เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่70 ปล้น 1

ตอนที่70 ปล้น 1

มังกรสีทองขนาดมหึมา!!…กำลังโอบร้อมองค์จักรพรรดิ์ผู้เป็นนายอยู่พลางจดจ้องไปยังสมาชิกโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันรุนแรง…

” กล้ามากมากที่กล้าหันคมดาบเค้าหาองค์จักรพรรดิ์ผู้ปกครองทวีปจรัสแสงแห่งนี้โทษของพวกเจ้าคือ…หายไปซะ!! ”

หวงหลงในร่างมังกรทองกล่าวผ่านกระแสพลัง..โดยที่สมาชิกกลุ่มโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ทั้งหมดล้วนใบหน้าขาวซีดในบัดดล…เมื่ออยู่ต่อหน้า1ในสัตว์อสูรศักดิ์ศิทธิ์ แม้จะมีพลังระดับ เทพสงครามยังยากจะต่อกร มีหรือที่ระดับ ราชันนักรบทั่วไปจะอยู่ในสายตา

” ดะ..ได้โปรดช้าก่อ… ” เสียงของสมาชิกของโบสถ์ยังมิได้เอ่ยถ้อยคำใดก็โดนลำแสงสีทองที่ถูกปล่อยออกมาจากปากของ หวงหลงจนครอบคลุมสมาชิกของโบสถ์ทั้งหมดก่อนจะปรากฏพื้นที่ว่างเปล่าลงเหลือไว้เพียงเท่านั้น…

เหล่าทหารต่างสั่นสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าองค์จักรพรรดิ์จะกล้าสังหารคนของโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ ด้วยมือตนเอง…

” ใครบอกว่าข้าสังหารพวกมัน…ข้าแค่ส่งมันออกนอกทวีปจรัสแสงเท่านั้น!! ” องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงกล่าวออกมาราวกับคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า…

เหล่าทหารต่างพากันถอนหายใจถึงแม้โบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์จะสร้างปัญหาให้แต่การที่จะสังหารอย่างอุกอาจแบบนี้ก็ออกจะเกินไป…ในช่วงท้ายนั้น ถังหน่านเหิงได้เปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายบอกให้หวงหลง พาพวกนี้ออกไปนอกทวีปทั้งหมดแทนที่จะสังหารทิ้ง…

” เอาละ…ถ่ายทอดคำสั่งข้าออกไป ทวีปจรัสแสงไม่ขอต้อนรับโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์อีกต่อไป!! และเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้ได้ตลอดเวลา…ติดต่อถังเทียน และถังอวี้ด้วย ข้ามีบางอย่างอยากจะบอกกับพวกเขา ”

” รับด้วยเกล้าฝ่าบาท..” ผู้อาวุโสกล่าวก่อนนจะทำหน้าที่ถ่ายทอดคำสั่งต่ออีกที ส่วนองค์รักษ์เงาที่แอบแฝงอยู่ก็กลับไปประจำตำแหน่งเดิมอีกครั้ง..ส่วนหวงหลงก็คืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้งและนำมือมาจับบ่า ขององค์จักรพรรดิ์เอาไว้ ซึ่งแน่นอน มิมีทหารคนใดกล่าวขัดแม้แต่น้อย เพราะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น ซ้ำถ้าจะให้เรียงลำดับ ฐานะ องค์จักรพรรดิ์เป็นเพียงข้ารับใช้ก็มิอาจผิดแปลกไปจากนี้…

” ทำไมเจ้าถึงปล่อยพวกมันไปเช่นนั้นเล่า..จักรพรรดิ์น้อยไม่คิดว่าพวกมันจะหาทางเอาคืนเจ้าหรือ? ” หวงหลงกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงสามัญ..

” ข้าแค่คิดว่าการปล่อยพวกมันไปอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้… ” องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงกล่าวอย่างมีเลิศนัย หวงหลงหาได้สนใจก่อนจะพูดเรื่องข้อตกลง..

” อย่าลืม ทองคำ 1 ตัน กับเหล้า ชั้นดี!! เตรียมไว้ให้ข้าด้วย เหมือนครั้งก่อนๆ ” หวงหลงกล่าว ก่อนจะกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปยังตราประทับที่อยู่บน แผ่นหลังองคจักรพรรดิ์ทันที…..

สุดขอบทวีปจรัสแสง…

มีลำแสงสายหนึ่งพุ่งลงมาก่อนจะปรากฏกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งนั้นก็คือกลุ่มของโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ที่ก่อนหน้านี้โดนจักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงส่งออกมาอกทวีป…

” บัดซบ!! ไม่คิดว่ามันจะกล้าถึงเพียงนี้มันกล้าแตกหักกับทางโบสถ์จริงๆหรือนี้ ” ผู้อาวุโสในกลุ่มของโบสถ์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและประหลาดใจ

” เรื่องนั้นชังมัน…รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปที่ศูนย์กลางของโบสถ์ที่ทวีปมืด!! ในทันที… ”

” แต่ว่า… ”

” ไม่มีแต่..ไปได้แล้ว ” ผู้อาวุโสจำใจต้องปฏิบัติตามคำสั่งก่อนจะนำพากลุ่มคนกลับไปยังศูนย์ใหญ่ในทันที..

” ถังหน่านเหิง…จงใช้ชีวิตที่เหลือของเจ้าให้คุ้มเถิดอีกไม่นาน ชีวิตของเจ้าจะต้องจบลง ”

กลุ่มของโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ก็พากันกลับทวีปมืดในทันที…

……………………………………………………

” ไป๋หลงเป็นเจ้าจริงๆ…ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจ้าแล้วรูปลักษณ์นี้มันอะไรกันทำไมเจ้าถึงเป็นแบบนี้ไปได้..เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ” เสียงที่กล่าวออกมาแฝงไว้ด้วยความห่วงใยและโหยหา

” เอ่อ..เรื่องมันยาวนะศิษย์พี่ชุนยี่ เอาเป็นว่าเพราะวิชาบางอย่างทำให้ศิษย์น้องต้องอยู่ในสภาพนี้…อีกอย่างท่านช่วยหาเสื้อผ้าให้กับเด็กคนนี้หน่อยได้หรือไหม? ” ไป๋หลงกล่าวถามแก่ชุนยี่…

ชุนยี่และชุนไห่ที่ยืนอยูเหลือบหันไปมองเด็กน้อยหน้าตาน่ารักเส้นผมสีแดงโลหิต ดวงตาเป็นสีแดงมองแล้วชวนให้หลงไหล ผิวกายขาวเนียนดุจหยก จนหญิงสาวด้วยกันยังต้องอาย…แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมากลับน่าขนลุกเป็นอย่างมาก..

” ศิษย์น้อง…ไม่ทราบว่าเด็กคนนี้คือ.. ” ชุนไห่กล่าวถามขึ้นด้วยความสงสัยและความงามที่แผ่ออกมาตั้งแต่เด็กๆโตขึ้นไปย่อมเป็นหญิงงามล่มเมืองเป็นแน่แท้

ยังไม่ทันที่ไป๋หลงจะกล่าวอธิบายเสียงใสๆก็ดังขึ้น…

” ปะ ป๋า หิวแล้ว หิว !! ”

ชุ่นยี่และชุนไห่ต่างตกตะลึงในทันทีก่อนจะจ้องไป๋หลงด้วยความหลากหลายอารมณ์…

” เดี๋ยวๆพวกท่านเข้าใจผิดแล้ว…เรื่องมันยาวแต่ที่แน่ๆเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของข้าแน่นอนเรื่องนี้ข้าขอยืนยันได้…ใช่ไหมอู้เฉียง จี้กง ”

ไป๋หลงคล้อยตาหันมามองอู้เฉียงที่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้กับจี้กงที่เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรทั้งสิ้น…

” ย่อมเป็นเช่นนั้น ขอรับ ”

” เจ้าว่าไงก็แบบนั้นแหละ ”

จี้กงและอู้เฉียงกล่าวออกมาก่อนจะนั่งอยู่เงียบๆเช่นเดิม..

” ศิษย์พี่ชุนยี่ ข้าไม่เห็นท่านชุนเปียวเลยไม่ทราบว่าท่านชุนเปียวไปไหนหรือท ” ไป๋หลงกล่าวถามด้วยความสงสัยตั้งแต่เข้ามาไป๋หลงยังไม่เห็นชุนเปียวเลยตั้งแต่เข้ามา…

ชุนยี่ได้ยินแบบนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยความไม่สบอารมณ์และแค่นเสียงออกมาในทันที…

” จะอะไรซะอีกละ…ก็ไปต่อลองเจรากับตระกูลอื่นๆ ที่หวังจะเอาที่ของตระกูลชิน ที่เหลือแต่หลุมลึกเท่านั้น กับพื้นที่รอบๆที่เหลือ ที่ท่านพ่อไปร่วมการต่อลองนี้ก็เพราะว่าข้างล่างนั้นมีแร่บางอย่างอยู่… ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วในทันที..จริงอยู่ว่าแร่ต่างๆสามารถหาได้ตามธรรมชาติทั่วไปเช่นทองคำแต่แร่ที่พิเศษจะพบในพื้นที่ที่พิเศษเท่านั้นมูลค่าของมันมหาศาลเป็นอย่างมากในตลาดมืดและโรประมูล..ไป๋หลงในตอนนี้ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่นิดเดียวนี้จึงเป็นหนทางใหม่ในการหาเงิน ไป๋หลงคิดเช่นนั้นก็แสร้งถามในทันที…

” ศิษย์พี่เรื่องมันเป็นมายังไง..ช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ บางทีข้าอาจจะช่วยท่านได้ ”

ชุนยี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบในทันที…

” คือเรื่องมันเริ่มจาก….. ”

ชุนยี่เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนหมดไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้นเพียงแสยะยิ้มเพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนจะปรับสีหน้าเป็นเหมือนเดิม โดยที่อู้เฉียงลอบสังเกตุไป๋หลงก่อนจะรู้สึกกังวลแปลกๆ….

จบ…

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท