เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่69 แตกหัก

ตอนที่69 แตกหัก

ปะ ป๋า!!

นี้คือประโยคแรกที่หลุดออกมาจากเด็กสาวตรงหน้าในสภาพเปลือยปล่าว..ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นถึงกับใบหน้าแข็งค้างตกตะลึงในทันทีก่อนจะหันมาหาจี้กง…

” ท่านจี้กง!! นี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม ถึงมีเด็กผู้หญิงออกมาจากไข่มังกรกัน ”

จี้กงก็ตกตะลึงไม่แพ้กันอู้เฉียงก็ไม่เว้นเฟยเฟยที่เห็นอู้เฉียงจ้องมองร่างเปลืยเปล่าของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็กัดแขนอู้เฉียงทันที…

” ห้ามมองนะ!! ” เฟยเฟยกล่าวออกมาพลางใบหน้าบูดบึ้ง

” ข้าแค่ตกใจก็แค่นั้นเองว่าแต่..ไป๋หลงเจ้าได้เป็นพ่อคนละนะ ฮ่าๆๆๆ!! ” อู้เฉียงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงขบขัน..

” เรียนนายท่าน สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ข้าไม่รู้จริงๆ!! ” จี้กงกล่าวออกมาด้วยความจนปัญญา

ปะป๋า!! ปะป๋า!!

เด็กผู้หญิงตรงหน้าโผลเข้ามากอดไป๋หลงจนทำให้ไป๋หลงทำอะไรแทบไม่ถูกไป๋หลงเอามือทั้งสองข้างมาแตะบนแผ่นหลังของเด็กสาวคนนี้ถึงกับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก..ก่อนที่เสาเปลวเพลิงสีแดงเลือดข้างหลังจะหายไปทิ้งไว้เพียงแค่หลุมลาวาขนาดใหญ่ กับรอยไหม้บริเวณรอบๆเท่านั้น… ไป๋หลงสามารถสัมผัสถึงความร้อนข้างล่างได้แทบจะถอยออกห่างจากตรงนั้นทันที…เพราะความร้อนที่เกิดจากเปลวเพลิงที่พิเศษย่อมมิใช่สามัญ…

” ปะป๋า หิว ” เสียงเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม เส้นผมสีแดงเลือดกับดวงตาสีแดงเพลิงคู่งามกำลังจ้องตาไป๋หลงด้วยแววตาที่ออดอ้อน

เด็กสาวคลายกอดจากไป๋หลงแล้วหันหลังกระโดดลงไปในบ่อลาวาที่เกิดจากความร้อนเมื่อครู่ทันที ไป๋หลงตกใจกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นจนปรับตัวไม่ทัน…

เดี๋ยว!!

ไป๋หลงกำลังจะกระโดดตามลงไปแต่โดนจี้กงห้ามเอาไว้ก่อนจะเริ่มสังเกตุเห็นบางอย่างนั้นก็คือลาวาจำนวนมากกำลังก่อตัวเป็นทรงกลมขนาดใหญ่โดยมีเด็กสาวเป็นจุดกึ่งกลาง ทันใดนั้นลาวา ถูกย่อขนาดให้เล็กเท่ากำปั้นคน ก่อนจะลอยไปหาเด็กสาวคนนั้น…

เด็กสาวอ้าปากกว้างก่อนจะ ดูดลาวาขนาดเท่ากำปั้นเข้าไปในปากจนหมดลาวาที่เคยเหลืออยู่หายไปจนหมด ภาพตรงหน้าสร้างความตกตะลึงให้กับ ไป๋หลง จี้กง และอู้เฉียง เป็นอย่างมาก ลาวาถือเป็นธาตุที่ร้อนยิ่งกว่าไฟนับ100เท่าแต่นี้ โดนกินโดยเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้น..

ปะป๋า!! อิ่มแล้ว!!

เด็กสาวกล่าวพูดก่อนจะกระโดดขึ้นมาจากหลุมลึกเกือบ10เมตรด้วยท่าทีสบายไม่ได้ยากเย็นแม้แต่น้อย..ต่อให้เป็นไป๋หลงถ้าไม่ใช้ปีกในการบินขึ้นมาคงจะยากในการปีนป่ายขึ้นมาอย่างแน่นอน..

ไป๋หลงเมื่อเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยกล่าวถามทันที…

” เจ้าเป็นใคร?..แล้วออกมาจากไข่ใบนั้นได้เช่นไร ”

เด็กสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้าตาสงสัยสงสายตาไปให้ไป๋หลงพลางเอียงคอไปมาราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่ไป๋หลงกล่าวถามไป….

” นายท่าน นางคงไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านพูดเป็นแน่…แต่ที่แน่ๆถ้านางออกมาจากไข่ใบนั้น เป็นไปได้อย่างเดียวคือ นางคือ บุตรตรีแห่งราชันมังกรเพลิง!! มิผิดเพี้ยนเป็นแน่แท้ด้วยระดับพลังที่นางปลดปล่อยออกมา นางอยู่ขั้นระดับ ราชันนักรบ!! แล้วเพียงแค่ลืมตาตื่นมาเท่านั้น ”

เมื่อไป๋หลงได้ยินจี้กงกล่าวเช่นนั้นก็เพียงถอนหายใจออกมาเท่านั้น..พร้อมกับสะเทือนใจเล็กน้อยที่ระดับพลังของตนต่างกับเด็กที่พึ่งเกิดมา…

” เฮ้อออ เอาละจี้กง อู้เฉียง..กลับเมืองจรัสแสงก่อนก็แล้วกันข้าต้องไปหาศิษย์พี่ชุนยี่อีก ” ไป๋หลงกล่าวออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย…

” ขอรับนายท่าน ”

” เฟยเฟย เจ้าดีขึ้นรึยัง บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่!! ” อู้เฉียงกล่าวถามด้วยความเป็นห่วงเฟยเฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับมาข้างๆหูของอู้เฉียง…

” ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว…ขอบใจเจ้ามากนะอู้เฉียง ” เฟยเฟยกล่าวพร้อมจุมพิตริมฝีปากตรงแก้มของอู้เฉียง จนอู้เฉียงหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขิลอาย… ไป๋หลงถึงกับเบิกตากว้างในทันที…

” จะ..จะ..เจ้าสองคนเป็นอะไรกันทำไมพวกเจ้าถึง!! ”

ไป๋หลงคราแรกก็มิได้สนใจอะไรเพราะไป๋หลงสัมผัสได้ว่า เฟยเฟยนั้นเป็นอสูรที่มีระดับพลังสูงอยู่พอสมควร..จนนึกว่าเป็นอสูรรับใช้อีกตนที่ทำพันธสัญญากันไป๋หลงเลยมิได้สนใจเท่าใดนักจนมาเห็นภาพตรงหน้าที่เกิดขึ้น…

เฟยเฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบแทนอู้เฉียงทันควัน..

” อู้เฉียงเคยบอกว่า…ขะ..เขาจะนำข้ามาเป็นภรรยา!! เพราะฉะนั้น อู้เฉียงก็เป็นสามีของข้าในอนาคต เพราะอู้เฉียงบอกว่าเป็นเพื่อนกันไปก่อน ” เฟยเฟยกล่าวตอบพลางหน้าแดงระเรื่อ

ไป๋หลงที่ได้ยินถึงกับขุมขมับ..

” อู้เฉียงนี้เจ้ามีภรรยาแล้วไม่คิดจะบอกข้า..ข้าละผิดหวังจริงๆใช่ไหมจี้กง ” ไป๋หลงกล่าวพลางตัดพ้อ

” ใช่ขอรับคนเป็นสหายกันย่อมไม่มีเรื่องปิดบังต่อกันขอรับ ” จี้กงกล่าวเสริมทำให้อู้เฉียงหาคำแก้ตัวแทบไม่ขึ้น..

ปะ ป๋า อุ้ม อุ้ม!!

เด็กสาวตรงหน้าเกาะชายผ้าของไป๋หลงพลางดึงแล้วส่งสายตาออดอ้อนไป๋หลงทำอะไรไม่ได้จึงยอมทำตามที่เด็กสาวตรงหน้าต้องการ…

” ฮ่าๆๆว่าแตข้าเจ้ากลายเป็นพ่อคนแล้วนิ..ท่านพ่อไป๋หลง ฮ่าๆๆ ” อู้เฉียงกลาวเหน็บแนมคืนจนทั้งสองเถียงกันไปมาตลอดทางจนถึงเมืองจรัสแสง

อีกคนก็เป็นสามี อีกคนก็เป็นพ่อ…

เป็นสหายที่ดีแท้

————————————-

ณ. พระราชวังทวีปจรัสแสง…

ในห้องโถงขนาดใหญ่ มีชายชราและชายวัยกลางคนอยู่ประมาณสิบกว่าคน สวมใส่ชุดสีขาวตรงกลางแผ่นหลังของเสื้อ มีสัญลักษณ์ รูปขางเขนศักดิ์สิทธิ์ อยู่ ระดับพลังแต่ละคนล้วนอยู่ชนชั้น ราชันย์นักรบ!!ทั้งสิ้น

” องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิง…ทางเราได้รับรายงานมาว่าท่านแอบติดต่อกับพวกเผ่าอสูร!! เป็นความจริงใช่หรือไม่? ” ชายชรากล่าวถามแก่องค์จักรพรรดิ์ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเคารพแม้แต่น้อย

” ใช่เรื่องที่ข้าติดต่อกับเผ่าอสูรเป็นความจริง..แล้วเจ้าจะทำไม? ”

องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เฉยชาทำให้คนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา…

” ดี!! ทางโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์สาขาทวีปจรัสแสง ขอตัดสินให้องค์จักรพรรดิ์ถังหนานเหิงออกจากตำแหน่งองค์….. ” ชายชรากล่าวไม่ทันจบ องค์จักรพรรดิ์ ก็ได้กล่าวขัดขึ้น…

” ช้าก่อน!! โถ่วๆข้าก็นึกว่าเรื่องอะไรที่ดั้นด้นหอบสังขารมาถึงที่นี้…ข้าอยากจะบอกว่าข้า ติดต่อกับเผ่าอสูรจริง…แต่ข้าไม่ได้ติดต่ออย่างลับๆ ข้าแค่ส่งทหารนายนึงไปเท่านั้นเอง…ต่อข้าปิดเป็นความลับจริง เจ้าคงไม่มีทางรู้หรอก!! ” องค์จักรพรรดิ์กล่าวด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายพร้อมแค่นเสียงออกมา..

เหล่าคนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นทันที…

” นี้ท่านกล้า ใช้คำพูดเช่นนี้กับผู้อาวุโสลำดับที่41!! แห่งโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นรึ..ขนาดองค์จักรพรรดิ์ของทวีปอื่นยังนอบน้อมและเกรงใจเรา…แต่นี้ท่านกล้าขนาดนี้เลยเหรอ!! ”

องค์จักรพรรดิ์ถังหนานเหิงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลุกขึ้นออกจากที่ประทับ ก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาอันเฉียบคมราวกับกระบี่ก็มิปาน…

” ฮ่าๆๆ!! ข้ากล้าแล้วมันจะทำไม ที่นี้คือทวีปจรัสแสง!!เป็นทวีปที่ข้าต้องดูแลอย่าเหมารวมว่าข้าจะเหมือนกับพวกนั้นสิ..มันเสียมารยาท!! ” องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน…จนในที่สุด คนของทางโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ เก็บกั้นความโกรธไว้ไม่ไหว จนหันคมเขี้ยวใส่องค์จักรพรรดิ์ผู้ปกครองทวีป….

ทหารภายในห้องโถงเตรียมหันอาวุธใส่คนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่องค์รักษ์เงาอย่าง กวนเหอ!! ที่แอบซ่อนตัวอยู่เกือบจะลงมือสังหารคนของ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์!! แต่…

” ไม่ต้องยุ่ง!! ”

องค์จักรพรรดิ์ถังหนานเหิงกล่าวเสียงแข็ง…ก่อนจะเชื้อเชิญคนผู้นั้นซึ่งในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ถังไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน…จนถึงวันนี้

เมื่อเหล่าทหารได้ยินเช่นนั้นก็ลดอาวุธลง กวนเหอก็รอดูทีท่าต่อไป…องค์จักรพรรดิ์ถังหนานเหิงปลดเสื้อคลุมสีทองอร่ามออกเผยให้เห็นถึงมัดกล้ามที่ยังสมบูณ์แบบ ไร้ที่ติ ก่อนจะระเบิดพลังระดับ จักรพรรดิ์ที่แท้จริงขั้นที่2 !! ออกมา… สร้างความตกตะลึงให้กับ ทางโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ และเหล่าทหารองค์รักษ์ภายในห้องโถงอย่างถึงที่สุด…

” ข้าองค์จักรพรรดิ์รุ่นที่43!!แห่งทวีปจรัสแสง ขอตัดขาดจากโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการ และขอขับไล่ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ออกจากทวีปแห่งนี้!! ในนามของจักรพรรดิ์…. หวงหลงออกมา!! ”

ภายในห้องโถงปรากฏมังกรสีทองขนาดมหึมาโผล่ขึ้นข้างหลังขององค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงแล้วโอบร่างของจักรพรรดิ์ไว้…แววตาสีทองจับจ้องมองคนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยแววตาที่แฝงไว้ด้วยจิตสังหาร…

กรรรรรรรรร!!!

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท