เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่32 การปะทะระหว่างมหาวิชาชั้นสูง

ตอนที่32 การปะทะระหว่างมหาวิชาชั้นสูง

เมื่อไป๋หลงเห็นเอลฟ์ตนนั้นชี้มาที่ตน ก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะไม่คิดว่าเอลฟ์นั้นจะเลือกตนจึงถามเพื่อควมแน่ใจ

“ข้าเหรอ? ” ไป๋หลงถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ

” ใช่ข้าเรียกเจ้านั้นแหละมาสู้กับข้าซะ ข้าไม่ชอบใจเลยคนที่ทำตัวลึกลับตรวจวัดระดับพลังก็ไม่ได้ ใบหน้าข้าก็ไม่เห็น นั้นแหละถึงทำให้ข้าหงุดหงิด ” เอลฟ์สาวกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ ไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับกุมขมับไม่คิดว่า เหตุผลไร้สาระแบบนี้จะทำให้เอลฟ์สาวไม่พอใจ

หลังจากเอลฟ์สาวกล่าวเลือกไป๋หลงไป๋หลงคนที่กำลังทยอยกลับก็หยุดชะงักลง พร้อมกับจับตามองไปที่ไป๋หลง ว่าไป๋หลงจะกล่าวตอบออกไปว่าอย่างไร

” ได้ข้าจะสู้กับเจ้า ถ้าข้าชนะจงมาเป็นผู้ติดตามของข้าซะ ” ไป๋หลงกล่าวบอกแก่เอลฟ์สาวตนนั้นในทันที ทางด้านเอลฟ์สาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกใจ เพราะตนนั้ันไม่ได้รู้สึกโกรธกับการที่ไป๋หลงพูดออกมาเช่นนั้น อีกอย่างน้ำเสียงที่ไป๋หลงใช้ไม่ได้มีความเยาะเย้ยอยู่ในน้ำเสียงแม้แต่น้อย

” ได้ข้าตกลง ” เอลฟ์สาวตนนั้นตอบรับทันทีเมื่อไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าให้เล็กน้อย ตอนนี้ซานอี้มองไป๋ด้วยแววตาที่ซบซ้อน เหตุใดถึงต้องรับคำท้าสู้ เมื่อซานอี้คิดเช่นนั้นก็กล่าวถามไป๋หลงทันที

“นี้เจ้าทำไมถึงรับคำท้าประลองของนางล่ะ เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะสัตว์ประหลาดพันธ์นั้นได้เหรอ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ” ซานอี้กล่าวออกมาด้วยความสงสัย เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบออกมาทันที

” ข้าก็ไม่รู้ เดี๋ยวเจ้าก็เห็นเอง ข้าขอตัว ” ไป๋หลงกล่าวบอกแก่ซานอี้ เมื่อซานอี้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเป็นห่วง ไป๋หลงขึ้นมาเล้กน้อยโดยไม่รู้ตัว ทางด้านผู้ติดตามของซานอี้นั้น ได้แต่มองไป๋หลงด้วยความหวาดกลัว เพราะคนที่โดนจิตสังหารมีแค่ตนเท่านั้น คนอื่นมิอาจรับรู้ได้

คนทั่วทั้งโรงประมูลต่างคิดว่าไป๋หลงนั้นอวดดีเกินไป บางคนก็บอกไป๋หลงนั้นมีฝีมือต่างฝ่ายต่างถกเถียงกัน

” เป็นอย่างที่เอลฟ์สาวตนนั้นบอก ข้าไม่สามาถมองเห็นระดับพลังหรือ ใบหน้าของคนผู้นั้นได้ หรือจะเป็นผู้อาวุโสจากตระกูลใหญ่ ” เสียงของคนที่ยืนดูอยู่กล่าวออกมา

” มันจะเป็นไปได้อย่างไรฟังจากน้ำเสียง ข้าว่ายังไงก็ไม่ใช่ผุ้อาวุโสแน่นอน ” เสียงอีกคนกล่าวเถียงขึ้นมา

” พวกเจ้าจะเถียงกันทำไมรอดูว่าคนผู้นั้นฝีมือจะดีเหมือนฝีมากรึเปล่าถ้าไม่ก็แค่ตายตามชายเมื่อครู่ก็แค่นั้น ” เสียงของอีกคนกล่าวเสริมขึ้น

ตอนนี้คนทั้งหมดต่างล้วนจับตามองไปที่ไป๋หลงส่วนคุณชายเหลียงนั้นนั่งยิ้มพึงพอใจเพราะมันนั้นคิดว่าไป๋หลงจะต้องพ่ายแพ้และโดนสังหารอย่างแน่นอน ขณะนั้นเองบุรุษชุดดำที่ตัวเองได้สั่งให้ไปสืบข้อมูลของไป๋หลงกลับมาด้วยสีหน้าแตกตื่น

” คะ คุณชายเหลียงข้าทราบแล้วว่าคนผู้นั้นมาจากไหน ” เสียงของบุรุษชุดดำกล่าวออกมาด้วยความที่ข่าวที่มันได้มานั้น แทบจะทำให้มันล้มทั้งยืน

” ดีๆมาก เอาล่ะว่ามา ถ้ามันไม่ใช่คนของตระกูลใหญ่ต่อ ข้าจะฆ่ามันเองโทษฐานที่มันบังอาจประมูลสินค้าตัดหน้าข้า ” เมื่อบุรุษชุดดำได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวห้ามออกมาแทบจะทันที

” ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้น!! ” บุรุษชุดดำกล่าวห้ามออกมาทันทีด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เมื่อ เหลียงเวิ่น เห็นเช่นนั้น ทำให้เหลียงเวิ่นนั้นรู้สึกแปลกใจทันที เพราะปกตินั้น ข้ารับใช้ของมันจะไม่ขึ้นเสียงแบบนี้ จึงกล่าวถามออกมาทันที

” ทำไม บอกข้ามา!! ” เมื่อบุรุษชุดดำได้ยินเช่นนั้นก็บอกข่าวที่ได้มาทันที ด้วยน้ำเสียงที่ จริงจัง

” เพราะว่า…คนผู้นั้นออกมาจากราชสำนัก ขององค์จักรพรรดิ และข้าน้อยได้สืบต่อมาอีกว่า คนผู้นั้น เป็นแขกพิเศษ ขององค์จักรพรรดิ์!! ” บุรุษชุดดำกล่าวบอกแก่เหลียงเวิ่น

เมื่อเหลียงเวิ่นได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงทันที เพราะ การที่องค์จักรพรรดิมีแขกคนพิเศษนั้น คนผู้นั้นย่อมไม่ธรรมดา

” ถะ ถ้าเจ้าพูดมาเป็นความจริงพวกเราอย่าไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนผู้นั้น เด็ดขาด! ! ” เหลียงเวิ่นกล่าวสั่งบุรุษชุดดำ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

” ขอรับ ” บุรุษชุดดำกล่าวออกมาก่อนจะหายไปในเงามืด

ไป๋หลงตอนนี้เดินมาถึงเวทีการประลองที่ถูกจัดเตรียมไว้ภายในโรงประมูล เมื่อพิธีกรสาวเห็นเช่นนั้นก็กล่าวถามแก่ไป๋หลงทันที

” ต้องการใช้อาวุธที่เราเตรียมให้หรือไม่หรือจะใช้อาวุธของตนเองก็ได้ ” พิธีกรสาวกล่าวถามแก่ไป๋หลง เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบ

” ไม่ต้อง ” ไป๋หลงตอบกลับออกมาแบบเรียบๆ

” เช่นนั้นก็เชิญขึ้นประลองหวังว่า…จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ” พิธีกรสาวกล่าวบอกแก่ไป๋หลงอย่างมีเลศนัย ไป๋หลงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

ตอนนี้ไป๋หลงได้เดินขึ้นไปบนลานประลองรูปกรงนก ที่มีเอลฟ์สาวยืนอยู่กลางลานประลอง ถึงเสื้อผ้าที่ใส่จะฉีกขาด ผ้าสกปรกแต่มิอาจบดบังความงามของนางได้แม้แต่น้อย

” ข้าสงสัยซะแล้วสิ ว่าลานประลองรูปกรงนกเช่นนี้ ไม่ใช่กันให้เจ้าหลบหนีแต่กันไม่ให้คนที่สู้ด้วยหนี้ได้มากกว่าละมั้ง ” ไป๋หลงกล่าวบอกแก่เอลฟ์สาวด้วยน้ำเสียงกวนๆ

” หึ!! อาจจะเป็นอย่างที่เจ้าว่าเรามาเริ่มกันดีกว่า การต่อสู้ที่เจ้ามีชีวิตไว้เดิมพัน ” เมื่อเอลฟ์สาวพูดจบ พิธีกรสาวก็กล่าวเริ่มการประลองในทันที

การประลองเริ่มได้!!

หลังสิ้นเสียงการประลอง เอลฟ์สาวได้หายไปจากตรงหน้าของไป๋หลงทันที ผู้คนทั้ง โรงประมูลต่างตกตะลึงในความเร็วของเอลฟ์สาว ไป๋หลงแผ่จิตสัมผัสออกไปก็รู้ได้ทันที

” ข้างบน สินะ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาอย่างเรียบเฉย ก่อนจะกระโดดหลบ หลังจากไป๋หลง กระโดดหลบ เอลฟ์สาวก็เปลี่ยนทิศการโจมตีไปยังจุดที่ไป๋หลงเคลื่อนที่ไปทันทีจนเกิดเสียงปะทะกันดังลั่น

ตู้มมม!!

หลังจากเสียงของพลังที่ปะทะกัน ทั่วทั้งโรงประมูลต่างอ้าปากค้าง ไป๋ ใช้เพียงมือเดียว ในการหยุดการโจมตีของเอลฟ์สาว เมื่อเอลฟ์สาวอยู่ในท่าทีตกตะลุง ไป๋หลงก็ไม่ปล่อยโอกาศนี้ให้พลาด ก่อนจะใช้เท้าห่อหุ้มไปด้วยอัสนี

บาทาอัสนี!!

ไป๋หลงใช้เท้าเตะไปที่ช่วงลำตัวของเอลฟ์สาวในทันที เมื่อเอลฟ์สาวเห็นดังนั้นก็มิอาจหลบได้ เพียงแค่ ใช้พลังป้องกัน ตรงที่ไป๋หลงเตะในทันที แต่ความต่างของความเร็วทำให้ไป๋หลง โจมตีโดนเอลฟ์สาวก่อนจะรวบรวมพลังป้องกันเสร็จ

ตู้มม!!

“อึก..ร้ายกาจเจ้ากล้าเตะสตรีได้เยี่ยงไร หน้าไม่อาย ” เอลฟ์สาวกล่าวออกมาพร้อมกับกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย ไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็ตอบออกมาด้วยท่าทีเรียบเฉย

” การประลองที่เจ้าจ้องจะเอาชีวิตข้ามีหรือ ข้าจะยอม ” เมื่อเอลฟ์สาวได้ยินเช่นนั้นก็เงียบไม่ได้พูดอะไรเพิ่มอีกเลย

” เอาล่ะมาต่อรอบที่2 กันเถอะ ” ไป๋หลงกล่าวจบก็พุ่งไปหาเอลฟ์สาวในทันที ขณะนั้นเอง เอลฟ์สาวก็ระเบิดพลังออกมา

ตู้ม!!

ไป๋หลงที่พุ่งเข้าไปถึงกับกระเด็นออกมาก่อนจะคิ้วขมวดเมื่อเห็นระดับพลังของเอลฟ์ อยู่ที่ จักรพรรดิ ขั้นที่1 เมื่อเอลฟ์สาวเห็นไป๋หลงถอยไป ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที

” การต่อสู้ที่แท้จริงมันจะเริ่มต่อจากนี้!! ”

หลังจากเอลฟ์สาวกล่าวจบก็พุ่งมาหาไป๋หลงในทันที แต่สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกคือ ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไป๋หลงไม่อาจหาทิศทางที่เอลฟ์สาวนั้นพุ่งมาหาตนได้ทันใดนั้น เอลฟ์สาวโผล่ออกมาข้างหลังไป๋หลง พร้อมใช้เท้าฟาดไปที่ต้นคอของไป๋หลงอย่างจัง

ครื่นๆ!!

เปรี้ยง!!

เสียงฟ้าผ้าลงมาทำให้เอลฟ์สาวนั้นชะงักการโจมตีซึ่งแน่นอน นี้เป็นฝีมือของหลิงหลุน ที่เห็นว่าเจ้านายกำลังมีภัยจึงใช้พลังส่วนหนึ่งในการช่วยไป๋หลง เมื่อไป๋หลงเห็นเอลฟ์สาวอยู่ข้างหลังตนก็ล่นถอยห่างออกมาทันที

” ชิ้ พลาดจนได้แต่เมื่อกี้ใครหน้าไหนเป็นคำทำกัน ” เอลฟ์ สาวกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

” ขอบใจเจ้ามาก หลิงหลุน ” ไป๋หลงกล่าวขอบคุณหลิงหลุน ถ้าเมื่อกี้ไม่ได้หลิงหลุนช่วยไว้คงแย่แน่ๆ

” มันคือหน้าที่ของข้าที่จะต้องปกป้องนายท่าน ” หลิงหลุนออกมาด้วยความเคารพ

ไป๋หลงตอนนี้เสียพลังไปแล้วใน2ส่วน10 จึงมิอาจจะประมาทได้อีกต่อไป ตอนนี้ไป๋หลงกำลังจะลองวิชาที่ได้มา จากขงจือ ถึงท่านี้จะยังไม่สมบูณ์ แต่ก็ต้องลองเสี่ยงเพราะถ้ายิ่งยืดเยื้อ ฝ่ายที่จะเสียเปรียบก็จะเป็นไป๋หลงในที่สุด

” เอาล่ะเตรียมรับมือ ใช้พลังทั้งหมดที่เจ้ามีป้องกันท่านี้จากข้าให้ได้ ” ไป๋หลงบอกกล่าวแก่เอลฟ์สาว

” หึ!! ถ้าเจ้าพูดถึงขนาดนี้ ข้าก็จะใช้พลังทั้งหมดโจมตีใส่เจ้าเช่นกันเรามาตัดสินกัน ใครจะแพ้ใครจะชนะ ”

” ได้ ” ไป๋หลงตอบรับคำในทันที

ตอนนี้ทั้งโรงประมูลสามารถรู้สึกถึงพลังที่แผ่ออกมาได้ว่ามันมหาศาลยิ่งนักราวกับการต่อสู้ของระดับจักรพรรดิ ก่อนจะมี คนที่ยืนดูอยู่ด้วยความวิตกกล่าวขึ้น

” รีบหนีเร็วเข้า พลังระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะรับได้ ”

” เจ้าอย่าได้กังวลไป ในโรงประมูลแห่งนี้มีกระบวนอักระที่แข็งแกร่งคุ้มกันไว้อยู่ ” เสียงของอีกคนกล่าวออกมา ทำให้คนส่วนใหญ่คลายความวิตกลง

ซานอี้ที่กำลังเฝ้ามองไป๋หลงอยู่ก็ตกตะลึงในระดับพลังของไป๋หลงไม่ได้ ขณะนั้นเองไป๋หลงและเอลฟ์สาวก็ใช้มหาวิชาปะทะกันทันที จนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั๋วเมือง

” หมื่นกระบี่สยบเทวา!! ขั้น2 ”

” วารีสะบั้นนภา ขั้นสูงสุด!! ”

ตู้มมมมมมมมม!!

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท