3 วันผ่านไป…..
วันนี้เป็นวันที่สำนักหมื่นกระบี่เปิดรับสมัครผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน18ปีสอบเข้สำนักหมื่นกระบี่ มีผู้เยาว์มากมายหลั่งไหลเข้ามาในเมืองจรัสแสง ผู้เยาว์ส่วนใหญ่เป็นลูกของพวกตระกูลใหญ่ทั้งหลายและพวกขุนนาง วันนี้มีคนมาลงสมัครอย่างคับคั่ง ปีนี้ มีผู้เยาว์มาสมัครมากกว่าปีที่แล้ว เพราะ มีข่าวจากวงในว่าท่าน” จักรพรรดิถังหน่านเหิง” แห่งทวีปจรัสแสง ได้ส่งองค์ชายถังเทียนและองค์หญิงถังอวี้ มาเข้ารับการทดสอบเข้าสำนักหมื่นกระบี่ ทำให้มีผู้มารับเข้าการทดสอบเยอะก็เพื่อจะถูกทาบทามจากราชวงศ์ถังก็เป็นได้ถ้าหากมีฝีมือที่เก่งกาจทางราชวงศ์ถังดึงตัวมาทันที นั้นทำให้มีผู้หลังไหลเข้ามาทดสอบกันอย่างคับคั่ง
” เฮ้อ..นี้ไป๋หลงคนมาสมัครเยอะขนาดนี้ข้าสงสัยว่าต้องรออีกนานกว่าพวกเราจะได้ลงชื่อ ” อู้เฉียงที่ตอนนี้สวมชุดคลุมเก่าๆพร้อมกับไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยเหนื่อยหน่าย ตอนนี้อู้เฉียงไม่มีรอยแผลที่แก้มอีกแล้ว เพราะอู้เฉียงกินยาโอสถที่ไป๋หลงเคยมอบไว้ให้ เพราะอู้เฉียงฝึกวิชาและยกระดับพลังของตนขึ้นอย่างมากจนไป๋หลงอดแปลกใจไม่ได้ รอยแผลที่แก้มหายไป ทำให้ อู้เฉียงดูหล่อเหลาขึ้นกว่าคนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ตาสีน้ำตาลอ่อน ผมสีน้ำตาลมันวาวถูกรวบไว้อย่างดี
” เจ้าอย่าบ่นไปหน่อยเลยเราก็แค่รอเท่านั้น เมื่อถึงคิวของพวกเรา เราก็จะได้ลงชื่อกัน ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ตอนนี้ไป๋หลงสวมฮู้ดสีน้ำตาลเก่าๆปิดหน้าอยู่ทำให้ไม่มีคนใส่ใจไป๋หลงมากนักเพราะนึกเพียงแค่ว่าอาจจะเป็นลูกของพวกชาวบ้านใกล้เคียงส่งบุตรมาเข้ารับการทดสอบก็เท่านั้น
“นี้ แล้วทำไมเราต้องใส่เสื้อคลุมที่ดูเก่าขนาดนี้ด้วยล่ะ ข้าไม่เข้าใจ? ” อู้เฉียงกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะชุดที่ดีกว่านี้ก็มีแต่ก่อนออกมาจากป่าอสูรไป๋หลงกล่าวห้ามไว้
” ข้าก็แค่ไม่อยากเป็นจุดสนใจก็เท่านั้น เจ้ารองคิดดูถ้าเราใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ชั้นดีมา ซึ่งแน่นอนก็จะมีพวกที่เข้ามาตีคุยสนิทข้าไม่ชอบ ถ้าเข้ามาเพราะอยากทำความรู้จักข้าก็ไม่ว่า แต่พวกนั้น จะเห็นแก่ผลประโยชน์สะมากกว่ากระมัง ” ไป๋หลงกล่าวมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เมื่ออู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้าเข้าใจทันที
” ข้าเข้าใจแล้ว ไป๋หลงเจ้านี้ฉลาดกว่าข้าจริงๆ ข้าเทียบเจ้าไม่ติดเลย ฮ่าๆๆ ” อู้เฉียงกล่าวออกมาด้วยขบขัน ตลอดหลายวันที่ผ่านมา อู้เฉียงนั้นเริ่มทำตัวสนิทกับไป๋หลงและใช้คำพูดที่เป็นกันเอง ทำให้ไป๋หลงรู้สึกพอใจอยู่ไม่น้อย
” คนเราก็มีเรื่องที่รู้และไม่รู้ข้าก็เช่นกัน ที่ข้ารู้เพราะข้าศึกษาและสังเกตุดูจากพฤติกรรมถ้าเจ้าเข้าใจถึงสิ่งที่ข้ากล่าวมา เจ้าก็ไม่ใช่คนโง่เขลา ” ไป๋หลงบอกกล่าวแก่อู้เฉียงด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
” ข้าเข้าใจแล้ว ขอบใจเจ้ามากไป๋หลง ” อู้เฉียงกล่างออกมาด้วยความนับถือไป๋หลงที่ดูแล้วฉลาดเกินกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน
หลังจากที่ไป๋หลงและอู้เฉียงคุยเรื่องราวต่างๆกันไปเรื่อยขณะต่อแถวอยู่ แถวนั้นเริ่มสั้นขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงคิวของไป๋หลงแล้วทันใดนั้นเองก็มีเสียงของผู้เยาว์ที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง พูดพลางมองมาที่ไป๋หลง
” เจ้าขยะ!! ไปต่อข้างหลังซ่ะข้าจะต่อแถวตรงนี้ ” น้ำเสียงของผู้เยาว์คนนี้แฝงไปด้วยความดูแคลนและดูถูกไป๋หลงอย่างชัดเจนอู้เฉียงเห็นเช่นนั้นก็เดือดดาลในทันที แต่ไป๋หลงจับบ่า แล้วกล้าวห้ามไว้ ก่อนจะหันมามอง บุคคงตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา
” ยังไม่หลบไปอีกเจ้าไม่หรือนายน้อยของตระกูลข้านั้นเป็น1ในตระกูลใหญ่ของเมืองจรัสแสง ” คนติดตามที่ติดตามนายน้อยผู้นั้นกล่าวออกมาด้วยหยิ่งยโสมองมาที่ไป๋หลง
พวกที่ต่อแถวกันอยู่ใกล้ๆกับไป๋หลงและอู้เฉียงถึงกับถอยห่างเพราะไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วย คนที่สังเกตุดูได้แต่ พูดกันในทางเดียวกันว่าไป๋หลงโชคร้ายยิ่งนัก
” นี้ๆเจ้าเห็นหรือเปล่ามีคนกำลังจะมีเรื่องกันอยู่ข้างหน้า แถมยังเป็นนายน้อยแห่งตระกูล อู้ เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองจรัสแสงอีกตระกูลนึง ” เสียงของคนที่กำลังต่อแถวอยู่กลาวขึ้นอธิบาย
” ข้าว่าถ้าเจ้าเด็กนั่น ยอมสละที่ตรงนั้นให้กับนายน้อยคนนั้นข้าว่ายังไงก็รอดเพียงแค่ไปต่อข้างหลังเท่านั้นเอง ” เสียงของคนที่กำลังดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ใครๆ ก็ต่างคิดว่าไป๋หลงยอมสละที่ตรงนั้นแต่ว่าคำตอบที่พวกมันได้ยินกับทำให้พวกมันแข็งค้าง
” แล้วไง เจ้าอยากจะสมัครเข้ารับการทดสอบก็ไปต่อแถวเอา ตระกูลอะไรนั้นข้าไม่รู้จัก ใกล้จะถึงคิวข้าแล้วโปรดหลีกทาง ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้พวกมันที่ได้ยินถึงกับตลึง ถ้าไม่เก่งเหมือนปากก็คงบ้าแน่ๆ ที่อาจหาญท้าทายตระกูลใหญ่
” นี้ เจ้า บังอาจมาว่านายน้อยของพวกข้า พวกเจ้าต้องโดนสั่งสอนให้รู้จักที่ต่ำที่สูง ” ชายคนดังกล่าวที่ติดตามนายน้อยผู้นั้นกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน พลางง้างหมัดมาจะต่อยเข้าที่ไป๋หลง ทำให้คนที่ทนรับภาพตรงหน้าไม่ได้ ได้แต่หลับตาและก้มหน้าลงทันใดก็มีเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเสียงของไป๋หลงแต่ผิดถนัด
อ๊ากกกกกกกก!! มือข้า!! มือข้า!!
ภาพตรงหน้าที่หลายคนได้เห็นถึงกับหน้าเหวอ เพราะเสียงที่ร้องออกมาไม่ใช่เสียงของไป๋หลงแต่เป็นเสียงเสียงของชายดังกบ่าวที่ตอนนี้มือกระดูกแตกหักทิ่มแทง ออกมาจนทะลุผิวหนังทำให้เป็นภาพที่น่าสยดสหยองยิ่งนัก
” เจ้า เจ้า ทำมือของข้าพวกเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต ” เสียงพูดที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น และเต็มไปด้วยจิตสังหาร ถูกมุ่งมาที่ไป๋หลง แต่ไป๋หลงหาได้สนใจไม่ ทำให้มันยิ่งทวีความโกรธแค้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สามารถทำอะไรไป๋หลงได้เพราะมือที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้
นายน้อยคนนั้นเห็นคนของตระกูลตนโดนทำร้ายก็เดือดดาลและรู้สึกเสียหน้าทันที จนเส้นเลือดปูดขึ้นเต็มหน้า กล่าวออกมาด้วยความเดือดดาล
” เจ้ากล้ามากที่ทำกับคนของตระกูลข้าเช่นนี้ ตระกูลข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ” นายน้อยผู้นั้นกล่าวออกมาด้วยความหยิ่งยโส อู้เฉียงเห็นเช่นนั้นก็หมดความอดทนทันที
” มันจะมากไปแล้ว เจ้าคิดว่าตระกูลเจ้าใหญ่ค้ำฟ้านักเหรอถึงข่มขู่กันอื่นไปทั่วใช้อำนาจในทางที่ผิด เป็นถึงตระกูลใหญ่แต่ทำตัวเยี่ยงหมาข้างถนน!! ” อู้เฉียงใช้น้ำเสียงที่เดือดดาลและน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความไม่เกรงกลัวบุคคลตรงหร้าแม้แต่น้อย ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกดีไปด้วยที่อู้เฉียงมีจิตใจที่แน่วแน่เช่นนี้
ฟิ้วววว!!
เสียงของมีดบินที่เป็นผู้ติดตามนายน้อยผู้นี้ปาออกมา หมายจะเอาชีวิตของอู้เฉียง อู้เฉียงเห็นมีดที่เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ก็นำมือมาขวางไว้โดยได้ใช้พลังในการ ป้องกันที่ฝ่ามือเพียงน้อยนิดเพราะไม่มีโอกาศในการรวบรวมพลัง มีดเล่มนั้นปักเข้าที่ฝ่ามือข้างขวาของอู้เฉียงทันที แต่ไม่ได้ลึกมากนัก
” บัดซบ!! เป็นถึงคนของตระกูลใหญ่ใช้งิธีสกปรก โดยการรอบโจมตีต่ำช้าสิ้นดี ” เสียงของผู้อาวุโสที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจ
” ใช่ๆ ชั่วช้าสิ้นดี หมารอบกัด ”
“ต่ำช้าสิ้นดี ”
เสียงของผู้คนโดยรอบที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้ากล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจทันใดนั้นจิตสังหารที่แข็งแกร่งประทุออกมา
ตู้มมมมมม!!
เสียงระเบิดของคลื่นพลังที่เป็นจิตสังหารที่แม้แต่ ชนชั้นระดับจักรพรรดิ ยังต้อง คุกเข่า ได้ระเบิดออกมาจากตัวไป๋หลง เหตุการณ์ในตอนนี้เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีผู้อาวุโสบางคนมาดูเหตุกาณ์ถึงกับคิ้วขมวด เพราะเป็นจิตสังหารที่รุนแรงมาก
” เจ้ากล้ามากที่มาทำร้ายสหายของข้าเพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวของข้าบาดเจ็บเจ้าจักต้องชดใช้ด้วยชีวิต!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา และสายตาที่คมราวกับกระบี่ที่จ้องมายังคนที่ลอบทำร้ายอู้เฉียง
บาทาอัสนี!!
ไป๋หลงหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ไปโผล่ตรงหน้าของชายที่เป็นผู้ติดตามนายน้อยผู้นั้น ก่อนจะใช้ฝ่าเท้าเตะเข้าที่ลำตัวอย่างจัง ทำให้ชายคนที่โดนไป๋หลงเตะ กระเด็นไปไกลจนชนเข้ากับโรงเตี้ยมที่อยู่ใกล้ๆ จนพังพินาศ
ตู้มมม!!
หลังจากกลุ่มควันหายไปก็ปรากฏร่างขอวชายผู้นั้นนอนกระอักเลือดอยู่จะเป็นจะตายเพราะเมื่อครู่ไป๋หลงโจมตีโดยฉับพลันทำให้ตัวมันไม่มีโอกาศ รวบรวมพลังมาสร้างเป็รเกราะคุ้มกันได้ ความเร็วที่ไป๋หลงใช้นั้นในสายตาของคนอื่นรวดเร็วเป็นอย่างมากแต่สำหรับไป๋หลงเพียงแค่เริ่มต้น ไป๋หลงเตรียมที่จะไปซ้ำต่อพร้อมปล่อยแรงสังหารออกมา ตลอดเวลาไม่ได้ควบคุมมันทำให้คนที่ทนรับไม่ได้ถึงกับกระอักเลือดออกมา
” พอได้แล้ว!! ไป๋หลงมันเป็นความอ่อนหัดของข้าที่ประมาทเอง ถ้าเจ้าพลั่งมือฆ่ามันไป ได้เกิดเรื่องยุ่งแน่ เจ้าไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ ” อู้เฉียงกล่าวห้ามไป๋หลงในทันทีด้วยน้ำเสียง จริงจัง
” ก็ได้แล้วแต่เจ้า ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เก็บจิตสังหารทันที และมองไปยัง นายน้อยตระกูล อู้ ด้วยแววตาเฉยฉา ก่อนจะกล่าวบางอย่างออกมา
“ถ้าเจ้ายังไม่เลิกนิสัยแบบนี้สักวันเจ้าจะต้องนำความหายยนะมาสู่ตระกูลตัวเอง ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เดินไปเข้าแถวทีเดิมพร้อมกับอู้เฉียงที่นำผ้ามาพันมือไว้ ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงของหญิงแก่ชรากล่าวขึ้นแก่ไป๋หลงด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
” เอ่อ..นายน้อยท่านช่วยจ่ายค่าเสียหายโรงเตี้ยมที่ท่านทำเอาไว้ได้หรือไม่? ตัวข้านั้นไม่มีเงินมากพอที่จะมาซ่อมมันใหม่ทั้งหมดหรอกข้าอยู่กับหลานสาวข้าเพียงแค่2คนเท่านั้นส่วน พ่อของนางโดนอสูรฆ่าตายเมื่อ10 ปีก่อนทำให้ข้าต้องดูแลโรงเตี้ยมนี้แทนเขา แต่ข้าไม่มีเงินมากพอที่จะซ่อมแซม นายน้อยโปรดเมตตา ” หญิงแก่ชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพแก่ไป๋หลงพร้อมคุกเข้า ไป๋หลวเห็นเช่นนั้นก็พยุงตัวของหญิงชราขึ้นมาทันที
” ท่าน ยาย ข้าป็นคนผิดซึ่งแน่นอนข้าต้องรับผิดขอบว่าแต่ข้าเสียหายเท่าไหร่รึท่านยาย ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนผิดกับเมื่อกี้ลิบลับ บางคนนึกว่าตอนแรก ยายตรงหน้าคงโดนไป๋หลงปฏิเสธแน่ๆแต่ผิดคาด
” เอ่อ..ทั้งหมด1000 เหรียญทอง เจ้าค่ะ ” หญิงชราเอ่ยด้วยจากที่ดูสภาพการแต่งกายของไป๋หลงก็คิดว่าไป๋หลงคงไม่มีเงินถึงขนาดนี้แต่ไม่สามารถลดได้เพราะมันจำเป็น หลายคนที่มองดูอยู่คิดจะสร้างสานสัมพันธ์กับไป๋หลงโดยการจ่ายเงินให้แต่….
” นี้ท่านยายรับไป ” ไป๋หลวกล่าวจบก็ยื่นเงิน1000เหรียญเพชร ให้หญิงชราตรงหน้าทันที เมื่อหญิงชราเห็นดังนั้นก็ตกตะลึงพร้อมกล่าวออกมาด้วยความอ่อนน้อม
” มันเยอะเกินไป ข้ารับไว้ไม่…. ” ไป๋หลงนำเงินใส่มือหญิงชราในทันที หลายคนที่เห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงไม่คิดว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นจะมั่งคั่งและร่ำรวยขนาดนี้ ภายใต้ผ้าคลุมไม่มีใครสามารถมองเห็นหน้าไป๋หลงได้
” ข้าขอขอบคุณท่านยิ่งนัก ” เงินที่ได้มาไม่เพียงสามารถสร้างโรงเตี้ยมใหม่ได้แต่จะทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้ตนนั้นคิดว่าติดหนี้ไป๋หลงครั้งใหญ่ ไป๋หลงเพียงพยักเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าแถวที่เดิมทันที ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จบ….