เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่58 โดดเดี่ยว

ตอนที่58 โดดเดี่ยว

“บ้าไปแล้วววววว!!…งูพูดได้ ”

อู้เฉียงร้องออกมาด้วยความตกตะลึงพลางจดจ้องไปยังดวงตาสีม่วงกลมโตที่จ้องมองมาทางตน…

” เจ้าจะตกใจทำไมกันมนุษย์นี้ก็แปลกเนอะ..ปกติอสูรทุกตัวที่ระดับสูงๆก็สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้..ถ้าระดับสูงหน่อยนึงก็สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เช่นกัน!! ” อสูรงูขาวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

อู้เฉียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตั้งสติได้ทันที..จนลืมไปว่าที่ป่าอสูรก็มีอสูรแปลงกายและสื่อสารเป็นภาษามนุษย์ได้เช่นกัน…

” ถ้าเจ้าพูดได้แล้วทำไมไม่ยอมพูดตั้งแต่แรก!!..ซ้ำยังไล่ตามข้าอย่างกับจะเอาชีวิตข้าด้วยซ้ำ ”

อู้เฉียงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อย…

” ก็ข้าพึ่งเคยเจอมนุษย์แบบเจ้านิข้าอยู่นี้มาเกือบร้อยปีไม่ค่อยมีมนุษย์แบบเจ้าผ่านมานักหรอก…อีกอย่างถ้าข้าจะสังหารเจ้าจริงๆ ตอนที่เจ้าโจมตีข้า…ข้าคงจะโจมตีสวนกลับไปแล้ว…ระดับพลังของข้าและเจ้าห่างกันเกินไปจนการโจมตีของเจ้ามันทำให้ข้าคันๆเท่านั้นหรือจะเรียกอีกอย่าง ตามที่พวกมนุษย์ชอบพูดกัน เจ้ามันอ่อนยังไงเล่า ฮ่าๆๆๆ!! ”

อสูรงูขาวกล่าวพลางหัวเราะชอบใจ..อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้น ก็หน้าแดงและมีเส้นเลือดขึ้นมาบริเวณใบหน้าทันที..

” นี้เจ้ามันจะมากเกินไปแล้วนะ.. ”

อสูรงูขาวได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจทันที..

” อะไรของเจ้ากันมนุษย์!! หนึ่งคำก็เจ้าสองคำก็เจ้าข้า ชื่อ เฟยเฟย จำไว้ด้วยมนุษย์ ” เฟยเฟยกล่าวออกมาขณะที่กำลังจ้องมองอู้เฉียงอยู่..

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็ตะโกนออกมาทันทีด้วยความหงุดหงิด…

” นี้เจ้าก็ไม่ต่างกับข้านักหรอก เรียกแต่มนุษย์ๆ ข้าชื่อ อู้เฉียง จำไว้ ” อู้เฉียงกล่าวออกมาราวกับกำลังทะเลาะกับเด็กอยู่ก็ไม่ปาน..

อู้เฉียงและเฟยเฟยต่างเถียงและประชดประชันกันไปมาไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุดเฟยเฟย ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราวกับคาดหวังอะไรบางอย่าง..

” นี้มนุษย์..ไม่สิอู้เฉียงเจ้าพูดจริงเหรอ? ที่เจ้าบอกว่าถ้าขาเป็นตัวเมียเจ้าจะเอาข้าเป็นภรรยา ”

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับผงะเพราะลืมไปเสียสนิทเลยว่าตนนั้นเคยกล่าวเอาไว้แบบนั้น..อันที่จริงแล้วอู้เฉียงนั้นเพียงกล่าวประชดออกมาด้วยอารมณ์ที่มีอยู่ณ ตอนนั้น..กลับไม่คิดว่าจะผิดคาดขนาดนี้..ทันใดนั้นอู้เฉียงก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้…

” เฟยเฟย ข้าเกรงว่าถ้าเจ้าออกจากป่าไปพร้อมกับข้าที่พาอสูรระดับราชันเข้าไปด้วยเจ้าคงรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น..เพราะ ฉะนั้น ”

” อ่อเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลไป ”

เฟยเฟยกล่าวจบร่างงูยักษ์ขนาดใหญ่กำลังเปล่งแสงจ้าออกมาจนอู้เฉียงต้องเอามือมาปิดตาเอาไว้..

” เกิดอะไรขึ้น!! ” อู้เฉียงกล่าวถามออกมาก่อนจะพบกับสาน้อย อายุราวๆ 15-16 ปีที่กำลังเปลือยเปล่าอยู่ เส้นผมสีขาวยาวถึงสะโพก ผิวขาวเนียนดุจหยก ริมฝีปากอมชมพู กับนัยตาสีม่วงอ่อนๆ พร้อมกับภูเขาสองลูกขนาดพอดีและสมบูณ์

อู้เฉียงที่ได้เห็นถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันทีก่อนจะมีเลือดกำเดาไหลออกมา… เฟิงห๋วงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดถึงแม้จะอยู่ภายในร่างของอู้เฉียงก็ตามทีเฟิงห๋วงเห็นเช่นนั้นก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เสียดแทงเข้าไปในจิตใจของอู้เฉียง…

” ข้ามองเจ้าผิดไปจริงๆ..เจ้ามันโรคจิตตัวพ่อเลย ทีแรกข้าจะบอกใบ้บททดสอบที่ข้ากำลังจะมอบให้ แต่ข้าเปลี่ยนใจแล้วข้าจะไม่บอกและจะทำให็มันยากขึ้นเป็นเท่าตัว หึ!! ”

” ไม่ใช่นะท่าน..ท่านเข้าใจผิดแล้วววว!! ”

อู้เฉียงพยามเรียก เฟิงห๋วงเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับออกมาจนอู้เฉียงใบหน้าขาวซีดและเหงื่อแตกออกมาทันที…

” เจ้าเป็นอะไรหรือ..อู้เฉียง ข้าเห็นเจ้าแปลกๆแล้วทำไมถึงมีเลือดออกมาทางจมูกของเจ้ากัน” เสียงเล็กๆใสแจ้วกล่าวออกมาราวกับคนละคนที่พูดกับอู้เฉียงเมื่อก่อนหน้านี้…

อู้เฉียงได้ยินน้ำเสียงใสๆที่กล่าวออกมาก่อนจะหันกลับไปมอง..อู้เฉียงเลือดกำเดาออกมาเยอะกว่าก่อนหน้านี้จนต้องเอาเสื้อมาเช็ดออก…

” ใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย..ข้าไม่ใช่พวกโรคจิตที่ชอบดูสาวๆเปลือยเปล่าหรอกนะ ” อู้เฉียงกล่าวพลางหยิบเสื้อผ้าของตัวเองในแหวนมิติออกมาก่อนจะยื่นให้เฟยเฟย..

” เสื้อผ้าคืออะไรเหรอ..ข้าใส่ไม่เป็น ปกติพวกมนุษย์ใส่ของแบบนี้กันด้วยเหรอ.. ” เฟยเฟยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงใสๆพลางเอียงคอไปมา…

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นถึงกับใบหน้าบิดเบี้ยวทันที…

” อะไรนะ!! เจ้าใส่เสื้อผ้าไม่เป็นอย่างงั้นหรือ.. ” อู้เฉียงกล่าวพลางใช้หางตามอง เฟิงห๋วงได้เห็นเช่นนั้นก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที

” หึ!! การกระทำชั่งสวนทางกับคำพูดสะจริง ”

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็ราวกับน้ำแข็งที่ปักเข้าที่กลางหน้าอก…เป็นคำพูดที่แสนเย็นชาอย่างมาก…

” อื้อ..งั้นเจ้าก็ใส่ให้ข้าสิ..แล้วเราจะได้ไปกัน.. ” เฟยเฟยกล่าวออกมาด้วยความไร้เดียงสาราวกับพึ่งเกิดออกมาลืมตาดูโลก..

อู้เฉียงที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับผงะและใบหน้าบิดเบี้ยว…

” ท่านเฟิงห๋วงข้าขอล่ะ ช่วยข้าสักครั้ง ช่วยนางใส่เสื้อผ้าด้วยเถิด…ข้าทำไม่ได้ ”

” ไม่!! ”

คำตอบที่ได้ถึงกับทำให้อู้เฉียงหน้าซีดในทันที…

” ในชีวิตนี้ข้าไม่เคยเห็นเรือนร่างของหญิงใดมาก่อน..และข้าก็ไม่เคยส่วมใส่เสื้อผ้าให้สตรีนางไหนมาแต่คนเดียวแต่นี้..ให้ตายเถอะ!! ”

อู้เฉียงบ่นสถบออกมา…

” เร็วๆสิ ใส่เสื้อผ้าให้ข้าหน่อย ที่เจ้าบอกว่า จะเอาข้าเป็นภรรยา…ข้าดีใจมากๆนะ ในเผ่าพันธ์ข้า ต่างพากันตีตัวออกห่างและทิ้งข้าไว้ที่นี้คนเดียว เพราะข้าไม่เหมือนกับคนอื่นๆเพราะทุกตัวที่เกิดมานั้นจะมีเกร็ดสีดำทมิฬ ดูน่าเกรงขามและหวาดกลัว…แต่ข้าไม่ข้าเกิดมาพร้อมกับเกร็ดสีขาว..นั้นทำให้ข้าต้องอยู่ที่นี้คนเดียวมานานมาก..จนมาเจอกับเจ้า ”

อู้เฉียงที่ได้ยินเช่นนั้นความคิดที่จะบอกปฏิเสธหายไปหมดสิ้น..เพราะอู้เฉียงเป็นพวกใจอ่อนกับเรื่องครอบครัวนั้นเอง…

” เอาล่ะ…ข้าเข้าใจเจ้าดี…ข้าจะหลับตาแล้วสวมเสื้อผ้าให้เจ้าตกลงหรือไม่แล้วเราจะได้ออกจากป่ากัน…อ้อ อีกอย่างข้ายังไม่อยากมีภรรยาในตอนนี้…ถ้าเป็นเพื่อนกันก็คงจะไม่มีปัญหา ”

เฟยเฟยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ปริยิ้มออกมาในทันทีเป็นลอยยิ้มที่สามารถขโมยหัวใจของบุรุษได้ในทันที…

” อื้อ..ขอบใจเจ้ามากนะอู้เฉียงงั้นเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่หรือไม่ ” เฟยเฟยกล่าวถามออกมา

” ใช่แล้วล่ะ..เจ้าถามทำไมข้าจะใส่เสื้อผ้าให้เจ้าล่ะข้าจะหลับตานะ แล้วเจ้าก็ยืนตรงกางแขนออกจากกัน เข้าใจใช่ไหม ”

อู้เฉียงกล่าวอธิบายในขณะที่กำลังหลับตาอยู่..

” ข้าเข้าใจแล้ว.. ” เฟยเฟยกางแขนออกตามที่อู้เฉียงบอกในทันที..

อู้เฉียงเริ่มใส่เสื้อผ้าจากท่อนบนก่อนโดยอู้เฉียงนำมืออันนุ่มนิ่มของเฟยเฟยใส่เข้าไปในแขนเสื้อแล้วก็ทำตามลำดับขั้นตอนอื่นๆ จนมาถึงท่อนล่าง..

” เอาล่ะเฟยเฟย ยกขาขึ้นข้าจะใส่กางเกงให้ ” เฟยเฟยได้ยินเช่นนั้นก็ยกขาอันเรียวสวยขึ้นมาและใส่เข้าไปในกางเกงในทันที..

” ทำไมเจ้าต้องหลับตาด้วยล่ะ…หรือว่าข้าน่ารังเกียจกัน!! ” เฟยเฟยกล่าวออกมาด้วยความเป็นกังวล..

” เปล่าเลย..ไว้ข้าจะอธิบายให้ฟัง..เอาล่ะในที่สุดก็เสร็จแล้ว ทีนี้เจ้าก็… ” อู้เฉียงกล่าวไม่ทันจบก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาถูกปากของตน.. อู้เฉียงลืมตาขึ้นก่อนจะพบริมฝีมากสีชมพูกำลังประกบกับปากของตนก่อนจะค่อยแยกออกจากกัน..

อู้เฉียงถึงกับนิ่งค้างไม่ได้สติไปเลยทีเดียว….

เอาล่ะ ออกจากป่ากันเถอะ อู้เฉียง ” เฟยเฟยกล่าวออกมาราวกับเมื่อกี้เป็นเรื่องธรรมดาสามัญทั่วไป

อู้เฉียงที่ได้สติก็หน้าแดงอมชมพูก่อนจะกล่าวขึ้นมา…

” สงสัยข้าคงต้องสั่งสอนนางเรื่องพวกนี้บ้างแล้ว ”

จบ….

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท