เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่39 แสงสว่างและความมืด

ตอนที่39 แสงสว่างและความมืด

ตอนนี้ทั่วร่างของไป๋หลงปกคลุมไปด้วยออร่าสีดำที่น่าขนลุกเป็นอย่างมากแต่แรงกดดันที่แผ่ออกมานั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน แววตาแข็งกร้าวราวกับไม่เห็นสิ่งอื่นอยู่นในสายตา เป็นสายตาที่เย็นชาอย่างถึงที่สุด

” ใจเย็นลงก่อนอย่าให้ความเกลียดชังครอบงำจิตใจ..มันจะทำให้เจ้าฝึกทักษะของเผ่าเทพได้ยากขึ้น ” ราฟาเอลกล่าวบอกแก่ไป๋หลงด้วยความเป็นห่วง

” ข้าขอโทษท่านแม่ ข้าเพียง.. ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความสำนึกผิดที่ใชอารมณ์มากเกินไป

” เอาเถอะ เรื่องสำคัญอีกเรื่องนึงก็คือ ข้าได้ปลดผนึกพลังให้แล้วเพียงแต่.. ” ราฟาเอลกล่าวค้างไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้นน้ำเสียงที่จริงจัง ทำให้ไป๋หลงตั้งใจฟังในทันที

” ข้าปลกผนึกพลังของเจ้าให้แล้วก็จริงแต่พื้นฐานการต่อสู้ของเจ้านั้น..แย่มาก!! เจ้ามักจะใช้พลังเกินขอบเขตของตัวเอง จนทำให้ร่างกายบาดเจ็บ เพราะฉะนั้นเจ้าต้องอยู่ฝึกกับข้า เป็นเวลา3ปี พร้อมเด็กคนนั้น ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ไม่มีคำพูดที่จะกล่าวโต้ตอบเพราะทุกคำพูดที่ ราฟาเอลกล่าวมานั้นล้วนถูกต้อง ถึงแม้ตัวไป๋หลงจะมีความสามารถที่ามารถ จดจำและฝึกวิชาได้รวดเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว แต่ ตัวไป๋หลงนั้นใช้พลังเกินตัวไปหลายต่อหลายครั้งในการต่อสู้

” ข้าเข้าใจแล้ว..แต่เวลา3ปีข้าคิดว่ามันนานเกินไปหรือไม่ ” ไป๋หลงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำด้วยความที่ไม่กล้าสู้หน้าแม่ของตน ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไป๋หลงพึ่งเคยได้รู้สึกถึงมัน

ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางขบขันเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพูดกับไป๋หลงด้วยความออโยน

” ไป๋หลงฟังแม่ให้ดีเวลา3ปี หมายถึงเป็นเวลาที่แม่อยู่สั่งสอนเจ้าได้หลังจากนั้นแม่ก็จะหายไป เพราะแม่นั้น เป็นเพียงเศษเสี้ยวจิตวิญญานของร่างจริงเท่านั้น ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็นึกไปถึงคำถามที่ถามไปเมื่อกี้ เป็นคำถามที่โง่ที่สุด 3 ปี ในตอนนี้สำหรับไป๋หลงมันยิ่งกว่าน้อยซะอีก

” ทะ..ทำไมถึงเป็นแบบนั้นละท่านแม่ข้าพอจะช่วยท่านได้หรือไม่ ” ไป๋หลงกล่าวออกด้วยความเสียใจอย่างที่สุด

ราฟาเอล ได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้

” แม่ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว 3 ปีที่หลือนี้แม่จะถ่ายทอดความรู้และฝึกฝนเจ้าสนสามารถต่อกรกับระดับทูตสวรรค์ได้ ถ้าเจ้าอยู่ต่อหน้ามันในตอนนี้ลูกไม่ต่างจากมดในสายตาของพวกมัน เพียงนิ้วเดียวมันก็อาจจะสังหารลูกได้ทันที”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นสำนึกในความอ่อนหัดของตัวเองทันที

” ท่านแม่ ทูตสวรรค์ คืออะไร? ” ไป๋หลงกล่าวถามด้วยความสงสัยแต่มันคงจะแข็งแกร่งอย่างแน่นอน

” ทูตสวรรค์ คือพวกที่คอยจำแลงร่างลงมาเพื่อตามหาบางสิ่งบางอย่างซึ่งแม่เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถ้าวัดจากระดับพลังในโลกนี้ พวกมันพลังต่ำสุดก็คงจะอยู่ จักรพรรดิ เป็นอย่างต่ำ

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็สั่นสะท้านในทันที ระดับจักรพรรดิเป็นที่รู้ดีว่ายากกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์ ไม่ต้องพูด ระดับจักรพรรดิที่แท้จริง หรือระดับสูงกว่านั้นไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนในแผ่นดินใหญ่ แต่นี้ ทูตสวรรค์ระดับต่ำสุกอยู่เพียงแค่ ระดับจักรพรรดิ ว่ากันว่าระดับจักรพรรดินั้น มีพลังขนาดสามารถทำให้เมืองใหญ่ๆหายไปในพลิปตา ซึ่งไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย

” ทะ ที่นี้ที่ไหนปวดหัวจังเลยข้าจำอะไรไม่ได้เลย… อ่าวไป๋หลงเจ้ากำลังทำอะไรอยู่เหรอแล้วคนที่อยู่ข้างหน้าเจ้าเป็นใครเหรอ? ” อู้เฉียงที่ตื่นขึ้นมาหันซ้ายหันขวาก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาไป๋หลง

” เจ้าไม่เป็นอะไรหรือเปล่า..มีบาดแผลตรงไหนหรือไม่ ” ไป๋หลงกล่าวถามแก่อู้เฉียงด้วยความเป็นห่วง

” อะไรของเจ้าเนี้ย ข้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แล้ว พี่สาวคนนี้ใครเหรอ? ” อู้เฉียงกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เตรียมจะอธิบายแต่อู้เฉียงชิงพูดขึ้นมาก่อน

” ไป๋หลงพี่สาวคนนี้สวยมากๆเลยนะเส้นผมสีทองข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแถมพี่สาวคนนี้ยังสวยมากๆด้วย หรือว่าๆ เจ้า… ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นกับท่าทางและคำของอู้เฉียงทำไป๋หลงอดไม่ได้ที่เขกหัวไปบนหัวของอู้เฉียงทันที

” โอ้ย!!..เจ้าตีหัวข้าทำไมเนี้ยข้าทำอะไรผิดเนี้ยยย ” อู้เฉียงพูดพลางเอามือกุมหัวตัวเองเอาไว้ ไป๋หลงได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่าย

” ข้าจะอธิบายให้ฟัง คนที่เจ้าเรียกว่าพี่สาวอยู่คือ…แม่ของข้า ”

อะไรน่ะ!!!

อู้เฉียงได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง หลังจากนั้นไป๋หลงก็อธิบายเรื่องต่างๆให้อู้เฉียงเข้าใจแต่ไม่ได้บอกเรื่องเกี่ยกับเทวทูตสวรรค์และเรื่องที่สมควรเป็นความลับต่อไป

” อ่อ…เรื่องเป็นแบบนี้นี่เองข้าต้องขอโทษท่านด้วยที่ตัวข้านั้นเป็นเด็กไม่ค่อยรู้ความเท่าไหร่ แหะๆ ” อู้เฉียงกล่าวด้วยความสำนึก

” ไม่เป็นไรๆ..ข้าไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย เอาละมาเข้าประเด็นหลักกันเถอะ เรื่องที่ไป๋หลงบอกว่าต้องใช้เวลา3 ปีถึงจะออกไปได้เจ้าคงเข้าใจสินะ.. ” ราฟาเอลกล่าวบอกแก่อู้เฉียงพลางสำรวจบางอย่างก่อนจะยกยิ้มขึ้น

” ข้าเข้าใจแล้วแต่ข้ากลัวว่าท่านแม่จะเป็นห่วงข้ามากกว่า.. ” อู้เฉียงกล่าวอธิบาย ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบทันที

” เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวข้าจัดการให้เอง เจ้ากับไป๋หลงฝึกให็เต็มที่เถอะ.. ”

อู้เฉียงพยักหน้าและก้มหัวลงเป็นเชิงการแสดงความเคารพ

” เอาละไป๋หลง..อู้เฉียงข้าจะมอบวิธีการฝึกให้พวกเจ้า ในเวลา3 ปีนี้พวกเจ้าทั้งสองคนจะก้าวล้ำกว่าคนในวัยเดียวกันมาก แต่่ มันก็ขึ้นอยู่กับความพยามของพวกเจ้าทั้งสองคน

อู้เฉียง…ในภายภาคหน้าถ้าเจ้ายังยืนเคียงข้างไป๋หลง เจ้าจะเจอกับความยากลำบากและปัญหามากมายถาโถมเข้ามา เจ้ายังจะยืนเคียงข้างไป๋หลงหรือไม่? ”

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นแววตาก็ฉายความมุ่งมั่น และแน่วแน่ขึ้นมาทันทีเหมือนกับแววตาของนักรบผู้กล้าหาญและเกรียงไกล

” ข้าอู้เฉียง…จะไมทอดทิ้งมิตรสหายเป็นอันขาดตราบใดที่ข้ามีชีวิตอยู่ ไม่มีไป๋หลง ก็ไม่มีข้าในวันนี้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเจอกับอะไรข้าก็จะยืนเคียงข้างไป๋หลงและฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ ”

ไป๋หลงที่ได้ฟังเช่นนั้นก็สั่นสะท้านไปด้วยความปิติ..คิดไม่ผิดที่ได้เป็นเพื่อน เป็นสหายกับอู้เฉียง ราฟาเอลได้ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าให้พร้อมกับส่งยิ้งอ่อนๆที่ดูอบอุ่นให้แก่อู้เฉียง

” เอาละถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี แสดงความตั้งใจของข้าออกมาให้ข้าดูหน่อยเถอะ.. ” ราฟาเอลกล่าวจบ ประตูที่ไหนก็ไม่รู้ปรากฏขึ้นตรงหน้าอู้เฉียง เป็นประตูที่ทำจากศิลาชั้นดี อู้เฉียงเห็นเช่นนั้นก็เกิดความสงสัยขึ้น รวมถึงไป๋หลงด้วยเช่นกัน

” มันคือประตูอะไร ขอรับ ท่านผู้อาวุโส ” อู้เฉียงกล่าวด้วยความเคารพและนับถือ

ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มขึ้นทันที

” ประตูแห่งการทดสอบและฝึกฝน…จงแสดงความตั้งใจที่เจ้ามีให้ข้าได้เห็นหลังประตูศิลาบานนั้น มีความแข็งแกร่งที่เจ้าต้องการอยู่ เด็กน้อยผู้มีจิตสองขั้ว ”

” ท่านพูดว่าอะไรนะ?..ข้าได้ยินคำหลังไม่ค่อยชัด ” อู้เฉียงกล่าวพลางทำหน้าสงสัย

” ไม่มีอะไรรีบเข้าไปได้แล้ว.. ”

ราฟาเอลกล่าวจบ อู้เฉียงก็ไม่ได้สักถามให้มากความอีกต่อไปก่อนจะผลักประตูแล้วก้าวเข้าไปทันที หลังจาก อู้เฉียงเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดลงทันที

ตึง!!

” เอาล่ะ..ต่อไปก็ถึงทีของเจ้าแล้ว ” ราฟาเอลกล่าวจบประตูที่มีสีขาวส่องว่างสไหว ในด้านขวา และ มืดมิดในด้านซ้าย เป็นสีดำสนิทยากจะหยั่งถึง ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับสั่นสะท้าน ด้วยความรู้สึกบางอย่าง ราวกับมีอะไรบางอย่างเดือดพล่านอยู่ในร่าง

” ท่านแม่..มันคือประตูอะไรกันข้ารู้สึกบางอย่าง เป็นความรู้สึกที่ไม่น่าอภิรมณ์อย่างยิ่ง ”

ราฟาเอลได้ยินเช่นก็ยกยิ้มและเดินมาอยู่หน้าประตูพร้อมกับไป๋หลงก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

” ประตูบานนี้ มีชื่อของมันว่าเป็น ประตูแห่งแสงสว่างและความมืด เป็นประตูที่ใช้ฝึกฝนและทดสอบเจ้าโดญเฉพาะ อีกอย่างข้าจะเข้าไปกับเจ้าด้วย..ไม่ต้องถามเมื่อเข้าไปเจ้าจะรู้เอง ”

ไป๋หลงไม่มีทางเลือก ประตูถูกเปิดออกอยู่ดีๆไป๋หลงรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นเป็นความรู้ที่น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ไป๋หลงและราฟาเอล ก็เดินหายเข้าในประตู ทันใดนั้นประตู ก็ถูกปิดลงทันทีเหมือนกับบานแรก

ตึง!

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท