เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่67 ฟักตัว

ตอนที่67 ฟักตัว

“ หยุดเดี๋ยวนี้!! “

ลิ่วหลงกุนหันไปตามเสียงก็เจอกับ..ไป๋หยางซึ่งพึ่งจะมาถึงเห็นซากศพเหล่ายอดฝีมือมากมายก่อนที่ไป๋หยางจะมายังข้างในนี้ก็เห็นซากศพเกลื่อนกราดอยู่ภายนอก ไป๋หยางจึงมุ่งหน้ามาเข้ามาภายในนี้ทันที ไป๋หลงนั้น…ได้คำนวณผิดไปอย่างนึงนั้นก็คือ ของวิเศษ รองเท้าเมฆา!! เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเร่งเวลาในการเดินทางโดยการดึงพลังมาจากผู้ใช้ยิ่งใส่พลังเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็จะเร็วขึ้นเท่านั้นซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับ ของผู้นั้นเช่นกัน ซึ่งไปหยางที่อยู่ถึงระดับเทพอสูร!! ย่อมดึงความสามารถออกมาได้จนถึงขีดสุด…

สาเหตุที่ไป๋หยางไม่ใช้ร่างอสูรในการเดินทางเพราะว่าจะเป็นจุดเด่นมากจนเกินไป..โดยเฉพาะคนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นปรปักษ์ กับเผ่าอสูร เผ่ามารและปีศาจย่อมเป็นจุดสังเกตุและสัมผัสถึงพลังของเผ่าอสูรได้อย่างง่ายดาย…

ฉางเฉินที่เห็นว่าบุคคลที่เข้ามาคือใครก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้น…

” ไป๋หยาง…เจ้าเหมือนเมื่อก่อนไม่เคยเปลี่ยน..เจ้าจะมาหยุดข้าใช่ไหมเล่าแต่เสียใจด้วย มีคนมาถึงก่อนเจ้าแล้วทำลายของทัพของข้าจนย่อยยับนี้มันสัตว์ประหลาดในคราบตาแก่ชัดๆ.. ”

” ปากเสีย!! ข้าอายุไม่กี่ร้อยปีเทียบกันแล้วเจ้าก็แค่รุ่นเหลนข้าเท่านั้น..เอาละในเมื่อสหายของเจ้ามาแล้ว..ไม่สิควรจะเรียกอดีตสหายเสียมากกว่า..เจ้าชื่อไป๋หยางใช่หรือไม่!! ”

ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดและแปลกใจในทันที..

” ท่านรู้ชื่อข้าได้ยังไง? แล้วท่านเป็นใคร ” ไป๋หยางถึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่รัศมีที่แผ่ออกมานั้นไม่ธรรมดาและไม่ควรล่วงเกินอย่างเด็ดขาด จึงกล่าวออกมาด้วยความสุภาพ..

” ข้าเป็นใครหาใช่สำคัญ…แต่ที่ข้าอยากจะรู้คือไป๋หลงเป็นบุตรของใคร!! ”

ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็พลันหน้าขาวซีดในทันที..

“ทะ..ท่านรู้จักไป๋หลงได้ยังไง!! ” ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึง..

” ตอบคำถามข้ามา!! ” ลิ่วหลงกุนแค่นเสียงเย็นยะเยือก

ฉางเฉินที่นอนหมดสภาพค่อยๆยันตัวขึ้น..ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง..

” ไป๋หยางนี้มันเรื่องอะไรกัน…บุตรของเจ้าตายไปแล้วนิ!! ” ไป๋หยางที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันที…

” เจ้ารู้? ” ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง..

” เรื่องที่เจ้าบุกไปถล่มราชวัง!! แห่งนั้นจนเสียหายไปกว่าครึ่งทหารของราชวงศ์ ตายนับหมื่นซึ่งนี้ทำให็ เป็นข่าวดังไปทั่วยุทธภพ ต่อให้เป็นข้า ก็ยังมีสายข่าวทำให้ข้าทราบเรื่องของเจ้า ”

ไป๋หยางเมื่อได้ยินเช่นนั้นกับหันมามองหน้าลิ่วหลงกุนก็ระเบิดพลังระดับเทพอสูร ขั้นที่7!! ออกมา พร้อมกับเปลี่ยนร่างเป็นอสูรขนาดมหึมา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าร่างเก่าที่เคยสู้กับฉางเฉินในอดีต… ปีกกระดูกขนาดมหึมา เขาขนาดใหญ่ซึ่งมีรูปลักษ์้ป็นเขาวัว แต่เป็นสีดำทมิฬ เกร็ดสีดำขึ้นมาตามร่างจนครอบคลุมร่างกายทั้งหมด…ดวงตาสีแดงฉานพร้อมกับระเบิดพลังเทพอสูรขั้น ขั้นที่9!! ออกมา…

จำแลงร่างเทพอูร!!

” ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็จะไม่บอกอะไรท่านทั้งนั้น!! ”

” ไม่เลว!! แต่… ” ลิ่วหลงกุนกล่าวจบก็สร้างรางเทพจำแลงสีทองขึ้นมาทันใดนั้นก็ฉุกคิดเรื่องนึงขึ้นมาได้ก่อนจะสลายร่างเทพออก และเก็บพลังทั้งหมดจนไป๋หยางแทบจะจับสัมผัสไม่ได้..

” เกือบไปๆ…ไม่ได้สนุกตั้งนาน สงสัยพวกนั้นคงจับสัมผัสข้าไม่ได้ ต้องรีบออกเดินทางแล้ว.. ” ลิ่วหลงกุน พึมพำกับตัวเอง

ไป๋หยางและฉางเฉินต่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..

” เอาละข้าไม่ถามเจ้าก็ได้..อีกอย่างเป้าหมายข้าไม่ได้มาทีเรื่องกับพวกเจ้านายน้อยข้าสั่งเอาไว้ ข้าไปละ.. ” ลิ่วหลงกุนกล่าวจบก็กระโดดทะลุเพดานข้างบนแล้วพุ่งหายไปในทันที…

หลังจากลิ่วหลงกุนจากไปภายในห้องโถงแห่งนี้..ที่พังพินาศเละเทะไม่เหลือชิ้นดี ก็เหลือแต่ ไป๋หยางและฉางเฉินรวมทั้งกองซากศพเท่านั้น…ไป๋หยางสลายพลังและกลับมาอยู่ในร่างมนุษย์เช่นเดิมก่อนที่ฉางเฉนจะกล่าวกับไป๋หลงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง…

” มาลำลึกความหลังกันดีหรือไม่ ”

” ก็ดีเหมือนกันสหายข้า ” ไป๋หยางกล่าวจบก่อนจะนำสุราชั้นดีออกมาแล้วยื่นให้กับฉางเฉิน..

สาเหตุที่ฉางเฉินสงบได้เช่นนี้ก็เพราะโดนลิ่วหลงกุนสังหารไปเกือบร้อยรอบจนจิตใจความเป็นมนุษย์กลับมาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งถึงแม้จะคล้ายกับเป็นอัมตะแต่ก็ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ การฟื้นตัวจะช้าลงเรื่อยๆหากโดนสังหารมากจนเกินไป…ซึ่งไป๋หยางรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

ณ..โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์

ภายในโบสถ์นั้นกว้างใหญ่ตัวอาคารภายในเป็นสีขาว พลังศักดิ์ศิทธิ์มีอยู่เต็มเปี่ยม ณ..ที่แห่งนี้ บนโต๊ะทำงานมีชายชรากำลังอ่านบันทึกบางอย่างอยู่..

” องค์จักรพรรดิ์ถังหนานเหิงติดต่อกับเผ่าอสูรเช่นนั้นหรือ!!..กล้าไม่เบานึกว่ามีมังทองหนึ่งในสัตว์เทพอสูรศักดิ์ศิทธิ์ คุ้มกะลาหัวนึกว่าข้าจะไม่กล้ารึไงกัน.. ” ชายชราใส่ชุดสีขาวกล่าวออกมาพลางแสยะยิ้มที่น่ารังเกียจ..

” ยื่นเรื่องนี้ในที่ประชุม ถอดถอนถังหนานเหิงออกจากการเป็นจักรพรรดิ์ ความผิดก็คือ ติดต่อกับพวกอสูรอย่างลับๆ…ทำให้ทางเราโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ไว้วางใจ ในการทำหน้าที่เป็นองค์จักรพรรดิ์ !! แจ้งตามที่ข้าบอกไปตามนั้นได้ยินไหม ”

” ขอรับ ”

หลังจากชายชรากล่าวสั่งแก่ผู้ช่วยของตนก็ยกยิ้มขึ้นมาด้วยความมีไชแต่รอยยิ้มนั้นคงจะอยู่ได้อีกไม่นานในอนาคต…

ณ..เมืองจรัสแสง

หลังจากไป๋หลงและอู้เฉียงต่อสู้กันไป๋หลงสูญเสียเงินในแหวนมิติไปทั้งหมดกับค่าซ่อมแซมร้านค้าและสิ่งก่อสร้างอื่นๆและค่าบาดเจ็บของทหารประจำเมือง จนถังแตก..ก่อนจะเดินก้มหน้าลงกับพื้น อู้เฉียงก็เดินตามหลังไป๋หลงไปแบบติดๆ..

” ไป๋หลงเอ่อ..ข้าขอโทษเมื่อตอนนั้นข้ารู้สึกว่าจิตใจของข้าไม่คงที่เหมือนกับอีกตัวตนหนึ่งของข้าจะออกมา ทำให้ข้าคุมอารมณ์ไม่อยู่ในชั่งขณะ ” อู้เฉียง กล่าวขึ้นด้วยความสำนึก ว่าตนนั้นทำเกินไปจริงๆ..

ไป๋หลงหยุดเดินแล้วหยิบบางอย่างออกมาจากแหวนมิติ..แล้วโยนให้กับอู้เฉียง..

” นั้นคือใบการจบการศึกษาของเจ้า เราจะสอบเข้าสถาบันเทพมารในเดือนหน้า!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาก่อนจะเดินต่อไป…

” ไป๋หลงข้าขอโทษษษษษ!! ” อู้เฉียงกล่าวขณะที่มีเฟยเฟยเกาะแขนอยู่ ไป๋หลงกำลังทำใจกับการสูยเสียเงินครั้งใหญ่ ตลอดทางมีเสียก่นด่าและสาปแช่งไป๋หลงและอู้เฉียงเพราะต้องทำให้เมืองเกือบพังพินาศ….สาเหตุที่ไม่มีใครกล้ามาตอแยเพราะพลังที่ไป๋หลงและอู้เฉียงแสดงออกมานั้นไม่เหมือนกับคในรุ่นเดียวกัน

” นายท่านเรากำลังจะไปไหน? ” จี้กงกล่าวถามออกมา

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบในทันที…

” ตระกูลชุน ”

” ขอรับ ”

ในขณะที่ไป๋หลงเดินอยู่นั้นเสียงที่ห่างหายไปนานก็ดังขึ้นอีกครั้ง..จนไป๋หลงสะดุ้งจนลืมไปแล้วว่ามีอีกดวงจิตนึงที่อยูภายในร่าง

อาจารย์ขงจือ!!

” เจ้าหนู ไข่มังกรที่เจ้าประมูลมากำลังจะฟักตัวแล้ว!! รีบพาไปให้ออกห่างจากสิ่งมีชีวิตโดยด่วนมิฉะนั้น.. ”

” สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะได้รับผลกระทบ โดยธาตุไฟแตกซ่านและโดนสูบพลังออกไปทั้งหมด นี้คือการถือกำเนิด ของ ราชันมังกรเพลิง!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันที…

” อาจารย์ นี้ท่านหายไปไหนตั้งนานทำไมท่านโผล่มาก็มีแต่เรื่อง อีกอย่างไข่ก็อยู่ในแหวนมิติ จะเป็นแบบนั้นไปได้เช่นไร ” ไป๋หงกล่าวผ่านจิตกับขงจือ

” เจ้าเด็กโง่ขืนปล่อยให้เป็นแบบนั้นแหวนมิติเจ้าระเบิดแน่!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นใบหน้าขาวซีดในทันที..ถึงแม้เงินจะหมดไปแต่ยาและสมุนไพรยังเหลืออยู่ไม่น้อยไป๋หลงคิดได้เช่นนั้นก็ระเบิดฝีเท้าวิ่งออกจากตัวเมืองในทันที…สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนจำนวนมากแม้แต่อู้เฉียงยังงุนงง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนจี้กงตามไป๋หลงไปแบบติดๆ.. ไป๋หลงสถบออกมาด้วยความแค้นใจ..

” บัดซบ!! ทำไมมีแต่เรื่องปวดหัวให้ข้าทั้งนั้นข้าเบื่อออออ!! ศิษย์พี่ชุนยี่รอข้าก่อนรอให้เสร็จเรื่องข้าจะไปหาท่านแน่อน… ”

จบ…

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท