม่ของท่านจะไม่กินหลังจากที่นางได้ฟังเรื่องนี้…”

ซูมู่เกอถูระหว่างคิ้วของนางหลังจากได้ยินเรื่องนี้

มันเป็นความผิดของนางส่วนหนึ่ง นางไม่เคยเป็นแม่มาก่อนจึงไม่เข้าใจความเสียใจของแม่เมื่อต้องพรากจากกันกับลูก นางคิดเพียงว่าจะดีกว่ามากที่ทารกจะเติบโตในสภาพแวดล้อมทางวัตถุที่ดีกว่า

นางลุกขึ้นยืนและลูบ ปัดชุดของนางแม้ว่าจะไม่มีรอยยับก็ตาม

“ คุณหนูใหญ่ ท่านกำลังจะไป…”

“มันเป็นเวลานานแล้วที่ข้าไม่ได้เจอน้องชายของข้า ข้าอยากไปเยี่ยมเขา วันนี้เป็นวันเกิดของคุณหนูสองด้วย ให้ผ้าเช็ดหน้าที่ดีที่สุดผืนหนึ่งที่เจ้าเย็บติดมือไปด้วย”

เยว่รู่พยักหน้าและทำตามคำสั่ง แม้ว่านางจะสับสนเล็กน้อย

ซูมู่เกอตรงไปที่ลานดอกไม้ไหลรินที่นางอันอาศัยอยู่ นางอันยังคงมองเห็นผู้มาเยือนอยู่ข้างนอกและมีสาวใช้เพียงสองหรือสามคนที่เหลืออยู่ที่ลานบ้าน

ซูมู่เกอถูกสาวใช้เก่าหยุดก่อนที่นางจะก้าวเข้าไปในลานบ้าน

สาวใช้เก่าดุซูมู่เกอที่มีผ้าคลุมหน้า “เจ้าสาวป่าไร้มารยาท! เจ้าไม่รู้หรือว่าไม่อนุญาตให้เข้าไปในลานบ้านของนายหญิง?”

“หุบปาก! กล้าพูดกับคุณหนูใหญ่แบบนี้ได้เยี่ยงไร!” เยว่รู่จ้องมองไปที่สาวใช้เก่าด้วยท่าทางที่ค่อนข้างวางท่า

“คุณหนูใหญ่?” สาวใช้เก่าที่ดูแลประตูลานบ้านมองไปที่ซูมู่เกออย่างสงสัย เห็นได้ชัดว่าข่าวของเหตุการณ์ที่เกิดหน้าบ้านยังมาไม่ถึงที่นี่

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นางอันเพิ่งแจ้งทุกคนว่าซูมู่เกอ นางไม่ได้ป่วย ไม่ได้รับการรักษาจริงในหมู่บ้าน แต่ได้หนีไปกับชายคนหนึ่ง แล้วนางจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?

ซูมู่เกอไม่ต้องกังวลที่จะอธิบายกับนางเพียงแค่ผลักสาวใช้คนนั้นพ้นออกไปและเข้าไป

“นี่เจ้า! กล้าบุกเข้าไปในลานนายหญิงแบบนี้ได้ยังไง? นังผู้หญิงหยาบช้า!” ดูเหมือนว่าซูมู่เกอจะผลักนางโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม แต่นางก็ถูกผลักออกไปแล้วหลังจากนั้น จากประสบการณ์ดังกล่าว มีบางอย่างในสายตาของสาวใช้เก่าที่มองไปที่ซูมู่เกอ

ซูมู่เกอไม่สนใจนางและเดินมุ่งหน้าเข้าไป

“ไปและหาว่านายน้อยอยู่ห้องไหน”

“เจ้าค่ะ”

ซูมู่เกอมองไปรอบๆลานดอกไม้ไหลริน มันใหญ่กว่าลานดอกท้อที่นางอาศัยอยู่ถึงสามเท่าและมีดอกไม้แปลกมากมาย สมุนไพรหายากอยู่ทุกที่

จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ดังมาจากห้องทางขวาสุด นางหมุนเท้ามุ่งไปอย่างรวดเร็วและเดินเข้าไปหามัน

“เจ้าเป็นใครบนโลกนี้? กล้าดีเยี่ยงไรมาพานายน้อยไป!”

ทันทีที่นางเดินเข้าไปใกล้ประตูก็มีเสียงโหยหวนให้นางได้ยิน นางขมวดคิ้วและเดินเข้าไปในห้อง

หญิงสาวในวัยยี่สิบปีที่มีใบหน้ากลมมองไปที่เยว่รู่ด้วยความไม่เป็นมิตร โดยมีเด็กอยู่ในอ้อมแขนของนาง

หลังจากที่ซูมู่เกอเข้ามาในห้อง นางยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น

“ข้าคือคุณหนูใหญ่ของคฤหาสน์หลังนี้และข้ามาที่นี่เพื่อเยี่ยมน้องชายของข้า

“คุณหนูคนโต?”

สาวหน้ากลม นางชุน เป็นแม่นมของนายน้อย ซูเหวินม่อ นางอันส่งนางมาที่นี่เพื่อดูแลทารก เมื่อนางได้ยินเกี่ยวกับตัวตนของซูมู่เกอคิ้วสีอ่อนของนางก็ขมวด

“ให้น้องชายข้ากับข้า” ซูมู่เกอเอื้อมมือทั้งสองข้างออกโดยที่หญิงสาวไม่ขยับ

“ร่างกายของคุณหนูใหญ่ควรได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า เด็กตัวหนักเกินไป ข้ากลัว กลัวว่าท่านจะเหนื่อย….”

ซูมู่เกอยิ้มเยาะ “เขาเป็นน้องชายของข้า ข้าจะกลัวว่าจะเหนื่อยจากการอุ้มเขาได้อย่างไร? ส่งเขามาให้ข้า!”

ไม่มีใครสามารถปฏิเสธเสียงที่เยือกเย็นและหนักแน่นเช่นนี้ได้ นางชุนถังกับสั่นเล็กน้อยและส่งเด็กน้อยของนางด้วยมือสั่นเทา

ทารกจะมีอายุครบหนึ่งเดือนในไม่ช้า ดวงตาของเขาเบิกกว้าและดูเข้มแข็ง น่ารักเช่นเดียวกับแม่ของเขา

ดูเหมือนว่าเหวินม่อน้อยจะรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในอ้อมแขนของพี่สาวของเขา เขามองนางด้วยดวงตาที่เบิกกว้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ซูมู่เกอสะกิดใบหน้าเขาเบาๆและยิ้ม นางอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของนางหันหลังและกำลังจะจากไป

นางชุนอยู่ในอาการตื่นตระหนกและกลัวว่าทารกจะถูกพรากไป นางเดินไปข้างหน้าเพื่อพยายามหยุดซูมู่เกอ

“คุณหนูใหญ่ ท่านกำลังจะพานายน้อยไปไหน?”

ซูมู่เกอหยุดชั่วครู่ “แล้วทำไมข้าต้องรายงานเจ้า”

“แต่ แต่นายหญิงบอกว่า….”

“ดูสิว่าคุณหนูใหญ่นิสัยดีขนาดไหน! เจ้ามาที่นี่ทำไมกล้ามาทำให้พื้นในลานบ้านของข้าสกปรก?”

นางอันยืนอยู่ตรงกลางลาน โดยหน้าอกของนางขยับขึ้นลงจากการหายใจเข้าลึกๆที่เกิดจากความโกรธ สายตาของนางจับจ้องไปที่ซูมู่เกอราวกับว่าพวกเขากำลังจ้องมองเธออยู่

ซูมู่เกอมองลงไปและดึงผ้าคลุมร่างเหวินม่อตัวน้อย จากนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นไปมองนางอัน

“นายหญิง ท่านกลับมาทันเวลาพอดี ข้าอยากจะขอบคุณท่านจริงๆสำหรับการดูแลน้องชายของข้าในวันนี้ มันเป็นความผิดของข้าที่รบกวนท่านเป็นเวลานานแล้ว ท้ายที่สุด ท่านไม่ใช่แม่ที่แม้จริงของเขา ข้าจะพาเขากลับไปเพื่อไม่ให้ท่านเดือดร้อนมากกว่านี้แล้ว”

ดวงตาของนางหรี่แคบจนเป็นเส้นตรง และปลายนิ้วของนางสั่นด้วยความโกรธ

กล้าดียังไงที่กล้าเอาไอ้เด็กคนนี้มาเสียดสีนาง ที่ไม่มีลูกชายเป็นของตัวเอง!

“มันเป็นเจ้าที่ขอให้นายน้อยพักฟื้นที่นี่ ถ้าเจ้าต้องการเอาเด็กคืน ข้าสงสัยว่าต้องให้นายท่านเห็นด้วย!”

แม้ว่านางอันอยากจะไล่ซูมู่เกอออกไปมานานแล้ว แต่นางก็อยากจะเก็บไอ้เด็กนี้ไว้เพื่อดูหน้าที่ตายซากไปครึ่งหนึ่งของนางจ้าว

“ข้าจะอธิบายให้พ่อของข้าฟังเอง”

นางอันก้าวไปข้างหน้าและหยุดซูมู่เกอ นางเดินเข้าไปใกล้ซูมู่เกอแล้วพูดเสียงเบาพร้อมกับกัดฟัน “เจ้าคิดว่าจะพาเขาไปได้อย่าง่ายดายขนาดนี้เลยรึ เมื่อตอนนี้เจ้าอยู่ในที่ของข้า!”

ซูมู่เกอมองไปที่นางอันด้วยความเฉยเมย “ถ้าข้าพาเขาไป ท่านจะทำการอันใด? ตั้งแต่แม่เฒ่าเมิ่งพาข้ากลับมา ท่านไม่คิดว่านางรู้เรื่องการกระทำชั่วร้ายของท่านบ้างหรือ ให้ข้าเดา พ่อของข้าไม่ต้องการที่จะทำให้ขุนนางเมิ่งขุ่นเคืองใจเป็นแน่ใช่หรือไม่?”

มีทั้งความกลับและความประหลาดใจในสายตาของนางอันที่จ้องมองซูมู่เกอ

“เจ้า เจ้า….”

ซูมู่เกอยิ้มอย่างนุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

“นายหญิง ท่านควรรู้ว่าท่านจะต้องจ่ายสำหรับสิ่งที่ท่านทำ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!”

องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess

องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess

ซูมู่เกอ หญิงสาวที่พระเจ้าโปรดปรานในวงการแพทย์ กลายเป็นเด็กสาวขี้เหร่เนื่องจากการเดินทางข้ามเวลา  พ่อของเธอเกลียดเธอและแม่ของเธอก็ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะปกป้องเธอ!  เซี่ยโฮวโม่ หมาป่าผู้โดดเดี่ยวผู้หยิ่งผยองและเคยมีชัยชนะในสนามรบถูกจักรพรรดิขอให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ไร้ประโยชน์และอัปลักษณ์!

 

ในวันแต่งงานของพวกเขา มีนักฆ่าเข้ามาลอบสังหารและเขาใช้เธอเป็นโล่  ผลที่ตามมา เธอได้รับบาดเจ็บ  ซูมู่เกอยิ้มน้อยๆพร้อมดวงตาสีแดงเข้ม  “เซี่ยโฮวโม่ ข้าเป็นหนี้ท่านและข้าจะชดใช้ให้ท่านเดี๋ยวนี้แล้ว”  เมื่อเห็นเลือดสีแดงไหลนองของนาง หัวใจของเขาก็เจ็บปวด…..”ซูมู่เกอ เจ้าเป็นหนี้ข้าอย่างมากและเจ้าต้องจ่ายคืนข้าหลังให้กำเนิด!

 

ตัวนางไม่สวยและไม่มีอำนาจใดทั้งสิ้น แต่นางมีแสงสีทองและมือวิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท