เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่82 มือเปล่า

ตอนที่82 มือเปล่า

” ทะ..ท่าร่างย่างก้าวอัสนีขั้นสมบูณ์!! ”

เจ้าสำนักอัสนีสถบขึ้นภายในใจด้วยที่ตนนั้นเป็นถึงปรามจารย์ด้านธาตุอัสนีที่เน้นฝึกท่าร่างการเคลื่อนไหวเป็นหลัก..ยังไม่ถึงครึ่งนึงของท่าร่างเมื่อครู่แม้แต่น้อย

” เอาละ..ข้าขึ้นมาส่งท่านแล้วดูเหมือนเจ้าอสูรทะเลนั้นจะหงุดหงิดน่าดู..ทำตามที่ข้าเคยกล่าวไว้ด้วย ”

ไป๋หลงกล่าวซ้ำแก่หวังฟางอีกรอบ..เหล่าศิษย์จากสำนักอัสนีต่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ที่แน่ๆ คนนี้คือคนที่ช่วยศิษย์พี่ของพวกตนไว้…ไป๋หลงปล่อยหวังฟากออกจากอ้อมแขนในทันที..

” เจ้าเป็นใครกันแน่..เดี๋ยวนะนี้มันชุดศิษย์หลักแห่งสำนักหมื่นกระบี่!! ” หวังฟางกล่าวด้วยความตกตะลึงเล็กน้อยรวมทั้งคนของสำนักอัสนีก็เช่นกันเพราะพึ่งสังเกตุชุดที่ไป๋หลงสวมใส่เป็นชุดสีขาวที่ถูกถักทออย่างดีกับสัญลักษณ์กระบี่บนอกเสื้อ..

” เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนทำตามที่ข้าบอกเร็วเข้า!!..มันเปลี่ยนสีเกร็ดเป็น7สีแล้วมันเตรียมจะโจมตีอีกรอบ ” ไป๋หลงรีบกล่าวเตือน

อสูรทะเลโบราณอสรพิษ7สี กำลังขับพิษอันร้ายแรงออกมาจากร่างกายพิษที่สัมผัสกับน้ำแข็งก่อนหน้านี้ละลายในทันที!!

” เจ้าไม่ได้ยินที่เจ้าสำนักข้าพูดรึไง อสรพิษ7สีต้านทานการโจมตีและดูดซับพลังได้ทุกธาตุในธาตุทั้ง7 ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง มืด น้ำแข็ง เจ้าคิดว่าเจ้าจะเอามือเปล่าๆไปต่อยมันรึไง!! ”

หวังฟางกล่าวอธิบายเพราะไม่อยากให้ไป๋หลงนั้นทำอะไรสิ้นคิดลงไป..

” เร็วเข้า…ต่อให้เจ้าสำนักของเจ้าที่อยู่ชนชั้นจักรพรรดิ์!!!ก็มิอาจปกป้องพวกเจ้าจากพิษอันร้ายกาจนั้นได้อยู่ดี..จะหนีก็หนีไม่พ้นหรอกด้วยความเร็วเท่านี้มีหวังได้ไปนอนเล่นในท้องของอสูรทะเลบัดซบนี้แน่!! ” ไป๋หลงกล่าวซ้ำอีกครา..

เจ้าสำนักอัสนีได้ยินเช่นนัันถึงกับเบิกตากว้างในทันทีรวมถึงเหล่าศิษย์ที่ติดตามมาด้วย..ซึ้งแน่นอนว่าเหล่าศิษย์นั้นต่างรู้ระดับพลังของอาจารย์ตน..แต่กับคนที่พึ่งเจอกันครั้งแรกกลับสามารถตรวจสอบระดับพลังของเจ้าสำนักตนนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน…

” หวังฟางทำตามที่เจ้าหนุ่มนั้นบอกเร็วเข้า!!… ” เจ้าสำนักอัสนีกล่าวขึ้นด้วยตนเอง..หวังฟางจึงยอมทำตามแต่โดยดี

ทันใดนั้นพื้นทะเลโดยรอบกลายเป็นน้ำแข็งในทันทีเพียงแค่หวังฟางตั้งสมาธิและใช้สายตาเพ่งมองลงไปในน้ำทะเลเป็นทักษะพิเศษเฉพาะผู้มีธาตุน้ำแข็งเท่านั้น…

” จะทำอะไรก็ทำ!! ข้าไม่สามารถทำให้ทะเลแข็งได้ตลอดหรอกนะ ” หวังฟางกล่าวกับไป๋หลง

ไป๋หลงเพียงยิ้มยียวนกวนประสาทกลับมาเท่านั้น ฟา จี้กง และ เว่ยเว่ย นั้นโดนไป๋หลงสั่งห้ามมิให้ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนี้เด็ดขาดจึงทำได้เพียงมองอยู่ห่างๆ…

” เอาละ…ไหนมาทดสอบกันดีกว่าว่าเจ้าแข็งแกร่งจริงดั่งความสามารถรึเปล่า!!” ไป๋หลงกล่าวพร้อมกับชูมือขวาขึ้นทันใดนั้นบรรยากาศโดยรอบพลันสั่นสะเทือนในทันที หวังฟางและเหล่าศิษย์ร่วมสำนักพลันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นไม่เว้นแม้แต่เจ้าสำนักอัสนีที่กำลังสั่นสะท้าน แม้..เป้าหมายไม่ใช่พวกตนแต่สามารถรับรู้ถึงแรงกดดันประหลาดที่น่าหวาดหวั่นนี้ได้

” หวังย่ง..นี้เจ้าแอบซ่อนสัตว์ประหลาดเช่นนี้ไว้งั้นรึร้ายกาจยิ่งนัก!! ” เจ้าสำนักอัสนีสถบออกมาก่อนจะจดจ้องเตุการณ์ที่เกิดขึ้น…

” บัญญัติแห่งราชันย์!! ”

ตึง!!

ไป๋หลงลดมือขวาลงมาเรื่อยพร้อมกับแรงกดดันที่เล่นงานจิตใจโดยตรง!! อสูรทะเลโบราณนั้นอยู่มานับพันปี ผ่านแรงกดดันต่อศัตรูมามากมายภายใต้มหาสมุทรแห่งนี้ แรงกดดันไป๋หลงจึงส่งผลไม่มากนักกับอสูรทะเลโบราณตัวนี้…

” ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้..ต่อไป ” ไป๋หลงกล่าวพร้อมกับสลายแรงกดดันทั้งหมดก่อนจะปรากฏกระบี่โปร่งใสที่สามาถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านับหมื่นเล่ม ล้อมรอบไป๋หลงอยู่ในตอนนี้ ราวกับเทพกระบี่!!ลงมาจุติก็มิปาน

” ศะ..ศิษย์พี่หวังฟางบอกข้าทีนี้ข้าตาฝาดไปรึเปล่า!! ” ศิษย์น้องเล็กสุดกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่ยากจะเชื่อเรื่องที่อยู่เบื้องหน้า

” ข้าก็ไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน..ท่านอาจารย์ท่านคิดเช่นไร?.. ” หวังฟางหันไปหาเจ้าสำนักตนพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น

” เจ้าเด็กนั้นมีฐานพลังที่แตกต่างจากคนทั่วไป!! และ ยังบรรลุย่างก้าวอัสนีแล้วด้วย!! ” เจ้าสำนักอัสนีกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยากจะคาดเดา…

ไป๋หลงเพ่งสมาธิจนถึงขีดสุดพร้อมกับเหงื่อกาฬที่ผุดขึ้นมา…

” หมื่นกระบี่สยบเทวาขั้น1 !!! ”

กระบี่โปรงใสนับหมื่นเล่มหมุนวนรอบไป๋หลงโดยมีไป๋หลงเป็นจุดศูนย์กลางของกระบี่นับหมื่นเล่มเหล่าลูกเรือและเหล่าผู้คนที่อยู่บนเรือลำนี้กำลังได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ของกระบวนท่าที่เคยยิ่งใหญ่ในสมัยก่อนจนผู้คนขนานไป๋หลงว่า เทพกระบี่!!

” เจ้าเด็กนี้พัฒนาการอย่างก้าวกระโดดจนน่าตกใจจริงๆ!! ” ขงจือกล่าวขึ้นอย่างแผ่วเบาก่อนจะเงียบหายไปอีกครั้ง….

ไป๋หลงควบคุมกระบี่นับหมื่นพุ่งเข้าหาอสูรโบราณอสรพิษ7สีในทันที… อสรพิษโบราณเปล่งประกายเกร็ดสีรุ้งก่อนจะกลายเป็นม่านพลังสีรุ้ง..

ตู้มมมมม!!!

กระบี่โปรงใสหมื่นกว่าเล่มพุ่งเข้าปะทะเข้ากับม่านพลังสีรุ้งในทันทีแต่กลับมิอาจสร้างความเสียหายได้แม้แต่น้อย

” ถึงพลังทำลายจะสูงส่งเพียงใด…แต่เมื่อต้องเจอกับสัตว์อสูรโบราณความสามารถขี้โกงเช่นนี้ก็เปล่าประโยชน์สินะ!! ทดสอบมากไปกว่านี้เห็นทีจะเปล่าประโยชน์ มาจบเรื่องนี้ดีกว่า”

ไป๋หงกล่าวพร้อมกับสลายพลังทั้งหมดทิ้งไปทั้งหมดกระบี่ที่เหลืออยู่ก็ถูกทำให้หายไปจนหมดก่อนที่ไป๋หลงจะรวบรวมพลังจากจุดบ่มเพาะพลังและระเบิดพลังในนั้นออกมา..

ตู้มมม!!

ราชันย์นักรบขั้น 8 !!!

เหล่าบรรดาศิษย์จากสำนักอัสนีต่างตกตะลึงระดับพลังของไป๋หลง..เพราะระดับพลังของหวังฟางนั้นอยู่ที่ ราชันย์นักรบขั้นที่ 4 เท่านั้นยังถูกยกย่องให้เป็นอัจฉริยะของตระกูลหวังด้วยอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น ส่วนศิษย์สำนักอัสนีที่เหลือล้วนอยู่ระดับ ราชันย์นักรบ ขั้นที่ 1 หรือ ไม่ก็ 2 ทั้งสิ้น…

” นี้มันไม่ใช่อัจฉริยะแล้ว..สัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์แน่ๆ!! ” ศิษย์น้องร่างเล็กกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึง..

” แล้วนั้นเขากำลังทำอะไร? ” ชายร่างกำยำกล่าวขึ้นด้วยความสงสสัย ก่อนที่ทุกคนจะจับจ้องไปยังไป๋หลง

ไป๋หลงในยามนี้ปลดปล่อยพลังออกมาเต็มที่และบีบอัดพลังเหล่านั้นให้ไปรวมที่แขน ขา และ ลำตัว ถูกห่อหุ้มไปด้วยออร่าสีทองจางๆ…และประกายอัสนีสีแดงเข้มก็ปรากฎขึ้นอย่างแจ่มชัดที่เท้าทั้งสองข้างของไป๋หลง..

” ย่างก้าวอัสนีขั้นสมบูณ์!! ”

ไป๋หลงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วจนมิอาจจะตามการเคลื่อนไหวของไป๋หลงทัน..

” เร็วมาก!!..แต่เดี๋ยวนะอย่าบอกนะว่าที่ให้ข้าสร้างพื้นน้ำขึ้นเพราะจะใช้เคลื่อนไหวบนแผ่นน้ำแข็งพวกนั้นอย่างงั้นรึ ” หวังฟางกล่าวด้วยความตกตะลึง..พลางใช้สมาธิในการควบคุมให้พื้นน้ำแข็งอยู่ได้นานที่สุด…

” แต่ที่มากไปกว่านั้นเขาจะใช้แค่มือเปล่าเนี้ยนะข้าไม่เคยเห็นใครบ้าบิ่นแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต…มือเปล่าๆจะไปทำอะไรสัตว์อสูรเชื้อสายโบราณตัวนั้นได้ ” ศิษย์อีกคนที่เงียบมานานเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสันทัศน์ กล่าวขึ้น..

” ในเมื่อเจ้าสามารถรับการโจมตีและดูดซับพลังได้ถึง7ธาตุงั้นเจ้าลองดูดซับหมัดข้าดู!! ” ไป๋หลงโผล่ขึ้นเหนือหัวของอสรพิษตัวนั้น ก่อนจะต่อยด้วยพละกำลังล้วนๆในทันที… อสรพิษรู้สึกถึงการมาของไป๋หลงช้าไปจึงโดนหมัดเข้าไปกลางหัวเต็มๆเพราะม่านพลังสีรุ้งนั้นป้องกันเพียงแค่พลังที่ถูกส่งมาเท่านั้นมิได้ป้องกันสิ่งมีชีวิตทำให้ไป๋หลงเข้ามาได้อย่างง่ายดาย..

ตึงงง!!

อสรพิษโบราณหัวกระแทกพื้นน้ำแข็งจนพื้นที่โดยรอบเกิดรอยร้าวในทันที… เหล่าลูกเรือและศิษย์จากสำนักอัสนีต่างแข็งค้างราวกับโดนแช่แข็งก่อนจะสถบออกมา…

” อะไรกันเนี่ยยยยยยย!!!”

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท