เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่23 เหตุวุ่นวายก่อนสอบเข้าสำนัก

ตอนที่23 เหตุวุ่นวายก่อนสอบเข้าสำนัก

3 วันผ่านไป…..

วันนี้เป็นวันที่สำนักหมื่นกระบี่เปิดรับสมัครผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน18ปีสอบเข้สำนักหมื่นกระบี่ มีผู้เยาว์มากมายหลั่งไหลเข้ามาในเมืองจรัสแสง ผู้เยาว์ส่วนใหญ่เป็นลูกของพวกตระกูลใหญ่ทั้งหลายและพวกขุนนาง วันนี้มีคนมาลงสมัครอย่างคับคั่ง ปีนี้ มีผู้เยาว์มาสมัครมากกว่าปีที่แล้ว เพราะ มีข่าวจากวงในว่าท่าน” จักรพรรดิถังหน่านเหิง” แห่งทวีปจรัสแสง ได้ส่งองค์ชายถังเทียนและองค์หญิงถังอวี้ มาเข้ารับการทดสอบเข้าสำนักหมื่นกระบี่ ทำให้มีผู้มารับเข้าการทดสอบเยอะก็เพื่อจะถูกทาบทามจากราชวงศ์ถังก็เป็นได้ถ้าหากมีฝีมือที่เก่งกาจทางราชวงศ์ถังดึงตัวมาทันที นั้นทำให้มีผู้หลังไหลเข้ามาทดสอบกันอย่างคับคั่ง

” เฮ้อ..นี้ไป๋หลงคนมาสมัครเยอะขนาดนี้ข้าสงสัยว่าต้องรออีกนานกว่าพวกเราจะได้ลงชื่อ ” อู้เฉียงที่ตอนนี้สวมชุดคลุมเก่าๆพร้อมกับไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยเหนื่อยหน่าย ตอนนี้อู้เฉียงไม่มีรอยแผลที่แก้มอีกแล้ว เพราะอู้เฉียงกินยาโอสถที่ไป๋หลงเคยมอบไว้ให้ เพราะอู้เฉียงฝึกวิชาและยกระดับพลังของตนขึ้นอย่างมากจนไป๋หลงอดแปลกใจไม่ได้ รอยแผลที่แก้มหายไป ทำให้ อู้เฉียงดูหล่อเหลาขึ้นกว่าคนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ตาสีน้ำตาลอ่อน ผมสีน้ำตาลมันวาวถูกรวบไว้อย่างดี

” เจ้าอย่าบ่นไปหน่อยเลยเราก็แค่รอเท่านั้น เมื่อถึงคิวของพวกเรา เราก็จะได้ลงชื่อกัน ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ตอนนี้ไป๋หลงสวมฮู้ดสีน้ำตาลเก่าๆปิดหน้าอยู่ทำให้ไม่มีคนใส่ใจไป๋หลงมากนักเพราะนึกเพียงแค่ว่าอาจจะเป็นลูกของพวกชาวบ้านใกล้เคียงส่งบุตรมาเข้ารับการทดสอบก็เท่านั้น

“นี้ แล้วทำไมเราต้องใส่เสื้อคลุมที่ดูเก่าขนาดนี้ด้วยล่ะ ข้าไม่เข้าใจ? ” อู้เฉียงกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะชุดที่ดีกว่านี้ก็มีแต่ก่อนออกมาจากป่าอสูรไป๋หลงกล่าวห้ามไว้

” ข้าก็แค่ไม่อยากเป็นจุดสนใจก็เท่านั้น เจ้ารองคิดดูถ้าเราใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ชั้นดีมา ซึ่งแน่นอนก็จะมีพวกที่เข้ามาตีคุยสนิทข้าไม่ชอบ ถ้าเข้ามาเพราะอยากทำความรู้จักข้าก็ไม่ว่า แต่พวกนั้น จะเห็นแก่ผลประโยชน์สะมากกว่ากระมัง ” ไป๋หลงกล่าวมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เมื่ออู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้าเข้าใจทันที

” ข้าเข้าใจแล้ว ไป๋หลงเจ้านี้ฉลาดกว่าข้าจริงๆ ข้าเทียบเจ้าไม่ติดเลย ฮ่าๆๆ ” อู้เฉียงกล่าวออกมาด้วยขบขัน ตลอดหลายวันที่ผ่านมา อู้เฉียงนั้นเริ่มทำตัวสนิทกับไป๋หลงและใช้คำพูดที่เป็นกันเอง ทำให้ไป๋หลงรู้สึกพอใจอยู่ไม่น้อย

” คนเราก็มีเรื่องที่รู้และไม่รู้ข้าก็เช่นกัน ที่ข้ารู้เพราะข้าศึกษาและสังเกตุดูจากพฤติกรรมถ้าเจ้าเข้าใจถึงสิ่งที่ข้ากล่าวมา เจ้าก็ไม่ใช่คนโง่เขลา ” ไป๋หลงบอกกล่าวแก่อู้เฉียงด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง

” ข้าเข้าใจแล้ว ขอบใจเจ้ามากไป๋หลง ” อู้เฉียงกล่างออกมาด้วยความนับถือไป๋หลงที่ดูแล้วฉลาดเกินกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน

หลังจากที่ไป๋หลงและอู้เฉียงคุยเรื่องราวต่างๆกันไปเรื่อยขณะต่อแถวอยู่ แถวนั้นเริ่มสั้นขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงคิวของไป๋หลงแล้วทันใดนั้นเองก็มีเสียงของผู้เยาว์ที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง พูดพลางมองมาที่ไป๋หลง

” เจ้าขยะ!! ไปต่อข้างหลังซ่ะข้าจะต่อแถวตรงนี้ ” น้ำเสียงของผู้เยาว์คนนี้แฝงไปด้วยความดูแคลนและดูถูกไป๋หลงอย่างชัดเจนอู้เฉียงเห็นเช่นนั้นก็เดือดดาลในทันที แต่ไป๋หลงจับบ่า แล้วกล้าวห้ามไว้ ก่อนจะหันมามอง บุคคงตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา

” ยังไม่หลบไปอีกเจ้าไม่หรือนายน้อยของตระกูลข้านั้นเป็น1ในตระกูลใหญ่ของเมืองจรัสแสง ” คนติดตามที่ติดตามนายน้อยผู้นั้นกล่าวออกมาด้วยหยิ่งยโสมองมาที่ไป๋หลง

พวกที่ต่อแถวกันอยู่ใกล้ๆกับไป๋หลงและอู้เฉียงถึงกับถอยห่างเพราะไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วย คนที่สังเกตุดูได้แต่ พูดกันในทางเดียวกันว่าไป๋หลงโชคร้ายยิ่งนัก

” นี้ๆเจ้าเห็นหรือเปล่ามีคนกำลังจะมีเรื่องกันอยู่ข้างหน้า แถมยังเป็นนายน้อยแห่งตระกูล อู้ เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองจรัสแสงอีกตระกูลนึง ” เสียงของคนที่กำลังต่อแถวอยู่กลาวขึ้นอธิบาย

” ข้าว่าถ้าเจ้าเด็กนั่น ยอมสละที่ตรงนั้นให้กับนายน้อยคนนั้นข้าว่ายังไงก็รอดเพียงแค่ไปต่อข้างหลังเท่านั้นเอง ” เสียงของคนที่กำลังดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ใครๆ ก็ต่างคิดว่าไป๋หลงยอมสละที่ตรงนั้นแต่ว่าคำตอบที่พวกมันได้ยินกับทำให้พวกมันแข็งค้าง

” แล้วไง เจ้าอยากจะสมัครเข้ารับการทดสอบก็ไปต่อแถวเอา ตระกูลอะไรนั้นข้าไม่รู้จัก ใกล้จะถึงคิวข้าแล้วโปรดหลีกทาง ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้พวกมันที่ได้ยินถึงกับตลึง ถ้าไม่เก่งเหมือนปากก็คงบ้าแน่ๆ ที่อาจหาญท้าทายตระกูลใหญ่

” นี้ เจ้า บังอาจมาว่านายน้อยของพวกข้า พวกเจ้าต้องโดนสั่งสอนให้รู้จักที่ต่ำที่สูง ” ชายคนดังกล่าวที่ติดตามนายน้อยผู้นั้นกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน พลางง้างหมัดมาจะต่อยเข้าที่ไป๋หลง ทำให้คนที่ทนรับภาพตรงหน้าไม่ได้ ได้แต่หลับตาและก้มหน้าลงทันใดก็มีเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเสียงของไป๋หลงแต่ผิดถนัด

อ๊ากกกกกกกก!! มือข้า!! มือข้า!!

ภาพตรงหน้าที่หลายคนได้เห็นถึงกับหน้าเหวอ เพราะเสียงที่ร้องออกมาไม่ใช่เสียงของไป๋หลงแต่เป็นเสียงเสียงของชายดังกบ่าวที่ตอนนี้มือกระดูกแตกหักทิ่มแทง ออกมาจนทะลุผิวหนังทำให้เป็นภาพที่น่าสยดสหยองยิ่งนัก

” เจ้า เจ้า ทำมือของข้าพวกเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต ” เสียงพูดที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น และเต็มไปด้วยจิตสังหาร ถูกมุ่งมาที่ไป๋หลง แต่ไป๋หลงหาได้สนใจไม่ ทำให้มันยิ่งทวีความโกรธแค้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สามารถทำอะไรไป๋หลงได้เพราะมือที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้

นายน้อยคนนั้นเห็นคนของตระกูลตนโดนทำร้ายก็เดือดดาลและรู้สึกเสียหน้าทันที จนเส้นเลือดปูดขึ้นเต็มหน้า กล่าวออกมาด้วยความเดือดดาล

” เจ้ากล้ามากที่ทำกับคนของตระกูลข้าเช่นนี้ ตระกูลข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ” นายน้อยผู้นั้นกล่าวออกมาด้วยความหยิ่งยโส อู้เฉียงเห็นเช่นนั้นก็หมดความอดทนทันที

” มันจะมากไปแล้ว เจ้าคิดว่าตระกูลเจ้าใหญ่ค้ำฟ้านักเหรอถึงข่มขู่กันอื่นไปทั่วใช้อำนาจในทางที่ผิด เป็นถึงตระกูลใหญ่แต่ทำตัวเยี่ยงหมาข้างถนน!! ” อู้เฉียงใช้น้ำเสียงที่เดือดดาลและน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความไม่เกรงกลัวบุคคลตรงหร้าแม้แต่น้อย ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกดีไปด้วยที่อู้เฉียงมีจิตใจที่แน่วแน่เช่นนี้

ฟิ้วววว!!

เสียงของมีดบินที่เป็นผู้ติดตามนายน้อยผู้นี้ปาออกมา หมายจะเอาชีวิตของอู้เฉียง อู้เฉียงเห็นมีดที่เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ก็นำมือมาขวางไว้โดยได้ใช้พลังในการ ป้องกันที่ฝ่ามือเพียงน้อยนิดเพราะไม่มีโอกาศในการรวบรวมพลัง มีดเล่มนั้นปักเข้าที่ฝ่ามือข้างขวาของอู้เฉียงทันที แต่ไม่ได้ลึกมากนัก

” บัดซบ!! เป็นถึงคนของตระกูลใหญ่ใช้งิธีสกปรก โดยการรอบโจมตีต่ำช้าสิ้นดี ” เสียงของผู้อาวุโสที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจ

” ใช่ๆ ชั่วช้าสิ้นดี หมารอบกัด ”

“ต่ำช้าสิ้นดี ”

เสียงของผู้คนโดยรอบที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้ากล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจทันใดนั้นจิตสังหารที่แข็งแกร่งประทุออกมา

ตู้มมมมมม!!

เสียงระเบิดของคลื่นพลังที่เป็นจิตสังหารที่แม้แต่ ชนชั้นระดับจักรพรรดิ ยังต้อง คุกเข่า ได้ระเบิดออกมาจากตัวไป๋หลง เหตุการณ์ในตอนนี้เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีผู้อาวุโสบางคนมาดูเหตุกาณ์ถึงกับคิ้วขมวด เพราะเป็นจิตสังหารที่รุนแรงมาก

” เจ้ากล้ามากที่มาทำร้ายสหายของข้าเพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวของข้าบาดเจ็บเจ้าจักต้องชดใช้ด้วยชีวิต!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา และสายตาที่คมราวกับกระบี่ที่จ้องมายังคนที่ลอบทำร้ายอู้เฉียง

บาทาอัสนี!!

ไป๋หลงหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ไปโผล่ตรงหน้าของชายที่เป็นผู้ติดตามนายน้อยผู้นั้น ก่อนจะใช้ฝ่าเท้าเตะเข้าที่ลำตัวอย่างจัง ทำให้ชายคนที่โดนไป๋หลงเตะ กระเด็นไปไกลจนชนเข้ากับโรงเตี้ยมที่อยู่ใกล้ๆ จนพังพินาศ

ตู้มมม!!

หลังจากกลุ่มควันหายไปก็ปรากฏร่างขอวชายผู้นั้นนอนกระอักเลือดอยู่จะเป็นจะตายเพราะเมื่อครู่ไป๋หลงโจมตีโดยฉับพลันทำให้ตัวมันไม่มีโอกาศ รวบรวมพลังมาสร้างเป็รเกราะคุ้มกันได้ ความเร็วที่ไป๋หลงใช้นั้นในสายตาของคนอื่นรวดเร็วเป็นอย่างมากแต่สำหรับไป๋หลงเพียงแค่เริ่มต้น ไป๋หลงเตรียมที่จะไปซ้ำต่อพร้อมปล่อยแรงสังหารออกมา ตลอดเวลาไม่ได้ควบคุมมันทำให้คนที่ทนรับไม่ได้ถึงกับกระอักเลือดออกมา

” พอได้แล้ว!! ไป๋หลงมันเป็นความอ่อนหัดของข้าที่ประมาทเอง ถ้าเจ้าพลั่งมือฆ่ามันไป ได้เกิดเรื่องยุ่งแน่ เจ้าไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ ” อู้เฉียงกล่าวห้ามไป๋หลงในทันทีด้วยน้ำเสียง จริงจัง

” ก็ได้แล้วแต่เจ้า ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เก็บจิตสังหารทันที และมองไปยัง นายน้อยตระกูล อู้ ด้วยแววตาเฉยฉา ก่อนจะกล่าวบางอย่างออกมา

“ถ้าเจ้ายังไม่เลิกนิสัยแบบนี้สักวันเจ้าจะต้องนำความหายยนะมาสู่ตระกูลตัวเอง ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เดินไปเข้าแถวทีเดิมพร้อมกับอู้เฉียงที่นำผ้ามาพันมือไว้ ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงของหญิงแก่ชรากล่าวขึ้นแก่ไป๋หลงด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ

” เอ่อ..นายน้อยท่านช่วยจ่ายค่าเสียหายโรงเตี้ยมที่ท่านทำเอาไว้ได้หรือไม่? ตัวข้านั้นไม่มีเงินมากพอที่จะมาซ่อมมันใหม่ทั้งหมดหรอกข้าอยู่กับหลานสาวข้าเพียงแค่2คนเท่านั้นส่วน พ่อของนางโดนอสูรฆ่าตายเมื่อ10 ปีก่อนทำให้ข้าต้องดูแลโรงเตี้ยมนี้แทนเขา แต่ข้าไม่มีเงินมากพอที่จะซ่อมแซม นายน้อยโปรดเมตตา ” หญิงแก่ชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพแก่ไป๋หลงพร้อมคุกเข้า ไป๋หลวเห็นเช่นนั้นก็พยุงตัวของหญิงชราขึ้นมาทันที

” ท่าน ยาย ข้าป็นคนผิดซึ่งแน่นอนข้าต้องรับผิดขอบว่าแต่ข้าเสียหายเท่าไหร่รึท่านยาย ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนผิดกับเมื่อกี้ลิบลับ บางคนนึกว่าตอนแรก ยายตรงหน้าคงโดนไป๋หลงปฏิเสธแน่ๆแต่ผิดคาด

” เอ่อ..ทั้งหมด1000 เหรียญทอง เจ้าค่ะ ” หญิงชราเอ่ยด้วยจากที่ดูสภาพการแต่งกายของไป๋หลงก็คิดว่าไป๋หลงคงไม่มีเงินถึงขนาดนี้แต่ไม่สามารถลดได้เพราะมันจำเป็น หลายคนที่มองดูอยู่คิดจะสร้างสานสัมพันธ์กับไป๋หลงโดยการจ่ายเงินให้แต่….

” นี้ท่านยายรับไป ” ไป๋หลวกล่าวจบก็ยื่นเงิน1000เหรียญเพชร ให้หญิงชราตรงหน้าทันที เมื่อหญิงชราเห็นดังนั้นก็ตกตะลึงพร้อมกล่าวออกมาด้วยความอ่อนน้อม

” มันเยอะเกินไป ข้ารับไว้ไม่…. ” ไป๋หลงนำเงินใส่มือหญิงชราในทันที หลายคนที่เห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงไม่คิดว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นจะมั่งคั่งและร่ำรวยขนาดนี้ ภายใต้ผ้าคลุมไม่มีใครสามารถมองเห็นหน้าไป๋หลงได้

” ข้าขอขอบคุณท่านยิ่งนัก ” เงินที่ได้มาไม่เพียงสามารถสร้างโรงเตี้ยมใหม่ได้แต่จะทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้ตนนั้นคิดว่าติดหนี้ไป๋หลงครั้งใหญ่ ไป๋หลงเพียงพยักเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าแถวที่เดิมทันที ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จบ….

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท