เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่118 แตกต่าง 1

ตอนที่118 แตกต่าง 1

หลังจากวันนั้นทุกคนหลังจากเสร็จสิ้นในการเรียนแต่ละวันทั้ง30คนจะมุ่งหน้าไปที่เดียวกันคือ..สถานที่พักของไป๋หลงที่ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นลานฝึกขนาดกลางที่ไป๋หลงได้ไปทำเรื่องของผู้อำนวยการสายนอกซึ้งผลก็เป็นอย่างที่ไป๋หลงคาดเอาไว้..

กองกำลังที่มี30คนอาจจะมองว่าเป็นจำนวนที่เยอะแต่…ถือว่าน้อยเป็นอย่างมากในหมู่กองกำลังที่ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างน้อยสุดก็มีเพียง60คนแต่นี้น้อยกว่าเป็นเท่าตัวด้วยซ้ำ…

ซึ้งฝีมือทั้ง30คนถูกเยอะระดับขึ้นอย่างน่าประหลาดใจภายในห้องมิติแห่งนั้นที่ไป๋หลงสร้างขึ้น!! ซึ้งแน่นอนเรื่องราวดังกล่าวถูกเก็บเป็นความลับ..สมาชิกในกลุ่มเท่านั้นที่มีโอกาสได้ใช้

อู้เฉียงมีหน้าที่ฝึกสอนมีที่ถนัดด้านความเร็วและการโจมตีอย่างฉับพลัน..ส่วนจางลี่เป็นผู้วิเคราะห์แผนการก็มีหน้าที่ฝึกสอนผู้ที่ต้องการเก่งด้านกลยุทธ์ เรียกได้ว่ากองกำลังแห่งนี้ฝึกสอนทักษะแทบจะครบทุกด้านเลยก็ว่าได้

ส่วนเหิงฟูศิษย์เผ่ามังกรสายเลือกที่แท้จริงหลังจากที่ได้ไป๋หลงช่วยคลายผนึกแล้วระดับพลังก็ถูกยกระดับมาอยู่ที่ ชนชั้นราชันนักรบ ขั้นที่1 ซึ้งเป็นระดับพลังที่แม้แต่ศิษย์สายหลักบางคนยังไม่ถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ..ซึ้งเหิงฟูได้มาถามไป๋หลงเกี่ยวผนึกดั่งกล่าว.

ไป๋หลงได้อธิบายคร่าวๆว่า ผนึกที่ผนึกพลังของเหิงฟูนั้นเป็นผนึกแบบพิเศษที่มีกลไกซับซ้อนอยู่พอสมควรแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าไป๋หลง..มันก็เป็นเพียงแค่ของเด็กเล่นเท่านั้นด้วยความสามารถของตาเทพ..ไป๋หลงสามารถวิเคราะห์กลไกต่างๆออกมาได้อย่างสมบูณ์แบบ

ผนึกที่ว่า เป็นผนึกที่คาดว่า เหิงฟูน่าจะโดนผนึกพลังโดยไม่รู้ตัวโดยสาเหตุบางอย่าง…ซึ้งปกติโดยทั่วหากรู้ความจริงว่าพลังของตัวเองถูกผนึกจะต้องเดือดดาลและเต็มไปด้วยโทสะ..แต่เหิงฟูกลับสงบนิ่งจนไป๋หลงเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย..

” คงจะเป็นเมื่อตอนนั้น..ท่านแม่ท่านทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่นะ”

ไป๋หลงได้ยินคำว่าแม่ไป๋หลงราวกับสติหลุดไปชั่วครู่เพราะเป้าหมายของตนคือช่วยผู้เป็นแม่และพ่อจากการจองจำซึ้งไป๋หลงยังไม่เคยเจอหน้าพ่อของตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว!!

” เอาละตอนนี้ระดับพลังของเจ้าอาจะอยู่เหนื่อกว่าศิษย์หลักบางคนไปแล้วถ้าเป็นไปตามที่ข้าคิด..อีกไม่นานความลับเรื่องความแข็งแกร่งของกองกำลังเราอาจจะรั่วไหลก็เป็นได้..เพราะฉะนั้นข้าจึงฝากกำชับเจ้าเรื่องคนเข้าออกภายในกองกำลังของเราให้ดี..อีกไม่นานข้าจะสร้างป้ายประจำกลุ่มเพื่อแจกจ่ายให้กับพวกเราทุกคน!!..รวมถึงสร้างเขตแดนป้องกันขึ้นมา ” ไป๋หลงกล่าวพลางวิเคราะห์ถึงเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นภายภาคหน้า

เหิงฟูได้ยินเช่นนั้นก็ประสานมือให้การเคารพไป๋หลง…

” ข้าจะทำให้ดีที่สุด..ว่าแต่พี่ใหญ่ท่านได้ยินเรื่องเกี่ยวกับจักรพรรดินีในกลุ่มศิษย์หญิงบ้างหรือไม่!! ว่ากันตามข่าวลือที่ได้รับมานางเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอัคคีที่แม้แต่อาจารย์เฉพาะทางยังต้องอาย และอีกอย่างนางนั้นสง่างามเลอโฉมราวกับจักรพรรดินี แม้รูปร่างยังเป็นเด็กแต่บางคนเราว่านางนั้นใช้วิชาบางอย่างเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตนเอาไว้!!!”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแนบแน่น..

” เป็นเด็ก? สง่างาม? แล้วยังเชี่ยวชาญด้านเพลิง…หรือว่า!!! ” ไป๋หลงแสดงท่าทีครุ่นคริดก่อนจะเบิกตากว้าง

ภายในเขตหวงห้ามของศิษย์หญิงสายใน..

” ท่านพี่ ต้องการสิ่งใดโปรดบอกพวกเรามาได้เลยนะเจ้าค่ะ!!! ” เหล่าศิษย์หญิงมากมายต่างอ้อมล้อมเว่ยเว่ยพลางขุกเข่าตลอดเวลาทำเอาตั้งแต่เกิดเรื่องนั่นขึ้น!! เว่ยเว่ยก็กลายเป็นจักรพรรดินีในกลุ่มศิษย์หญิงไปเสียแล้ว

ส่วนเว่ยเว่ยแทบจะเรียกได้ว่าเฉยชาต่อทุกสิ่งยกเว้นก็แต่เพียเก๋อเก๋อเท่านั้นที่ยังคงคุยด้วยตามปกติ..จนผู้คนที่พบเห็นต่างพากันตั้งฉายา ต่างๆมากมายแม้กระทั่งจักรพรรดินีผู้เฉยชา!! ก็ยังมีให้ได้ยิน แม้ทำเนียบศิษย์ใหม่เมื่อไม่นานมานี้..หัวหน้ากลุ่มของทำเนียบศิษย์ใหม่เดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเว่ยเว่ยไม่แม้แต่จะปริปากออกมา..

ซึ้งแม้จะเป็นทำเนียบศิษย์ใหม่ก็ยังไม่อาจทำให้จักรพรรดินีผู้นี้ปริปากได้..หรือจะบังคับก็ไม่ได้เช่นกันเพราะ ทุกคนต่างรู้ดีในศิษย์ชั้นปี1ว่า เด็กคนนี้มีความสำคัญต่อเทพสังหารไป๋หลง!! นั้นทำให้ไม่ค่อยมีชายใดมายุ่งมากเท่าไหร่ เว้นก็แต่ชั้นปีอื่นที่ข่าวคราวเริ่มจะจางหายไปยิ่งผ่านวันไป..

ซึ้งตอนนี้เว่ยเว่ยกำลังจะออกจากเขตที่พักของศิษย์หญิงเพื่อจะไปยังส่วนกลางเพื่อตามหาไป๋หลง..แต่เก๋อเก๋อได้พูดอธิบายจนทำให้เว่ยเว่ยมีท่าทีไม่ค่อยพอใจแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของไป๋หลงที่เคยพูดไว้ทำให้เว่ยเว่ย

ใจเย็นลง…

” เมื่อไหร่ที่เว่ยเว่ยจะได้เจอกับ ปะ ป๋า ? ” เว่ยเว่ยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อและโหยหา..

” เรื่องนั้น..ถ้าเป็นไปตามกำหนดการ ก็น่าจะสิ้นเดือนนี้ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หอคอยเทพสถิต จะถูกเปิดออก เวลานั้นทุกชั้นปีจะต้องมารวมตัวกันเวลานั้น เจ้าจะได้เจอกับ ปะ ป๋า อย่างแน่นอน ” เก๋อเก๋อกล่าวปลอบประโลมระหว่างทางก็มีศิษย์หญิงทำความเคารพเว่ยเว่ยแทบจะตลอดทาง

กองกำลังหญิงจากชั้นปีอื่นได้มาทาบทามเว่ยเว่ยหลายต่อหลายครั้งให้ไปอยู่กองกำลังของตนพร้อมกับยื่นข้อเสนอต่างๆมากมายแต่ล้วนถูกปฏิเสธทั้งสิ้นทำให้สร้างความไม่พอใจให้กับหลายกองกำลังเป็นเรื่องปกติ..

…………………………………………………………..

ภายในสถานที่ตั้งกองกำศิษย์หญิงชั้นปี2…..

” อวดดีเกินไปแล้ว!! ทั้งๆที่เราส่งเทียบเชิญ แถมศิษย์พี่ยังเชิญชวนด้วยตัวเองยังโดนปฏิเสธ…แต่ที่ยิ่งกว่านั้นสายตาเฉยฉานั้นมันอะไรกันจะหยามกันเกินไปแล้ว!! ” ศิษย์คนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด!!

ผิดกับผู้ที่ถูกเรียกว่าศิษย์พี่ ที่สงบเยือกเย็นผิดปกติ..

” ใจเย็นก่อน…มีอีกวิธี ถ้าเราเจรจากับเทพสังหารไป๋หลงได้เรื่องที่จะดึงตัวเว่ยเว่ยมาก็ไม่ใช่ปัญหา!!! ”

ศิษย์หญิงดังกล่าวได้ยินเช่นก็เบิกตากว้างขึ้น…

” จริงด้วยสมเป็นศิษย์พี่..หากเราทำให้เทพสังหารไป๋หลงที่มีความสนิทชิดเชื้อกับเว่ยเว่ยได้ เรื่องอื่นก็ไม่ยาก..แล้วเราจะเดินทางไปพบกับคนที่ชื่อไป๋หลงวันไหนดีศิษย์พี่? ”

ศิษย์พี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด!!

” วันนี้!!! ”

จบ.. ช่วงแรก

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท