ภายในหอคอยเทพสถิตนั้น..ภูมิอากาศและพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล มีสัตว์อสูรมากมายตามพื้นแล้วแต่สภาพพื้นที่บริเวณนั้น..
ผ่านไปไม่นานกองกำลังบางส่วนสามารถทะลวงชั้นที่1 ไปได้แล้วเพราะชั้นปีที่สูงกว่าย่อมมีประสบการณ์และความชำนาญพื้นที่มาก่อนจึงไม่มีปัญหาเท่าไหร่นัก..
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีศิษย์บางคนใช้โอกาสนี้…พยามผ่านขึ้นชั้นต่อไปเพราะคิดว่าหากผู้พิทักษ์ชั้นนั้นโดนจัดการลง….ชั้นนั้นจะสามารถผ่านไปได้โดยง่ายแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น..
” บัดซบผู้พิทักษ์ชั้น1 โดนจัดการไปแล้วเหตุใดมันยังไม่ตาย!!! กลับฟื้นขึ้นมาอีก ”
ศิษย์กลุ่มนึงที่พยามฉวยโอกาส..ลอบติดตามกองกำลังที่พิชิตผู้พิทักษตนนี้ลงได้แต่น่าเสียดายหลังจาก กองกำลังเหล่านั้นเคลื่อนย้ายผ่านประตูมิติไป ผู้พิชิตชั้น1 ก็ฟื้นคืนสภาพสมบูรณ์ในทันที!!!
ผู้พิทักษ์ชั้น1 มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับราชันย์อสูรขั้น1 ซึ้งในหอคอยพิเศษเช่นนี้การที่ผู้พิทักษ์และสัตว์อสูรแข็งแกร่งย่อมเป็นเรื่องปกติ!!
” พวกเราถอย!! ชั้นแรกก็แข็งแกร่งขนาดนี้แล้วชั้นที่อยู่สูงขึ้นไป บ้าชัดๆ เราคงต้องหาวัตถุดิบเพียงแค่ชั้น1 นี้แหละ ถึงจะน่าเสียดาย แต่พวกเรายังไม่แข็งแกร่งพอ ชีวิตก็พวกเราสำคัญที่สุด ถ้าคิดว่าเพียงพอแล้วเราจะผ่านประตูมิติ ชั้นแรกเพื่อออกข้างนอกในทันที… ”
ชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่เอ่ยขึ้น…เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้มีความสามารถในการเป็นผู้นำ..สามารถมองเห็นได้ทันทีว่ากองกำลังของตนยังอ่อนแอเกินไปถึงจะมีกันร้อยกว่าคนก็ตาม….ฝีมือย่อมดีกว่าจำนวนคนหากไร้ซึ้งฝีมือ จำนวนมากไปก็เปล่าประโยชน์…
ระหว่างที่ชายฉกรรณ์กล่าวอยู่นั้นได้มีกองกำลังขนาดเล็กประมาณ30คนเดินทางมาถึง…
เหล่าศิษย์นับร้อยต่างมองกองกำลังเพียง30กว่าคนด้วยสายตาที่แปลกประหลาด…
” ช่วยหลีกทางให้พวกเราด้วย..พวกท่านขวางทางพวกเราอยู่!! ” ศิษย์ที่ใส่เสื้อคลุมปกปิดทั้งตัวแม้กระทั่งใบหน้า เห็นเพียงแค่ดวงตาสีแดงโลหิตเท่านั้น…
” นี้เจ้า!!! ”
” จะอวดดีเกินไปแล้วคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน!! สวมเสื้อคลุมประหลาดปกปิดเหลือแค่เพียงดวงตา?”
” กองกำลังเพียงแค่นี้สงสัยจะเป็นศิษย์ที่พึ่งเข้าใหม่รึ คิดว่าตัวเองเป็นเทพสังหารไป๋หลงที่เขาล่ำลือกันว่าเก่งกาจนักหนารึ!! อาจจะเป็นเพียงข่าวที่ถูกกุขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้ ”
เหล่าศิษย์นับร้อยต่างกล่าวด้วยความไม่พอใจ..มีเพียงผู้ที่เป็นหัวหน้าเท่านั้นที่ยังสงบเยือกเย็นพลางวิเคราะห์สถานการณ์..
” ท่านมีความเป็นผู้นำที่ดี..สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ว่าควรถอยหรือสู้ ข้านับถือ แต่..กองกำลังของท่านยังขาดความสามัคคีและอารมณ์ไม่คงที่..เกรงว่าหากเกิดเรื่องร้ายแรงคงจะเหมือนกับทหารหนีทัพ!!!! ”
ศิษย์ที่สวมเสื้อคลุมเอ่ยขึ้นพลางชี้ไปทางชายฉกรรจ์…เป็นพลังในการวิเคราะห์ที่น่ากลัวสามารถระบุตัวผู้นำได้ทันที..เหล่าศิษย์นับร้อยต่างเดือดดาล..ชายฉกรรจ์ยกมือห้ามขึ้นก่อนจะเอ่ยตอบ..
” ข้าหลางเทียน หัวหน้ากองกำลังหมีแดง แห่งศิษย์ชั้นปี2 ไม่ทราบว่าเจ้าคือ? ”
” เพียงท่านหลีกทางให้พวกเรา..ภายในห้องผู้พิทักษ์แห่งนั้นท่านจะเองว่าข้าเป็นใคร!!! ”
ศิษย์ที่สวมเสื้อคลุมเอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัย..หลางเทียนหัวหน้กองกำลังหมีแดง มิได้มีโทสะ แต่กลับมีความอยากรู้มากยิ่งขึ้น…
เหล่าศิษย์นับร้อยต่างอยากจะพุ่งไปฉีกกระชากร่างของไป๋หลงที่กำลังสวมเสื้อคลุมปกปิดอยู่…และสาเหตุที่ทุกคนไม่สามารถวิเคราะห์ระดับพลังของทุกคนได้เพราะไป๋หลงใช้แร่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้มาในตอนนั้นสร้างแหวนปกปิดพลังทั้งหมด 32 วง…
” ดีๆ ข้าอยากจะรู้แล้วว่าเจ้าเป็นใคร ” หลางเทียนเอ่ยขึ้นด้วยความสนใจ..
เหล่าศิษย์นับร้อยต่างหลีกทางให้กองกำลังเพียง32คน!!
” แล้วข้าจะรอดู..เก่งให้เหมือนปากเจ้าก็แล้วกัน!! ”
ศิษย์ที่ไม่พอใจสถบขึ้น..หลังจากที่กองกำลังของไป๋หลงผ่านเข้าไปในประตู กองกำลังหมีแดงโดยมีผู้นำคือหลางเทียน ก็เข้าตามไป๋หลงไปเช่นกัน…..
…………………………………….
ภายในห้องผู้พิทักษ์ลำดับที่1 ประดับประดาไปด้วยคริสตัลใส..มีรูปร่างคล้ายโถงขนาดใหญ่มีเปลวไฟสีฟ้าตลอดทางในที่สุด..
” นี้สินะ..ผู้พิทักษ์!! ”
ไป๋หลงเอ่ยขึ้นพลางจดจ้องไปยัง ผู้พิทักษตนนึงที่มีรูปร่างสูงใหญ่ มีหางเป็นงู มีหัวแพะ มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยมัดกล้าม..ถือดาบสีดำทมิฬ ไว้สองเล่มทั้งซ้ายและขวา
” ใช่แล้วถ้าก้าวเข้าไปภายในวงกลมมันจะเริ่มโจมตีทันที!!! เจ้าจะทำยังไง? ” หลางเทียนกล่าวขึ้น โดยที่กองกำลังของหลางเทียนยืนรอบข้างเพื่อดูศึกในครั้งนี้…
ไป๋หลงแสยะยิ้มขึ้นภายใต้เสื้อคลุมก่อนจะเริ่มสั่งการในทันที..
” หน่วยป้องกันไปได้…ต่อไปหน่วยโจมตี..สุดท้ายสนับสนุน..ส่วนอู้เฉียงก่อกวนมันก็พอ!! ”
เหล่าศิษย์ทั้ง30 คนพุ่งเข้าไปในทันที…
” กำแพงศิลา!! ”
” ม่านวารี!! ”
หน่วยป้องกันหรือก็คือผู้ที่ถนัดการป้องกันมากกว่าต่อสู้..ไป๋หลงส่งเสริมความสามารถทุกด้านใครถนัดด้านไหนก็ไปให้สุด!!!
ผู้พิทักษ์เริ่มเคลื่อนไหวกวัดแกว่งดาบในมือด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำลายการป้องกันทั้งหมดลงได้…
” อู้เฉียง..ตาเจ้าแล้ว!! ”
ไป๋หลงเอ่ยขึ้นอู้เฉียงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงก่อนจะใช้กระบวนท่าเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของผู้พิทักษ์…
” ปราการอัสนีจองจำ!! ”
เกิดเป็นอัสนีสีทองคลอบคลุมร่างผู้พิทักษ์ไว้..ทำให้การเคลื่อนไหวถูกหยุดชะงัก..
” เหิงฟู..โจมตีที่หัวของมัน!! ”
เหิงฟูไม่รอช้า..เปลี่ยนร่างเป็นมังกรสีทองเพียงครึ่งตัวภายใต้การปกปิดของเสื้อคลุมจึงทำให้เห็นเพียงแต่มือเป็นสีทองเท่านั้น..
” หมัดเศียรมังกรทองคำ!! ”
ตู้มมมม!!
เหล่ากองกำลังนับร้อยต่างแข็งข้างตกตะลึงในความแข็งแกร่งและความพร้อมเพียง…ที่สำคัญความสามารถในการออกคำสั่งชั่งเด็ดขาดรวดเร็ว ราวกับคำสั่งของแม่ทัพ…
” ขะ..ข้าว่าพวกนั้นเก่งยิ่งกว่าปากซะอีก!! ”
ไม่นานไป๋หลงยืนดูพลางทำสีหน้าเคร่งเครียดวิตกกังวล!!..
” แบบนี้ไม่ดีแน่..อ่อนแอเกินไปแล้วแบบนี้กองกำลังที่ข้าฝึกมาก็แสดงฝีมือไม่ได้เต็มที่เป็นแน่!!! ”
ผู้พิทักษ์ล้มลงก่อนจะปลดกลุ่มควันสีแดงออกมา!!!…
” พวกเจ้าถอยออกมา!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นก่อนที่ทุกคนจะทิ้งระยะห่างเพื่อความปลอดภัย…
” โฮกกกกกกก!!! ”
ผู้พิทักษ์ส่งเสียงร้องคำรามออกมาพร้อมกับร่างกายที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงระดับพลังถูกยกระดับขึ้น..พร้อมกับดาบในมือแปรเปลี่ยนเป็นเคียวมรณะ!!!
” ยอดเยี่ยม!!! ”
จางลี่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามขึ้นในทันที..
” อะไรยอดเยี่ยมเหรอพี่ใหญ่? ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าปั้นยากก่อนปริยิ้มขึ้น..
” อ่อ..ข้าหมายถึงพวกนั้นทำการโจมตีประสานกันได้ยอดเยี่ยม…แต่ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปด้วยตัวเองซะแล้ว..เห้อไว้คราวหน้าละกันผู้พิทักษ์ตนนี้มันออกจะเกินไปหน่อย!! จางลี่ฝากที่เหลือต่อด้วย!!”
ไป๋หลงเอ่ยจบก็เดินเข้าไปในพื้นที่วงกลมในทันที..เมื่อมีศัตรูเข้ามาใหม่มันจึงเพ่งเล็งมาที่ไป๋หลงในทันที…
” นั้นเขาจะทำอะไร..ไม่ใช่ว่าผู้ที่สั่งการคือผู้ที่ไม่ถนัดการสู้รบอย่างงั้นรึ!! ” หลางเทียนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจปนตกตะลึง
” ใครบอกกัน? ท่านจะดูถูกพี่ใหญ่เราเกินไปแล้ว ”
จางลี่เอ่ยพลางเฝ้าดูการต่อสู้ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้..
” พวกเจ้าทุกคนถอยออกมา..พี่รองด้วย พี่ใหญ่กำลังจะลงมือแล้ว!! ”
อู้เฉียง เหิงฟู รวมถึงทุกคนถอยห่างออกมาในทันทีตามคำบอกของจางลี่…หน้าที่ของจางลี่คือ ออกคำสั่งต่อจากไป๋หลงหากไป๋หลงไม่สามารถสั่งการได้ด้วยตนเอง…
” ทราบแล้ว..ทุกคนถอย!! ” อู้เฉียงถ่ายทอดคำสั่งอีกทอดนึง..
ไป๋หลงย่างสามขุมก็เข้ามาประจัญหน้ากับผู้พิทักษ์ตนนี้..ราวกับมันรับรู้ว่าตัวเองกำลังโดนหยามเกียรติมันจึงหวัดแกว่งเคียวขนาดใหญ่…หมายจะสะบั้นไป๋หลงให้ขาดท่อนแต่..
เคร้ง!!!
เคียวขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับตรีศูลสีแดงเลือด..ตรีศูลดับสุริยันต์!!…ระหว่างนั้นเองมีศิษย์จากกองกำลังหมีแดงผู้หนึ่งเบิกตากว้างเมื่อเห็นตรีศูลถูกนำออกมา…
” นะ..นั่นมันเหมือนกับอาวุธของเทพสังหารไป๋หลงไม่มีผิด!! ”
เหล่าศิษย์ทั้งหมดต่างเบิกตากว้างก่อนจะใบหน้าขาวซีดเพราะการต่อสู้ได้จบลงแล้วภายในไม่กี่อึดลมหายใจ..ผู้พิทักษ์ตนนั้นถูกผ่าเป็นสองซีกก่อนร่างของผู้พิทักษ์ตนนั้นจะสลายไปพร้อมกับอาวุธและสมุนไพรบางอย่างที่ได้มาจากการโค่นผู้พิทักษ์ตนนี้ลง!!!
ไป๋หลงเดินกลับมาราวกับตนมิได้ออกแรงแม้แต่น้อย..ก่อนจะปลดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่แท้จริง!!..
” นะ..นี้มันเทพสังหารไป๋หลงตัวจริง!!! ”
” บะ..บ้าน่าไม่มีทาง!! ”
เหล่าศิษย์มากมายต่างถกเถียงกันไปมาหลางเทียนยกมือขึ้นให้เป็นสัญญานว่าให้หยุดคุย…
” ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้เจอคนดังที่เขาล่ำลือกัน..แข็งแกร่งกว่าข่าวลือที่ได้รับมาซะอีก ศิษย์น้องข้าต้องขอโทษด้วยที่ดูแคลนฝีมือเจ้าในตอนแรก ฮ่าๆๆ ” หลางเทียนเอ่ยพลางหัวเราะขึ้น
ไป๋หลงเพียงปริยิ้มอ่อนออกมาเท่านั้นก่อนจะเอ่ยขึ้น
” เห็นแก่ที่ท่านเป็นคนมีความสามารถคนนึงข้าจะบอกใบ้อย่างหนึ่งให้!! ”
หลางเทียนได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที…
” ว่ามาสิ..ข้าพร้อมรับฟัง ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เหลียวมองกองกำลังของหลางเทียนชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง..
” ไม่มีซ้าย..ไม่มีขวา..มีแต่เดินหน้าหรือจะหยุดอยู่กับที่!!! ท่านลองคิดดูว่าข้าหมายถึงสิ่งใด ”
จบ.