เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่42 ภัยร้ายที่กำลังก่อตัว

ตอนที่42 ภัยร้ายที่กำลังก่อตัว

” ท่านแม่ท่านบอกว่า ท่านกับท่านพ่อตกหลุมรักตอนต่อสู้กันอย่างงั้นเหรอ ” ไป๋หลงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

” ใช่แล้วละ เป็นความหลังที่น่าคิดถึงจนเกิดเหตุดังกล่าวที่ข้าได้ถ่ายทอดความคิดให้เจ้าเห็นนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้น….เพราะฉะนั้นเจ้าต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องสวรรค์จากสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตห้ามเล่าเรื่องที่แม่บอกไปให้ใครฟังเด็ดขาดแม้แต่ ไป๋หยางก็ตาม ” ราฟาเอลกล่าวด้วยน้ำเสียงจิงจังและเคร่งขรึม

” ข้าเข้าใจแล้ว..แล้วการฝึกต่อจากนี้เป็นแบบไหนต่อละท่านแม่ ” ไป๋หลงกล่าวถามราฟาเอลด้วยความใคร่รู้ ก่อนที่ราฟาเอลจะยกยิ้มขึ้น

” การฝึกต่อไปของเจ้าก็คือ…ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ”

เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตาโตเท่าไข่ห่านในทันที เพราะศาสตร์ตราวิณญาณ นั้นไป๋หลงอยากจะเรียกออกมาใจแทบขาดแต่ไม่สามารถเรียกออกมาได้

” ท่านแม่คือ..ข้าไม่สามารถเรียก ศาสตร์ตราวิณญาณ ได้ข้าเคยพยามแล้วแต่เหมือนมีพลังบางอย่างขวางกั้นไว้ ”

ไป๋หลงกล่าวออกมาตามจริงน้ำเสียงแฝงไปด้วยความผิดหวังทันใดนั้น ราฟาเอลก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น

” ลองดูอีกรอบ ” เพียงคำพูดสั้นๆเท่านั้นทำให้ไป๋หลงมีแรงใจขึ้นมาอีกครั้ง

” ขอรับท่านแม่ ”

ไป๋หลงกล่าวจบก็ยื่นมือออกมาพร้อมกับหลับตาลง ในสมาธิของไป๋หลงนั้นในตอนนี้ ทางด้านขวามีดาบสีขาวบริสุทธิ์ ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก เป็นศาสตร์ตราวิณญาณ ระดับเทวะ อย่างไม่ต้องสงสัย ทางด้านซ้ายนั้นเป็นดาบสีดำทมิฬ มีสายฟ้าสีแดงเลือดแล่นผ่านเป็นบางช่วงดูแล้วน่าเกรงขามและน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก ไป๋หลงเอื้อมมือไปจับดาบเล่มสีขาวทันใดนั้น ก็เกิดแสงสว่างขึ้น จนไป๋หลงต้องเอามือมาปิดตาเอาไว้ หลังจากแสงสว่างหายไป ไป๋หลงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง และต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

” นี้มัน…ออร่าและพลังที่แผ่ออกมาแข็งแกร่งมากแต่ทำไมมันถึงดูมีพลังน้อยกว่าที่ข้าเห็นในสมาธิกันละ ”

หลังจากไป๋หลงลืมตาขึ้นก็มีดาบเล่มสีขาวบริสุทธิ์ด้ามจับทำจากวัตถุที่ไม่มีในโลกนี้แน่นอนเพราะส่องแสงสีทองตลอดเวลา ตัวดาบนั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เป็นดาบที่งดงามเป็นอย่างมาก

” มันก็ต้องเป็นแบบอยู่แล้วสิลูกแม่…ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ นั้นจะแข็งแกร่งตามระดับของผู้ใช้แต่ พลังที่ลูกมีอยู่ ซึ่งตอนนี้ลูก มี พลังอยู่ที่ระดับ นักรบที่แท้จริงขั้นที่4 เพียงเท่านั้น ระดับก็จะอยู่ที่ขั้น นักรบ ซึ่งลูกไม่สามารถดึงความแข็งแกร่งทั้งหมดของมันออกมาได้ ระดับยิ่งสูงก็ยิ่งควบคุมยาก จงจำเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี ที่เจ้าเห็นนั้นคือ ระดับพลังที่เจ้าของคนก่อนทิ้งไว้ ซึ่งก็คือ แม่นั้นเอง ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างทันที ด้วยความตกตะลึง เพราะระดับพลังที่แผ่ออกมาจากตัวดาบก่อนหน้านี้ อยู่ระดับเทวะอย่างไม่ต้องสงสัย แต่พอมาอยู่ในมือของตนนั้น เหลืออยู่แค่ขั้นนักรบเท่านั้น

” งั้น…นี้ก็คืออาวุธของท่านแม่อย่าง งั้นเหรอ? แล้วดาบสีดำทมิฬอีกเล่มหรือว่าจะเป็นของ…” ไป๋หลงถามออกมาด้วยความไม่แน่ใจถ้าเป็นอย่างั้นจริง แม่และพ่อของตนก็จะต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาถึงตอนนี้ ตน นั้นไม่เคยถามถึงระดับพลังที่แท้จริงของแม่และพ่อตนเอง

ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความอบอุ่นก่อนจะกล่าวตอบ

” ไม่…ไม่ใช่อีกแล้วต่อไปมันก็คือของลูกทั้งสองเล่ม จงตั้งชื่อให้ดาบทั้งสองเล่มนั้นและแข็งแกร่งขึ้นไปพร้อมกับดาบทั้งสองเล่มนั้นซะ ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็สั่นสะท้านในคำพูดนั้นทันที ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้น ส่วนเรื่องชื่อนั้นไป๋หลงยังไม่คิดที่จะตั้งในตอนนี้ เพราะคิดว่ามันไม่สำคัญเท่าไหร่ในตอนนี้

” ท่านแม่ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังและจะไปช่วยท่านให้ได้..ข้าให้สัตย์สาบานด้วยดาบทั้งสองเล่มนี้”

ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ราฟาเอลรีบเข้ามาพยุงไป๋หลงขึ้นทันที

” ลูกข้า..ข้าจะรอจนถึงวันนั้น แต่ก่อนอื่นแม่ขอ ไปดูเจ้าหนูอู้เฉียงหน่อยก็แล้วกันว่าฝึกไปถึงไหนแล้ว และก็นี้รับไว้ ”

ไป๋หลงเอื้อมมือไปรับ เป็นตำรา วิชาดาบสองเล่ม เล่มแรก ก่อนจะไล่อ่านชื่อตำราหนึ่งดาบสะบั้นนภา เล่มที่สอง ดาบประหารเทพ

” เป็นตำราวิชาดาบ ในเวลา 2ปีกว่าๆ ลูกต้องชำนาญวิชาทั้งสองนี้ให้ได้มันจะมีประโยชน์ ในภายภาคหน้า แม่ขอไปดูเจ้าหนูอู้เฉียงหน่อยก็แล้วกัน ”

ราฟาเอลกล่าวจบก็เตรียมตัวที่จะไปที่อู้เฉียง

” เดี๋ยวก่อนท่านแม่…การฝึกของอู้เฉียงที่ท่านแม่ให้เป็นแบบไหนรึ? ” ไป๋หลงถามด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงอู้เฉียงเล็กน้อย

ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกและหัวเราะออกมาอย่างมีเลศนัยทันที เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ไป๋หลงเสียวสันหลังวาบ

” หึๆ!! ไม่ถึงชีวิตแน่อน แม่บอกได้แค่นี้แหละฝึกวิชาที่แม่ให้ไปได้แล้ว แล้วเดี๋ยวแม่จะมาทดสอบ ถ้าทำได้ไม่ดีระวังเจ็บตัวละ แม่ควบคุมพลังไม่ค่อยดีสะด้วย..แม่ไปละ ”

ราฟาเอลกล่าวจบก็หายไปในทันที ไป๋หลงเห็นดังนั้นก็ล้มตัวลงนอนทันทีก่อนจะบ่นออกมา

” ท่านพ่อ..ท่านหลงรักกับท่านแม่ได้ยังไงกัน ข้าคิดถึงท่านช่วยข้าด้วย…อู้เฉียงขอให้เจ้าปลอดภัยครบสามสิบสองนะ ข้าทำได้เพียงเท่านี้… ”

ทางด้านอู้เฉียง…..

” บัดซบ!! ทำไมบททดสอบนี้ถึงยากนักนะ หุ่นเชิดพวกนี้ทำลายไปเท่าไหร่ก็ยังไม่หมดสักที…ข้าไม่ยอมหรอก ” อู้เฉียงสถบออกมาด้วยความไม่พอใจ หลังจากไป๋หลงทำลายแท่งหินนิรันดร์ จนหมดแล้ว ก็มีหุ่นเชิด รูปร่างมนุษย์โผล่มาไม่หยุดหย่อน อู้เฉียงในตอนนี้สามารถควบคุมสายฟ้าสีดำ ให้ไปยังตำแหน่งต่างๆของร่างกายได้แล้ว ซึ่งง่ายต่อการใช้ในการต่อสู้

เฟิงห๋วงนั่งมองอยู่ใต้ต้นไม้แล้วได้แต่ส่ายหัวให้กับอู้เฉียง

” เฮ้อ…ถ้าสังเกตุสักนิดก็จะสามารถสังเกตุเห็นแหล่งกำเนิดพลังงานก็พวกหุ่นเชิดนี้ได้แล้วแท้ๆ ถ้าไม่ทำลายแหล่งพลังงานของมัน มันก็จะออกมาเรื่อยๆ รู้ตัวสักทีสิเจ้าโง่อู้เฉียง…ถ้าเป็นแบบนี้เจ้าแพ้แน่” เฟิงห๋วงกล่าวออกมาอย่างท้อใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงนึงดังขึ้นทำให้เฟิงห๋วงต้องหันหลังไปมองด้านหลังทันที

” นั้นสิ..เป็นอย่างที่เจ้าพูดนั้นแหละเจ้านกน้อย ข้าไม่คิดเลยนะว่า ฟินิกส์ สวรรค์อย่างเจ้าจะช่วยฝึกสอนให้กับมนุษย์เช่นนี้ เจ้าเปลี่ยนไปมากนะ ฮ่าๆๆ ”

เสียงพูดนี้ก็คือเสียงของราฟาเอลนั้นเอง เฟิงห๋วงเห็นดังนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นทำความเคารพทันที

” เฟิงห๋วง ขอคาราวะท่านเทพราฟาเอล!! ”

เฟิงห๋วงกล่าวออกมาด้วยความเคารพและยำเกรงเป็นอย่างมาก ราฟาเอลเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าให้

” ลุกขึ้นเถิด..ไม่ต้องมากพิธี แต่เจ้าก็เปลี่ยนไปมากนะ เฟิงห๋วงเจ้ารู้ตัวบ้างหรือไม่ ถ้าเป็นปกติ เจ้าไม่มีทางสอน หรือ แนะนำอะไรแบบนี้ให้มนุษย์แน่ ”

เฟิงห๋วงได้ยินราฟาเอลพูดเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นทันที

” ท่านคิดอย่างงั้นเหรอ…อาจจะใช่ก็ได้ เพราะเขาแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ข้าสัมผัสได้เช่นนั้น ” เฟิงห๋วงกล่าวอธิบาย ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อม

” เอาเถอะ..อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาที่นำมาเจ้ามาพบกับเจ้าหนูนั้นก็ได้ ข้าฝากคัมภีร์ ทั้งสองเล่มนี้ไว้ให้อู้เฉียงก็แล้วกัน…ดูสิ เหมือนเด็กนั่น จะรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ”

ราฟาเอลกล่าวพลางหันไปมองทิศทางที่อู้เฉียงอยู่ เฟิงห๋วงก็อดชื่นชมอู้เฉียงในใจลึกๆไม่ได้

” นี้สินะแหล่งกำเนิดพลังทำให้ข้าเสียเวลาอยู่ตั้งนานเอาละ จบเพียงเท่านี้ ” อู้เฉียงกล่าวจบก็ซัดพลังลงไปที่อัญมณีสีม่วง ที่คอยเชื่อมต่อกับ หุ่นเชิดทันที

ตู้มมม!!

” เฮ้อ…จบสักที ขอพักหน่อยเถอะ ” อู้เฉียงกล่าวจบก็ล้มลงนอนกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้าทันที โดยที่ไม่ได้สังเกตุเห็นราฟาเอล ที่กำลังคุยอยู่กับเฟิงห๋วง

” เอาละ…ข้าไปก่อนละฝากเจ้าฝึกฝนและดูแลอู้เฉียงด้วยก็แล้วกัน ” ราฟาเอลกล่าวบอกแก่เฟิงห๋วง

” รับบัญชา ” เฟิงห๋วงคุกเข่าลงและทำความเคารพอีกรอบ

ขณะที่ราฟาเอลกำลังจะไปนั้นเอง เฟิงห๋วงกล่าวขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ

” คะ..คือ สวรรค์รู้เรื่อง ที่ท่านกำลังทำอยู่หรือไม่ ”

ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็หยุดเดินแล้วหันกลับมามองก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

” นั้นสิ..ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ”

ราฟาเอลกล่าวจบก็หายไปทันที

ณ ทวีปมังกร…

ในปราสาทสีทองแห่งหนึ่ง มีใครบางคนนั่งอยู่บนบัลลังก์สีทอง พลังที่แผ่ออกมาอยู่ในระดับ จักรพรรดิ ที่กำลังจะก้าวเข้าจักรพรรดิที่แท้จริงในไม่ช้าแน่นอน ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงที่ทรงพลังดังขึ้น จากบนที่นั่งบัลลังก์

” จัดทัพ เตรียมความพร้อม!! เราจะบุกทวีป จรัสแสง ในอีก 2 ปีข้างหน้า เรียกกำลังคนทั้งหมดที่ประจำอยู่ตามที่ต่างทั่วยุทธภพ เราจะต้องยึดทวีปจรัสแสงให้ได้ แต่ ก่อนอื่น ต้องทำลาย ป่าอสูรที่เป็นที่อยู่ของอดีตสหายข้า!! ที่เป็นเสี้ยนหนามของเราสะก่อน ต่อจากนั้นก็บุกยึดวังหลวงซะ ”

เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท