เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่81 อสูรทะเลโบราณอสรพิษ 7 สี

ตอนที่81 อสูรทะเลโบราณอสรพิษ 7 สี

ท่าเรือขนส่งสินค้าทวีปจรัสแสง…

ท่าเรือขนส่งสินค้าทวีปจรัสแสงนั้นอยู่ใกล้กับเมืองจรัสแสง..ซึ้งท่าเรือแห่งนี้มีความสำคัญด้านการส่งออกสินค้าทางทะเลเป็นอย่างมาก..เพื่อส่งสินค้าไปขายยังทวีปอื่นๆ ซึ้งตอนนี้ไป๋หลง จี้กง อู้เฉียง ฟา และ เว่ยเว่ย อยู่บนเรือขนส่งสินค้า…เพื่อไปยังทวีปมืดซึ้งใช้เวลาประมาณ4-5วัน โดยปกตินั้นเรือขนส่งจะใช้เวลาประมาณ10กว่าวัน แต่เรือขนส่งลำนี้ใช้ แกนอสูร!! ในการขับเคลื่อนทำให้เรือลำนี้ใช้ความเร็วและพิเศษกว่าเรือลำอื่นๆ และเสี่ยงต่อการถูกปล้นกลางทะเลเช่นกัน…พวกไป๋หลงจึงสมัครเป็นผู้คุ้มกันชั่วคราว…เพราะตอนนี้ชุดที่ไป๋หลงส่วมใส่อยู่นั้นคือ ศิษย์หลัก!! ขอสำนักหมื่นกระบี่ ทำให้เจ้าของเรือไว้ใจและมอบหมายงานนี้ให้กับไป๋หลง..

” นี้ไป๋หลงทำไมเจ้าถึงเลือกการเดินทางผ่านทะเลละ? ในเมื่อเจ้าจะเดินทางไปเองก็ได้นิ ” อู้เฉียงกล่าวด้วยความสงสัย..

” เห้อ…ข้าไปได้ก็จริงแล้วเจ้าละ..การควบคุมปีกเพลิงของเจ้ายังไม่เชี่ยวชาญพอที่จะใช้…อีกอย่างเราต้องทำตัวไม่ให้เป็นจุดเด่นข้าเลยต้องใช้การเดินทางผ่านทะเลและให้ ฟา และ เว่ยเว่ยแต่งตัวปกปิดถึงเช่นนี้ ความงามของทั้งสองคนอาจทำให้เกิดปัญหาได้… ” ไป๋หลงกล่าวอธิบายให้อู้เฉียงฟัง

อู้เฉียงแสดงสีหน้าปั้นยากก่อนจะเดินจากไปไป๋หลงเข้าใจได้ในทันทีว่าตอนนี้อู้เฉียงกำลังกล่าวโทษตัวเองเป็นแน่แท้!!สาเหตุที่ไป๋หลงกล่าวตรงเช่นนี้เพราะไป๋หลงต้องการให้อู้เฉียงเร่งพัฒนาฝีมือให้อยู่ถึงระดับสูงเท่าที่จะเป็นไปได้…

” นายท่าน…มีบางอย่างกำลังพุ่งมาจากใต้ทะเลลึก!!โปรดระวังตัว ” จี้กงกล่าวด้วยความกังวลเพราะด้วยสัมผัสแห่งเผ่าเทพถึงแม้จี้กง จะเป็นทหารเทพชั้นปลายแถวถ้ากล่าวกันตามตรง แต่เรื่องฝีมือและเรื่องระวังภัยต่างๆด้วยสัมผัสอันเฉียบคมทำให้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นได้…

” ข้าเข้าใจแล้ว..ว่าแต่ทั้งที่ข้าปล่อยสัมผัสตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาทำไมข้าถึงไม่สามารถตรวจสอบการคงอยู่ของมันได้กัน… ” ไป๋หลงกล่าวด้วยความสงสัยพลางขมวดคิ้ว..

” เป็นไปได้ว่าจะเป็นสัตว์อสูรใต้เมืองบาดาล!!ที่มีสติปัญญาเฉกเช่นมนุษย์ และรู้จักการลบสัมผัสตัวเองเพื่อเข้าระยะประชิด..แต่มันมิอาจรอดพ้นการตรวจสอบด้วยสัมผัสเทพเป็นอันขาด!! ” จี้กงกล่าวอธิบายในขณะนั้นเอง..

ตู้มมม!!

มีบางอย่างโผ่ลขึ้นมาเหนือผิวน้ำซึ้งเป็นงูยักษ์เกร็ดสีน้ำเงินมันวาวเมื่อเกร็ดเหล่านั้นตกกระทบกับแสงอาทิตย์ทำให้เกร็ดเหล่านั้นเรืองแสงระยิบระยับในทันที…

” แย่แล้ว!! อสูรทะเล พวกเราได้ตายกันหมดแน่… ” เสียงของลูกเรือกล่าวขึ้นด้วยความสุดขีด..

” บัดซบ..อย่าไปกลัวสู้มัน ไปเอาระเบิดอักขระมาเดี๋ยวนี้!! ” เสียงของผู้เป็นหัวหน้าบนเรือแห่งนี้กล่าวออกคำสั่งแก่ลูกเรือของตน..

ฟ่อวววววว!!!

สัตว์อสูรดังกล่าวส่งเสียงขู่ออกมาพร้อมกับอ้าปากเพื่อจะพ่นบางอย่างออกมาซึ้งน่าจะเป็นพิษที่สามารถละลายได้แม้แต่อาวุธอักขระ…

” นายท่าน ข้าสามารถสั่งหารมันได้ในทันที..เพียงท่านสั่งมาเท่านั้น !! ” จี้กงกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมพร้อมสังหารงูยักษ์ตัวนั้นในทันที…

” ช้าก่อน..ข้าว่าไม่ต้องถึงมือพวกเราแล้วหละดูนางผู้นั้นสิ.. ” ไป๋หลงกล่าวพร้อมกับจดจ้องไปยังสตรีและกลุ่มคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกันกำลังเผชิญหน้ากับงูยักษ์..

กลุ่มคนที่ยืนอยู่นั้นมีราวๆ5-6คน หนึ่งในนั้นก้าวออกมาเป็นสตรีนางหนึ่งที่งดงามไม่แพ้ฟาแม้แต่น้อยดวงตาสีน้ำเงินเข้มเส้มผมสีเงินยาวสลวยผิวกายขาวดุจหยกกำลังปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมา

” นั้นมันกลุ่มรุ่นเยาว์ที่เก่งกาจที่สุดแห่งสำนักอัสนี!! พวกเรารอดแล้ว ”

” ดูนั้นนางกำลังทำบางอย่าง ”

เหล่าลูกเรือต่างจดจ้องไปยังการกระทำบางอย่างของสตรีนางนั้น…ไม่เว้นแม้แต่ไป๋หลงที่กำลังเฝ้ามองอย่างเงียบๆ

” หวังฟาง…แน่ใจนะว่าเจ้าสามารถสังหารมันได้..ถึงแม้พวกเจ้าจะถูกเรียกว่ากลุ่มรุ่นเยาว์ที่เก่งกาจแต่ข้าว่ามัน่าจะเกินมือไปหรือไม่ ” เสียงที่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงนั้นก็คือเสียงของเจ้าสำนักอัสนี้ ที่เป็นคู่ปรับกับสำหนักหมื่นกระบี่เมื่อนานมาแล้ว…

” ข้าแน่ใจ ” หวังฟางกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเด็ดขาดก่อนจะย่างเท้าลงไปในน้ำทะเล…ไป๋หลงอดแปลกใจไม่ได้ก่อนจะสั่นสะท้านในทันทีเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับน้ำทะเลโดยรอบ..

นั่นมัน!!

น้ำทะเลโดยรอบโดนแช่แข็งรวมไปถึงงูยักษ์ก็โดนแช่แข็งไปด้วยแต่ด้วยความแข็งแกร่งที่เป็นถึงสัตว์อสูรเจ้าทะเลทำให้ไม่สามารถตรึงด้วยน้ำแข็งเป็นเวลานานได้…

” ศิษย์พี่หวังฟางแช่แข็งมันแล้วรีบจัดการ!!มันเร็วเข้า ” เสียงของชายรูปร่างกำยำสูงใหญ่กล่าว ก่อนจะหยินอาวุธอักขระที่มีรูปร่างเป็นค้อนยักษ์ออกมา..

” ข้าไม่ยอมให้เจ้าแย่งผลงานไปคนเดียวหรอก…เชอะ ” เสียงของหญิงสาวร่างเล็กกล่าวก่อนจะเข้าปะทะกับงูยักษ์…

” ข้าด้วยสิ ” เสียงของผู้เยาว์กล่าวก่อนจะมุ่งเข้าปะทะกับอสูรทะเลในทันที

” ข้าร่วมด้วยอย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว.. ”

อสูรทะเลโดนอาวุธขระและกระบวนท่าต่างๆเข้าใส่แต่หน้าแปลกที่อสูรทะเลตนนี้นั้นยังสามารถต้านทานกระบวนท่าอันหนักหน่วงและรุนแรงได้…

” อัสนีลงทัณฑ์!! ” ช่ายร่างกำยำอายุราวๆ20กว่าปีฟาดค้อนขนาดใหญ่ลงบนหัวของอสูรทะเล..

ตู้มมมม!!!

” กระบวนท่าสามประสานอัสนีพิพากษา!! ”

ผู้เยาว์ทั้ง3คนใช้กระบวนท่าที่ต้องใช้ถึงสามคนในการแสดงพลังออกมาเกิดเป็นเสาอัสนีล้อมรอบอสูรทะเลตัวนั้นเอาไว้…

ขณะนั้นเองเจ้าสำนักอัสนีสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างก่อนจะใบหน้าขาวซีด..

” พวกเจ้าทั้งหมดถอยอออกมา…นั้นมันไม่ใช่สัตว์อสูรทะเลธรรมดาแต่มันคือ สัตว์อสููรทะเลโบราณ!! อสรพิษ 7 สี ชนชั้น ราชันย์อสูรที่แท้จริงขั้น8!!…ความสามารถของมันคือดูดซับความเสียหายทั้งหมดที่เกิดจากพลังที่พวกเจ้าสร้างความเสียหายให้มันตอนนี้…ไม่คิดเลยว่ามันจะเจ้าเล่ห์เปลี่ยนสีเกร็ดให้กลายเป็นสัตว์อสูรทะเลทั่วไป…พวกเจ้าถอยออกมาเดี๋ยวนี้ข้าจะถ่วงเวลาไว้ให้ ”

พวกลูกเรือได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง..

” จะมัวยืนทำบ้าอะไรอยู่..รีบหนีเร็วเข้าใช้พลังแกนอสูรให้ถึงขีดสุดซะ!! มิเช่นนั้นพวกเจ้าได้กลายเป็นผีเฝ้าทะเลแน่!! ”

เจ้าสำนักอัสนีกล่าวพร้อมกับแฝงพลังไปในเสียงทำให้พวกลูกเรือและหัวหน้าเรือลำนี้ได้สติก่อนจะเร่งดำเนินการในทันที…เจ้าสำนักอัสนีสังเกตุเห็นบางอย่างก่อนจะแผดเสียงออกมา..

” บัดซบ!!..มันมีเป้าหมายคือหวังฟาง ”

หวังฟางถึงแม้จะเห็นว่าสัตว์อสูรทะเลเข้ามาหาตนแต่ก็มิอาจขยับไปไหนได้เพราะพลังแห่งการเยือกแข็งของตนจะค่อยๆสลายไป…

” เจ้างูสารเลว!!..หวังฟางถอยออกมา ” เจ้าสำนักอัสนีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ…ก่อนที่อสูรทะเลโบราณตนนั้นจะเข้าระยะประชิดหวังฟางได้ทันใดนั้นเอง…

ย่างก้าวอัสนีขั้นสมบูณ์!!!

ฟึบ!!

” ข้าว่า..ท่านน่าจะเชื่ออาจารย์ตัวเองสักนิดนะแบบนี้ชีวิตท่านจะสั้นเอาง่ายๆ ”

หวังฟางตกตะลึงในทันทีเพราะตนนั้นอยู่ในอ้อมแขนของบุรุษ..ซึ้งตั้งแต่นางเกิดมานั้นมิเคยโดนบุรุษอุ้มแม้แต่น้อย..

” จะ…เจ้าเป็นใครวางข้าลงเดี๋ยวนี้!! ” หวังฟางกล่าวด้วบใบหน้าที่แดงละเรื่อ…ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้น…

” ข้าไม่อยากจะล่วงลงทะเลเอาหรอกนะ..อีกอย่างถ้าข้าไม่ช่วยป่านนี้ท่านคงแย่ไปแล้ว..อีกอย่างพรรคพวกของท่านก็ถอยขึ้นกันไปบนชั้นที่สามของเรือแล้วเอาเป็นว่าข้าจะส่งท่านขึ้นไปก็แล้วกันแต่ก่อนอื่นท่านช่วยทำให้พื้นที่โดยรอบเป็นน้ำแข็งได้หรือไม่? ไม่ต้องเจาะจงที่อสูรทะเลนั้นแค่บริเวณรอบๆก็พอ.. ”

หวังฟางได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยความสงสัยในที…

” เจ้าจะทำสิ่งใด ”

” เดี๋ยวท่านก็รู้เอาเป็นว่าทำตามที่ข้าบอกก็พอแล้ว ”

ไป๋หลงกล่าวจบก็ขึ้นมาจนถึงชั้น3ของเรือที่เป็นพื้นที่โล่งเปล่าเท่านั้น..ไป๋หลงขึ้นมาพร้อมกับประกายสายฟ้าสีแดงเข้มโลหิตที่เท้าของไป๋หลงแบบอ่อนๆ..แต่มีหรือเจ้าสำนักอัสนีจะดูไม่ออกพร้อมกับสั่นสะท้านในทันที…

” ทะ..ท่าร่างย่างก้าวอัสนีขั้นสมบูณ์!! “

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท