เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่49 ยอดฝีมือที่โดนปิดผนึก 2

ตอนที่49 ยอดฝีมือที่โดนปิดผนึก 2

ทั่วทั้งร้านต่างตกตะลึงกับพลังที่ไป๋หลงปล่อยออกมาพร้อมกับแรงกดดันมหาศาลทำให้ทั้งร้านเริ่มมีน้ำแข็งเกิดขึ้น หลิงหลุนที่สถิตอยู่ในจิตของไป๋หลงสัมผัสได้ถึงบางอย่างจึงบอกกล่าวแก่ไป๋หลงผ่านจิตสำนึกทันที..

” นายท่าน!! โปรดระงับพลังและอารมณ์ของท่านลงก่อนมีบางอย่างกำลังตรวจสอบท่านอยู่เป็นผู้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก!! ข้าไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าเป็ผู้ใด เหมือนกับมีพลังบางอย่างขวางกั้นอยู่… ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดทันทีก่อนจะลดระดับพลังและแรงกดดันลงน้ำแข็งที่เกาะอยู่รอบๆเริ่มหายไป ราวกับว่าไม่เคยมีมาก่อน

” นายท่าน คนที่สัมผัสพลังของนายท่านได้…ตอนนี้หายไปแล้วราวกับว่าเพื่อตรวจสอบบางอย่าง…. ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับหลิงหลุน…

” ขอบใจเจ้ามาก..ไว้เดี๋ยวเสร็จจากเรื่องตรงนี้เมื่อไหร่ข้าจะมาถามลายละเอียดอีกที ”

” ขอรับนายท่าน!! ” หลิงหลุนกล่าวตอบ

หลังจากนั้นไป่หลงก็มองผู้จัดการร้านคนนั้นอีกครั้งตอนนี้ผู้คนในร้านนั้นต่างพากันหนีออกไปหมดแล้ว เพราะแรงกดดันที่ไป๋หลงปล่อยออกมานั้นราวกับยอดฝีมือที่เก่งกาจหรืออาจจะเป็นแม่ทัพที่ไหนสักแห่งที่มาพักผ่อนแบบเงียบๆก็เป็นได้..

ผู้จัดการร้านนั้นเมื่อไป๋หลงสลายพลังและแรงกดดันทั้งหมดนางที่เป็นผู้จัดการร้านก็ขาอ่อนในทันทีแต่ยังจับโต๊ะแถวนั้นไว้ได้ทำให้ไม่ล้มไปอยู่กับพื้น… ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

” จะ…เจ้าไม่สิ..ท่านเป็นใครกันแน่!! ทำไมคนอย่างท่านถึงมาอยู่ในหมู่บ้านทุระกันดาลแบบนี้ได้ ”

” ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!!..ถอนคำพูดที่เจ้าพูดไว้ก่อนหน้านี้สะ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันแสนเย็นชาราวกับน้ำแข็งก้ไม่ปาน..

ผู้จัดการร้านสาวคนนั้นก็นึกขึ้นมาได้ทันที่ก่อนจะก้มตัวลงขอขมา..

” ข้า เว่ยเว่ย ขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้เป็นอย่างสูงข้าผิดเองที่ไม่มีความรอบคอบมีตาหามีแววไม่.. ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้ก่อนจะกล่าวเข้าเรื่องอีกครั้งนึง..

” เอาละ…ข้าจะถือว่าเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น!!และอีกอย่างข้า..มีเรื่องอยากจะถาม ท่านผู้จัดการเว่ย สักหน่อย…เกี่ยวกับเรื่องเล่าของหมู่บ้านแห่งนี้ ยอดฝีมือที่โดนปิดผนึก!! ”

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็… ”

ผู้จัดการเว่ยเว่ยและไป๋หลงได้นั่งคุยกันอยู่สักพักใหญ่สุดท้ายไป๋หลงก็ได้ข้อยุติและข้อผิดสังเกตุเกี่ยวกับเรื่องเล่นนี้ซึ่งอาจจะเป็นจริงถึง6ส่วนแต่ทำไมต้องโกหกว่าเป็นเรื่องเล่าด้วยยังคงเป็นปริศนาที่ไป๋หลงยังคิดไม่ออก….

” ขอบใจท่านมากท่านผู้จัดการเว่ยเว่ย…ข้าไป๋หลงขอตัวลา.. ”

” ช้าก่อน… ”

ผู้เว่ยเว่ย กล่าวขึ้น ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความนอบน้อม..

” ข้า เว่ยเว่ย ขอโทษท่านด้วยกับเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้ ..”

” ร้านนี้เป็นร้านที่ดี..เจ้าเป็นห่วงพวกคนในร้านของเจ้ามันก็ดี..แต่นิสัยการใช้เหตุผลควรคิดไตร่ตรองให้มากกว่านี้ เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ท่านอย่าได้เก็บมาคิดไว้ใส่ใจข้าไป๋หลงขอตัวลา.. ”

ไป๋หลงกล่าวจบกำลังจะเดินออกจากร้านทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นหน้าประตูร้านน้ำชาแห่งนี้..

ตู้ม!!

” เว่ยเว่ย!! ออกมาขอ ขมาข้าสะมิเช่นนั้นข้าจะทำลายร้านของเจ้าซะ ถึงแม้เจ้าจะมีฝีมือ แต่วันนี้ข้าพา องครักษ์ประจำตระกูลข้ามาด้วย ต่อให้เป็นเจ้าและคนของเจ้าก็ไม่ไหวหรอก..อย่าดิ้นรนแล้วออกมาข้าไม่อยากทำให้ใบหน้าสวยๆ ของเจ้าต้องมีบาดแผล..มันจะทำให้ข้าหมดอารมณ์สะก่อน ฮ่าๆๆๆๆ!! ”

เสียงกล่าวที่เต็มไปด้วยความยโสโอหังและแฝงไปด้วยความหื่นกระหาย..

เว่ยเว่ยได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าบิดเบี้ยวทันที

” บัดซบ!!เจ้าหมูโสโครกนั้น ข้าจะไปสังหารมัน!! ” เว่ยเว่ยกล่าวจบเตรียมจะออกไปพร้อมกับพวกคนในร้านของตน แต่แล้วไป๋หลงก็แสยะยิ้มขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นมาห้ามเว่ยเว่ยไว้

” ท่านห้ามข้าทำไม..มันมาหาเรื่องข้าถึงหน้าร้านแล้วยังพูดจาบัดซบ!!แบบนั้นอีกท่านจะห้ามข้าอีกเหรอ.. ”

ไป๋หลงเพียงส่ายหน้าแล้วกล่าวออกด้วยท่าทีเรียบเฉย..

” ใครบอกข้าจะห้ามท่าน…ข้าเพียงจะจัดการมันด้วยตัวเองแล้วหลังจากนั้นข้าก็จะให้ท่านคิดบัญชีกับเจ้าหมูโสโครกที่ท่านเรียกดีหรือไม่ ”

เว่ยเว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยทันที…

” เหตุใดท่านถึงทำเช่นนั้น..ข้าไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรต่อตัวท่านเลย จะเป็นผลร้ายต่อตัวท่านเองมากกว่า เพราะเจ้าหมูโสโครกนั้นเป็นลูกของ อัครเสนาบดีที่เมืองใกล้เคียง มันชอบมาเบ่งวางอำนาจแถวนี้เป็นประจำ…ท่านอาจจะถูกมันตามล่าได้ ”

เว่ยเว่ยกล่าวออกมาด้วยความกังวลถึงไป๋หลงจะเเข็งแกร่งแต่ไม่มีทางชนะพวกที่หมูโสโครกนั้นเอามาได้แน่…แต่ความคิดนั้นโดนลบทิ้งออกไปทันที ในเวลาอันใกล้นี้…

” ท่านไม่ต้องรู้หรอก…เอาเป็นว่าข้าจะเหลือเจ้าหมูโสโครกนั้นไว้ให้ก็แล้วกัน เดี๋ยวข้ามา… ”

” เดี๋ยวก่… ” เว่ยเว่ย กล่าวไม่ทันจบไป๋หลงก็เคลื่นที่มาหน้าร้านด้วยความเร็วที่เว่ยเว่ยแทบจะมองไม่ทัน ทำให็เว่ยเว่ย ตกตะลึงเป็นอย่าง

ณ หุปเขาลึกแห่งหนึ่งในทวีปมังกร

ภายในป่านั้นมีหุปเหวที่มืดมิดอยู่ข้างล่าง และด้านล่างนั้นมีถ้ำอยู่ ถัดเข้าไปข้างในนั้นมีชายชรา ถูกล่ามโซสีทองขนาดใหญเอาไว้ หอกสีทองอร่ามถูกปักทะลุอยู่กลางอกแต่หน้าแปลกที่ชายชรานั้นยังมีลมหายใจอยู่… ชายชรานั้นอยู่ๆก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

” ฮ่าๆๆๆ..จอมราชันได้ลงมาจุติ!! แล้วทีนี้แหละความฝันข้าก็จะเป็นจริง…รีบหาข้าให้พบเถอะจอมราชัน ข้าสัมผัสได้ว่า เจ้าอยู่ไม่ไกลจากที่นี้ ข้าจะรอถึงแม้ว่าจะต้องรอไปอีกหนึ่งพันปีก็ตาม… ”

จบ…

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท