เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่30 เอลฟ์

ตอนที่30 เอลฟ์

” เอาล่ะ ค่ะ ของประมูลชิ้นแรกได้แก่… ” พิธีกรสาวกล่าวจบก็มีชายฉกรรจ์สี่คนแบกกล่องขนาดใหญ่มาวางไว้ รวดลายของกล่องที่สวยงาม ดึงดูดสายตาของผู้เข้ามาร่วมประมูลอย่างมาก จนพิธีกรสาวต้องกล่าวอธิบาย

” ทุกท่านคงจะสงสัยกันใช้หรือไม่ ของสิ่งนี้คือ เป็นเพียงแค่กล่องธรรมดาๆเท่านั้น แต่ภายในนั้นมีสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาลมันก็คือ.. ” พิธีกรกล่าวจบก็ให้เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งสี่ ยกฝากล่องขึ้น ทันใดนั้นเอง ทั้งโรงประมูลก็ต่างเงียบกริบก่อนจะมีคนตะโกนออกมา

ขะ ไข่มังกร!!

ทั้วทั้งโรงประมูลก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้น

” ข้าต้องเอามาได้ ”

” ไม่ มันต้องเป็นของข้า ”

เสียงมากมายดังขึ้นเพราะเพียงแค่ไข่มังกรใบเดียว ไป๋หลงนั้นไม่ได้คิดจะประมูลแม้แต่น้อยแต่ ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ห่างหายไปนานนั้นก็คือ ขงจือ ดังขึ้น ภายในหัวของไป๋หลงทันที

” เจ้าหนู อย่าให้ใข่ใบนั้นตกอยู่กับคนไม่ดีเด็ดขาด ถึงทุกคนที่นี้จะไม่รู้แต่ข้ารู้ว่ามันคือ ไข่ ราชันมังกรเพลิง เพราะรูปลักษณ์ ของไข่ และพลังที่แผ่ออกมาอ่อนๆ ยิ่งทำให้ข้ามั่นใจ เพราะฉะนั้น เจ้าหนู เจ้าต้องประมูลไข่ใบนั้นมาให้ได้ ข้าขอพักก่อนล่ะ ข้าต้องรวบรวมพลังไว้เผื่อใช้ในยามจำเป็น

” เดี๋ยวก่อนท่าน.. ” ไป๋หลงกล่าวไม่ทันจบขงจือก็เงียบหายไปแล้ว

” เป็นแบบนี้ตลอดเลย เป็นอาจารย์ที่ชอบหาเรื่องมาให้ลูกศิษย์ตลอดเฮ้อ… ” ไป๋หลงกล่าวออกมาแบบเหนื่อยหน่าย

ทันใดนั้นพิธีกรสาวก็เริ่มกล่าวต่อทันที ทำให้ไป๋หลงต้องหันมาสนใจกับไข่ใบนี้ทันที

” เอาล่ะ ค่ะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งหมื่นเหรียญเพชร ใครจะประมูลโปรดยกหมายเลข ของท่านขึ้นแล้วกล่าวราคาที่ต้องการประมูลมาเลยได้เลย ” พิธีกรสาวกล่าวจบทั้งห้องต่างแข่งกันประมูลในทันที

” หมายเลข16 เพิ่มเป็น หนึ่งหมื่นหนึ่งพัน เหรียญเพชร ”

” เอาล่ะค่ะ มีใครจะให้มากกว่านี้ไหมค่ะ ” พนักงานกล่าวถามย้ำ

” ข้า หมายเลข50 สามหมื่นเหรียญเพชร ” เสียงของชายวัยกลางคนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังและเคร่งครึม จนมีคนเอ่ยขึ้น

นะ นั้น คุณชายเหลียง!! หนึ่งในตระกูลใหญ่ของทวีปจรัสแสงไม่คิดเลยว่าจะมาที่โรงประมูลที่นี้ด้วย

หลังจากมีคนเรียกชื่อคุณชายเหลียงออกมาทุกสายตาทั้งหมดก็มองไปที่ คนที่ถูกเรียกว่าคุณชายเหลียงในทันทียกเว้นไป๋หลงกับสตรีที่อยู่ตระกูลซาน

” เอาล่ะค่ะมีคนให้มากกว่านี้ไหม ” พิธีกรสาวกล่าว

ตอนนี้ไป๋หลงครุ่นคิดเรื่องราคาในแหวนมิตินี้ ที่ได้มาจากคลังสมบัติของไป๋หยาง มีอยู่ สิบล้านเหรียญเพชร ซึ่งถือว่ามหาศาลเลยทีเดียวจึงคิดจะบอกราคาที่คนอื่นไม่คิดจะสู้ด้วยอย่างแน่นอน ขณะนั้นเอง คุณหนูตระกูลซาน ที่นั่งใกล้ไป๋หลงก็ชูป้ายขึ้น

” ข้าหมายเลข87 หนึ่งแสนเหรียญเพชร ” คุณหนูจากตระกูลซานกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่แฝงไปด้วยพลัง จนทำให้ไป๋หลง ถึงกับนึกชมเชย หลังจาก ที่คุณชายเหลียงได้ยินก็ใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที

” นั้นคุณหนู ตระกูลซาน !! ”

” ไม่คิดเลยว่าจะเจอพวกตระกูลใหญ่ที่นี้ ชั่งซวยซะจริงๆ”

” ใช่คงไม่มีใครโง่พอที่จะมีปัญหากับพวกตระกูลใหญ่หรอก ”

พวกคนในงานประมูลกล่าววิพากจารย์ต่างๆนาๆ จนพิธีกรสาวต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง

” เอาล่ะค่ะ มีใครให้มากกว่านี้ไหม ถ้าไม่มีจะขอ….” พิธีกรสาวกล่าวไม่ทันจบก็มีเสียงนึงดังขึ้นดึงดูดสายตาของผู้คนในที่นี้เป็นอย่างมาก

” ข้า หมายเลข 86 ห้าแสนเหรียญเพชร!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยท่าทีและน้ำสียงเรียบๆราวกับไม่ได้สนใจเงินที่เสียไปแม้แต่น้อย

” หมายเลข86 มันเป็นใครกัน ถึงให้ราคาสูงถึงเพียงนี้ ” เสียงของชายวัยกลางคนที่นั่งใกล้ๆไป๋หลงกล่าวขึ้น

” เรื่องนั้นไม่สำคัญแต่ว่าดันไปตัดหน้าตระกูลใหญ่แบบนั้นข้าว่า ถ้าคนผู้นั้นไม่มีคนหนุนหลังคงจะแย่แน่ๆ ” เสียงอีกคนกล่าวเสริม

ทางฝั่งของคุณชายเหลียง ได้แต่ใบหน้าบิดเบี้ยวเขียวคล้ำ

” เจ้าไปตามสืบว่ามันผู้นั้นเป็นใคร ” คุณชายเหลียงกล่าวสั่งแก่ บุรุษชุดดำที่อยู่ใกล้ตน

” ขอรับ ” ชายชุดดำตอบรับผู้เป็นนายของมันทันที

ตอนนี้สายตาทั้งหมดจับจ้องมาที่ไป๋หลงทั้งหมดผู้ติดตามของตระกูลซานไม่กล้าแม้แต่จะปริปาก ส่วนคุณหนูตระกูลซานนั้น ได้แต่ มองไป๋หลงด้วยความแปลกใจ

” เจ้าเป็นใครกันแน่ ”

” อะ…เอาล่ะ มีใครจะให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหมเจ้าค่ะ ” เสียงของพิธีกรสาวกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความที่ไป๋หลงนั้นใช้เงินเยอะมากจนผู้คนรอบข้างต่าง ไม่อยากจะสู้ราคาด้วยแถม ยังไม่รู้ทีมาที่ไป จึงทำให้ไม่มีใครกล้าขัด เมื่อ พิธีกรสาวเห็นดังนั้นจึงนับเวลาทันที

ห้าแสนเหรียญเพชร ครั้งที่1!!

ห้าแสนเหรียญเพชร ครั้งที่2 !!

ห้าแสนเหรียญเพชร ครั้งที่3 !!

” ขายที่ราคาห้าแสนเหรียญเพชรเจ้าค่ะ ” พิธีกรสาวกล่าวจบก็นึกสงสัยเช่นกันว่าไข่ใบนี้ทั้งที่ให้ผู้ตวรจสอบมาตรวจสอบแล้ว ก็เป็นเพียงไข่มังกรธรรมดา ไม่คิดว่าจะได้ราคาสูงถึงเพียงนี้

” เอาล่ะค่ะมาต่อที่สินค้าต่อไปกันเลย ” หลังจากพิธีกรสาวกล่าวจบ ก็ให้ชายฉกรรจ์นำของชิ้นต่อไปมาประมูลในทันนที แต่คราวนี้เป็นเพียงอาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา) เท่านั้นทำให้ไป๋หลงไม่ได้ใส่ใจ แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วนั้น อาวุธระดับนี้ถือว่าหายากและมีราคาสูงพอสมควร

การประมูลเริ่มดำเนินไปเรื่อยๆจนมาถึงช่วงสุดท้ายของการประมูลก่อนที่พิธีกรสาวจะกล่าวบางอย่างขึ้น

“เอาล่ะค่ะ ถึงช่วงที่ทุกท่านรอคอยแล้วสินค้าชิ้นนี้ถือว่า เป็นของที่ถูกต้องและมีการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพวกท่านไม่ต้องกังวลว่าจะมี ปัญหาภายหลัง เชิญ พบกับสินค้าชิ้นต่อไปได้เลย ” พิธีกรสาวกล่าวจบ ก็ได้มีกรงเหล็กขนาดใหญ่ ข้างในนั้นมีสตรีนางหนึ่ง ที่ ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็ก แต่ความงดงามของนางนั้นทำให้ชายหลายนถึงกับส่งสายตาหื่นกระหายไปที่สตรีนางนั้นในทันที

” อย่างที่ทุกท่านเห็น สิ่งนี้ ที่ทุกท่านเห็นนั้นนางเป็นเผ่า พันธ์เอลฟ์ ซึ่งการที่เธอถูกจับมาเช่นนี้เพราะนางได้ทำการก่อเรื่องขึ้นทำให้นางต้องอยู่ในสภาพนี้ ซึ่งเรื่องที่เธอทำไว้นั้นทางเรา ไม่สามารถบอกได้ ” พิธีกรสาวกล่าวจบก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้น

” ข้าจะต้องประมูลนางมาให้ได้ ”

” ไม่ข้าต่างหากเจ้าน่ะหลบไป ”

เสียงคนที่เข้าร่วมประมูลต่างเอ่ยถกเกียงกัน เพื่อยื้อแย่ง สตรีเผ่าเอลฟ์ นางนี้ เมื่อพิธีกรสาวเห็นดังนั้นก็ยิ้มแก้มปริ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเพื่อห้ามปรามเสียงที่คนในงานประมูลพูดคุยกัน

” เอาล่ะทุกท่านกรุณาอยู่ในความสงบ!! ” พิธีกรสาวเอ่ยขึ้น หลังจากทุกคนที่กำลังพูดคุย ถกเถียงกันอยู่นั้น ได้ยินเสียงของพิธีกรสาวก็อยู่ในความเงียบสงบ ตอนนี้ไป๋หลงมองเห็นบางอย่างข้างในของ เอลฟ์ คนนี้ ไป๋หลงนั่งคิดไปสักพัก จนในที่สุดก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัวของตน นั้นก็คือ เสียงของลิงหลุน

” นาย ท่าน เอลฟ์ตนนี้มีพลังที่น่าหวาดหวั่น!!แฝงอยู่ ถ้านายท่านสามารถ นำนางมาเป็นผู้รับใช้ได้ จะต้องเกิดประโยชน์ต่อตัวนายท่านเองแน่นอนอีกอย่าง พวกท่านลองดูพวกมนุษย์ต่ำทรามพวกนั้น มอง นางด้วสายตาที่เต็มไปด้วยตัณหาราคะ โปรดนายท่านลองคิดทบทวน ” หลังจากหลิงหลุนกล่าวอธิบายจบ ไป๋หลงก็ครุ่นคิดอยู่สักพัก

” เป็นไงเป็นกัน หลิงหลุนเจ้าทำตัวเหมือนอาจารย์ไม่ได้เรื่องของข้าเลยน่ะ ชอบสร้างปัญหาให้ข้าตลอด ” ไป๋หลงหล่าวออกมาด้วยน้ำเสืองเคืองเล็กน้อย แต่คุณหนูตระกูล ซาน นั้น ได้ยินเข้า จนอดคิดไม่ได้ เขากำลังคุยกับใคร

เมื่อพิธีกรสาวเห็นดังนั้นก็เอ่ยราคาเริ่มตนทนที ทำใ้ห้หลายคนต่างตกตะลึงกับจำนวนกับราคาที่เป็นเพียงแค่ขั้นต้นเท่านั้น

” ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ หนึ่งแสนเหรียญเพชร!! เจ้าค่ะ ” สิ้นเสียงของพิธีกรสาวก็มีคนจำนวนหนึ่งที่ไท่พอใจกับราคาเริ่มต้น

” บัดซบ!! ทำไมมันถึงราคาสูงถึงเพียงนั้น ” เสียงของชายวัยกลางคน คนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

” ใช่ ข้าว่ามันแพงเกินไปโกงกันชัดๆ” เสียงของคนที่อยู่ใกล้เคียงกล่าวเสริมขึ้นมา ในขณะที่ทุกคนกำลัง ถกเถียงกันอยู่นั้น เอลฟ์ตนนั้นที่ถูกล่ามโซ่อยู่กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเย็นชา และแฝงไปด้วยความโกรธแค้น

” ใครจะประมูลข้า ข้าไม่สนใจแต่ข้าขอสาบานด้วยชีวิตจะตามล้างแค้น คนที่ทำกับข้าเช่นนี้ พวกมนุษย์โสมม อย่างพวกเจ้าก็ดีแต่รังแกคนอ่อนแอเท่านั้น ชั่งน่าสมเพชสิ้นดี!! ”

จบ….

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท