เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 193 เทพมารตกสวรรค์จบภาค 5 พิชิตหอคอยมรณะ

ตอนที่ 193 เทพมารตกสวรรค์จบภาค 5 พิชิตหอคอยมรณะ

ทั้งหมดคือภาพที่เด็กหนุ่มเห็นเพียงชั่วขณะเท่านั้น..มัจฉาสวรรค์ตนนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้เป็นแม่ของตนจริงอีกทั้ง..สัญญาในครั้งนั้นเกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจหรือตั้งใจก็แล้วแต่…

ผลของมันก็เป็นอย่างที่เห็นในตอนนี้…

ตู้มม!!!

“ ระดับพลังจักรพรรดิ์ ขั้นที่1 ( ขั้นต้น ) ”

เด็กหนุ่มตะลึงงันการยกระดับพลังข้ามขั้นเช่นนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ด้วยหรือ…พลังเอ่อล้นทั่วร่าง ร่างกายราวแข็งดุจขุนเขาแต่การที่จะทำเช่นนี้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะทำได้…

แววตาขอบมัจฉาสวรรค์เลื่อนลอยก่อนจะทรุดตัวลง…

“ มัจฉาสวรรค์นี้เจ้า…เหตุใดถึงต้องยึดมั่นในคำสัญญาเหล่านั้นด้วย..การที่เจ้าทำเช่นนี้ข้าไม่ชอบใจเลย!! ”

ไป๋หลงสถบออกมาราวกับโกรธเคืองแต่ไม่เลยเด็กหนุ่มเป็นห่วงเป็นใยแทบจะทำอะไรไม่ถูก…แค่คำสัญญาทำไมถึงต้องยึดมั่นเช่นนี้…

มัจฉาสวรรค์ตัวน้อยในวันนั้นกลับโตเป็นสาวงามถึงเพียงนี้เวลาไม่เคยหยุดเดินและคงยังดำเนินต่อไปเรื่อยไม่

“ เจ้านายท่านเคยได้ยินคำนี้ไหม…เสียชีพอย่าเสียสัตย์ ข้าเป็นคนที่ยึดมั่นในสัญญายิ่งกว่าชีวิตของตนเสียอีก…แววตาคู่นี้เหมือนกับของท่านราฟาเอลยิ่ง.. ”

มัจฉาสวรรค์ตัวน้อยเอื้อมมือมาแตะที่แก้มของไป๋หลงก่อนที่ร่างกายของตัวนางนั้นเราซีดจางลง..ระดับพลังของมัจฉาสวรรค์ในยามนี้เรียกได้ว่าต่ำกว่าพื้นฐานทั่วไปเป็นอย่างมาก…

พลังทั้งหมดของนางถูกถ่ายทอดแทบจะทั้งหมด..เป็นการถ่ายทอดพลังโดยตรงโดยที่ไม่ต้องใช้โลหิต..ความบริสุทธิ์ของพลังย่อมแตกต่างกันอย่างชัดเจน…

“ ดูเหมือนสัญญานับหมื่นปีของข้าจะสิ้นสุดลงตรงนี้นะเจ้านาย..ถึงแม้ข้าจะไม่มีโอกาสได้ยืนอยู่คอยช่วยเหลือท่านแต่ข้ามั่นใจว่าพลังของข้า..จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเจ้านายแน่นอน ”

เด็กหนุ่มแม้จะได้อยู่กับมัจฉาสวรรค์เพียงสั้นๆแต่รับรู้ถึงความผูกพันธ์ราวกับอยู่ด้วยกันมาช้านาน..

“ สุดท้ายนี้ข้าอยากจะบอกท่านไว้อย่างนึง ”

มัจฉาสวรรค์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอันอ่อนแรง…

“ ข้าพร้อมรับฟังทุกอย่าง…เจ้าบอกข้ามาได้เลย ”

มัจฉาสวรรค์ปริยิ้มอันสดใสออกมาแม้สภาพร่างกายนางกำลังจะถึงขีดสุด..พลังใจนับหมื่นปีของนางแข็งแกร่งกว่าพลังทางกายนับร้อยเท่าพันเท่า..

“ กาลเวลาไม่เคยไหลย้อนกลับ..ภารกิจอันยิ่งใหญ่ยังรอท่านอยู่ข้างหน้า..อีกทั้งสิ่งที่ข้าอยากจะย้ำเตือนท่านคือ ห้ามให้โทสะหรือความเคียดแค้นเข้ามาควบคุมท่าน!! ”

“ ข้ารับปาก ”

“ ดูแลตัวเองด้วยนะเจ้านาย..ข้าจะเฝ้าดูท่านจากกระแสลำธารแห่งวัฏจักร!! ”

มัจฉาสวรรค์สลายหายไปพร้อมกับระอองแสงอ่อนๆ..น้ำตาของไป๋หลงเอ่อล้นออกมาอย่างบอกไม่ถูก…อีกทั้งของขวัญชิ้นสำคัญที่มัจฉาสวรรค์ตัวน้อยมอบให้คือ..การถ่ายทอดพลังบริสุทธิ์บวกกับการยกระดับพลังที่เกินกว่ามนุษย์หรือใครจะทำได้…

เด็กหนุ่มยืนขึ้นก่อนจะโคจรพลังและระเบิดออกมาในทีเดียว..

ตึง!!!

พลังบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลถูกระเบิดออกมาทำให้บรรยากาศโดยรอบสงบและเย็นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก..ราวกับพลังนี้ไม่ได้มีไว้ทำลายแต่มีไว้เพื่อ..ปกป้อง!!

“ ตอนนี้ระดับพลังของข้าอยู่ที่จักรพรรดิ์ขั้นต้น…จากระดับพลังเพียงราชันย์นักรบเท่านั้น…แต่ผลกระทบของมันก็ยังมีอยู่ในตอนนี้ข้าสัมผัสไม่ได้เลยว่าจะยกระดับพลังได้..ดูเหมือนนี้จะถึงขีดสุดในตอนนี้สินะ ”

เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับแหงนมองท้องฟ้า..

“ มัจฉาสวรรค์..หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก!! ”

……………………………………………………………………

หลังจากนั้นไม่นานไป๋หลงก็ได้กลับมาพบลิ่วหลงกุนอีกครั้ง..พร้อมกับช่วยฟื้นฟูเมืองบางส่วน…และคำถามที่ลิ่วหลงกุนสงสัยก็ถูกคลี่คลายกระจ่างแล้ว..

“ เป็นแบบนี้นี่เอง..ไม่คิดเลยว่าจะเป็นท่าน..ผู้สืบทอดที่แท้จริงๆไม่แปลกใจเลยที่ท่านราฟาเอลมอบสัญลักษณ์นั่นให้ ”

ทั้งสองพูดคุยกันถึงรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ..ก่อนที่ไป๋หลงจะฉายแววตาเป็นประกาย

“ ท่านลิ่วหลงกุนกระบวนท่าแห่งราชันย์ที่ท่านมอบให้ข้า..ใครเป็นคนคิดขึ้นท่านพอจะทราบไหม? ”

“ บอกตามตรงข้าแทบจะไม่ทราบเลยว่าตำราเล่มนั้นใครเป็นผู้เขียนขึ้น..ข้าทราบแค่ว่าเป็ยเทพตนนึงบนสวรรค์เท่านั้น!! ”

ไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ราวกับจำชื่อของเทพองค์นั้นได้เมื่อครั้งยังฝึกอยู่ในห้วงจิต..แต่ยามนี้ไป๋หลงมิอาจเข้าไปได้ราวกับถูกขวางกั้นด้วยระดับพลังที่ต่างกันเกินไป..จึงมิอาจฝ่าเข้าไปได้แม้จะเป็นห่วงจิตของตนก็ตาม..

“ ท่านรู้จักเทพที่ชื่อ ลูซิเฟอร์ ไหม? ”

ลิ่วหลงกุนใบหน้าขาวซีดก่อนจะเข้ามาจับบ่าของไป๋หลงด้วยนิ้วมือที่สั่นอย่างบอกไม่ถูก..

“ มะ..เมื่อกี้ท่านว่าอะไรนะ!!! ”

………………………………………………………………………

เด็กหนุ่มยังคงสับสนกับคำพูดของลิ่วหลงกุนเมื่อครู่แต่มิได้เก็บมาใส่ใจ..เด็กหนุ่มเคลื่อนย้ายเงาเป็นยังเงาของอาเปา..ที่มีพลังจักรพรรดิ์เงาแฝงไว้..

“ ทุกอย่างปกติไหม? ”

อาเปาได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบในทันที..

“ ทุกอย่างปกติดีขอรับ..แต่เมื่อครู่จับสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่พุ่งผ่านท้องฟ้าไปกลิ่นอายของมันแปลกพิศวงยิ่งนัก.. แล้วก็ท่านเทียร์มีบางอย่างจะคุยกับท่านขอรับ ”

“ คุยกับข้า? ”

“ ขอรับ ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เดินตรงไปหาเทียร์ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ส่วนอาเปาก็กลับมาอยู่ในดวงจิตของไป๋หลงเช่นเดิม..

“ เทียร์เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้าอย่างงั้นหรือ? ”

เด็กหนุ่มพอจะคาดการณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เด็กสาวกำลังจะเอ่ยถึง..

“ คือข้า.. ”

“ หากเจ้าไม่อยากในตอนนี้ก็ไม่เป็นไร..เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าพร้อมบอกข้าได้เสมอ..เจ้าช่วยข้าไว้ในตอนนั้นแค่นี้เป็นพอ ”

“ นี้เจ้า.. ”

เทียร์แปลกใจเล็กน้อยที่ไป๋หลงไม่คิดจะไต่ถาม..

“ ข้าไม่บอกเจ้าแล้วแบร่ๆ!! ”

เทียร์แลบลิ้นใส่พลางปริ้นตาใส่ไป๋หลงราวกับเด็กแกล้งกันก็มิปาน..

“ กลับไปสถาบันเทพมาร..ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ..และเป้าหมายอีกอย่างของข้าคือ..ข้าจะใช้เวลาราวๆ1-2ปีเพื่อไต่ขึ้นไปเป็นศิษย์อันดับหนึ่งแห่งสถาบันเทพมาร!!! ”

ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น..ยามนี้ไป๋หลงตั้งเป้าไว้คือจบการศึกษาจากที่นั่นและสถานะพิเศษที่ได้หลังจากจบการศึกษา…

“ แต่ข้าไม่ใช่ศิษย์ที่นั่น..ข้าเข้าไปไม่ได้หรอกนะเว้นก็แต่ว่าเจ้ามีแผน? ”

เด็กสาวเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย..

“ เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครเรื่องแค่นี้..ถึงแล้วเจ้าจะรู้เอง ”

ไป๋หลงกล่าวขึ้นอย่างมีเลศนัยบางอย่างก่อนจะมุ่งหน้ากลับสถาบันเทพมารและทำการเชื่อมต่อร่างแยกเงาที่ส่งไปก่อนหน้านี้ภายในตัว..

ไม่นานภาพที่ถูกส่งเข้ามาหลังจากทำการเชื่อมต่อแทบจะทำให้ไป๋หลงใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์…เพราะร่างเงาของไป๋หลงถูกตัดแขนขวาออกไปพร้อมกับระดับพลังที่ค่อยๆอ่อนลง..

“ นี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น!! ”

จบ…

จบภาค5 เทพมารตกสวรรค์ติดตามตอนต่อไปภาค6

เทพมารตกสวรรค์ภาค6 ปีกที่ถูกช่วงชิง

ในภาค6 นี้ มิว( เด็กหนุ่มที่มีพลังแห่งบรรพกาล) เซเรฟ( จักรพรรดิ์ธาตุจรัสแสง) และ จักรพรรดิ์ไร้นามจะเข้ามามีบทบาทในภาค6 ส่วนจักรพรรดิ์ธาตุและราชันย์มังกรทั้ง12 จะค่อยๆโผล่มาทีละตัวน่าจ้ะ ส่วนโซโลม่อนนั้นไรท์จะขออุ้บไม่พูดถึงส่วนนี้ก่อนเพราะรายละเอียดมันเยอะ5555

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท