เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 185 ร่างแยกจักรพรรดิ

ตอนที่ 185 ร่างแยกจักรพรรดิ

เด็กหนุ่มถูกดีดออกมาจากมิติแห่งกาลเวลามาโผล่ในป่าแห่งหนึ่งซึ้งไม่ใกล้ไม่ไกลจากป่าอสูร..เป็นการถูกดีดข้ามทวีปโดยแท้จริง..ระหว่างทวีปจรัสแสงและทวีปมืดต่างอยู่ไกลกันเป็นหมื่นลี้….

” เทียร์ตื่นสิ..ข้าบอกให้ตื่น!! ”

เด็กหนุ่มพยามตบแก้มของเด็กสาวแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล..

อยู่ๆเด็กหนุ่มก็ขมวดคิ้วแนบแน่น…

” กลิ่นอายนี้มัน..ซากศพ!!..อาเป่าฝากเจ้าดูแลนางแทนข้าด้วย..ไม่ช้าข้าจะกลับมา ”

” รับบัญชานายท่าน!! ”

อาเป่าอสรพิษ7สีโบราณจำแลงร่างเป็นมนุษย์เพื่อฟังคำสั่งของไป๋หลง..ในร่างมนุษย์ของอาเป่านั้น เส้นผมจะแปลกไปจากมนุษย์ทั่วไป โดยที่เส้นผมมี7สี..และดวงตาที่เป็นเหมือนกับสัตว์เลื้อยคราน..

ไป๋หลงส่งเทียร์ให้กับอาเป่า..ขณะนั้นเองอาเป่าก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีความกังวลแฝงอยู่..

” นายท่านโปรดระวังตัวด้วย..ข้าสัมผัสได้ถึงพิษที่มีความร้ายกาจเป็นอย่างมากในบริเวณนี้!! ”

” ข้าเข้าใจแล้ว..จงซ่อนตัวให้ดีหากเกิดอะไรขึ้นพานางหนีไปได้เลยไม่ต้องรอข้าเข้าใจไหม? ”

อาเป่าย่อมเข้าใจอุปนิสัยของนายตัวเองดีจึงมิได้กล่าวทัดทานใดๆ..

” รับบัญชานายท่าน!! ”

ไป๋หลงได้ส่งร่างเงาไปหนึ่งตัวเพื่อเข้าไปสิ่งสู่ในเงาของอาเป่า..เผื่อมีบางอย่างเกิดขึ้น..

” เอาละ..เรื่องต่างๆทิ้งมันไปก่อนต้องจัดการทีละเรื่องทีละลำดับ..เราออกเดินทางออกมาร่วมเดือนแล้ว..ป่านนี้ทุกคนคงกำลังเป็นห่วง..หรือไม่อาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นเพราะฉะนั้น.. ”

เด็กหนุ่มค่อยๆขับเงาที่มีความเข้มข้นสูงออกมา สร้างรูปร่าง..หรือก็คือถอดแบบออกมาให้เหมือนกับตนเอง!!

เมื่อไม่นานมานี้เด็กหนุ่มได้พยามศึกษา..เกี่ยวกับเคล็ดวิชานี้จนแตกฉานระดับหนึ่ง..เคล็ดวิชานี้แตกต่างจากอาณาเขตจักรพรรดิ์ ที่สามารถสร้างเงาขึ้นมาได้นับไม่ถ้วน..แต่เคล็ดวิชานี้สามารถปรับแต่งรูปร่างหน้าตาแต่สามารถสร้างได้เพียงหนึ่งร่างเท่านั้นในยามนี้…

เงาสีดำค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มอีกคนที่มีลักษณะเหมือนกับไป๋หลงไม่ผิดเพี้ยน..

” ร่างแยกจักรพรรดิ์!! ”

เงาตนนี้ลืมตาขึ้นก่อนจะถวายการเคารพไป๋หลง…เด็กหนุ่มแปลกใจไม่น้อยที่สามารถสร้างเงาขึ้นมาได้เพียงครั้งเดียวแล้วก็สำเร็จด้วยดี…

” องค์จักรพรรดิ์โปรดบัญชา!! ”

เด็กหนุ่มสั่นสะท้านไปทั่วร่าง..โดยปกติแล้วเงาจะไม่มีจิตสำนึกหรือความคิดเป็นของตนเองแต่กับเงาตนนี้…

” เจ้าพูดได้? ”

” ย่อมเป็นเช่นนั้นองค์จักรพรรดิ์ ข้าสามารถคุยโต้ตอบได้เพราะข้าถูกสร้างขึ้นจากพลังที่มีความเข้มข้น…และมีสิ่งหนึ่งที่ท่านยังเข้าใจผิดอยู่องค์จักรพรรดิ์!! อาจจะเป็นการเสียมารยาทที่เงาอย่างข้า บังอาจมามีความรู้เหนือท่าน!! ”

เด็กหนุ่มยังมีความรู้ตื้นเขินมิอาจทราบถึงขีดจำกัดที่แท้จริงของพลังตนเอง..

” เปล่าเลยข้ายังมีความรู้ตื้นเขินนักเชิญเจ้าอธิบายให้ข้าฟังได้ ”

ไป๋หลงกล่าวออกไปอย่างสุภาพ..

” ท่านจักรพรรดิ์เงารุ่นแรกคิดไม่คิดที่เลือกท่าน…ส่วนความจริงแล้วที่ท่านยังเข้าใจผิดอยู่ก็คือ..พวกเรามีจิตวิญญาณและจิตสำนึกเป็นของตนเองทั้งสิ้น!! เพียงแต่มีพลังที่เบาบางเกินไปก็เท่านั้นทำให้พวกเราไม่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับท่านได้!! เงาทุกตนล้วนเห็นเป็นประจักษ์ในความเป็นผู้นำของด่านความเด็ดขาดและความห่วงแหนพวกพ้อง..ทำให้เงาทุกตนยอมรับท่านอย่างหมดหัวใจทำให้ท่านสามารถสั่งการพวกเราได้!! ตอนที่พวกเราบางส่วนถูกทำลายท่านก็บังเกิดความโกรธแค้นแทนพวกเรา..ที่เป็นเพียงแค่เงาทำให้พวกเราซาบซึ้งและเคารพท่านอย่างไม่มีข้อกังขา ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็นึกย้อนกลับไปในคราแรกก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น..แต่ตอนนี้มีเวลาไม่มากที่จะตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าไป๋หลงจึงทำการออกคำสั่งในทันที..

” ข้าอยากจะให้เจ้ากลับไปยังสถาบันเทพมารแล้วสวมบทเป็นข้า..ก่อนที่ข้าจะกลับไปการที่ข้าหายไปนานเช่นนี้ย่อมมิใช่เรื่องดี..รับนี้ไป ”

เด็กหนุ่มมอบสัญลักษณ์เหรียญตราศิษย์อันดับ1 ที่ได้มาจากทำเนียบศิษย์ใหม่..เผื่อจะได้ใช้มันในไม่ช้า..

อาเป่าที่เฝ้าดูอยู่อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับความสามารถสุดพิศดารเช่นนี้..

” ข้าจะทำให้ดีที่สุดองค์จักรพรรดิ์โปรดสบายใจ ”

เด็กหนุ่มยังคงไม่ชินกับการถูกเรียกว่าจักรพรรดิ์..แต่มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ..

” แยกกันตรงนี้…พอจบเรื่องตรงนี้ข้าจะตามเจ้ากลับไปยังสถาบันส่วนอาป่าคอยอยู่บริเวณนี้อย่าทำตัวให้เด่น..ถ้าเป็นไปได้ก็พลางตัว.. ”

เด็กหนุ่มกล่าวกำชับแก่ร่างเงาว่าอย่าให้ความแตกเป็นอันขาดเพราะมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในทันที..

เงาที่ไป๋หลงสร้างขึ้นให้เหมือนกับตนสร้างปีกกลางแผ่นหลังขนาดใหญ่ขึ้น..เป็นปีกที่ถูกสร้างขึ้นโดยการควบแน่นเงา..เป็นปีกที่น่าเกรงขามไปอีกแบบ…

” องค์จักรพรรดิ์โปรดดูแลตนเองด้วย..”

ฟึบ!!

เงาตนดังกล่าวพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้าโบกซะบัดปีกเงามุ่งหน้าสู่สถาบันเทพมาร..

” เอาละเหลือแต่ข้าสินะ..แล้วกลิ่นซากศพนี้มัน!! ”

…………………………………………………………………..

ไป๋หลงเคลื่อนย้ายผ่านเงาต้นไม้และสัตว์เล็กน้อยใหญ่เพื่อสังเกตการ..

” ยิ่งตกเย็นเงายิ่งอ่อนแอลงควบคุมได้ยากยิ่งขึ้น..ต้องรีบจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด..ว่าแต่ซากศพนี้มัน..อสูร? ไม่สิมีบางอย่างมากกว่านั้นนี้มัน!! ”

เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่แตกต่างออกไปตามปกติของอสูรที่ควรจะมีเป็นกลิ่นอายของแดนสวรรค์ที่ไม่น่าจะอยู่ในตัวอสูร…

” คงต้องติดต่อท่านลิ่วหลงกุนเพื่อดูสถานการณ์โดยรวมก่อนสินะ… ”

เด็กหนุ่มพยามติดต่อไปยังหยกสื่อสารของลิ่วหลงกุนขณะนั้น..

” นายท่าน..ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน!! หากข้าไม่ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาเมืองแห่งนี้พังพินาศแน่..อีกอย่างข้ารู้แล้วว่าตัวการหลักที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นคือ เทวฑูตตกสวรรค์ที่มีพลังในการชักใยและควบคุมเหล่าอสูร!! ”

ลิ่วหลงกุนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดี..เพราะต้องจำกัดพลังตนเองอยู่ตลอดเวลา..เพื่อไม่ให้พลังแห่งเทพนี้สะดุดตาสวรรค์..

” ท่านลิ่วหลงกุนตอนนี้ข้าอยู่ใกล้ท่านแจ้งตำแหน่งที่สัตว์อสูรรวมตัวกันมากที่สุดและสั่งให้ทหารของท่านถอยออกมาโดยทันที!! ”

ไป๋หลงกล่าวพลางพยาทตรวจสอบตำแหน่งผ่านจิตสัมผัสใต้พื้นดิน..

” นี้ท่านตั้งใจจะ… ”

” ไม่มีเวลาแล้ว..ท่านลิ่วหลงกุนไว้ข้าจะอธิบายทีหลังตอนนี้ข้าต้องการทราบตำแหน่งและทิศทางที่ท่านอยู่!! ”

ลิ่วหลงกุนได้ยินเช่นนั้นก็อธิบายและตำแหน่งของอสูรทั้งหมดโดยรอบ..

” อีก 30 อึดใจ..ไม่สิ 10 อึดใจข้าจะมุ่งหน้าไปทางนั้นสั่งให้ทหารของท่านถอยออกมาให้หมด!! ”

” ขอรับนายท่าน.. ”

ทางด้านลิ่วหลงกุนสั่งการให้ทหารทั้งหมดถอยร่นเข้ามาประชิดตัวเมือง..เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความงุนงง ให้กับผู้ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง..

” พวกมันกำลังทำอะไร..ความรู้สึกนี้มัน!! ”

บรรยากาศในสนามรบเมื่อครู่เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง..ราวกับกำลังถูกฉีกกระชาก..

มังกรเพลิงสีฟ้าขนาดใหญ่นับร้อยต่างพุ่งลงมาราวกับสายฝนที่โปรยปราย..แต่นี้หาใช้สายฝนธรรมดาแต่มันคือสายฝนแห่งการทำลาย..

” ร้อยมังกรถล่มปัฐพี ฉบับปรับปรุง พยุหะมังกรเหิน!! ”

ตู้มมมมมมม!!!!

จบ..

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท