เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่126 ผู้พิทักษ์ 2 จบ

ตอนที่126 ผู้พิทักษ์ 2 จบ

ภายในหอคอยเทพสถิตนั้น..ภูมิอากาศและพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล มีสัตว์อสูรมากมายตามพื้นแล้วแต่สภาพพื้นที่บริเวณนั้น..

ผ่านไปไม่นานกองกำลังบางส่วนสามารถทะลวงชั้นที่1 ไปได้แล้วเพราะชั้นปีที่สูงกว่าย่อมมีประสบการณ์และความชำนาญพื้นที่มาก่อนจึงไม่มีปัญหาเท่าไหร่นัก..

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีศิษย์บางคนใช้โอกาสนี้…พยามผ่านขึ้นชั้นต่อไปเพราะคิดว่าหากผู้พิทักษ์ชั้นนั้นโดนจัดการลง….ชั้นนั้นจะสามารถผ่านไปได้โดยง่ายแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น..

” บัดซบผู้พิทักษ์ชั้น1 โดนจัดการไปแล้วเหตุใดมันยังไม่ตาย!!! กลับฟื้นขึ้นมาอีก ”

ศิษย์กลุ่มนึงที่พยามฉวยโอกาส..ลอบติดตามกองกำลังที่พิชิตผู้พิทักษตนนี้ลงได้แต่น่าเสียดายหลังจาก กองกำลังเหล่านั้นเคลื่อนย้ายผ่านประตูมิติไป ผู้พิชิตชั้น1 ก็ฟื้นคืนสภาพสมบูรณ์ในทันที!!!

ผู้พิทักษ์ชั้น1 มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับราชันย์อสูรขั้น1 ซึ้งในหอคอยพิเศษเช่นนี้การที่ผู้พิทักษ์และสัตว์อสูรแข็งแกร่งย่อมเป็นเรื่องปกติ!!

” พวกเราถอย!! ชั้นแรกก็แข็งแกร่งขนาดนี้แล้วชั้นที่อยู่สูงขึ้นไป บ้าชัดๆ เราคงต้องหาวัตถุดิบเพียงแค่ชั้น1 นี้แหละ ถึงจะน่าเสียดาย แต่พวกเรายังไม่แข็งแกร่งพอ ชีวิตก็พวกเราสำคัญที่สุด ถ้าคิดว่าเพียงพอแล้วเราจะผ่านประตูมิติ ชั้นแรกเพื่อออกข้างนอกในทันที… ”

ชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่เอ่ยขึ้น…เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้มีความสามารถในการเป็นผู้นำ..สามารถมองเห็นได้ทันทีว่ากองกำลังของตนยังอ่อนแอเกินไปถึงจะมีกันร้อยกว่าคนก็ตาม….ฝีมือย่อมดีกว่าจำนวนคนหากไร้ซึ้งฝีมือ จำนวนมากไปก็เปล่าประโยชน์…

ระหว่างที่ชายฉกรรณ์กล่าวอยู่นั้นได้มีกองกำลังขนาดเล็กประมาณ30คนเดินทางมาถึง…

เหล่าศิษย์นับร้อยต่างมองกองกำลังเพียง30กว่าคนด้วยสายตาที่แปลกประหลาด…

” ช่วยหลีกทางให้พวกเราด้วย..พวกท่านขวางทางพวกเราอยู่!! ” ศิษย์ที่ใส่เสื้อคลุมปกปิดทั้งตัวแม้กระทั่งใบหน้า เห็นเพียงแค่ดวงตาสีแดงโลหิตเท่านั้น…

” นี้เจ้า!!! ”

” จะอวดดีเกินไปแล้วคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน!! สวมเสื้อคลุมประหลาดปกปิดเหลือแค่เพียงดวงตา?”

” กองกำลังเพียงแค่นี้สงสัยจะเป็นศิษย์ที่พึ่งเข้าใหม่รึ คิดว่าตัวเองเป็นเทพสังหารไป๋หลงที่เขาล่ำลือกันว่าเก่งกาจนักหนารึ!! อาจจะเป็นเพียงข่าวที่ถูกกุขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้ ”

เหล่าศิษย์นับร้อยต่างกล่าวด้วยความไม่พอใจ..มีเพียงผู้ที่เป็นหัวหน้าเท่านั้นที่ยังสงบเยือกเย็นพลางวิเคราะห์สถานการณ์..

” ท่านมีความเป็นผู้นำที่ดี..สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ว่าควรถอยหรือสู้ ข้านับถือ แต่..กองกำลังของท่านยังขาดความสามัคคีและอารมณ์ไม่คงที่..เกรงว่าหากเกิดเรื่องร้ายแรงคงจะเหมือนกับทหารหนีทัพ!!!! ”

ศิษย์ที่สวมเสื้อคลุมเอ่ยขึ้นพลางชี้ไปทางชายฉกรรจ์…เป็นพลังในการวิเคราะห์ที่น่ากลัวสามารถระบุตัวผู้นำได้ทันที..เหล่าศิษย์นับร้อยต่างเดือดดาล..ชายฉกรรจ์ยกมือห้ามขึ้นก่อนจะเอ่ยตอบ..

” ข้าหลางเทียน หัวหน้ากองกำลังหมีแดง แห่งศิษย์ชั้นปี2 ไม่ทราบว่าเจ้าคือ? ”

” เพียงท่านหลีกทางให้พวกเรา..ภายในห้องผู้พิทักษ์แห่งนั้นท่านจะเองว่าข้าเป็นใคร!!! ”

ศิษย์ที่สวมเสื้อคลุมเอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัย..หลางเทียนหัวหน้กองกำลังหมีแดง มิได้มีโทสะ แต่กลับมีความอยากรู้มากยิ่งขึ้น…

เหล่าศิษย์นับร้อยต่างอยากจะพุ่งไปฉีกกระชากร่างของไป๋หลงที่กำลังสวมเสื้อคลุมปกปิดอยู่…และสาเหตุที่ทุกคนไม่สามารถวิเคราะห์ระดับพลังของทุกคนได้เพราะไป๋หลงใช้แร่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้มาในตอนนั้นสร้างแหวนปกปิดพลังทั้งหมด 32 วง…

” ดีๆ ข้าอยากจะรู้แล้วว่าเจ้าเป็นใคร ” หลางเทียนเอ่ยขึ้นด้วยความสนใจ..

เหล่าศิษย์นับร้อยต่างหลีกทางให้กองกำลังเพียง32คน!!

” แล้วข้าจะรอดู..เก่งให้เหมือนปากเจ้าก็แล้วกัน!! ”

ศิษย์ที่ไม่พอใจสถบขึ้น..หลังจากที่กองกำลังของไป๋หลงผ่านเข้าไปในประตู กองกำลังหมีแดงโดยมีผู้นำคือหลางเทียน ก็เข้าตามไป๋หลงไปเช่นกัน…..

…………………………………….

ภายในห้องผู้พิทักษ์ลำดับที่1 ประดับประดาไปด้วยคริสตัลใส..มีรูปร่างคล้ายโถงขนาดใหญ่มีเปลวไฟสีฟ้าตลอดทางในที่สุด..

” นี้สินะ..ผู้พิทักษ์!! ”

ไป๋หลงเอ่ยขึ้นพลางจดจ้องไปยัง ผู้พิทักษตนนึงที่มีรูปร่างสูงใหญ่ มีหางเป็นงู มีหัวแพะ มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยมัดกล้าม..ถือดาบสีดำทมิฬ ไว้สองเล่มทั้งซ้ายและขวา

” ใช่แล้วถ้าก้าวเข้าไปภายในวงกลมมันจะเริ่มโจมตีทันที!!! เจ้าจะทำยังไง? ” หลางเทียนกล่าวขึ้น โดยที่กองกำลังของหลางเทียนยืนรอบข้างเพื่อดูศึกในครั้งนี้…

ไป๋หลงแสยะยิ้มขึ้นภายใต้เสื้อคลุมก่อนจะเริ่มสั่งการในทันที..

” หน่วยป้องกันไปได้…ต่อไปหน่วยโจมตี..สุดท้ายสนับสนุน..ส่วนอู้เฉียงก่อกวนมันก็พอ!! ”

เหล่าศิษย์ทั้ง30 คนพุ่งเข้าไปในทันที…

” กำแพงศิลา!! ”

” ม่านวารี!! ”

หน่วยป้องกันหรือก็คือผู้ที่ถนัดการป้องกันมากกว่าต่อสู้..ไป๋หลงส่งเสริมความสามารถทุกด้านใครถนัดด้านไหนก็ไปให้สุด!!!

ผู้พิทักษ์เริ่มเคลื่อนไหวกวัดแกว่งดาบในมือด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำลายการป้องกันทั้งหมดลงได้…

” อู้เฉียง..ตาเจ้าแล้ว!! ”

ไป๋หลงเอ่ยขึ้นอู้เฉียงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงก่อนจะใช้กระบวนท่าเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของผู้พิทักษ์…

” ปราการอัสนีจองจำ!! ”

เกิดเป็นอัสนีสีทองคลอบคลุมร่างผู้พิทักษ์ไว้..ทำให้การเคลื่อนไหวถูกหยุดชะงัก..

” เหิงฟู..โจมตีที่หัวของมัน!! ”

เหิงฟูไม่รอช้า..เปลี่ยนร่างเป็นมังกรสีทองเพียงครึ่งตัวภายใต้การปกปิดของเสื้อคลุมจึงทำให้เห็นเพียงแต่มือเป็นสีทองเท่านั้น..

” หมัดเศียรมังกรทองคำ!! ”

ตู้มมมม!!

เหล่ากองกำลังนับร้อยต่างแข็งข้างตกตะลึงในความแข็งแกร่งและความพร้อมเพียง…ที่สำคัญความสามารถในการออกคำสั่งชั่งเด็ดขาดรวดเร็ว ราวกับคำสั่งของแม่ทัพ…

” ขะ..ข้าว่าพวกนั้นเก่งยิ่งกว่าปากซะอีก!! ”

ไม่นานไป๋หลงยืนดูพลางทำสีหน้าเคร่งเครียดวิตกกังวล!!..

” แบบนี้ไม่ดีแน่..อ่อนแอเกินไปแล้วแบบนี้กองกำลังที่ข้าฝึกมาก็แสดงฝีมือไม่ได้เต็มที่เป็นแน่!!! ”

ผู้พิทักษ์ล้มลงก่อนจะปลดกลุ่มควันสีแดงออกมา!!!…

” พวกเจ้าถอยออกมา!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นก่อนที่ทุกคนจะทิ้งระยะห่างเพื่อความปลอดภัย…

” โฮกกกกกกก!!! ”

ผู้พิทักษ์ส่งเสียงร้องคำรามออกมาพร้อมกับร่างกายที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงระดับพลังถูกยกระดับขึ้น..พร้อมกับดาบในมือแปรเปลี่ยนเป็นเคียวมรณะ!!!

” ยอดเยี่ยม!!! ”

จางลี่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามขึ้นในทันที..

” อะไรยอดเยี่ยมเหรอพี่ใหญ่? ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าปั้นยากก่อนปริยิ้มขึ้น..

” อ่อ..ข้าหมายถึงพวกนั้นทำการโจมตีประสานกันได้ยอดเยี่ยม…แต่ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปด้วยตัวเองซะแล้ว..เห้อไว้คราวหน้าละกันผู้พิทักษ์ตนนี้มันออกจะเกินไปหน่อย!! จางลี่ฝากที่เหลือต่อด้วย!!”

ไป๋หลงเอ่ยจบก็เดินเข้าไปในพื้นที่วงกลมในทันที..เมื่อมีศัตรูเข้ามาใหม่มันจึงเพ่งเล็งมาที่ไป๋หลงในทันที…

” นั้นเขาจะทำอะไร..ไม่ใช่ว่าผู้ที่สั่งการคือผู้ที่ไม่ถนัดการสู้รบอย่างงั้นรึ!! ” หลางเทียนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจปนตกตะลึง

” ใครบอกกัน? ท่านจะดูถูกพี่ใหญ่เราเกินไปแล้ว ”

จางลี่เอ่ยพลางเฝ้าดูการต่อสู้ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้..

” พวกเจ้าทุกคนถอยออกมา..พี่รองด้วย พี่ใหญ่กำลังจะลงมือแล้ว!! ”

อู้เฉียง เหิงฟู รวมถึงทุกคนถอยห่างออกมาในทันทีตามคำบอกของจางลี่…หน้าที่ของจางลี่คือ ออกคำสั่งต่อจากไป๋หลงหากไป๋หลงไม่สามารถสั่งการได้ด้วยตนเอง…

” ทราบแล้ว..ทุกคนถอย!! ” อู้เฉียงถ่ายทอดคำสั่งอีกทอดนึง..

ไป๋หลงย่างสามขุมก็เข้ามาประจัญหน้ากับผู้พิทักษ์ตนนี้..ราวกับมันรับรู้ว่าตัวเองกำลังโดนหยามเกียรติมันจึงหวัดแกว่งเคียวขนาดใหญ่…หมายจะสะบั้นไป๋หลงให้ขาดท่อนแต่..

เคร้ง!!!

เคียวขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับตรีศูลสีแดงเลือด..ตรีศูลดับสุริยันต์!!…ระหว่างนั้นเองมีศิษย์จากกองกำลังหมีแดงผู้หนึ่งเบิกตากว้างเมื่อเห็นตรีศูลถูกนำออกมา…

” นะ..นั่นมันเหมือนกับอาวุธของเทพสังหารไป๋หลงไม่มีผิด!! ”

เหล่าศิษย์ทั้งหมดต่างเบิกตากว้างก่อนจะใบหน้าขาวซีดเพราะการต่อสู้ได้จบลงแล้วภายในไม่กี่อึดลมหายใจ..ผู้พิทักษ์ตนนั้นถูกผ่าเป็นสองซีกก่อนร่างของผู้พิทักษ์ตนนั้นจะสลายไปพร้อมกับอาวุธและสมุนไพรบางอย่างที่ได้มาจากการโค่นผู้พิทักษ์ตนนี้ลง!!!

ไป๋หลงเดินกลับมาราวกับตนมิได้ออกแรงแม้แต่น้อย..ก่อนจะปลดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่แท้จริง!!..

” นะ..นี้มันเทพสังหารไป๋หลงตัวจริง!!! ”

” บะ..บ้าน่าไม่มีทาง!! ”

เหล่าศิษย์มากมายต่างถกเถียงกันไปมาหลางเทียนยกมือขึ้นให้เป็นสัญญานว่าให้หยุดคุย…

” ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้เจอคนดังที่เขาล่ำลือกัน..แข็งแกร่งกว่าข่าวลือที่ได้รับมาซะอีก ศิษย์น้องข้าต้องขอโทษด้วยที่ดูแคลนฝีมือเจ้าในตอนแรก ฮ่าๆๆ ” หลางเทียนเอ่ยพลางหัวเราะขึ้น

ไป๋หลงเพียงปริยิ้มอ่อนออกมาเท่านั้นก่อนจะเอ่ยขึ้น

” เห็นแก่ที่ท่านเป็นคนมีความสามารถคนนึงข้าจะบอกใบ้อย่างหนึ่งให้!! ”

หลางเทียนได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที…

” ว่ามาสิ..ข้าพร้อมรับฟัง ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เหลียวมองกองกำลังของหลางเทียนชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง..

” ไม่มีซ้าย..ไม่มีขวา..มีแต่เดินหน้าหรือจะหยุดอยู่กับที่!!! ท่านลองคิดดูว่าข้าหมายถึงสิ่งใด ”

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท