” ที่นี่…ที่ไหนกัน? ข้าจำได้ว่าข้ากำลังคุยกับซานอี้ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความสงสัยพลาง หันมองรอบๆก็ มีแต่เพียง พื้นที่สีขาวเท่านั้น ก็มีเสียงอันคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
” ไง ในที่สุดเราก็ได้เจอกันสักที..นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน ” เสียงอันคุ้นเคยที่ไป๋หลงเคยได้ยินเมื่อนานมาแล้วบัดนี้ดังขึ้นอีกครั้ง ไป๋หลงรีบหันหน้าไปทางทิศของเสียงในทันที ไป๋หลงเบิกตากว้างทันที นึกย้อนไปถึงตอนที่ไป๋หลงเจอคนผู้นี้ครั้งแรก
” เป็นท่าน…. ” ไป๋หลงกล่าวออกด้วยความแปลกใจพร้อมทั้งสังเกตุ เส้นผมสีทอง และดวงตาสีทองคู่สวยที่เข้ากับเส้นผมสีทอง และอยู่ในชุดเกราะสีทองเช่นกัน ผิวขาวนวลราวกับหิมะ ถ้าไม่ชุดเกราะคอยปกปิดไว้ คงจะเห็นส่วนที่ทำให้ใครหลายๆคน หลงเสนห์หัวปักหัวปำ แต่น่าแปลกที่ไป๋หลงนั้นไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้น กลับกัน เป็นความรู้สึกโหยหาบางอย่างที่ขาดหายไป
” ท่านเป็นใคร? แล้วที่นี้คือที่ไหนเกิดอะไรขึ้น ” ไป๋หลงกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
เมื่อ สตรีผู้นั้นได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและทรงพลังในเวลาเดียวกัน
” ตัวเรานั้น ชื่อ ราฟาเอล ที่นี้ก็คือ ห้วงจิตสำนึกภายในจิตใจของเจ้า ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงในทันที พร้อมกล่าวออกมาด้วยความสับสน
” เป็นแบบนี้ไปได้ยังเกิดอะไรขึ้นกับข้า ”
ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นกับอาการท่าทางร้อนรนกับการขี้สงสัยถามทุกอย่างทำให้ราฟาเอลนึกถึงใครบางคน
” ในเมื่อเจ้าอยากรู้ข้าก็จะบอก…ในตัวของเจ้านั้นมีผนึกที่เรียก ผนึก เจ็ดเทวา อยู่ ผนึกนี้จะปลดออก เมื่อเจ้าอายุได้ 7 ปี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้านั้นล้วนเป็นเพราะผนึกได้คลายออกแล้วทำให้พลังมหาศาลที่หลับไหลตื่นขึ้นมา… ”
” แล้วใครเป็นคนผนึกพลังของข้าเอาไว้ ? ” ไป๋หลงกล่าวถาม ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นน้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นทำให้ไป๋หลงผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
” เป็นข้าเอง… ” ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งสับสน พร้อมกับความรู้สึกแปลกประหลาดภายในใจ
” ทำไมถึงเป็นท่าน..ท่านเป็นใครกันแน่ ข้า..ข้ารู้สึกอบอุ่นยิ่งนักเมื่ออยู่ใกล้ท่าน ”
ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ก้าวเดินมาข้างหน้าไป๋หลงอย่างช้าๆ ก่อนจะมาหยุดตรงหน้าของไป๋หลง
” เราก็คือ แม่ของเจ้า!! ยังไงละ..แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวเพราะนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของจิตวิญญาณ ของร่างนี้เท่านั้น ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงในทันทีพร้อมกับคำถามมากมายที่พุ่งเข้ามา แต่คำพูด เพียงกับคำพูดเพียงคำเดียวนั้นทำให้ไป๋หลงเงยหน้าขึ้นแล้วรวบรวมสติ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
” ปะ..เป็นไปได้ยังไง!! ก็ท่านพ่อบอกว่าท่านนั้นตายไปแล้ว ”
ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอธิบายแก่ไป๋หลงทันที
” เปล่าเลย…ถ้าเจ้ารับรู้ด้วยตัวเองคงจะเร็วกว่า ” ราฟาเอลกล่าวจบก็ยื่นนิ้วมืออันเรียวยาวมาจิ้มที่หน้าผากของไป๋หลงทันที
ความทรงจำมากมายไหลเข้ามาในหัวไป๋หลงขบฟันแน่น ซึ่งการที่ได้รับความทรงจำกระทันหันเช่นนี้ทำให้มีอาการปวดหัวอยู่ไม่น้อย…ขณะความทรงจำต่างๆไหลเข้ามาภายในหัว บนหน้าผากของไป๋หลงนั้น มีสัญลักษณ์ของ ตรีศูล ปรากฎขึ้นบนหน้าผาก แล้วก็จางหายไป ต่อไป เป็นรูปของ ปีกสีดำหนึ่งคู่ปรากฏขึ้น ก่อนจะจางหายไปเช่นกัน ไป๋หลงนั้นไม่ได้ทราบถึงการมีอยู่ของสัญลักษณ์ทั้งสอง ในอนาคตนั้นโลกจะต้องสั่นสะเทือนเพราะการมีอยู่ของสัญลักษณ์ทั้งสอง
ไป๋หลงค่อยๆลืมตาขึ้นตอนนี้ความทรงจำทั้งหมดได้ถูกปลกผนึกออกแล้ว น้ำตาหลั่งไหลออกมาจากดวงตาสีแดงคู่งามของไป๋หลง
” ท่านแม่… ” ไป๋หลงโผเข้ากอดราฟาเอลในทันที ความอบอุ่นที่เคยเรือนหายไปบัดนี้ ได้ถูกเติมเต็มแล้ว
ราฟาเอลลูบหัวไป๋หลงด้วยความเอ็นดู
” ตัวเรานั้นหาใช่แม่เจ้าไม่ เราเป็นเพียงเศษเสี้ยววิญญาณของร่างหลักเท่านั้น ” ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยขัดในทันที
” ไม่..ไม่ว่าจะร่างหลักหรือร่างไหนๆ ท่านก็ยังเป็นท่านแม่ของข้าเสมอ ”
เศษเสี้ยววิญญาณของ ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดอันไร้เดียงสานี้
” เอาละ..ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้าอีกอย่างฟังให้ดีไป๋หลง ปกติแล้วนั้นที่แห่งนี้จะไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ยกเว้นเจ้าของร่างแต่…. ” ราฟาเอลกล่าวค้างไว้ก่อนจะปรากฏร่างของอู้เฉียงนอนอยู่ที่พื้นไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาหาทันที
” ไม่ต้องเป็นห่วงไป..เด็กน้อยผู้นั้นก็แค่สลบไปเท่านั้นเพราะใช้พลังเกินตัวในการช่วยเหลือเจ้าไม่ให้ต้องตายเพราะพลังของตัวเจ้าเอง ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองในทันที
” อย่าได้กล่าวโทษตัวเองเลย ทุกอย่างล้วนเป็นชะตากรรม…อีกอย่างเจ้านกน้อยข้าว่าเจ้าจะแอบฟังนานเกินไปแล้ว ออกมาคุยกันไม่ดีกว่าหรือ? ”
ฟีนิกส์ที่อยู่ในร่างของอู้เฉียงได้ยินเช่นก็สั่นสะท้านด้วยความกลัวทันทีก่อนจะออกมาแล้วนั่งคุกเข่า แสดงออกถึงความเคารพอย่างถึงที่สุด
” ตะ..ตัวข้าไม่ได้มีเจตนาที่จะแอบฟังเพียงแต่… ” ฟินิกส์กล่าวอธิบายด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเกรงกลัว ท่าทีอันสง่างามพลันหายไปหมดเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านผู้นี้
” เอาเถอะข้าไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่..ข้าไม่ชอบให้ใครมาแอบฟังก็เท่านั้นถ้าอยากรู้ก็แค่ถาม อย่าทำตัวแบบนี้เข้าใจใช่ไหม ” ราฟาเอลกล่าวตักเตือนฟีนิกส์
ฟีนิกส์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอบรับคำก่อนจะหายกลับเข้าไปในร่างของอู้เฉียงอีกครั้ง เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้ฟีนิกส์เกรงกลัวต่อราฟาเอลเมื่อครั้งยังอยู่ในดินแดนสวรรค์
” เอาละ มาเข้าเรื่องกันเลย ไป๋หลงเจ้าคงรู้ใช่ไหมทำไมพ่อและแม่ถึงผนึกพลังของเจ้า และส่งเจ้ามายังโลกเบื้องล่าง ” ราฟาเอลกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ท่าทีของไป๋หลงก็แปลเปลี่ยนไปในทันที
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นแววตาสีแดงฉานแสดงออกถึงความอำมหิตและจิตสังหารที่แผ่พุ่งออกมาเกรงว่าระดับ จักรพรรดิ!! ยังต้องถึงกับสั่นสะท้าน เมื่อพบเจอกับจิตสังหารที่รุนแรง อำมหิต และป่าเถื่อนเช่นนี้
จบ…..