เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 348 เทพมารมลายสูญ

ตอนที่ 348 เทพมารมลายสูญ

“ ข้าจะบอกว่าข้าลืมบอกเจ้าเรื่องนึง…นั่นก็คือสิ่งที่เจ้ากำลังพูดกับข้า..เจ้าไม่ต้องฝากข้าไปบอกท่านพ่อแล้วไป๋หลงเพราะ..ท่านพ่อของข้าล้วนได้ยินมันทั้งหมดผ่านสร้อยคอเส้นนี้….ข้ากำลังจะบอกเจ้าแต่เจ้าพูดมันออกมาหมดแล้ว… ”

“ ………… ”

………………………………………………….

ณ ปราสาทเทพมาร

ข้างในที่ประชุมและโถงทางเดินคล้ายกับเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้นจากสภาพความเสียหายยับเยินโดยรอบ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยภายในปราสาทเทพมารแห่งนี้..

เหล่ามารชั้นสูงต่างใบหน้าซีดเผือดจากความแข็งแกร่งของบุคคลผู้หนึ่ง ทั้งพละกำลัง ความเร็วและพลัง..

“ นิสัยเหมือนกันไม่มีผิดว่าไหมซีส ดิอาร์ค..”

สตรีสาวกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเรียบนิ่งแต่ก็แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์..พร้อมกับกระบี่สีเลือดในมือที่จ่อคอของเทพมาร ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นจ้าวนครที่ปกครองเผ่ามารทั้งหมด!!…

“ อย่าขยับ…ถ้าพวกเจ้าขยับเทพมารของพวกเจ้าได้ศรีษะหลุดออกจากบ่าแน่..พวกเจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าเป็นคนที่พูดจริงทำจริง…”

“ อัลเบียร์..นี่เจ้าต้องการอะไรจากข้า..ถึงให้ข้าติดต่อไปหาบุตรของคนทรยศนั่น… ”

“ พูดให้มันดีๆหน่อย ซีส ดิอาร์ค คนทรยศที่เจ้ากำลังพูดถึงก็คือน้องชายของข้า..อีกอย่างอายุของข้ามากกว่าเจ้าซะด้วยซ้ำ..ไม่มีความเคารพเอาซะเลย หรือว่าจะหลงระเริงอยู่ในตำแหน่งเทพมารที่ยึดไว้จนเคยตัว..เจ้าอย่าลืมสิว่า บัลลังก์นี้ไม่ใช่ของเจ้า..”

อัลเบียร์ใช้กระบี่จ่อไปที่คอจนโลหิตสีแดงไหลออกมาเล็กน้อย..สาเหตุที่ ซีส ไม่สามารถใช้พลังต่อกรกับอัลเบียร์ได้ในตอนนี้..เพราะถูกอัลเบียร์ผิดผนึกพลังไปชั่วขณะ…

ไม่นานหลังจากจักรพรรดิ์ธาตุทั้งหมดแยกย้ายกันไปหลังเสร็จสิ้นการประชุมบางอย่างที่ใช้ระยะเวลานายพอสมควร..ของเหล่าจักรพรรดิ์ธาตุและเทพมาร

ราชันย์แวมไพร์อย่างอัลเบียร์ก็บุกมาโดยฉับพลันจัดการมารทุกตัวที่ขวางหน้า เหตุการณ์ปีศาจบุกนั้นทำให้กองกำลังส่วนใหญ่ของเทพมารออกไปปกป้องหัวเมืองต่างๆจนภายในปราสาทเหลือเพียงแค่องค์รักษ์มารระดับสูงไม่กี่ตนเท่านั้น..

ก่อนที่ซีสจะพลาดท่าในช่วงวินาทีสุดท้ายถูกฝ่ามือซัดเข้าที่หน้าท้องก่อนจะถูกปิดผนึกพลังชั่วขณะ..แม้ซีสจะแข็งแกร่งในฐานะของเทพมาร

แต่อัลเบียร์นั้นแข็งแกร่งกว่าไปหลายขั้นจากสายเลือดของแวมไพร์และพลังฟื้นตัวระดับสัตว์ประหลาดที่เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว..

“ ผ้าปิดตานี่..”

ราชันย์แวมไพร์ดึงผ้าปิดตาของซีสออกก็เผยให้เห็นถึงดวงตาที่ผิดแปลกไป…แต่มันกลับทำให้อัลเบียร์รู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก..

“ นี่เจ้าสร้างสัญลักษณ์แห่งเทพมารขึ้นมาอย่างงั้นเหรอ.. ”

ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันนั้นอยู่ใจกลางห้องโถงก็ปรากฎมิติสีดำปริศนาขึ้น..เหล่ามารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงถูกดูดหายเข้าไปในทันที..อย่างไม่ทันตั้งตัว ส่วนมารที่มีระดับพลับที่แกร่งกล้า

พร้อมกับความตื่นตัวทำให้สามารถต้านทานต่อแรงดึงดูดปริศนานี้ได้..

“ อ้ากกกก!! ”

ทั้งอัลเบียร์และซีสต่างขมวดคิ้งเป็นปมกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนที่2…

“ แหมๆ พลังของเผ่ามารก็หอมหวานเหมือนกับเผ่าเทพจริงๆ..ตัวข้าคงต้องขอขัดจังหวะพวกเจ้าทั้งสองคนแล้ว..เทพมารซีสและ..ราชันย์แวมไพร์อัลเบียร์…”

ซึ่งเจ้าของน้ำเสียงนี้ก็คือปีศาจตนหนึ่งมี่เดินออกมาจากหลุมมิติพร้อมกับแผ่รัศมีที่น่าขนลุกออกมา…อีกทั้งยังรู้จักตัวตนของทั้งสองเป็นอย่างดี..

“ การเสวนาของเราคงต้องพักไว้ก่อนสินะ…ซีส ”

“ เห็นๆกันอยู่ว่ามันไม่ได้มาในฐานะมิตรอย่างแน่นอน..เผ่าปีศาจเจ้าเข้ามาทำอะไรที่นี่!! ”

ปีศาจตนนั้นแสยะยิ้มที่น่าขนลุกออกมาพลางชี้ไปที่ด้านหลังของบัลลังก์เทพมาร..ซึ่งถัดต่อไปจากนั้นคือห้องเก็บสมบัติบรรพกาล!!!..

ที่มีแค่สายเลือดมารที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะมีสิทธิเข้าถึง..

“ ข้ามีของบางอย่างที่ต้องการอยู่ในนั้น..ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากหลีกเลี่ยงการปะทะได้ข้าก็คงเลือกเช่นนั้น แต่ดูเหมือนท่าทางของพวกเจ้าสองคนแล้ว..ข้าคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้เพราะฉะนั้น.. ”

แป่ก!!

ปีศาจตนนั้นดีดนิ้วก่อนจะปรากฎช่องว่างมิตินับสิบที่คล้ายคลิงกับมิติของเทียนร์..แต่นี่แข็งแกร่งกว่าเทียร์เป็นสิบเท่า!!

ไม่นานก็มีปีศาจชั้นสูงกว่า10ตนห้อมล้อมอัลเบียร์และซีสเอาไว้..

“ เจ้าจะเอายังไงต่อท่านอัลเบียร์…ลำพังแค่เจ้าคนเดียวดูเหมือนมันจะเกินมือไปหน่อย เจ้ากับข้าร่วมมือกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะมันก็สังหารทหารของข้าไปเช่นกัน!! ”

เป็นอย่างที่ซีสบอกลำพังอัลเบียร์ยังไม่มีความมั่นใจที่จะสยบปีศาจพวกนี้ลงพร้อมกัน..เพราะยังไม่รู้ฝีมือที่แท้จริงของปีศาจเหล่านี้..

“ แค่ครั้งนี้.. ”

อัลเบียร์ปลดผนึกพลังของซีสก่อนที่พลังทั้งหมดจะประทุออกมา..

ตู้ม!!!

ซีสปลดปล่อยจิตสังหารที่ดุดันออกมาแต่ดูเหมือนว่าปีศาจเหล่านี้กลับสงบนิ่งจนน่ากลัว…

“ เป็นจิตสังหารที่รุนแรงใช้ได้..แต่ว่ามันก็แค่นั้น ”

“ ซีส พวกมันต้องการอะไรในห้องเก็บสมบัติทำไมพวกมันพยามที่จะเข้าไปในนั้น ข้างในมีอะไรอยู่กันแน่…..”

สิ่งที่อัลเบียร์ถามไถ่นั้นย่อมเป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอน หากไม่มีความสำคัญเผ่าปีศาจคงไม่ยกจำนวนมาถึงขนาดนี้…

“ หรือว่าจะเป็นสิ่งนั้นจะเป็น!! ”

………………………………………………………

ณ สถานที่อันไกลโพ้นออกไป

เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้นานาพรรณ อีกทั้งยังมีสมุนไพรระดับบรรพกาลตามข้างทาง แม่น้ำใสสะอาดสามารถมองเห็นไปถึงก้นของแม่น้ำได้..

อากาศสะอาดสงบบริสุทธิ์ สัตว์ป่าสายพันธุ์ต่างอาศัยอยู่ร่วมกันสงบสุข..หากมองขึ้นไปบนท้องนภาจะเห็นดวงตะวันถึง2 ดวงด้วยกัน..

ซึ่งนี่ก็เป็นอันชัดแจ้งแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ทั้งแดนมนุษย์ แดนเทพ หรือแดนบาดาล แต่เป็นดินแดนที่อยู่อีกมิติหนึ่ง…

ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์นั้นมีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนอนหลับไหลอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำ

ปีกสีขาวนวลและปีกที่คล้ายคลึงกับค้างคาว แต่ให้ความรู้สึกที่น่าเกรงขามและกดดัน..ซึ่งนั่นก็คือปีกของเผ่าปีศาจและเผ่าเทพติดอยู่กลางแผ่นหลัง!!

เปลือกตาทั้งสองข้างค่อยๆพลันขยับเผยให้เห็นถึงนัยต์ตาสีแดงและสีทองสลับกันคนละด้าน..ซึ่งการตื่นขึ้นของบุรุษคนนี้ย่อมมีสาเหตุ..บางอย่าง..

ชายหนุ่มผู้นี้นั้นค่อยๆยืนขึ้นพร้อมกับหลับตาลงคล้ายกับกำลังตรวจสอบบางอย่าง..ก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความเศร้า..

“ มันเริ่มขึ้นอีกแล้วสินะ..การต่อสู้ของสงครามแร็คนาร็อคครั้งใหม่..เพราะเหตุใดกัน ความเคียดแค้นของท่านถึงได้มากมายได้ถึงเพียงนี้..ท่านพ่อ.. ”

จบตอน.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท