เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 339 นามนั้นคือ เดียร์รอส 1

ตอนที่ 339 นามนั้นคือ เดียร์รอส 1

“ ถอย ถอย ถอย!! กลับไปตั้งหลักเผ่าปีศาจมันจะเยอะเกินไปแล้วทัพเราใกล้จะต้านไม่อยู่แล้ว!!! ”

เบื้องหน้าของเหล่าทหารและจอมยุทธที่กำลังถอยทัพ ปีศาจหลากหลายสายพันธุ์ต่างเดินบุกเข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด..รูปร่างของมันมีทั้งสูงใหญ่เกือบ 3 เมตร มีทั้งปีศาจที่มีปีก คอยโจมตีอยู่บนอากาศด้วยขนที่แหลมคมของมันที่คล้ายกับปีกของขนนก..

“ เดี๋ยวก่อนนั่นอะไร.. ”

ทหารและเหล่าจอมยุทธต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ปรากฎเป็นเส้นทางสีทอง..ก่อนจะมีประกายไฟขนาดใหญ่พุ่งตกลงมาที่ใจกลางของเผ่าปีศาจ!!

“ ตู้มมมมมม!!! ”

ลูกไฟขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า..ไม่แค่นั้นมีหอกประกายแสงนับหมื่นพุ่งตกลงมาเสียบทะลุร่างเผ่าปีศาจบริเวณนั้นทั้งหมด..

เพียงแค่พริบตาเดียวเผ่าปีศาจเบื้องหน้าเกือบถูกกวาดล้างจนหมดจะเหลือเพียงแค่เผ่าปีศาจตัวใหญ่ที่มีร่างกายถึกทนต่อการโจมตีทุกโหมกระหน่ำลงมาแบบนั้น..

“ นั่นมันอะไรกัน..พลังโจมตีและการกวาดล้างเช่นนี้มัน.. ”

“ นั่นมัน…เทพสวรรค์!! ”

ทหารนายหนึ่งชี้ขึ้นไปข้างบนก็พบเจอเข้ากับเหล่าเทพกลุ่มหนึ่ง ก่อนที่ทั้งหมดจะกระจายตัวออกไปคนละทิศคนละทาง เพื่อกำจัดเผ่าปีศาจที่อาบะวาดอยู่โดยรอบ..

ส่วนปีศาจตัวใหญ่นั้นดูเหมือนจะทนพิษบาดแผลจากธาตุแสงไม่ได้ก่อนที่มันจะล้มลงและตายไปในที่สุด…

……………………………………………………

ไป๋หลงหลังจากที่ออกคำสั่งกระจายกองกำลังเหล่าเทพสวรรค์ออกไปเพื่อจำกัดการอาละวาดของเผ่าปีศาจ ส่วนตนนั้นก็ลงมายังพื้นเบื้องล่าง พร้อมกับผู้ติดตามสองคนที่ตามมาด้วยซึ่งก็คือ ตุลาการสวรรค์ฝ่ายซ้าย และตุลาการสวรรค์ฝ่ายขวา ขอติดตามไป๋หลงมาด้วย แม้ไป๋หลงจะพยามปฏิเสธสักแค่ไหนก็ตามที..

“ ข้ารู้ว่าท่านต้องการเคลื่อนไหวเพียงคนเดียว แต่ตัวท่านในตอนนี้ต้องคำนึงฐานะของตัวเองเป็นสำคัญ เวลานี้ท่านคือ จอมทัพของเหล่าเทพสวรรค์ หากท่านเป็นอะไรไป นั่นก็ถึงคราวการล่มสลายของสวรรค์ ”

“ ย่อมเป็นเช่นนั้น โปรดท่านอย่าดื้อดึงอีกเลย.. ”

ตุลาการสวรรค์ทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาต่างกล่าวออกมาเช่นนี้ ไป๋หลงจึงไม่มีทางเลือก..ได้แต่ยอมให้ทั้งสองติดตามมาด้วย

ตอนนี้นั้นไป๋หลงอยู่ในรูปร่างของมนุษย์เท่านั้น ส่วนตุลาการสวรรค์ ก็อยู่ในรูปลักษณ์ ผู้อาวุโสที่ใส่ชุดสีขาวดำสลับกัน เพื่อป้องกันการเป็นจุดสังเกต..

เพราะโดยปกติแล้ว เทพสวรรค์จะไม่ลงมายังแดนมนุษย์หากไม่จำเป็น…ขณะที่ทั้งสามคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในป่า ก็สัมผัสได้ถึงการต่อสู้ภายในป่าเบื้องหน้า…

“ ดูเหมือนข้างหน้าจะเกิดการต่อสู้.. ”

ไป๋หลงทะยานร่างไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยใช้พลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของเด็กหนุ่ม..

ไม่นานไป๋หลงก็มาถึงสนามรบขนาดย่อม..

ภาพเบื้องหน้าที่ไป๋หลงเห็นก็คือ ศิษย์จากสำนัก สำนักหนึ่ง ที่กำลังต่อสู้อยู่กับเผ่าปีศาจที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ..แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นไม่ว่ายังไงปีศาจก็คือปีศาจ พลังในด้านกายภาพย่อมเหนือกว่ามนุษย์..

ไป๋หลงไม่รอช้าพุ่งทะยานเข้าสู่สนามรบพร้อมกับสร้างกระบี่สีทองขึ้นมานับร้อยเล่มหมุนวนรอบตัวตัวเองทุกย่างก้าว เผ่าปีศาจโดยรอบไม่อาจที่จะสัมผัสตัวไป๋หลงได้ด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกทีก็ถูกกระบี่สีทองแทงทะลุร่างไปเสียแล้ว จากความต่างชั้นของฝีมือ

กระบี่สีทองพุ่งแทงทะลุร่างของเผ่าปีศาจเหล่านั้นอย่างง่ายดาย ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่า ศิษย์ที่ยังเหลือรอดและเหล่าผู้อาวุโส..

ส่วนตุลาการสวรรค์ ฝ่าย ซ้ายและขวานั้นไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของไป๋หลง..แต่ในสายตากลับแฝงไปด้วยความชื่นชม…

“ ทะ..ท่านจอมยุทธเป็นใครกัน ฝีมือลึกล้ำนัก!!…”

“ ข้าเป็นใครไม่สำคัญ ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่กลางป่าเช่นนี้ทั้งที่เผ่าปีศาจก็กำลังอาละวาดอยู่ทั่วยุทธภพ…แต่เดี๋ยวนะ สัญลักษณ์บนเสื้อของเจ้า..สถาบันเทพมาร!! ”

“ ใช่แล้วพวกข้าคือ ศิษย์จากสถาบันเทพมารแต่ทว่าเวลานี้สถาบันเทพมารถูกโจมตีหนักหน่วงที่สุดในบรรดาสถาบันทั้งหมด..พวกข้าทั้งหมดลอบออกมาเพื่อติดต่อขอกำลังเสริมและตามตัวเหล่าศิษย์หลักกลับไปที่สถาบันโดยด่วน!! ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา สถาบันเทพมารแข็งแกร่งแค่ไหนไป๋หลงย่อมรู้ดี แต่การถูกโจมตีถึงขนาดที่ต้องขอกำลังเสริมเช่นนี้มัน..

ผนวกกับที่ตนนั้นไม่สามารถติดต่อกับพยัคฆ์สวรรค์หลิงหลุนได้ขณะที่ตนกลับมายังแดนมนุษย์ ราวกับว่ามีพลังที่แข็งแกร่งปิดกั้นการติดต่อทั้งหมด…

“ แล้วพวกเจ้าออกมาได้ยังไง.. ”

“ พวกเราใช้ทางลับของสถาบันในการแอบออกมา แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกเผ่าปีศาจโจมตีจนศิษย์พี่ศิษย์น้องหลายคนถูกสังหาร…แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลที่สุด คือปีศาจตนหนึ่งที่ลอยอยู่เหนือสถาบันเทพมาร คล้ายกับว่ามันกำลังทำอะไรบางอย่าง— ”

ไป๋หลงฟังไม่ทันจบก็ระเบิดพลังออกมาก่อนจะโบกสะบัดปีกสีขาวนวลหนึ่งคู่บินทะยานขึ้นไปบนท้องนภาและมุ่งหน้าไปยังสถาบันเทพมาร…

“ พวกเจ้าอย่าเป็นอะไรนะ…ฟา แล้วก็กองกำลังปีกสวรรค์… ”

ตึงงง!!!

ชายหนุ่มระเบิดความเร็วอีกเท่าตัว ใช้พลังแห่งจอมราชันย์และพลังของจักรพรรดิ์เงาในการเร่งความเร็วจนถึงขีดสุด…

ซึ่งความเร็วระดับนั่นย่อมสร้างความตกตะลึงให้กับตุลาการสวรรค์ทั้งสองคน…

“ แบบนี้ถ้าพวกเราไม่ใช้พลังที่แท้จริงคงจะติดตามท่านจ้าวสวรรค์ไปไม่ทันแน่ๆ.. ”

ตุลาการสวรรค์ฝ่ายขวากล่าวขึ้น ก่อนที่ทั้งสองจะระเบิดความเร็วขั้นสูงสุดเพื่อติดตามไป๋หลง…

…………………………………………………….

ณ สถาบันเทพมาร

บัดนี้ทุกทั่วสารทิศต่างถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉาน พร้อมกับเปลวเพลิงโดยรอบที่โหมกระหน่ำ เหล่าอาจารย์ ผู้อาวุโส หลายคนต่างถูกสังหารจากเผ่าปีศาจชั้นสูง…

ตู้มมมมมม!!!

หลิงหลุนในสภาพของเสือขาวขนาดใหญ่ ที่ตอนนี้ทั่วทั้งร่างมีแต่บาดแผลจากการโจมตีที่รุนแรง ซึ่งบาดแผลเหล่านั้นกลับไม่ถูกรักษาในทันที โดยปกติแล้ว เหล่าอสูรเทพศักดิ์สิทธิ์จะมีพลังในการฟื้นตัวอย่างมหาศาลโดยธรรมชาติเฉพาะวิหคสวรรค์..แต่บาดแผลของหลิงหลุน กลับไม่สมาน มิหนำซ้ำดูเหมือนว่าทุกการโจมตีจะแฝงไว้ด้วยพิษที่ร้ายแรง…

“ การโจมตีเหล่าที่ข้าโจมตี ถ้าเจ้าจะหลบก็หลบได้นิ พยัคฆ์สวรรค์? เพราะปกป้องเหล่ามนุษย์ที่อยู่ข้างหลังเจ้าอย่างงั้นเหรอ ”

ปีศาจตนหนึ่งที่ให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปจากเผ่าปีศาจตนอื่นอย่างสิ้นเชิง ทั้งกลิ่นอายของพลัง นัยน์ตาสีแดงเข้ม ปีกที่คล้ายกับเผ่ามาร และเลือนผมสีเงิน..แสดงให้เห็นถึงเชื้อสายที่สูงส่งที่เผ่าปีศาจ..

“ พูดจบรึยัง…ข้าฟังเจ้าพูดอยู่นานแล้ว.. ”

สมุนเผ่าปีศาจที่ติดตามมาด้วยต่างแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวออกมาด้วยความโกรธ…

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!! ทำไมโกรธข้าอย่างงั้นหรือ? ถ้าแน่จริงก็เข้ามาปีศาจชั้นต่ำอย่างพวกเจ้าข้าจะเป่าด้วยสายฟ้าไม่ให้ไปผุดไปเกิดเลย..”

ด้านหลังของหลิงหลุนก็คือกองกำลังปีกสวรรค์ ที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส บ้างแขนขาด ขาขาด เส้นพลังถูกทำลาย และ ผู้ที่อาการน่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ ฟา ราชวงศ์คนสุดท้ายของเผ่าเอลฟ์..

“ เฟยเฟย อาการของท่านฟา เป็นยังไงบ้าง ”

หลิงหลุนกล่าวถามนาง พญางูขาวเฟยเฟย ผ่ากระแสจิต..

“ อาการไม่ดีเลย นางเสียเลือดเป็นจำนวนมาก บาดแผลหน้าท้องก็สาหัสนัก หากไม่ได้รับการรักษา อีกไม่นานละก็…. ”

“ เฟยเฟย ฟังที่ข้าจะพูดต่อจากนี้ให้ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าห่างจากตัวข้าเป็นอันขาด.. ”

เฟยเฟยย่อมเข้าใจหลิงหลุนในตอนนี้ดี เพราะไม่สามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่ หากใช้พลังเต็มพิกัดละก็…

“ ข้าเข้าใจแล้ว… ”

หลิงหลุนค่อยๆแปรเปลี่ยนสภาพมาอยู่ในร่างของมนุษย์ ประกายอัสนีสีฟ้าไหลผ่านตามร่างกายและลงสู่พื้นดิน…และประกายสายฟ้าเริ่มที่จะมีสีสันขึ้นอย่างอย่างน่าประหลาด..

“ ข้าจำเจ้าได้แล้ว…รูปร่างแบบนั้นท่าทางแบบนั้น ระดับพลังที่เหนือยิ่งกว่าสัตว์ประหลาด…เจ้าคงจะเป็นมือขวาของเทพปีศาจเบลเซบับสินะ..เดียร์รอสสินะ.. ”

“ หืม? ในเมื่อรู้แบบนั้นยังคิดจะต่อกรกับข้า แทนที่จะบอกที่ซ่อนของวิหคสวรรค์อย่างงั้นเหรอ…ถ้าเป็นแบบนั้นข้าอาจจะไว้ชีวิตมนุษย์ที่อยู่ข้างหลังเจ้าก็ได้นะ.. ”

“ เหอะ!! ถ้าเป็นเช่นนั้นละก็… ”

หลิงหลุนระเบิดพลังอัสนี 7 สีออกมา อัสนีแต่ละเส้นสายที่อยู่รอบตัวหลิวหลุนล้วนอัดแน่นไปด้วยระดับพลังชนชั้นเทวะ…เดียร์รอสที่ได้เห็นสิ่งนั้น ก็แปรเปลี่ยนสีหน้าไปในทันที…

“ ก็ลองข้ามศพข้าไปก่อน!! ปราการอัสนี 7 สีไร้ลักษณ์!! ”

ตึงงงง!!!

จบ

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท