เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่134 เทพแห่งความตาย

ตอนที่134 เทพแห่งความตาย

พญายมสาวเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ดวงตาเบิกกว้างก่อนจะยืนขึ้นในทันที..

” นะ..นี้มัน!! ”

ฮาเดสแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยออกมา..

” น่าเสียดายหลังจากโซโลม่อน เผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงให้ข้าเห็น..หลังจากนั้นโซโลม่อนก็หายตัวไป พร้อมกับฝากหน้าที่ ตรงนี้ให้พวกเราสองคนดูแล ”

พญายมสาวจดจ้องรูปลักษณ์นั่นไม่วางตา ปีกที่มีลักษณะผิดแปลกไป จะปีศาจก็ไม่ใช่ เทพก็ไม่เชิง…

” แล้วทำไมอยู่ดีๆ เจ้าถึงมาบอกข้าเรื่องนี้? ”

พญายมสาวเอ่ยขึ้นเพราะนี้มันผิดสังเกตุเกินไปหน่อยที่อยู่ๆจะมาบอกเรื่องใหญ่โตแบบนี้…

” เห้อถูกเจ้ามองออกจนได้สินะ..ความจริงแล้วข้าได้รับจดหมายเรียกตัวพิเศษจากสวรรค์ เพื่อให้กลับขึ้นไปเป็นการชั่วคราว ณ ตำหนักสวรรค์ นั่นก็หมายความว่า ข้าจะไม่อยู่ชั่วคราว และอีกอย่างการเดินทางในครั้งนี้ ข้ารู้สึก สังหรณ์ใจแปลกๆ อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้น!!!… ข้าเลยจะขอมอบกุญแจดอกนี้ไว้กับเจ้าหากเกิดอะไรขึ้นมา.. ”

ฮาเดสกล่าวพลางหยิบกุญแจดอกหนึ่งออกมาจากความว่างเปล่า..

พญายมสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตะคอกกลับออกมาในทันที..

” อย่ามาพูดบ้าๆแบบนี้นะ!!! เจ้าเป็นถึงเทพแห่งความตาย!! อย่ามาพูดอะไรใจเซาะแบบนี้ ”

ฮาเดสเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ปริยิ้มออกมาพลางรูปหัว…

” เป็นเทพแล้วเยี่ยงไร หากข้าออกไปจากที่นี้หากข้าพลาดท่า ขึ้นมาข้าก็ตกตายได้เช่นกัน เทพก็เหมือนมนุษย์แตกต่างกันเพียงเรื่อง..อายุขัยเพียงเท่านั้น ”

พญายมสาว..มีหยาดน้ำตาไหลออกมาตลอดช่วงชีวิตเวลาที่ผ่านมานับหมื่นปีนั้น..ความอัมตะ อาจจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนปราถนาแต่สำหรับ..พญายมสาวผู้นี้มันคือคำสาปชั่วชีวิต.. การที่ตายไม่ได้ ต้องทนเห็นคนสนิท สิ้นอายุขัยไปเรื่อยๆจนหมดสิ้น…ผู้ที่มีความอัมตะนั้น..อย่างที่บอกต้องเป็นระดับผู้ปกครองนรถเท่านั้น!!

และผู้ที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดก็คือ ฮาเดส เทพแห่งความตายที่อยู่กับตนมาแม้จะปกครองแดนปรโลกกันคนละทิศก็ตาม…

” ทำไมเจ้าถึงพูดอะไรอ่อนหัดเช่นนี้ออกมา!! ”

ฮาเดสเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลูบหัวพญายมสาวไปมา..ราวกับเป็นน้องสาวก็มิปาน..

” ข้าขอเรียกเจ้าว่าน้องสาวได้ไหม!! ”

พญายมสาวดวงตาเบิกกว้างก่อนจะมีน้ำตาแห่งพญายมไหลออกมา!!

” เจ้าแปลกไปจริงๆด้วย!! ฮาเดส เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากัน ”

ฮาเดสก็ยังลูบหัวไปมาตามเดิม..หากไม่บอกว่าสตรีผู้นี้เป็นเทพแห่งความตาย หลายคนอาจคิดว่าเป็นเทพแห่งความรักก็เป็นได้..

” สรุปได้ไหม น้องสาวเพียงหนึ่งเดียวของข้า!! ”

พญายมสาวไร้ซึ้งเสียงก่อนะพยักหน้าเบาๆและโผ กอดฮาเดส..

” พี่สาวเพียงหนึ่งเดียวของข้า!! ”

………………………………………………………………..

วันออกเดินทาง ฮาเดส เดินทางผ่านประตูนรกโดยมีผู้เฝ้าประตูนรกอยู่แน่นหน้าป้องกันการหลบหนีของดวงวิญญาณและสัตว์นรก..โดยมีพญายมสาวมาส่งด้วยตัวเองก่อนจะโผกอดฮาเดสเป็นครั้งสุดท้าย..และทำสัญลักษณ์บางอย่างไว้บนแผ่นหลังของฮาเดสโดยที่..ฮาเดสไม่ได้รู้สึกตัวแม้แต่น้อย!!

” เดินทางปลอดภัยนะ พี่สาวของข้า!! ”

เหล่ายมบาลต่างตกตะลึงกับคำพูดที่ออกมาจากพญายมสาวผู้นี้…

” มะ..เมื่อกี้ ”

” อย่าพูด ข้าก็ได้ยิน ”

เหล่ายมบาลต่างพากันเงียบปากก่อนที่จะส่งฮาเดสข้ามประตูไป…

อีกฝั่งของประตูมิติก่อนเข้าประตูของแดนเทพ…

เหล่าทหารสวรรค์ที่มารอรับฮาเดส โดยผู้นำขบวนมารับนั้นเป็นถึงขุนพลสวรรค์ ระดับพลัง มากกว่าเทพสงครามขั้นต้น!!! ต่างนอนสิ้นชีพอยู่บริเวณหน้าประตูทางออกโดยที่ทุกคนโดนสูบพลังออกไปจนหมดสิ้น!!

หลังจากฮาเดสก้าวเท้าออกมาก็โดนบางอย่างโจมตีทางด้านข้างในทันที..

ตู้ม!!!

ฮาเดสยกฝ่ามือตั้งรับขึ้นก่อนจะส่งพลังผลักดันกลับไป.. ก่อนจะถอยเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้นก่อนจะชำเลืองมองเหล่าขุนพลสวรรค์ที่พลาดท่าตกตายและสภาพศพต่างแห้งเหี่ยวราวกับซากใบไม้!!

” เจ้าเป็นคนสูบพลังของเหล่าทหารสวรรค์ไปใช่หรือไม่!! ”

ฮาเดสแค่นเสียงเย็นชาออกมา..

” เคี๊ยกๆๆ!! เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอก..เทพแห่งความตายเดี๋ยวเจ้าก็จะโดนข้าสูบพลังเหมือนพวกมัน!! ”

ตัวตนที่โจมตีฮาเดส ส่วมใส่ฮู้ดสีดำปกปิดทั่วร่างกาย..มีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจออกมาเท่านั้น…

” รู้ตัวจริงของข้า? แล้วยังจะกล้าต่อกรกับข้าอีกอย่างงั้นรึก็ได้..ข้าจะแสดงพลังแห่งเทพแห่งความตายให้เจ้าได้ประจักษ์ ”

ตึง!!

ฮาเดสปลดปล่อยกลิ่นอายมรณะออกก่อนจะฉายแววตาสีแดงฉานออกมาจากแววตาสีม่วง..เส้นผมสีดำปลิวไสว…

ฮาเดสแปลกใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองใช้ตาเทพก็ไม่อาจมองระดับพลังของอีกฝ่ายได้..แต่การที่โค่น ขุนพลสวรรค์ระดับพลังเทพสงครามขั้นต้นลงได้!! ฝีมือคงไม่ธรรมดา..

” ฮ่าาา..เป็นกลิ่นอายที่น่าหอมหวานซะจริงๆ ข้าจะค่อยกลืนกินมันอย่างช้าๆ แต่ก่อนอื่น.. ”

อยู่ดีๆตัวของมันก็นำผลึกบางอย่างออกมาก่อนที่ไอมรณะจะถูกดูดเข้าไปเรื่อยๆ..

” นั้นมัน!! ”

ระหว่างนั้นเองที่ฮาเดสลดจังหวะการป้องกันอยู่ช่วงนึงก็มีมือปริศนามาจับแขนของนางไว้..

” ซากศพหวนคืน!! ”

ฮาเดสกล่าวขึ้นเพราะรู้จัก อวิชานี้เป็นอย่างดี เพราะผลของวิชานี้คือ ใช้ซากศพของบุคคลผู้นั้นเพื่อต่อสู้หรือทำงานที่เสี่ยงอันตรายแทนตน..

ซึ้งตอนนี้เหล่าทหารสวรรค์ที่สิ้นชีพไปแล้วก็ต่างมาล็อคแขนของฮาเดสไว้..

” ถอยไป ต่ำช้าสิ้นดี!! วิชานี้มันของเผ่าปีศาจ!! ”

ตู้มม!!

ฮาเดสระเบิดพลังออกมาก่อนจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา…

” เคียวทมิฬ!! ”

ฮาเดสเรียกศาสตร์ตราจิตวิญญานระเทวะ..ออกมาก่อนจะกระหน่ำฟาดฟันใส่ บุคคลปริศนาที่ตัวฮู้ดสีดำอย่างต่อเนื่อง…

เคร้ง!!

อยู่ๆเคียวทมิฬก็ถือรับไว้ด้วยมือแค่ข้างเดียวก่อนจะมีบางอย่างโจมตีฮาเดสทางด้านหลังและด้านข้างรวมเป็น4ทิศ!! ไร้ทางโต้ตอบ..

” ป้องกันขั้งสูงสุดไอมรณะ!! ”

ตู้ม!!!

ฮาเดสกระอักเลือดออกมาแต่ก็ยังฉายแววตาที่มีจิตสังหารแฝงเอาไว้เต็มเปี่ยม..

” นี้นะเหรอเทพแห่งความตาย!! ออกมาจากแดนนรกก็ไม่เท่าไหร่เลยนิ ”

” เจ้าจะทำงานช้าเกินไปแล้วรีบดูดพลังของมันมาได้แล้ว ”

” ใช่ กว่าเราจะแทรกซึมเข้าไปในตำหนักเทพ มันยากขนาดไหนรีบจัดการนางได้แล้ว.. ”

” ความจริงข้าอยากจะเล่นต่ออีกสักหน่อยแท้ๆแต่เอาเถอะ!! ”

ฮาเดสแสดงสีหน้าเรียบเฉยออกมาก่อนจะใช้กระบวนท่าต่อไป..ระหว่างนั้นพลังของฮาเดสก็โดนสูบออกเรื่อยๆ..

” ผนึกกลืนวิญญาณ!! ของโบราณแห่งบรรพกาล!! เหตุใดพวกเจ้าถึงมีมันได้กัน ”

ฮาเดสกล่าวออกมาพร้อมกับระดับพลังที่ค่อยๆลดลงอย่างน่าประหลาดใจ..

” อย่างงี้นี่เองข้าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าใช้แผนเดียวกันกับทหารสวรรค์เหล่านี้ เพื่อหวังจะสูบพลังของข้างั้นก็ได้จงรับไป!! ”

ฮาเดสระเบิดพลังทั้งหมดออกมาจนมิติเกิดความสั่นไหว ผนึกกลืนวิญญาณก็ยังคงดูดพลังของฮาเดสออกมาเรื่อยๆ..

” จำแรงเงา- ”

ฉึก!!

อยู่ๆก็มีดาบขนาดใหญ่เสียบทะลุกลางลำตัวของฮาเดส..ก่อนที่ฮาเดสจะล้มลงปรากฏว่าผู้ที่ลอบแทงดาบเข้ามาคือ ทหารสวรรค์นายหนึ่ง!! โดยที่ฮาเดส สัมผัสถึงการคงอยู่ของทหารสวรรค์นายนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย…

” เห็นทีคงจะไม่ได้แล้วละท่านฮาเดส..ท่านผู้นั้นบอกมาว่า ตัวท่านนั้นอันตรายเกินไป จึงจำเป็นต้องกำจัดทิ้งซะ!! ”

ฮาเดสล้มลงกับพื้นพร้อมกับประกายแววตาที่หม่นหมองลง..

” ดาบนี้มัน..เข้าใจแล้ว ดาบสังหารเทพ!! บาดแผลทั้งหมดมิอาจฟื้นฟูซ้ำยังมีพิษร้าย ในการทำลายและกัดกินพลังจากข้างใน..ผู้ที่ระดับต่ำกว่ามหาทพขั้นต้น ล้วนต้องสิ้นชีพเพราะมัน.. และผู้ที่มีดาบเล่มนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ…… ”

” ฮ่าๆๆใช่แล้ว ท่านอันตรายจริงๆนั้นแหละ เทพแห่งความตาย!! ”

ทหารสวรรค์นายนั้นกล่าวออกมาก่อนที่จะดึงดาบออกมา..

อยู่ๆแววตาฮาเดสก็เปล่งประกาย..

” กระบวนท่าลับปลิดชีพล้าง…. ”

อยู่ๆแผ่นหลังของฮาเดสก็เปล่งประกายแสงขึ้นและหลังจาก..ลำแสงสีแดงเปล่งประกายออกมา สร้างความตกตะลึงให้กับพวกมันทั้ง5 ตน เป็นอย่างมาก…พร้อมกับคำเอื้อนเอ่ยที่สุดจะหวงแหนจากเสาแสงสีแดงที่เปล่งประกายออกมา..

” ข้าไม่ยอมให้พี่ของข้าเพียงผู้เดียวใช้ กระบวนท่าต้องห้ามเด็ดขาด!! …เปลี่ยนตัวกันได้แล้วท่านพี่แสนผู้แสนจะดื้อรั้น ”

” นะ..นี้เจ้า!! ” ฮาเดสเอ่ยไม่ทันจบก็ถูกส่งตัวกลับ

ก่อนที่ร่างของฮาเดสจะถูกส่งมาในท่านั่งซ้ำยัง.เป็นบัลลังก์ที่คุ้นเคยพร้อมกับข้ารับใช้ที่เบิกตา กว้างกับสภาพที่มีบาดแผลทั่วตัวของฮาเดส…

” ท่าน ฮาเดส!! ”

จบ..

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท