เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่71 ปล้น 2 จบ

ตอนที่71 ปล้น 2 จบ

ใจกลางหลุมขนาดใหญ่ ที่เคยเป็นที่ตั้งของตระกูลชิน หลุมนี้เกิดจากการที่ไป๋หลงใช้พลังมากเกินไปจน ทำให้พื้นที่บริเวณตระกูลชินกลายเป็นหลุมลึกซึ่งในหลุมลึกนี้เองมีเด็กหนุ่มสองคนและเด็กสาวผมสีแดงโลหิตกับเฟยเฟยที่กำลังเดินอยู่เบื้องล่างนี้ราวกับเดินเล่น…แต่ไป๋หลงและอู้เฉียงกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง…

” นี้ไป๋หลงข้ากับเจ้าเพียงสองคนเท่านั้น!! ที่ได้รับผลกระทบแรงกดดันแปลกนี้..ยิ่งเดินไปข้างหน้าเท่าไหร่แรงกดดันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว…แต่พวกเฟยเฟยกับเด็กน้อยที่อยู่บนหัวเจ้ากับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย..เจ้าว่ามันแปลกๆหรือไม่? ” อู้เฉียงกล่าวขึ้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพราะตอนนี้ แทบจะก้าวขาไปไม่ได้แล้วถ้าไม่ได้เฟยเฟยคอยส่งพลังเกื้อหนุนผ่านตราสัญลักษณ์ อสูร บนฝ่ามือข้างขวาเมื่อครั้งเจอกันคราแรก…

ไป๋หลงก็รับรู้ถึงแรงกดดันที่ไม่ธรรมดานี้ได้แต่เลือกที่จะไม่พูดออกมา…

” ข้าก็นึกไว้แล้วเชียวว่าเหตุใดถึงมีเวรยามหนาแน่ขนาดนั้น..แต่กลับไม่มีผู้ใดลงมาข้างล่างนี้แม้แต่คนเดียว..แต่ถึงมีก็ลงมาไม่ได้อยู่ดีเว้นซะแต่..อาวุธอักขระที่ทำให้ลอยได้ละนะ หรือไม่ก็ คนที่มีระดับ ราชันนักรบ!! กระโดดลงมาก็พอจะทำได้แต่คงไม่มีใครโง่ขนาดนั้นละมั้งนะ.. ” ไป๋หลงกล่าวพลางวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆทำเอาอู้เฉียงอึ้งไปชั่วขณะ…

” เฮ้อ..เจ้านี้มันฉลาดเกินไปแล้ว..อีกอย่างใครที่เจ้าบอกว่ากำลังจะมาถึงกัน ”

” อีกไม่นานเจ้าก็รู้เองแหละ..เก็บแรงพูดของเจ้าไว้เดินดีกว่าอีกอย่างอย่าลืมใครที่ทำให้ข้าเป็นยาจกถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ เจ้าลืมแล้วหรือ? ” ไป๋หลงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเรียบพลางคล้อยตามองอู้เฉียง…

อู้เฉียงก็ถึงกับขนลุกในทันที…

” ข้าขอโทษ…ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆเดี๋ยวข้จะช่วยเจ้าเองบอกมาได้เลย ” อู้เฉียงกล่าวอย่างขมักเขม้นในทันที..

” ดี ” ไป๋หลงตอบกลับมาสั้นๆก่อนจะเดินต่อไป

ผ่านไปสักพักไป๋หลงและอู้เฉียงเจอกับอุโมงค์ซึ่งแรงกดดันเพิ่มเป็นทวีคูณต่างจากก่อนหน้านี้ไป๋หลงถึงกับขมวดคิ้วในทันที…

” มีบางอย่างแปลกๆ…อู้เฉียงเจ้าไหวหรือไม่ลงไปข้างล่างนี้ แรงกดดันจะเพิ่มเป็นทวีคุณ อีกอย่างข้าพอเข้าใจบางอย่างแล้วเหตุผลที่ เฟยเฟยของเจ้ากับเด็กน้อยที่อยู่บนหัวของข้าถึงไม่ได้รับผลกระทบก็เพราะ…พวกนางแข็งแกร่งกว่าพวกเรา!! ระดับพลังสูงกว่า ทำให้แรงกดดันเหล่านี้ไม่มีผลต่อพวกนาง ”

สิ่งที่ไป๋หลงกล่าวมาย่อมเป็นความจริงเพราะไป๋หลงและตัวอู้เฉียงนั้นห่างหายจากการยกระดับพลังตัวเองขึ้นทำให้มีพลังไม่มากพอในการต้านทานแรงกดดันดังกล่าว…

” อาจจะจริงอย่างที่เจ้าว่าแต่ไม่ว่ายังไงข้าก็จะไปกับเจ้า…เฟยเฟยข้าขอยืมพลังเจ้าหน่อยได้หรือไม่…ข้าจะตอบแทนเจ้าทันทีหลังจากจบเรื่องนี้ ”

อู้เฉียงกล่าวขึ้นอย่างจริงจังกับเฟยเฟยเป็นครั้งแรกมีหรือที่เฟยเฟยจะไม่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ เฟยเฟย เพียงปริยิ้มอ่อนๆออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น..

” ว่าที่สามี พลังของข้าก็คือพลังของท่านเชิญใช้ตามสบายใจได้เลย ”

ฟืบบ!!

พลังของอู้เฉียงเอ่อล้นขึ้นมาแรงกดดันที่ผ่านมาไม่มีผลกระทบต่ออู้เฉียงอีกต่อไป ยามนี้อู้เฉียงสามารถจะวิ่งหรือทำอะไรก็ได้ไม่เป็นอุปสรรค์อีกต่อไปแสงรูปตราประทับอสูร ที่ฝ่ามือของอู้เฉียงส่องแสงสีฟ้านวลออกมา…

ซึ้งแน่อนว่าเฟยเฟยจะต้องรับภาระอย่างหนักหน่วงแน่นอนในการถ่ายทอดพลังไปให้อู้เฉียงเรื่อยๆแต่ เฟยเฟยเรื่องที่จะเงียบเอาไว้ ด้วยความที่ตัว เฟยเฟย เป็นอสูร ชนชั้นระดับราชันย์!! จึงทนไปได้ในระดับนึงแต่ก็คงไม่เกิน2ชั่วยามเป็นแน่แท้…

” นี้เจ้า… ” ไป๋หลงกำลังจะกล่าวบอกแต่เฟยเฟยกลับส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ต้องบอกอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นว่าเป็นเจตจำนงของเฟยเฟยเอง ไป๋หลงก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา..

” งั้นเราก็ลงไปกันเถอะข้าขอช่วยเจ้าก็แล้วกันนะ..ลำพังตัวข้าคงไม่สามารถไปต่อได้ ” ไป๋หลงกล่าวพลางลูบหัวของเด็กสาวที่อยู่บนหัวตน..ราวกับเด็กน้อยเข้าใจเจตนาของไป๋หลงพลังสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในร่างกายของไป๋หลงในทันที..

เกิดเป็นออร่าสีแดงเลือดห่อหุ้มร่างของไป๋หลงเอาไว้ ระดับพลังยิ่งกว่าที่เฟยเฟยถ่ายทอดให้อู้เฉียงเป็นร้อยเท่า…

ไป๋หลงสืบเท้าไปข้างหน้าปากทางเค้าอุโมงค์..

” เอาล่ะ…การปล้นแร่ในครั้งนี้ ข้ามีเหตุผลจำเป็นจริงๆขอให้ศิษย์พี่ชุนยี่ให้อภัยข้าด้วยอู้เฉียงเจ้าพร้อมไหม.. ”

” พร้อมอยู่แล้วรีบไปกันเถอะ.. ” อู้เฉียงกล่าวตอบรับในทันที..

ไป๋หลงเเค่นเสียงออกมา…

” เอาล่ะ..การปล้นเพื่อความอยู่รอดเริ่มได้!! ”

ณ.สถานที่แห่งหนึ่งที่อยูไกลจากผู้คนและสัตว์อสูร เป็นดินแดนแห่งลาวาเปรียบเสมือนดินแดงแห่งความตายบนพื้นโลกใบนี้ ลึกลงไปข้างใต้ลาวาแห่งนั้น มีเมืองขนาดใหญ่อยู่ข้างล่าง ประชากรข้างล่างนี้ส่วนใหญ่อยู่ระดับ ชนชั้นราชันย์นักรบ ทั้งสิ้น….รวมถึงมีพระราชวังใหญ่โตอยู่ข้างล่างเช่นกัน

ภายในเขตพระราชวัง…

เหล่าอสูรที่เป็นคล้ายทหารยามต่างวิ่งกันจ้าระหวั่นเพราะไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้ ราชันย์มังกรเพลิง!! ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว

มังกรสีแดงเพลิงโลหิตขนาดใหญ่!!แผ่ระดับพลังที่เกินจะบรรยายออกมา…ย่อมไม่ด้อยไปกว่าสัตว์เทพอสูรศักดิ์ศิทธิ์!!แม้แต่น้อย กำลังใช้สัมผัสบางอย่างก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยแววตาที่เป็นประกาย..

” ลูกข้าเจ้ายังไม่ตายข้าสัมผัสถึงเจ้าได้..ข้าจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้!! ”

จบ…

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท