เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่108 ปฐมนิเทศ 1

ตอนที่108 ปฐมนิเทศ 1

หลังจากจบการแข่งขันอันดุเดือดลงหลายฝ่ายต่างตระหนักถึงเรื่องในครั้งนี้..มีลูกของเหล่าขุนนางทั้งหลายได้ตกตายลง ณ หุบเขาแห่งการจองจำบ้างก็เป็นลูกของผู้นำตระกูลใหญ่โตจนเกิดข้อพิพาทขึ้นว่าการสอบครั้งหน้าควรตัดบททดสอบนี้ออกไปหรือยังคงไว้ต่อดี…

ซึ้งในตอนแรกทางสถาบันได้แจ้งรายละเอียดไปแล้วจึงทำให้หลายฝ่ายมิอาจโต้แย้งๆใดๆได้แต่ถึงกระนั้นการจะเปลี่ยนบททดสอบในแต่ละด่านที่คงรูปเดิมมาแต่สมัยโบราณต้องได้รับการอนุมัติจากเบื้องบน..

………………………………………….

ซึ้งตระกูลหลี่ในยามนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤตขั้นหนักหนาสาหัสตั้งแต่ก่อตั้งตระกูลมา…ซึ้งเรื่องนี้เกิดจากนายน้อยผู้ที่จะต้องสืบทอดตระกูลหลี่ต่อไปในอนาคต..โดนสังหารตาย!!! โดยฝีมือของใครบางคนเพราะลูกแก้ววิญญาณของหลี่อานได้แตกดับลง!!!

หลี่หยางได้ติดต่อไปยังเจ้าสำนักวารพิสุทธิ์หรือก็คือชวี่เอ๋อนั้นเองซึ้งคำตอบที่ได้ทำให้หลี่หยางใบหน้าบิดเบี้ยวเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ!!!

” อ้ากกกก!!! ลูกข้าใครกันที่มันบังอาจมาสังหารเจ้าข้าจะล้างโคตรมันทั้งตระกูล!!! ” หลี่หยางกล่าวออกมาด้วยความเดือดดาล

” ท่านผู้นำ!!! ได้โปรดระงับตอนนี้เราได้ส่งคนของเราส่งไปหาเพื่อหาข้อมูลและหาร่างของนายน้อยให้เจอโดยเร็วที่สุด.. ” ข้ารับใช้ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นเพื่อให้หลี่หยางใจเย็นลง… ( หลี่อานตายในตอนที่ 101 เพราะพยามจะทำร้ายไป๋หลง )

หลี่หยางนิ่งเงียบก่อนที่แววตาจะฉายแววมุ่งร้ายอาฆาตออกมา..หรือว่าจะเป็นเด็กนั่นที่เคยมีปัญหากับบุตรของตน…ขณะนั้นเองหลี่หยางได้กล่าวขึ้นอย่างมีเลศนัย

” ไปหาข้อมูลกับเด็กที่ชื่อไป๋หลงมาให้มากที่สุด!!! แล้วกลับมารายงานข้าถ้าหาไม่ได้โทษของเจ้า…ก็น่าจะรู้ดี ”

ข้ารับใช้ผู้นั้นได้ยินสั่นสะท้านไปทั้งตัวก่อนจะรีบรับคำสั่งและจากไปโดยเร็ว..

” ต่อให้เจ้ารู้จักกับองค์จักรพรรดิ์!!!..ถ้าเจ้ามีส่วนเกี่ยวกับการตายของบุตรข้าเจ้าก็ต้องตายตามลูกข้าไปก็แล้วกัน!!! ”

หลี่อานกล่าวจบก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง…

……………………………………………………..

วันนี้เป็นวันแรกที่ไป๋หลงอู้เฉียงและเว่ยเว่ยเข้ามาศึกษาภายในสถาบันเทพมารแห่งนี้..ซึ้งวันนี้คือวันปฐมนิเทศผู้อำนวยแห่งสถาบันเทพมารจะมาพบปะและพูดคุยกับศิษย์รุ่นใหม่!!!

ซึ้งไป๋หลงในยามนี้นั้นด้วยใบหน้าและรูปลักษณ์ราวกับแม่ทัพผู้ไร้พ่าย!!!ยิ่งเสริมสร้างรัศมีอันน่านับถือส่วนอู้เฉียงแม้นไม่ได้หล่อเหลาแต่ด้วยรูปลักษณ์อันสมส่วนและมัดกล้ามที่มีอยู่อย่างพอดีทำให้เปล่งรัศมีราวกับนักสู้ที่แข็งแกร่งดุจขุนเขาที่ตั้งตระหง่าน…ไม่เว้นแม้แต่เว่ยเว่ยถึงแม้ยังเด็กแต่ความสวยสดงดงามต้องตาบุรุษเป็นอย่างมากแต่ไม่มีใครที่จะอาจหาญพอที่จะเข้าไป…เพราะไป๋หลงนั้นเอง

เพราะเหล่าศิษย์ที่ยังอยู่ยังจำวีรกรรมที่เกิดขึ้นกระบี่นับหมื่น!! พุ่งปักร่างของคนแล้วคนเล่าราวกับฝนกระบี่ที่ไม่มีวันสิ้นสุดความเจ็บปวดที่ราวกับตายไปรอบนึงแล้วสร้างควมตระหนักมากยิ่งขึ้นว่าคนผู้นี้คือบุคคลที่ไม่ควรหาเรื่องใส่มากที่สุด!!!! แต่ใช่ว่ารุ่นพี่ที่มาร่วมต้อนรับศิษย์ใหม่จะรู้จักไป๋หลง…

” นี้เจ้าศิษย์ใหม่..ข้าอยากจะคุยกับน้องสาวที่ตามเจ้ามาด้วยได้หรือไม่..หวังว่าคงจะเข้าใจนะถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในสถาบันแห่งนี้!!! ” ศิษย์ผู้หนึ่งที่เป็นรุ่นพี่ชั้นปีที่สูงกว่าไป๋หลงดูจากสัญลักษณ์ที่ติดอยู่บนอกเสื้อ..

” เป็นอะไร…ไม่ได้ยินรึยังไงพี่ข้าบอกให้พวกเจ้าหลีกทางพี่ข้าจะคุยกับแม่นางน้อยผู้นั้น ” ศิษย์อีกคนที่ตามมาด้วยดูท่าจะเป็นพี่น้องกันเอ่ยขึ้นแต่แววตากลับจับจ้องไปยังดุรณีน้อยด้วยความกระหายบางอย่าง..

อู้เฉียงสามารถมองเห็นระดับพลังของบุคคลตรงหน้าได้เป็นระดับที่ไม่สูงมากอู้เฉียงเพียงรอการตัดสินใจจากไป๋หลงเท่านั้น…เวลานี้อาจารย์ยังไม่มาทำให้ไม่มีใครคอยคุมหรือดูแลอยู่ในเวลานี้

สายตาทุกคู่เริ่มจับจ้องไปยังกลุ่มของไป๋หลงก่อนที่ศิษย์บางคนจะอุทานขึ้น..

” นะ..นั่นมันเทพสังหารไป๋หลง ”

” ห้ะ…เทพสังหารไป๋หลงอย่างงั้นรึ ดูท่าศิษย์พี่พวกนั้นยังไม่รู้ถึงความร้ายกาจของเทพสังหารไป๋หลงเสียแล้ว!!! ”

” แต่ถึงยังไงก็เป็นถึงรุ่นพี่คงจะไม่ง่ายละมั้งนะ ”

” ข้าไม่รู้..แต่ที่แน่ๆบางอย่างที่สนุกกำลังจะเกิดขึ้นเป็นแน่แท้ ”

เหล่าศิษย์ที่สอบเข้ามาพร้อมกับไป๋หลงเอ่ยขึ้นต่างๆนาๆจนไปเข้าหูรุ่นพี่บางคนเข้า..

” นี้ศิษย์น้อง..ข้าขอถามอะไรได้หรือไม่ เทพสังหารไป๋หลงนี้คือใครเหรอ? ” บุรุษที่เอ่ยขึ้นนั้นมีแววตาสีฟ้าครามเส้นผมสีเงินยาวสลวยใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพก็มิปาน

เมื่อศิษย์รุ่นน้องเห็นลำดับบนหกเสื้อถึงกับใบหน้าด้านช้าเพราะมันคือหมายเลย3 นั้นเอง!!! ก่อนที่ศิษย์ผู้นั้นจะเอ่ยตอบอย่างสุภาพ

” เทพสังหารไป๋หลงคือผู้นั้น ขอรับเป็นศิษย์ที่เชียวชาญกระบี่เป็นอย่างมากกระบวนท่ารุนแรง!!!ร้ายกาจและดุดันราวกับแม่ทัพสวรรค์ก็มิปานและการสังหารที่ไร้ความปราณี..ทำให้พวกเราตั้งฉายาว่าเทพสังหารขอรับ ”

ศิษย์รุ่นพี่ได้ยินเช่นนั้นแววตาเป็นประกายในทันทีก่อนจะกล่าวขึ้น..

” เห..น่าสนใจดีนิไป๋หลงสินะ….ศิษย์ปีนี้ดูท่าจะมีสัตว์ประหลาดเพิ่มเข้ามาแล้วสิ ขอชมฝีมือหน่อยก็แล้วกัน..อ้อแล้วก็ขอบใจเจ้ามาก ฮ่าๆๆๆ ” ศิษย์ผู้เป็นรุ่นพี่กล่าวจบก็เปลี่ยนแววตาเป็นดุดันก่อนจะจดจ้องไปเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้…

…………………………………………….

ไป๋หลงนิ่งสงบผิดปกติก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงพลางทำท่าทางเยาะเย้ย…

” พวกท่านนี้ชอบกินเด็กหรืออย่างไร…โตเท่ากระบือแล้ว!!! ยังจะมาสนใจเด็กอีกพวกท่านมันน่ารังเกียจจริงๆให้ตายเถอะ สถาบันเทพมารแห่งนี้ข้าไม่คิดว่าจะมีพวกแบบพวกท่านด้วย เห้อๆๆ ”

ศิษย์รุ่นพี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ราวกับถูกตบหน้าเข้าอย่างจังบวกกับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้น…

” กะ..แก รนหาที่เองนะ พวกเราสองพี่น้องได้ชื่อว่าไร้เทียมทานในศิษย์ลำดับที่8ด้วยกันๅ!!! กล้าพูดเช่นนี้คงต้องมอบบทเรียนอันสุดแสนล้ำค่าเสียแล้ว…ตายซะ!!! ”

หมัดอัดกระแทก!!!

หมัดสุญญากาศ!!!

สองพี่น้องระเบิดกระบวนท่าออกมาพร้อมกันพร้อม..ออกหมัดที่อัดพลังไว้จนอากาศรอบข้างสั่นสะเทือน!!! พุ่งตรงมายังด้านหน้าของไป๋หลง…ไป๋หลงกลับยืนนิ่ง…สองพี่น้องเมื่อเห็นเช่นนั้นก็แสยะยิ้มอันชั่วร้ายออกมา..

ศิษย์รุ่นพี่ชั้นปี3เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วในทันที..ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น!!!

แววตาของไป๋หลงจากสีแดงมรกตสวยงามเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มออกมาราวกับสีของน้ำทะเลมหาสมุทรไป๋หลงยืนนิ่งไม่ไหวติงก่อนที่หมัดจะถึงตัวไป๋หลงนั้นเอง เงาสีดำปรากฏขึ้นเบื้องหน้าไป๋หลงก่อนที่หมัดนั้นจะอัดกระแทกเข้ากับเงาอย่างจัง

ตู้มมมม!!!

ก่อนที่ศิษพี่น้องคู้นั้นจะโดนพลังที่ปล่อยไปสวนกลับมาทั้งหมดเพราะเงาสีดำที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าไป๋หลงดูดพลังที่ปล่อยออกมาก่อนจะส่งกลับไปเป็นแรงกระแทกยิ่งโจมตีมาแรงเท่าใดก็จะโนพลังตัวเองสวนกลับเป็นเท่าตัว…ชื่อของกระบวนท่าที่ไป๋หลงใช้นั้นคือ

” เงาแปรผัน!!! ”

ซึ้งไป๋หลงเป็นพวกเรียนรู้อะไรรวดเร็วจึงฝึกกระบวนท่าเงาได้บางท่าแล้วยังไม่ถึงที่สุดของขั้นวิชา…ศิษย์พี่คู่นั้นกระเด็นไปไกลเป็นทางยาวก่อนจะกระอักโลหิตออกมาคำโต…

แต่นั้นยังไม่เท่ากับที่ไป๋หลงมิได้เคลื่อนไหวใดๆด้วยซ้ำนี้สิยิ่งขายหน้าเสียยิ่งกว่า…

” เฮ..สมแล้วที่เป็นเทพสังหารไป๋หลง ”

” ใช่ แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!! ”

” ชู่วว!!! พวกเจ้าอย่าออกตัวแรงมากนักเดี๋ยวก็โดนหมายหัวหรอก ”

ศิษย์อีกคนกล่าวเตือนก่อนที่เสียงจะเบาลง…ไป๋หลงเดินย่างก้าวสามขุมก็มาถึงตรงหน้าศิษย์พี่น้องคู่นั้นก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น…

” ต่อไปนี้อย่ามารังควานพวกเราอีก!!! ต่างคนต่างอยู่ข้าไม่อยากก่อเรื่องสังหารศิษย์รุ่นพี่ที่ทำตัวเหล่สาวเหตุผลมันทุเรศเกินไป!!! ข้าพูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้ายังไม่ฟังประตูปรโลกย่อมต้อนรับพวกท่านสองคนเป็นแน่แท้!!! ”

จบครึ่งแรก

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท