หลังจากที่เสียงระเบิดที่เกิดจากพลังมหาศาลของไป๋หลง สงบลง เจ้าสำนักลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีพร้อมกับผู้อาวุโสในสำนักอีกนับ10 ไม่เพียงแต่เท่านั้น ถังเทียนที่เป็นถึงองค์ชาย กับสะท้านด้วยความตกตะลึงเป็นครั้งแรก ถังอวี้ที่ตอนนี้มองดูแท่นศิลาที่ใช้วัดระดับพลัง บุคลิกที่สงบและเยือกเย็นหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงไว้แต่ความตกตะลึงจนไม่อาจหาคำพูดได้
” นักรบที่แท้จริงขั้นที่4ไม่น่าเชื่อ!!… ” ถังอวี้กล่าวออกมาด้วยความตะลึงใช้สายตาจ้องมองไปยังศิลาวัดพลัง ก็เห็นระดับพลังที่ไป๋หลงแสดงออกมาทำให้นางมั่นใจได้ว่า ไป๋หลงอยู่เหนือกว่าพี่ชายของตนมาก
ผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้กับไป๋หลง เห็นระดับพลังที่ไป๋หลงแสดงออกมาตัวมันนั้นแทบกระอักเลือด กล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง
ปะ ไป๋หลง ขั้นระดับพลัง นักรบที่แท้จริงขั้นที่4 !!
ผู้อาวุโสที่เป็นคอยดูแลการสอบวัดระดับพลังกล่าวมาดด้วยน้ำเสียงดังกังวาลทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี้ได้ยินทั้งหมด ผู้อาวุโสสังเกตุมองตรงที่ไป๋หลงปล่อยหมัดออกไป ศิลาแตกร้าว กลายเป็นรูปกำปั้นที่ไป๋หลง ปล่อยหมัดลง ไป ผู้อาวุโสคนนั้นแทบล้มทั้งยืน ก่อนที่จะศิลาจะเริ่มซ่อมแซมตังเองทันที รอยแตกร้าวได้หายไป แต่ไป๋หลงหาได้สนใจไม่
” เด็กหนุ่มผู้นั้นเป็นบุตรของผู้ใดอยู่ในตระกูลไหนเจ้าพอรู้บ้างไหม? ผู้อาวุโสสาม ” เจ้าสำนักหมื่นกระบี่ถามออกมาด้วยความอยากรู้ หลังจาก เกิดเหตุการณ์ที่ มีคนใช้วิชา กระบี่ตัดสวรรค์ เมื่อไม่กี่วันก่อน ยังไม่สามารถ หาตัวคนที่ใช้วิชากระบี่ตัดสวรรค์ได้ นับวันเมืองจรัสแสงยิ่งมีคนมีฝีมือเข้ามาเรื่อยๆ เจ้าสำนักได้แต่คิดในใจ ยิ่งมีรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถเช่นนี้ ทำให้เจ้าสำนักอยากรู้ไปอีก
” เรียนท่านเจ้าสำสัก ข้าก็ไม่รู้เช่นกันใส่ฮู้ดปิดบังใบหน้าตัวข้านั้นก็จนปัณญา อีกอย่างน่าแปลกข้าไม่สามารถใช้ดวงตาหยั่งรู้มองเห็นได้ เหมือนมีพลังงานบางอย่าง ขวางกั้นอยู่ ” ผู้อาวุโสสาม ที่มีรูปร่างสมส่วนผมยาวสีขาวแสดงถึงความชราแต่ใบหน้านั้นยังอยู่ในวัยกลางคน ดูเป็นคนที่มีความรู้
” สงสัยข้าต้องไปหาด้วยตนเองซะแล้วหลังจบการทดสอบ ไป๋หลง!! ” เจ้าสำนักหมื่นกระบี่กล่าวออกมาด้วยความตื่นต้น
ตอนนี้ไป๋หลงโดนลงมาจากแท่นศิลาที่วัดพลัง ก็มีคนหลีกทางให้เพราะความสามารถที่ไป๋หลงแสดงเมื่อกี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ทำได้ ก่อนจะมีดังขึ้นด้วยความไม่พอใจ นั้นก็คือ หมางเทียนนั้นเอง องค์ชายถังเทียนอยู่เหนือกว่าตัวมันพอรับได้ แต่กับคนอย่างไป๋หลงที่มันดูจากการแต่งตัว มันก็ไม่พอใจทัน
” เจ้าโกงแน่ๆ!! ไม่มีทางที่คนอย่างเจ้าจะมีพลังเหนือกว่าข้าไปได้หรอก ” หมางเทียนกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจและพยามใส่ความไป๋หลงเมื่อหมางเทียนกล่าวออกมาคนอื่นก็คล้อยตามทันที
” ใช่ๆ เจ้าอาจะโกงก็ได้ “เสียงคนผู้นึงในผู้สมัครสอบกล่าวขึ้น
” ไม่มีทางมีผู้อาวุโสของสำนักคอยควบคุมดูแลอยู่ไม่มีทางที่เขาจะโกงได้หรอก ” เสียงของผู้เข้าสอบเริ่มเอะ อะ โวยวายผู้อาวุโสจึงตวาดด้วยน้ำเสียงทรงพลังทันที
เงียบบบ!!
” พวกเจ้าไม่ต้องเถียงกัน ยังไงๆเขาจะได้แสดงฝีมือในวันนี้แน่ แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเขามีฝีมือหรือไร้ฝีมือ ไม่มีใครโกงการสอบนี้ได้เพราะข้าเป็นคนคุมสนามสอบแห่งนี้ ” ผู้อาวุโสกล่าวอธิบายพร้อมหันมาหาไป๋หลง ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ก้มให้เป็นเชิงว่า ขอบคุณ
“เอาล่ะ คนต่อไป อู้เฉียงขึ้นมา ” ผู้อาวุโสกล่าวเรียกอู้เฉียง เมื่ออู้เฉียงได้ยินผู้อาวุโสเรียกตัวเองนั้นก็ก้าวเดินขึ้นไปแต่หน้าแปลกที่ไม่มีเสียงดูถูกหรือเหยียดหยามเลยแม้แต่น้อย ถ้าอธิบายง่ายๆคือ อู้เฉียงมากับไป๋หลงแถมยังใส่หู้ดปิดบังใบหน้าเหมือนกับไป๋หลงจึง ไม่อยากกล่าวคำดูถูกออกมาเพราะ อาจจะเป็นเหมือนคราวของไป๋หลง
ไป๋หลงได้เดินหลีกไปในที่ๆมีคนไม่มากเพื่อเอาน้ำออกมาจากแหวนมิติเพราะรู้สึกหิวน้ำ
” เอาล่ะ เชิญเจ้าเริ่มการทดสอบได้ ” ผู้อาวุโสกล่าวจบก็ คอยสังเกตุอู้เฉียงทันที อู้เฉียงไม่รอช้า รวบรวมพลังทั้งหมดมาไว้ที่มือขวา มือขวาของอู้เฉียงที่โดนลอยมีดแทง จึงรู้สึกเจ็บ ขึ้นมาแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นเลือดไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผล ผู้อาวุโสที่ยืนคุมสอบอยู่เห็นเลือดไหลออกมาจึงพยามห้ามอู้เฉียงไม่ให้ใช้พลังมากเกินไป
” นี้เจ้าข้าว่า… ” ผู้อาวุโสกล่าวไม่ทันจบอู้เฉียงก็พูดกลับมาทันที
“ข้าไม่เป็นไร ”
อู้เฉียงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผู้อาวุโสเห็นดังนั้นจึงไม่ได้ห้ามและชื่นชมในความอดทนของอู้เฉียง อู้เฉียงไม่รอช้าหลังจากรวบพลังจนถึงจุดสูงสุด ก็ปล่อยหมัดใส่ แท่นศิลา วัดพลังทันที ก่อนที่ผู้อาวุโสจะรู้สึกถึงระดับพลังที่แข็งแกร่งถึงแม้จะน้อยกว่าไป๋หลงไปเพียงนิดเดียวก็ตามที
” นี้เจ้า… ” ผู้อาวุโสกล่าวไม่ทันจบ อู้เฉียงปล่อยหมัดออกไปจนศิลาถึงกับสั่นสะเทือนพร้อมกับแรงระเบิดที่ดังสนั่นขึ้น
ตู้มมมมมม!!
เมื่อเสียงระเบิดพลังเงียบลง ไป๋หลงหันไปมองขณะกินน้ำอยู่ถึงกับพ้นน้ำออกมาทันที
พรู้ดด!!
” เจ้าอู้เฉียงระดับพลังทำไมถึง.. ” ไป๋หลงกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง
เมื่อกลุ่มฝุ่นควันหายไป ทุกคนก็เห็นระดับของอู้เฉียงทันที ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ถึงกับสถบออกมา วันนี้เป็นวันที่รวมพวกสัตว์ประหลาดเอาไว้รึ จะทำให้คนแก่อย่างข้าหัวใจวายตายหรือยังไง ผู้อาวุโสสถบขึ้นมาในใจก่อนจะประกาศระดับพลังของอู้เฉียง
อู้เฉียง ระดับพลัง นักรบที่แท้จริงขั้นที่3!!
ผู้อาวุโสกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังแฝงไปด้วยพลัง เจ้าสำนัก เห็นเช่นนั้นก็ถามผู้อาวุโส สามอีกรอบทันที
” ผู้อาวุโสสาม วันนี้เป็นวันรวมพวกสัตว์ประหลาดเอาไว้เหรอ ฮ่าๆๆ เห็นทีคราวนี้สำนักเราคงจะเชิดหน้าชูตาได้สักที ผู้อาวุโสสาม ท่านรู้หรือไม่ว่า ผู้เยาว์คนนั้นเป็นใคร ” เจ้าสำนักกล่าวออกมาอย่างอารมณ์ดั
” เอ่อ..เรียนเจ้าสำนักเป็นแบบเดียวกับเด็กที่ชื่อไป๋หลงไม่มีผิดข้าไม่สามารถตรวจดูอะไรได้เลยเหมื่อนมีพลังบางอย่างขวางกั้นอยู่ข้ารู้สึก ละอายใจยิ่งนัก ” ผู้อาวุโสสาม กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสลด
“ไม่เป็นไรๆ ฮ่าๆ ยังไงๆ ข้าก็จะไปพบพวกเขาด้วยตัวเอง ” เจ้าสำนักพูดออกมาด้วยความชอบใจ
ตอนนี้ถังเทียนที่เป็นถึงองค์ชายรู้สึกละอายใจยิ่งนักที่ ตนนั้นคิดว่าคงไม่มีใครมีพลังเยอะไปกว่าตน แต่อย่างว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า
” ถังอวี้เดี๋ยวข้าจะไปคุยกับพวกเขาทั้งสองคนนั้นสักหน่อย ” ถังเทียนบอกกล่าวแก่ผู้เป็นน้องนั้นก็คือ ถังอวี้
” เอาตามที่ท่านพี่ว่าก็ได้เดี๋ยวข้าไปทดสอบแล้วเดี๋ยวข้าตามท่านไป ” ถังอวี้บอกกล่าวแก่ถังเทียนผู้เป็นน้องสาวของตน ถังเทียนพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาพวกไป๋หลงพร้อมกับองค์รักษ์ เกือบ10 คนที่ตามมาด้วย
ไป๋หลงเดินมาหาอู้เฉียงทันทีที่อู้เฉียงเดินลงมาด้วยน้ำเสียงเคืองเล็กน้อย
” ทำไมพลังของเจ้าถึงใกล้เคียงกับข้าล่ะในเมื่อครั้งก่อนพลังของเจ้ายัง.. ” ไป๋หลงถามออกมาด้วยความสงสัย
” เอ่อ..จะว่าไงดีเดี๋ยวพอเสร็จจากการเข้าสำนักข้าจะบอกเจ้าเองได้หรือไม่ ? ” อู้เฉียงกล่าวตอบแก่ไป๋หลงด้วยน้ำเสียงจริง
” เอาตามที่เจ้าว่าก็ได้ ห้ามปิดบังข้าเด็ดขาด เพราะเราเป็นเพื่อนกันเข้าใจไหม ” ไป๋หลงกล่าวกำชับแก่อู้เฉียง เมื่ออู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา
” ฮ่าๆ ได้ๆขอรับท่านไป๋หลงผู้ยิ่งใหญ่ ” อู้เฉียงกล่าวหยอกล้อไป๋หลง ไป๋หลงเห็นแบบนั้น ก็ได้แต่ส่ายหัวให้กับความกวน ของอู้เฉียง
หลังจากอู้เฉียงทดสอบเสร็จ ผู้อาวุโสของกล่าวเรียกคนต่อไปทันที
” องค์หญิง ถังอวี้เชิญขึ้นมารับการทดสอบด้วยขอรับ ” ผู้อาวุโสกล่าวออกมาด้วยความนอบน้อมและเคารพ ถังอวี้ขึ้นไปและก้มหัวให้เล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ
บรรดาเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายต่างชื่นชมความงามของถังอวี้กันไม่ขาดสาย
” องค์หญิง ถังอวี้ท่านชั่งงดงามยิ่งนัก ” เสียงของคนที่เข้ามาทดสอบเอ่ยขึ้น
” งามแท้ๆ ช่างงดงามยิ่งนัก”
” ใช่ๆแค่ได้มองข้าก็สุขใจแล้ว ”
เสียงบรรดาเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายต่างยกยอถังอวี้ ยกเว้นก็แต่ไป๋หลงและอู้เฉียงที่คุยกันไปเรื่อยจนไม่ได้สนใจ สิ่งรอบข้าง
” เชิญองค์หญิงทดสอบ ” ผู้อาวุโสกล่าวจบ ถังอวี้รวบรวมพลังไว้ที่มือขวาทันทีก่อนจะปล่อยหมัดใส่ ศิลายักษ์ที่ใช้วัดพลังทันทีจนเกิดเสียงระเบิดขึ้น
ตู้มมม!!
ผู้อาวุโสเห็นดังนั้นก็ยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะประกาศระดับพลังออกมา
องค์หญิง ถังอวี้ ระดับพลัง นักรบที่แท้จริงขั้นที่2!!
ผู้อาวุโสประกาศผลออกมาเสียงดังฟังชัด แต่ความตกตะลึงก็มีไม่มากเท่ากับไป๋หลงหรืออู้เฉียง แต่ก็ยังดีที่สามารถทำให้ศิลาเกิดเสียงระเบิดออกมาได้
ตอนนี้ไป๋หลงคุยกับอู้เฉียงเรื่องการทดสอบรอบต่อไป ได้ยินเขาพูดกันว่าเป็นการทดสอบเรียกสัตว์อสูรออกมาเพื่อทำพันธะสัณญา ทำให้ไป๋หลงสนใจมิใช่น้อย ขณะที่ไป๋หลงกำลังคุยอยู่ก็มีเสียงเรียกดังขึ้น
” นี้เจ้าชื่อ ไป๋หลงใช่ไหม ? ” เสียงที่เรียกออกมานั้นไม่ได้มีความเสแสร้งแม้แต่น้อย ก่อนที่ไป๋หลงจะหันหลังกลับไปหาที่มาของเสียง ก็เจอกับเด็กหนุ่มที่รุ่นเดียวกันผมสีเงินกับดวงตาสีฟ้าครามราวกับเทพเซียนลงมาจุติ ไป๋หลงรู้ได้ทันทีว่านี้คือ องค์ชายถังเทียน ไป๋หลงและอู้เฉียงจึงทำความเคารพทันที เพราะไป๋หลงเห็นว่าองค์ชายองค์นี้ นั้นมีค่าพอให้เคารพดูจากการการพูดคุย
“ใช่แล้ว ข้าชื่อไป๋หลงส่วนนั้นสหายข้าอู้เฉียงไม่ทราบว่สองค์ชายมีอันใดถึงตามหาข้า ” ไป๋หลงกล่าวและก้มหัวให้องค์ชายเล็กน้อยเพื่อนเป็นการเคารพ เมื่อ ถังเทียนเห็นว่าไป๋หลงดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนมีนิสัยหยิ่งยโส จึงได้กล่าวชักชวนไป๋หลงทันที
” ไป๋หลงเจ้ากับสหายเจ้าอู้เฉียงยินดีเข้าร่วมกับราชงศ์ถัง ของท่านพ่อข้าหรือไม่ ข้าเคารพการตัดสินใจของเจ้า ” ถังเทียนกล่าวขึ้นโดยใช้น้ำเสียงเชิญชวน ไป๋หลงและอู้เฉียง
ตอนนั้นเองพวกคนที่มาสอบไม่ได้สนใจการสอบตรงหน้าแล้วเพียงแค่ได้ยินว่า องค์ชายถังเทียนเชิญชวนไป๋หลงและอู้เฉียงเข้าร่วมกับราชวงศ์ถัง ขององค์ จักรพรรดิถังหน่านเหิง ที่แข็งที่สุดในทวีปจรัสแสง เป็นสิ่งที่ใครๆก็ต่างใฝ่ฝัน จนเกิดเสียงฮือฉาขึ้นทั่วบริเวณสนามสอบ
” นะ นี้ข้าไม่ได้หูฝาดใช่ไหม องค์ชายถังเทียน ออกปากเชิญด้วยตัวเอง โดยปกติแล้วจะให้คนในวังมากล่าวเชิญเท่านั้นแต่นี้ องค์ชายถังเทียนถึงกับออกปากเชิญด้วยตัวเอง ” ชายคนที่อยู่ใกล้กับองค์ชายถังเทียนกล่าวออกมาทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้น
” อะไรนะ!! องค์ชายถังเทียนออกปากเชิญพวกมันสองคนในขณะที่ข้า หมางเทียนผู้นี้ไม่ได้รับการเชิญ บัดซบ!! ” หมางเทียนที่ได้ยินดังนั้นก็กล่างออกมาด้วยความไม่พอใจ
ตอนนี้ไป๋หลงไม่ได้สนใจกับพวกที่พูดคุยเรื่องของตนแม้แต่น้อยแต่กำลังคิดว่าจะเข้าร่วมดีหรือไม่ เพราะตอนนี้ ตัวมันเองอยากจะอยู่ที่สำนักนี้และจบการศึกษาถึงปี3 ซะก่อน นั้นคือความคิดแรกของไป๋หลง ไป๋หลงจึงตัดสินใจบอกกับองค์ชายกับไปด้วยความเคารพ
” เรียนองค์ชาย ตัวข้านั้น อยากจะสำเร็จการศึกษาทั้ง3ชั้นปีของสำนักหมื่นกระบี่ซะก่อน ระหว่างที่ข้าอยู่ที่สำนัก นี้ข้าอยากจะขอเวลาตัดสินใจ แต่ถ้าท่านรอไม่ได้ ข้าก็ไม่ว่าอะไร ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความเคารพ แต่เมื่อองค์รักษ์ที่ติดตามถังเทียนมาได้ยินก็กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ
” สามหาว!! อวดดียิ่งนัก ปฏิเสธการเชิญชวนจากองค์.. ” องค์รักษ์คนนั้นพูดไม่จบก็ ถังเทียนก็ยกมือห้ามไว้
” อย่าเสียมารยาทต่อคนที่ข้าพูดด้วย!! นี้เป็นการตัดสินใจของเขา ” ถังเทียนกล่าวต่อว่า องค์รักษ์คนนั้นทันทีก่อนจะกล่าวขอโทษไป๋หลง
” ข้าขอโทษ แทนคนของข้าด้วย ” ถังเทียนกล่าวบอกแก่ไป๋หลง
” ไม่เป็นไรหรอกองค์ชาย ” ไป๋หลงกล่าวขึ้น
เมื่อถังเทียนได้ยินคำตอบของไป๋หลงก็ยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวบางอย่างออกมา
” ข้ารอได้ ข้าเคารพการจัดสินใจของเจ้า งั้นข้าไปที่น้องของข้าก่อนล่ะ ” ถังเทียนกล่าวจบก็จากไปในทันทีพร้อมองค์รักษ์ คนที่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นก็ ตกตะลึงและแปลกใจที่ไป๋หลงยังไม่เข้าร่วมกับราชวงศ์ถัง
” ทำไมเจ้าไม่เข้าร่วมล่ะข้าว่าองค์ชายคนนั้นก็ดูเป็นคนดีใช้ได้ ” อู้เฉียงกล่าวออกมาอย่างงุนงง เหตุใด ไป๋หลงจึงปฏิเสธ
” ยังไม่ถึงเวลา ” ไป๋หลงกล่าวออกมาเรียบๆ
หลังจากผ่านไปสักพักการสอบวันพลังก็จบลง ก่อนที่ ผู้อาวุโสคุมสอบจะกล่าวขึ้น
” ข้าขอแสดงความยินดีด้วยกับคนที่ผ่านมาในรอบแรก รอบต่อไปนี้ จะเป็นการทำพันธสัณญาอสูร ซึ่งแน่นอน สัตว์อสูรที่พวกเจ้าเรียกออกมานั้นมีผลต่อคะแนน สัตว์อสูรยิ่งอยู่ในระดับที่สูง คะแนนจะยิ่งสูงตาม ซึ่งแน่นอนรอบเมื่อกี้ก็มีการเก็บคะแนนเช่นกัน ใครมีคะแนนสูงจะได้ทดสอบเป็นคนแรก ”
ผู้อาวุโสกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ก่อนจะประกาศรายชื่อผู้ทดสอบคนแรก
” ผู้ทดสอบ คน แรก ไป๋หลงขึ้นมาบนแท่นทำพันธะสัณญาอสูร ด้วย ” ผู้อาวุโสกล่าวจบไป๋หลงก็ขึ้นมาบนแท่นทำพันธะสัณญาอสูรทันที ไป๋หลงแปลกใจเล็กน้อยที่ศิลาทดสอบพลังตรงนี้หายไปได้อย่างไร ผู้อาวุโสเห็นไป๋หลงทำท่าทางสงสัยจึงยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวอธิบาย
” เจ้าคงจะสงสัยสินะ ว่าแท่นศิลาที่ใช้วัดระดับพลังหายไปได้ยังไง ” ผู้อาวุโสกล่าวถามแก่ไป๋หลง ไป๋หลงเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ก้มหัวและทำความเคารพทันที
” ขอรับท่านผู้อาวุโส ” ไป๋หลงตอบกลับมาแววตาเป็นประกายด้วยความใคร่รู้
” มันอยู่ใต้พื้นดินของสำนักเรานี้แหละ คนในสำนักรู้กันทุกคนนั้นแหละ ถ้าหายสงสัยแล้วก็นำมีดกรีดบนมือแล้วหยดเลือดของเจ้าลงบนตราอักขระ พันธะสัณญาอสูรอสูรได้แล้ว เมื่อเลือดเจ้า โดนตราอักขระ สัตว์อสูรที่เหมาะสมกับเจ้าจะออกมา ซึ่งแน่นอนว่า วิธีแบบนี้นั้นสามารถใช้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะมันคือข้อห้าม แต่ถ้าเจ้าทำพันธะสัณญาอสูร ที่อื่นมันก็อีกเรื่อง คนเรานั้นมีสัตว์อสูรในพันธะสัณญากี่ตัวก็ได้แต่ต้องขึ้นกับระดับพลังของตน สัตว์อสูรยิ่งมาก พลังที่ใช้ในการเรียกออกมาจะต้องมากเช่นกัน เอาล่ะ เริ่มได้แล้ว ” หลังจากผู้อาวุโสบอกกล่าวแก่ไป๋หลงเสร็จ ไป๋หลงก็เริ่มทำตามที่ผู้อาวุโสบอกกล่าวทันที
” ขอรับ ” ไป๋หลงกล่าวจบก็นำมีดมากรีด มือตัวเองทันที เลือดของไป๋หลงไหลลงไปโดนอักขระ ทำให้อักขระทำงานในทันที แสงสว่างจ้าทำให้ทุกคนต้องเอามือมาปิดตารวมทั้งไปหล๋ง ก่อนจะมีเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า
ครื่นๆๆ !!
เปรี้ยงๆ!!
หลังจากแสงสว่างหายไปพร้อมกับสภาพอากาศที่แปรปรวนกลับมาเป็นปกติ ก็ปรากฏ สิ่งมีชีวิตรูปร่าง มีขนสีขาว มีหนวด นั้นก็คือ แมว นั้นเอง
ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้โวยวายออกมาคิดว่ามันคงเป็นชะตาฟ้าลิขิต ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะขึ้น ด้วยความเหยียดหยาม
” ฮ่าๆ ข้าก็นึกว่าเป็นสัตว์อสูรอะไร ที่แท้ก็แค่ชั้นต่ำ ฮ่าๆ ” เสียงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน และดูแคลนเป็นเสียงของหมางเทียนนั้นเองที่ไม่พอใจไป๋หลงในตอนแรกแล้วได้โอกาศจึงทับถมไป๋หลงด้วยคำพูดทันที
” ใช่ๆ เจ้ามันก็มีดีแค่ขั้นพลัง เพียงแค่ขั้นพลังของเจ้ามากกว่าพวกข้าไม่กี่ เท่าอย่ามาอวดดีไปหน่อยเลย ”
” ถึงเจ้าแข็งแกร่งจริง แต่สัตว์อสูรเป็นเพียงขยะ มันจะทำให้เจ้าลำบากเอาน่ะ ฮ่าๆ ”
เสียงกลุ่มคนที่ไม่พอใจไป๋หลงตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ได้จังหวะทับถมไป๋หลงพวกมันจึงทับถมไป๋หลงด้วยคำพูด ผู้อาวุโสที่เห็นได้แต่เห็นใจไป๋หลง
ไป๋หลง หาได้สนใจ อุ้มสัตว์อสูรในพันธะสัณญาของตน ไว้ในอ้อมกอด แต่เหมือนกับว่า สัตว์อสูรในพันธะสัณญาของไป๋หลง จะรู้สึกได้ว่าผู้เป็นนายโดนดูถูกรวมถึงตัวมันเอง มันจึง คำรามออกมา ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง กับสัตว์อสูรในพันธะสัณญาของไป๋หลง
โฮกกกกกกกกก!!
จบ