เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่92 สองปะทะหมื่น

ตอนที่92 สองปะทะหมื่น

เหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว..แต่ก็มีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่มิได้ก้าวถอยหลังกลับกันแววตายังเต็มไปด้วยจิตสังหารซึ้งก็คือหลี่อาน ที่เคยปะทะกับไป๋หลงเมื่อครั้งที่ตอนไปงานประมูล…

” แข็งแกร่งจนน่ากลัวเกินไป…ต้องรีบกำจัดมันโดยเร็ว ” หลี่อานกล่าวขึ้นก่อนจะแทรกซึมไปกับผู้คนจนไม่สามารถสังเกตุได้..

ไป๋หลงในตอนนี้สูญเสียพลังไปถึง 4 ใน10 ส่วน เพราะบัญญัติแห่งราชันย์ สะกดข่มผู้คนเกือบครึ่งหมื่นสร้างภาระให้กับร่างกายโดยปกติ ไป๋หลงสามารถใช้ทุกกระบวนท่าควบคู่กันไปได้..แต่ครั้งนี้ไป๋หลงไม่ยอมสูญเสียพลังโดยเปล่าประโยชน์…และให้เมลเป็นผู้ช่วยในครั้งนี้

” ถ้าพวกเจ้าไม่เข้ามาพวกข้าก็จะเข้าไปเอง!! ” ไป๋หลงกล่าวจบ อัสนีสีแดงฉานก็ห่อหุ้มร่างหายของไป๋หลงคล้ายเกราะรบ…

ศาสตร์ตราอัสนี!!

ไป๋หลงพยามจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุดซึ้งแน่นอนการที่ไป๋หลงกล่าวออกไปในตอนแรกเพียงแค่ต้องการสร้างความกดดันเท่านั้น..

ไป๋หลงในยามนี้ราวกับเทพสายฟ้าลงมาจุติยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เข้าแข่งขัน..เมื่อผู้อาวุโสคุมสอบเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยชนชั้นจักรพรรดิ์ที่แท้จริง!!

” ใครก็ตามที่เอาชนะ2คนนั้นได้จะได้เข้าศึกษาในสถาบันเทพมารในทันที..แล้วก็ยังสามารถขอโอสถ ตำรายุทธ 5 ครั้งต่อ1เดือน โดยปกติแล้ว จะให้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น..ขอรับประกันด้วยตัวข้าผู้อาวุโสลำดับที่12 แห่งสถาบันเทพมาร!! ”

เสียงที่เอ่ยขึ้นสร้างความโกราหลขึ้นอีกครั้ง..ไป๋หลงถึงกับใบหน้าดำมืดในทันที…เมลก็ไม่ต่างกันใบหน้าบิดเบี้ยวจนดูอัปลักษณ์..

” เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าผู้อาวุโสลำดับที่12ใช่หรือไหม…ไม่น่าเชื่อผู้อาวุโสระดับนั้นจะลงมาคุมสอบด้วยตัวเอง.. ”

” ต่อให้ต้องตายข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วย..ไป๋หลง เมล ”

” พวกเราทุกคนเตรียมบุก!! อย่าไปกลัว ”

” ใช่ๆ กระบวนท่าที่รุนแรงเช่นนั้นย่อมต้องแลกด้วยพลังมหาศาล.. ”

เหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างรู้สึกหึกเหิมเพราะผู้อาวุโสในสถาบันนั้นมีราวๆ1000กว่าคนและจะมีลำดับไว้เรียกแทนชื่อ ตัวเลกยิ่งน้อยยิ่งแสดงถึงความแข็งแกร่ง…

หวังฟางใบหน้าไม่สู้ดีคิดอยากจะไปช่วยไป๋หลงที่เคยช่วยตนไว้ แต่ก็โดน ศิษย์น้องเล็กห้ามไว้..

” ศิษย์พี่ใจเย็นลองดูนั้น..ข้าสัมผัสพลังที่น่ากลัวกำลังออกมาจากไป๋หลง ” ศิษย์น้องเล็กพยามกล่าวอธิบาย..

หวังฟางจึงรอดูสถานการณ์ไปก่อน..

ทางฝั่งของเผ่าเทพ..

ตอนนี้เผ่าเทพทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงพลังงานด้านลบบางอย่าง…

” ชิเอล..พลังแบบนี้มัน!!”

” พลังที่น่าสะอิดสะเอียน..หรือว่ามนุษย์ผู้นั้นจะฝึกวิชาของเผ่ามาร!!” ชิเอลกล่าวขึ้นและสั่งห้ามเผ่าเทพทุกตนไม่ให้ยุ่งกับเรื่องนี้..

” ท่านต้องการแบบนี้ใช่หรือไม่!! ได้..ข้าจะสังหารพวกมันทั้งหมดและต่อด้วยท่าน!! ” ไป๋หลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา..

แม้แต่เมลยังอดที่จะขนลุกไม่ได้..ตอนนี้หลิงหลุนและขงจือพยามสะกัดพลังด้านลบของไป๋หลงไม่ให้ประทุออกมามากกว่านี้..

” นี้เจ้าจะแกล้งเด็กนั้นไปถึงไหน!! ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ” เสียงภายในจิตสำนึกของผู้อาวุโส12ดังขึ้น..

” ข้าก็แค่อยากทดสอบอะไรเท่านั้นเอง..แต่เจ้าหนูนั่นบอกว่าจะสังหารข้าด้วยนะ ฮ่าๆๆๆๆ ” ผู้อาวุโส12 กล่าวผ่านจิตสำนึกแล้วก็หัวเราะขึ้น..

” รีบจบการทดสอบได้ ด้านนอกวุ่นวายกันใหญ่แล้วอยู่ดีๆ พวกศิษย์ที่เข้ามาผ่านไปไม่นานโดนส่งกลับออกมาแต่ละคนร้องอย่างกับตายไปแล้วรอบนึงข้าเลยต้องลงมาดูเองนี้ไงเล่า… ”

” ข้าเข้าใจแล้ว..แต่ขออีกนิดนึง ” ผู้อาวุโส12 กล่าวขึ้น

” นี้เจ้า..เห้อออ รับผิดชอบเรื่องที่เจ้าก่อขึ้นไว้เองก็แล้วกัน.. ”

เสียงลึกลับที่กล่าวพูดคุยกับผู้อาวุโส12 เงียบไป ทันใดนั้นผู้อาวุโส12 ก็เอ่ยขึ้น..

” หากเจ้าทำให้ข้าขยับตัวได้..ข้าจะยอมทำตามที่เจ้าขอ3 อย่าง..เจ้าจะตกลงหรือไม่!! ”

แน่นอนการได้รับการช่วยจากชนชั้น จักรพรรดิที่แท้จริง!! นั้นย่อมมีค่ามหาศาลเป็นอย่างมากถึงแม้ไป๋หลงจะมีลิ่วหลงกุน ที่เป็นชนชั้นเทพสงคราม!! แต่ก็ไม่อาจที่จะขอความช่วยเหลืออะไรได้หากอยู่ในสถาบันแห่งนี้…

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็แววตาเปลี่ยนเป็นประกายในทันทีพลังด้านลบที่กำลังจะประทุออกมาหายไปจนหมดสิ้น แม้แต่เมลและเผ่าเทพบางตนถึงกับขมวดคิ้วรวมถึงชิเอล

ด้วย..

” พลังด้านลบหายไปแล้ว!! นี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้เกิดอะไรขึ้นอยู่ๆก็หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน!!.. ”

ชิเอลกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน..

หลังจากไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็คลายศาสตร์ตราอัสนีออกในทันทีก่อนจะเอ่ยกล่าวถามขึ้น..

” ท่านแน่ใจหรือไม่? ถ้าท่านโกหกเล่า..หลังจากที่ข้าใช้พลังในการทำให้ท่านขยับหรือเคลื่อนที่จนหมดท่านจะให้ผู้เข้าสอบเหล่านั้นเล่นงานข้าใช่หรือไม่ ”

ผู้อาวุโส12ได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาใส่ทันที..

” เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครข้าย่อมไม่ผิดสัญญา..ถ้าเจ้ายังไม่เชื่อดูนี้ ”

ผู้อาวุโสนำมือทั้งสองข้างมาประกบกันและตบฝ่ามือเข้าหากัน..

” แปะ!! ”

เกิดเสียงตบมือดังขึ้นก่อนที่ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดภายในราวๆ5000กว่ากลายเป็นแสงสีขาวหายไปในทันทีรวมถึงเมลเช่นกันเว้นก็แต่เพียงเผ่าเทพเท่านั้นที่ยังคงอยุ่และเว่ยเว่ยที่กำลังเดินเตาะแตะๆ มาหาไป๋หลง…ยิ่งสร้างความตกตะลึงและแปลกใจให้กับผู้อาวุโส12ขึ้นไปอีก..

” เหตุใด..เด็กนั้นถึงไม่ได้รับผลกระทบจากค่ายกลกันนะ..จบนี้ข้าต้องตรวจสอบบางอย่างแล้ว ”

ผู้อาวุโส12 ได้แต่ขบคิด..ส่วนเผ่าเทพนั้นเป็นที่รู้ดีว่าค่ายกลส่วนใหญ่ไม่อาจใช้ได้ผลกับเผ่าเทพซึ้งนี้คือความพิเศษของเผ่าเทพอีกอย่างนึง…

ผู้อาวุโส12 จงใจใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายผู้เข้าสอบทั้งหมดออกไปเพื่อให้ไป๋หลงเชื่อมั่นในคำพูดที่ตนได้กล่าวไว้….

” เว่ยเว่ย รอตรงนี้สักพักนึงนะ ทุกอย่างจะเรียบร้อย ” ไป๋หลงกล่างด้วยน้ำเสียงอ่อน พลางลูบหัวเว่ยเว่ย…

เว่ยเว่ยพยักหน้าตอบรับก่อนจะหันไปหาทางฝั่งเผ่าเทพและจดจ้องไปยังเทพตนนึง…

ซึ้งตอนนี้เผ่าเทพตนนั้นถึงกับเบิกตากว้างและถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวความสง่าของเผ่าเทพไม่เหลือแม้แต่น้อยเพราะเทพตนนั้นกำลังจะตรวจสอบเว่ยเว่ยกลับโดนแรงกดดันผ่านสายตาส่งผ่านมาก่อเกิดเป็นมังกรเพลิงขนาดใหญ่มหึมา!! ภายในห้วงความคิดของเทพตนนั้นราวกับตนเป็นเพียงมดตัวเล็กๆเท่านั้น..

” นะ..นี้มันราชันย์มะ..มังกรเพลิง!! ”

จบ..

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท