เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 340 นามนั้นคือเดียร์รอส 2 จบ

ตอนที่ 340 นามนั้นคือเดียร์รอส 2 จบ

หลิงหลุนระเบิดพลังอัสนี 7 สีออกมา อัสนีแต่ละเส้นสายที่อยู่รอบตัวหลิวหลุนล้วนอัดแน่นไปด้วยระดับพลังชนชั้นเทวะ…เดียร์รอสที่ได้เห็นสิ่งนั้น ก็แปรเปลี่ยนสีหน้าไปในทันที…

“ ก็ลองข้ามศพข้าไปก่อน!! ปราการอัสนี 7 สีไร้ลักษณ์!! ”

ตึงงงง!!!

สายฟ้าทั้งเจ็ดสีระเบิดออกเหลือไว้เพียงแค่ความว่างเปล่ารัศมีรอบตัวหลิงหลุนนั้น ล้วนสงบนิ่ง…

“ ปราการอัสนีไร้ลักษณ์ เป็นกระบวนท่าขั้นเทวะ ที่รวมอัสนีเจ็ดสีเจ็ดธาตุและก่อเกิดเป็นความว่างเปล่าไร้ลักษณ์ขึ้นมาในรอบรัศมีของตัวเจ้าเอง…นับว่าเป็นเคล็ดวิชาชั้นเลิศเลยทีเดียว ป้อมปราการที่มองไม่เห็น..แต่แฝงไปด้วยความอันตราย..น่าสนใจจริงๆ แต่ว่านะ.. ”

เดียร์รอสกล่าวขึ้นด้วยควาชื่นชมพร้อมกับเดินไปข้างหน้าโดยจับสมุนปีศาจมาหนึ่งตัว..หลิงหลุนที่ได้ยินเช่นนั้น ไม่คิดว่าปีศาจตนนี้จะรู้เคล็ดวิชาชนชั้นเทวะนี้ด้วย ทำให้หลิงหลุนต้องระวังเพิ่มเป็นเท่าตัว!!..

“ นะ..นายท่าน.. ”

“ ทำตัวให้มีประโยชน์หน่อยก็แล้วกัน.. ”

ปีศาจตนนั้นถูกเดียน์รอสสูบเอาโลหิตออกจากร่างจนหมดเพียงแค่การแตะตัวเท่านั้น เหลือเพียงซากร่างที่แห้งเหลือแต่กระดูก..

เดียร์รอสโยนร่างไร้งิญญาณของปีศาจตนนั้นเข้าไปในปราการไร้ลักษณ์ เพียงชั่วพริบตาที่ร่างของปีศาจตนนั่นลอยไปใกล้กับหลิงหลุนก็เกิดอัสนีบาตฟาดลงมา..ทำลายร่างปีศาจตนนั้นจนไมาเหลือแม้แต่เศษธุลี..แต่ทว่า..

“ เคล็ดวิชานี้ยังมีช่องว่างอยู่นะ.. ”

“ เคล็ดวิชาโลหิตปีศาจ!! ”

เพียงชั่วพริบตาเดียร์รอสก็ปรากฏต่อหน้าหลิงหลุนโดยใช้ช่องว่างไม่เพียงกี่วินาทีก็เข้าประชิดหลิงหลุนได้ โดยที่ปราการไร้ลักษณ์นั้นตอบสนองต่อความเร็วในแต่ละช่วงไม่ทัน..

โลหิตสีดำถูกหัดกระแทกเข้าที่หน้าทองของหลิงหลุน..

“ ข้าก็คิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องมาไม้นี้..ประชิดตัวในช่วงระยะที่ปราการไร้ลักษณ์พึ่งจะทำลายร่างของลูกน้องของเจ้าไป..ซึ่งเป็นนกต่อหมายจะเข้าประชิดตัวด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงอย่างงั้นสินะ..ข้าไม่ได้ประมาทถึงเพียงนั้น!! ”

“ อัสนีสะท้อนกลับ!! ”

ตู้มมมมม!!!

เดียร์รอสถูกพลังอัสนีสะท้อนกลับไป..แต่ดูเหมือนพลังป้องกันของปีศาจตนนี้จะสูงเกินขอบเขตที่หลิงหลุนคาดการณ์เอาไว้…ทำได้เพียงแค่ให้เดียร์รอสถอยห่างออกไปเป็นแนวยาว.. พื้นโดยรอบปริแตกจนหมด..ทั้งๆที่โดยปกติแล้วเดียร์รอสจะต้องถูกอัสนีทำลายจนสิ้นซาก..แต่นี่..

ผู้อำนวยการสถาบันเทพมารและเหล่าผู้อาวุโสก็แยกกันไปปกป้องศิษย์กลุ่มอื่น..ทำให้เวลานี้มีเพียงหลิงหลุนเท่านั้นที่คอยปกป้องกองกำลังปีกสวรรค์ และองค์หญิงฟา แห่งราชวงศ์เอลฟ์..

“ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปละก็แย่แน่…ไม่มีทางเลือกแล้ว คงจะมีเพียงแค่วิธีนั้นวิธีเดียวแล้วสินะ..สู้โดยที่ไม่ได้ปลดปล่อยพลังมันลำบากถึงขนาดนี้เชียว..ในรอบกี่หมื่นปีกันนะที่ข้าไม่ได้อยู่ในสภาพแบบนี้.. ”

พยัคฆ์สวรรค์ผู้องอาจบัดนี้ถูกเหล่าปีศาจระดับสูงห้อมล้อมเอาไว้..

“ ท่านเดียร์รอสถึงเวลาที่เราจะลงมือ— ”

“ ใครอนุญาติให้เจ้าพูด? ”

ปีศาจตนนั้นใบหน้าซีดเผือกปากกับขาสั่นราวกับว่าอยู่ต่อหน้าพญามัจจุราช..ไม่ทันที่ปีศาจตนนั้นจะได้กล่าวแก้ต่างก็ถูกระเบิดร่างจนแหลกระเอียดอย่างง่ายดาย ทั้งๆที่ปีศาจตนนั้นเกือบจะมีระดับพลังเทียบเท่ากับชนชั้นมหาเทพเสียด้วยซ้ำ..

เพียงแค่จ้องมองก็สามารถสังหารปีศาจระดับสูงได้อย่างง่ายดายและไม่รังเรถึงแม้จะเป็นพวกเดียวกันก็ตาม.ปีศาจตนอื่นต่างพากันตัวสั่นเพราะความหวาดกลัว..

หลิงหลุนที่เห็นเช่นนั้นย่อมรับรู้ได้ทันทีว่าปีศาจตนนั้นยังไม่ทันได้เอาจริงซะด้วยซ้ำ…และพลังฟื้นตัวที่ราวกับสัตว์ประหลาดนั่นอีก..

และอัสนีทั้งหมดค่อยๆถูกขับออกมาจากร่างของเดียร์รอส ราวกับขับสิ่งแปลกปลอมออกมาจากร่างกาย…

“ อัสนีพวกนี้ช่างน่ารำคาญซะจริงๆ แต่ก็น่าเสียดายว่าไหม พยัคฆ์สวรรค์ อุตรส่าห์ให้อัสนีพวกนี้แทรกซึมเข้ามาภายในกายข้าทีละน้อย เพื่อที่เจ้าจะทำบางอย่างสินะ… ”

หลิงหลุนนิ่งเงียบ…เพราะเป็นแบบที่ปีศาจตนนั้นพูดขึ้นมาจริงๆ แผนแทรกซึมอัสนีถูกทำลายโดยสมบูรณ์…

“ ข้าว่าจบการละเล่นเพียงเท่านี้ดีกว่า ในเมื่อเจ้าไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ ข้าก็ไม่มีธุระสำคัญอะไรจะพูดกับเจ้าแล้ว…ปราการอัสนีนั่นก็เป็นปัญหาอยู่พอสมควร..งั้นก็…”

เดียร์รอสนำผนึกสีดำเข้มออกมาจากความว่างเปล่า..หลิงหลุนแสดงสีหน้าไม่สู้ดีออกมาในทันที…และผลึกนั่นก็ไม่ควรที่จะไปอยู่ในมือของเผ่าปีศาจด้วยซ้ำ!!

“ ผนึกสวรรค์!!! เจ้าไปเอามาได้ยังไงกัน… ”

“ ไม่รู้สินะ..หมดเวลาเล่นสนุกแล้ว.. ”

“ ไม่มีทาง!! ”

ตู้มมม!!!

หลิงหลุนระเบิดพลังอัสนีออกมาก่อนจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่แม้แต่เดียร์รอสเองก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง..เพราะหากให้ผนึกสวรรค์ทำงาน ตนจะถูกผลังของสวรรค์ปิดผนึกพลังโดยสมบูรณ์!!

ซึ่งปกติแล้วผนึกสวรรค์จะใช้สำหรับการลงโทษสัตว์เทพที่ทำผิดกฎ!! เพราะแบบนั้น จะให้มันทำงานไม่ได้เด็ดขาด..หลิงหลุนจึงระเบิดพลังสายฟ้าออกมา…

“ หมัดพยัคฆ์สวรรค์!! ”

หลิงหลุนปล่อยหมัดที่มีพลังเพียงพอที่จะทำลายทวีปได้ทั้งทวีป..แต่ทว่าปีศาจตนนั้นกลับรับหมัดของหลิงหลุนเอาไว้โดยที่ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย..เดียร์รอสแสยะยิ้มออกมาในทันที..

“ ดีแล้วเหรอที่ถอยห่างออกมาจากมนุษย์— ”

เดียร์รอสที่หันไปหาเผ่ามนุษย์ที่อยู่ด้านหลังของพยัคฆ์สวรรค์ผู้นี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา!!

“ นี่เจ้า…ฮ่าฮ่าฮ่า เพราะแบบนี้ไงสวรรค์ถึงมีของเล่นเยอะแยะไปหมดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า พยัคฆ์สวรรค์!! ”

หลิงหลุนสร้างม่านอัสนีเจ็ดสีขึ้นมาทั้งหมด2 ชั้น เป็นปราการไร้ลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ แน่นอนว่าในตอนนี้แม้แต่เดียร์รอสก็ต้องคิดหนักถ้าจะฝ่าเข้าไป..แต่การที่จะทำแบบนี้ได้นั้น ผู้ใช้เคล็ดวิชาจะต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยชีวิต!! เพราะโดยปกติแล้วเคล็ดวิชาอัสนีไร้บักษณ์ ใช้ได้เพียงแค่ ชั้นเดียวเท่านั้นตามกฎของเคล็ดวิชา..

หากใช้มากกว่านั้นจะเป็นวิชาต้องห้ามที่กลืนกินชีวิตของผู้ใช้!!

และสาเหตุที่หลิงหลุนต้องออกมานอกปราการไร้ลักษณ์ก็เพราะจะสามารถปลดปล่อยพลังได้เต็มที่โดยมีป้อมปราการไร้ลักษณ์เป็นสิ่งที่คอยปกป้องศิษย์พวกนั้นไว้…

ขณะที่หลิงหลุนอยู่ท่ามกลางวงล้อมเหล่าปีศาจชั้นสูงอยู่ๆก็มีบางอย่างตกมาจากท้องฟ้า…เดียร์รอสที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้ที่มาใหม่ คล้ายกับว่าเป็นกลิ่นอายที่เดียร์รอสคุ้นเคยมาก่อน..

ตู้มมมม!!!

ตรีศูลสีแดงโลหิตที่ปักลงสู่พื้นดินพร้อมกับชายหนุ่มที่มากับผู้พิทักษ์ประจำตัวสองคน!! ซึ่งแน่นอนว่าหลิงหลุนย่อมจำใบหน้าของผู้เป็นนายได้อย่างถูกต้องและชัดเจน..ยิ่งเป็นกลิ่นอาย ยิ่งชัดเจน…หลิงหลุนยกยิ้มขึ้นมาก่อนที่จะสลายพลังทั้งหมดและล้มตัวลง..จากพิษร้ายที่แทรกซึมเข้าไปในร่าง..

“ นายท่าน…ข้าทำตามหน้าที่ที่ท่านได้สั่งการเอาไว้อย่างดีแล้ว..ที่เหลือข้าต้องฝากท่านแล้ว ”

บัดนี้จ้าวสวรรค์คนใหม่ได้เข้าสู่สนามรบโดยสมบูรณ์!!

“ เปลี่ยนตัวกัน… ”

จบ

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท