เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่74 สร้างเมือง 1

ตอนที่74 สร้างเมือง 1

ไป๋หลงกล่าวอธิบายเรื่องของขงจือให้กับอู้เฉียงฟังซึ่งนี้เป็นครั้งแรกที่อู้เฉียงเห็นการปรากฏตัวของขงจือ….หลังจากขงจือได้แร่ศักดิ์ที่ได้มาจากไป๋หลง(แย่งมา) ไป๋หลงถึงแม้จะสงสัยแต่มิได้กล่าวถามสิ่งใดออกมา..ก่อนจะมุ่งหน้ากลับตระกูลชุนพร้อมกับบุตรแห่งราชันมังกรเพลิงที่เกาะแขนไป๋หลงตลอดเวลา…ไป๋หลงแปลกใจเล็กน้อยที่เด็กคนนี้ไม่ห่างตนแม้แต่ก้าวเดียว แต่ไป๋หลงมิได้ใส่ใจมุ่งหน้ากลับตระกูลชุนทันทีเพื่อทำภาระหน้าที่บางอย่างที่ติดค้างมาช้านาน….

……………………………………..

ณ.ตระกูลชุน

” ท่านพ่อเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นรึ..ที่แร่ทั้งหมดโดนขโมยไปจนหมดสิ้น ” เสียงที่กล่าวถามด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดใจซึ่งก็คือชุนไห่ผู้ซึ่งเป็นพี่ของชุนยี่นั้นเอง..

” อืม…พ่อเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นฝีมือของผู้ใดแต่น่าจะไม่ใช้ฝีมือของมนุษย์เป็นแน่.. ” ชุนเปียวกล่าวอธิบายให้ชุนไห่ได้ฟัง..

” เหตุใดท่านพ่อจึงคิดเช่นนั้น.. ” ชุนไห่กล่าวถามด้วยความใคร่รู้ในทันทีตามประสาเด็กที่ขี้สงสัยเป็นปกติ…

” เรื่องมันซับซ้อนเอาเป็นว่าชั่งมันเถอะ..แล้วนี้น้องของเจ้าหายไปไหนซะละเหตุใดข้ากลับมาถึงยังไม่เห็นนางเลย… ” ชุนเปียวกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเอ็นดูพลางลูบหัวของชุนไห่ เมื่อชุ่นไห่ได้ยินเช่นนั้นก็คลี่ยิ้มออกมาในทันที..

” ตามข้ามาสิท่านพ่อ ” ชุนไห่กล่าวอย่างมีเลศนัยบางอย่างพลางยิ้มระรื่นชื่นบานตลอดเวลาจนชุนเปียวรู้สึกเกิดความใคร่รู้ขึ้นและเดินตามชุนไห่ไปในทันที…

ลานกว้างภายในตระกูลชุนที่ตอนนี้มีหนึ่งหญิงสาวและหนึ่งบุรุษที่ส่งสายตาให้กันก่อนจะเข้าฟาดฟันกันด้วยเพลงกระบี่ ซึ่งทั้งสองคนนี้จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นั้นก็คือไป๋หลงและชุนยี่นั่นเอง ชุนยี่ฟาดฟันกระบี่เหมันต์เข้าใส่ไป๋หลงอย่างต่อเนื่อง…ไป๋หลงเพียงเอี้ยวตัวหลบและนำกระบี่เล่มนึงออกมาแหวนมิติก่อนที่กระบี่ทั้งสองจะเข้าปะทะกัน..

เคร้ง!!

” ศิษย์พี่ชุ่นยี่..ท่านต้องตั้งสมาธิให้แน่วแน่ในการฟาดฟันแต่ละครั้งท่านต้องคุมพลังและควบคุมมันจนก่อเกิดเป็นรูปร่างเช่นนี้.. ” ไป๋หลงกล่าวจบก็รวบรวมพลังห่อหุมไว้ที่ตัวกระบี่ จนเกิดเป็นออร่าสีเหลืองทองก่อตัวขึ้นก่อนจะแปรปรวนไปเป็นรูปกระบี่ขนาดใหญ่แต่มิได้ใหญ่เท่ากับเมื่อครั้งต่อสู้กับตระกูลชิน….

ชุนยี่ได้เห็นมหาวิชาที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งจนสามารถผ่าภูเขาทั้งลูกได้ก็ตาลุกวาวแฝงไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย…

” ศิษย์น้องไป๋หลง…ข้าควรเรียกเจ้าว่าเช่นนี้หรือไม่ ทั้งส่วนสูง และอายุของเจ้านำหน้าหน้าข้าไปแล้ว ข้าควรจะเรียกเจ้าว่าเช่นไร.. ” ชุนยี่กล่าวถามด้วยน้ำที่หยอกล้อเล็กน้อย..

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นเพียงยิ้มอ่อนออกมาและสลายพลังที่สร้างกระบี่ขึ้นเพราะรอยยิ้มของไป๋หลงจนหัวใจของชุนยี่เต้นผิดจังหวะ…

” แล้วแต่ศิษย์พี่..จะเรียกเถิด ” ไป๋หลงบอกกล่าวแก่ชุนยี่

ชุนยี่เพียงพยักหน้าและยิ้มออกมา ก่อนที่ไป๋หลงจะสอนการควบคุมพลังอีกครั้งนึงโดยหารู้ไหมว่ามีแววตา4คู่และอีกนับ10กำลังจ้องมองพวกตนทั้งคู้อยู่…หนึ่งในนั้นก็คืออู้เฉียงและเด็กน้อยสีผมโลหิตเพลิงที่มองไป๋หลงด้วยแววตาไม่พอใจเล็กน้อย…อาจจะเป็นเพราะหึงหวงก็เป็นได้

อู้เฉียงพยามเรียกเฟิงหวงหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อยได้เพียงแค่นั่งข้างสนามประลองกับเด็กน้อยอีกหนึ่งคนที่มีพลังพอจะเขย่าทั้งทวีปได้เพียงแค่ต้องการเท่านั้น…

” เป็นไงละท่านพ่อ…น้องของข้ากำลังตั้งใจฝึกวิชาอย่างหนักหน่วงกับศิษย์น้องไป๋หลง ” ชุนไห่กล่าวไว้ด้วยแฝงเลศนัยบางอย่าง….

ชุนเปียวเดินเข้ามาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันไม่ธรรมดาที่แผ่ออกมาจากไป๋หลงอีกไหนจะผู้ติดตามที่แอบมองอยู่ระยะไกลเพื่อเฝ้ามองนายของตน..ด้วยสัมผัสอันเฉียบคมชนชั้นจักรพรรดิ์ย่อมสามารถสัมผัสพลังได้บางส่วนก่อนที่ชุนเปียวจะเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง!!

” บะ..บ้าน่า!!ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีธาตุแสงที่บริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นไม่มีทางที่มนุษย์จะมีความบริสุทธิ์ถึงระดับนี้ได้!!…ไม่สิเดี๋ยวก่อนบางที… ”

ขณะชุนเปียววกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึงก่อนจะเหลืออันไปมองบางอย่างที่นั่งอยู่ใกล้กับลานประลองทำให้ชุนเปียวถึงกับเบิกตากว้างขึ้นอีกครั้ง…

” ระดับ ราชันย์นักรบ!! เด็กตัวแค่นี้เเต่ระดับพลังกับเทียบเท่ากับผู้อาวุโสหรือไม่ก็สูงกว่าด้วยซ้ำเด็กคนนั้นเป็นใครกัน.. ”

ชุนยี่เมื่อเห็นว่าผู้เป็นพ่อมาก็หยุดการฝึกซ้อมในทันที..

” ท่านพ่อ..ท่านกลับมาแล้ว..เรื่องที่ประชุมเป็นเช่นไรบ้าง ” ชุนยี่กล่าวถามด้วยความเป็นห่วงเพราะช่วงนี้เห็นบิดาของตนมีท่าทีเคร่งเครียดอยู่เป็นประจำ..

ชุนเปียวได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น…

” เรื่องมันจบแล้วลูกพ่อ…แร่ทั้งหมดโดนขโมยไปหมดสิ้น!! โดยไม่รุ้ว่าเป็นฝีมือใครด้วยซ้ำทำเอา ท่านหลี่หยาง หัวเสียไปไม่น้อย.. ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เกือบจะสะดุดล้มลงตรงนั้นในขณะเดินมาหาชุนเปียว…

” คาราวะท่านชุนเปียว…ส่วนทั้งสองคนนั้นคือ สหายของข้าเอง ” ไป๋หลงประสานมือกล่าวตอบด้วยความนอบน้อม.. อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็ประสานมือ แล้วโค้งตัวเล็กน้อย..เว้นก็แต่เด็กสาวผมสีแดงโลหิต…

” ไม่ต้องเป็นพิธีมากหรอก..ข้าได้ยินมาแล้วว่าเจ้าได้รับผลกระทบจากวิชาบางอย่างทำให้เป็นเช่นนี้..แล้วเจ้าบอกได้ไหมว่าวิชาที่เจ้าทั้งสองคนฝึกคือวิชาอะไร? ” ชุนเปียวกล่าวถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กำลังมองปฏิกริยาของไป๋หลง..

ไป๋หลงมีหรือจะไม่รู้ก่อนจะกล่าวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น..

” วิชาต้องห้าม!! ขอรับ ” ไป๋หลงที่กล่าวโกหกออกมาเช่นนี้เพราะไม่ต้องการให้ชุนเปียวทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น…

ชุนเปียวได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างก่อนจะกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว…

” ถือว่าพวกเจ้าใจกล้ามากที่เสี่ยงฝึกวิชาแบบนั้นซึ่งนี้ก็คือผลที่เจ้าได้รับงั้นสินะ.. ”

” ขอรับ ” ไป๋หลงกล่าวตอบในทันที

” แล้วเจ้ามาที่นี้มีเหตุอันใดเช่นั้นหรือ มีอะไรให้ข้าช่วยก็บอกได้ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง.. ” ชุนเปียวกล่าวถามออกมาตรงๆเพราะครั้งหนึ่งไป๋หลงเคยมอบกระบี่เหมันต์ให้กับบุตรีของตนถือว่า ติดหนี่ครั้งใหญ่แล้ว

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาตรงๆในทันทีเพราะเหลือเวลาไม่ถึง2เดือนไป๋หลงจะต้องไปสอบเข้าสถาบันเทพมาร…

” ข้าอยากจะสร้างเมืองที่มนุษย์และอสูรอยู่ร่วมกันได้ขอรับ ”

ชุนเปียวได้ยินเช่นนั้นก็แข็งค้างแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึังอย่างถึงที่สุด…

” อะไรนะ!! “

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท