เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 346 มังกรน้ำแข็งกับการช่วยเหลือ

ตอนที่ 346 มังกรน้ำแข็งกับการช่วยเหลือ

3วันผ่านไป…

นับตั้งแต่ที่วังหลวงของทวีปจรัสแสงถูกทำลายนี่ก็ผ่านมาสามวัน จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงยังคงนอนหมดสติอยู่ตั้งแต่ตอนนั้น…

วังหลวงของทวีปจรัสแสงตอนนี้นั้นถูกยึดเป็นฐานที่มั่นของเผ่าปีศาจแห่งใหม่โดยสมบูรณ์..นั่นยิ่งทำให้ขวัญกำลังใจของจอมยุทธ์ ทหาร รวมถึงชาวบ้านต่างพากันหมดหวัง…

จนกระทั่งถึงตอนนี้จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงก็ยังคงไม่ได้สติ…ถังเทียนและถังอวี้ต่างขอบคุณไป๋หลงที่ช่วยพวกตนออกมารวมถึงผู้เป็นบิดาด้วยความทราบซึ้งใจอย่างถึงที่สุด..

ไป๋หลงตอบรับคำขอบคุณพร้อมกับใช้พฤกษาทองคำหวนคืนรักษาบาดแผลให้กับผู้บาดเจ็บโดยรอบทั้งหมด…ซึ่งพื้นที่ตรงนี้นั้นเป็นที่โล่งกว้าง อีกทั้งในตอนนี้ยังมีทหารสวรรค์ จำนวน 300 คนให้การคุ้มครองดูแลพื้นที่แห่งนี้ภายใต้คำสั่งของไป๋หลง…

“ ท่านทั้งสองข้าขอตัวกลับสวรรค์ เพื่อไปดูอาการของ พวัคฆ์สวรรค์แล้วข้าจะกลับมาฝากพวกท่านดูแลตรงนี้ด้วย..เผ่าปีศาจเองก็หยุดเคลื่อนไหวมานานกว่าสามวันแล้วเช่นกัน..ข้ารู้สึกบางอย่างไม่ชอบมาพากล.. ”

“ ข้าทั้งสองรับบัญชาจ้าวสวรรค์.. ”

ตุลาการสวรรค์ทั้งสองโค้งตัวเคารพไป๋หลงก่อนจะเดินไปดูอาการของเทพบางตนที่บาดเจ็บอยู่เช่นกัน แม้จะได้รับการเยียวยาจากพฤกษาทองคำ..แต่บาดแผลที่เกิดจากพิษย่อมยากที่จะรักษาให้หายขาด..

เทียร์ที่ยืนดูอยู่ห่างๆก็ได้แต่ขบคิดบางอย่างเกี่ยวกับไป๋หลง..

ขณะนั้นเองก็มีเสียงของบุรุษหนุ่มดังขึ้นเป็นเสียงที่คุ้นเคยสำหรับไป๋หลงเป็นอย่างมาก..

“ พี่ใหญ่..นั่นพี่ใหญ่ใช่ไหม.. ”

“ นี่เจ้า… ”

ไป๋หลงหันกลับไปยังที่มาของเสียงก็พบกับชายหนุ่มที่ตอนนี้ใบหน้านั้นเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา..จางลี่วิ่งเข้ามากอดผู้เป็นพี่ใหญ่ของตน..

“ จางลี่ ทำไมเจ้าถึงทำหน้าตาเช่นนั้น เป็นบุรุษต้องเข้มแข็งเข้าไว้… ”

“ พี่ใหญ่ท่านกลับมาแล้ว..ท่านหายไปนานมากซะจนพวกข้าคิดว่าท่านลืมพวกเรากองกำลังปีกสวรรค์แห่งสถาบันเทพมารไปซะแล้ว..ไม่ใช่เฉพาะข้าแต่ทุกๆคนก็คิดถึงท่าน..”

จางลี่หยุดพูดไปชั่วขณะหนึ่ง..พร้อมกับน้ำเสียงที่พยามสะกดข่มความโศกเศร้าเสียใจเอาไว้..

“ ถึงตอนนี้จะมีบางคนที่ไม่สามารถมาพบเจอพี่ใหญ่ได้อีกแล้ว..แต่ดีจริงๆที่ท่านปลอดภัย ข้าว่าแล้วว่าเสียงปริศนาที่ดังขึ้นภายในหัวของข้าจะต้องเป็นเสียงของพี่ใหญ่อย่างแน่นอน— ”

“ ข้าขอถอนคำพูดเมื่อครู่..เจ้าสามารถร้องออกมาได้เต็มที่ที่เจ้าต้องการเลย..ข้าอยู่ตรงนี้แล้วจะไม่มีใครทำอันตรายพวกเจ้าได้อีก.. ”

จางลี่ที่พยามปั้นยิ้ม..เป็นรอยยิ้มที่สุดแสนจะยากเกินอธิบาย..น้ำตาค่อยเอ่อล้นออกมา..น้ำตาคือสิ่งที่อธิบายในสิ่งที่เราไม่สามารถสื่อออกมาเป็นคำพูดได้..

ทั้งความกลัว โศกเศร้าและเสียใจ..อารมณ์ทั้งหมดต่างก่อตัวขึ้น…

“ พี่ใหญ่ข้ากลัว..ข้ากลัวจะสูญเสียสหายคนสำคัญไปอีก..ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเราเอาไว้ได้..ข้ามันไร้ความสามารถทำให้ผู้เป็นสหายต้องตาย..เป็นเพราะความอ่อนหัดของข้าที่ต้องทำให้เพื่อนที่สำคัญต้องเอาชีวิตมาแลกเพื่อปกป้องข้า..พี่ใหญ่ข้าเจ็บใจยิ่งนัก..ข้าเจ็บใจในความอ่อนแอของตัวเอง… ”

ไป๋หลงได้รับฟังความรู้สึกทั้งหมดที่จางลี่นั้นรู้สึกและภาระหน้าที่ที่จางลี่นั้นแบกรับเอาไว้..

ซึ่งในตอนนี้นั้นไป๋หลงอยู่ในตำแหน่งเจ้าสวรรค์รวมถึงได้รับการยอมรับจากบัลลังก์สวรรค์อย่างสมบูรณ์ ทำให้ชายหนุ่มสามารถมองเห็นดวงวิญญาณของเหล่าผู้ที่ตายจากไปได้..

ซึ่งดวงวิญญาณเหล่านั้นไม่สามารถที่จะพูดหรือสื่อสารใดๆกับผู้ที่มีชีวิตอยู่ได้..แม้ยืนอยู่ตรงหน้าก็เปรียบเสมือนอากาศไร้ตัวตน

ราวกับอยู่กันคนละห้วงมิติ..เปรียบเสมือนดั่งคำที่ว่า คนตายไม่มีสิทธิ์พูด..แม้อยากจะพูดแค่ไหนก็ตามทีและในตอนนี้นั้นมีดวงวิญญาณกว่า10ดวงกำลังโอบล้อมจางลี่อยู่..

“ จางลี่ เจ้าฟังข้าให้ดี เจ้าทำดีที่สุดแล้วอย่าได้โทษตัวเอง หากสหายของเจ้าที่จากไปเห็นเจ้าในสภาพเช่นนี้ที่เอาแต่โทษตัวเอง..อย่าทำให้สหายของตัวเองเป็นห่วงนักสิ..ไม่แน่ตอนนี้พวกเขาเหล่านั้นกำลังเฝ้ามองเจ้าอยู่ก็เป็นได้..จงยืนหยัดและเข้มแข็ง.. ”

ไม่เฉพาะแต่รอบตัวจางลี่แต่บริเวณโดยรอบก็มีดวงวิญญาณมากมายที่อยู่รอบตัวของผู้เป็นที่รักและสหายที่กำลังโศกเศร้าเสียใจ..

ดวงวิญญาณเหล่านี้นั้นอยู่บนแดนมนุษย์ได้เพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นหลังจากที่ตาย ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปยังกระแสลำธารวัฏจักรแห่งชีวิต…

“ พี่ใหญ่.. ”

“ พี่ใหญ่จริงๆด้วย ”

“ พี่ใหญ่กลับมาแล้ว!! ”

เหล่าศิษย์จากสถาบันเทพมารที่สังกัดอยู่ในกองกำลังปีกสวรรค์นั้นเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด..กลับกันมีดวงวิญญาณนับร้อยที่แสดงความเคารพไป๋หลงในฐานะพี่ใหญ่..และจ้าวสวรรค์

“ เหิงฟู..ทุกคน..แต่เดี๋ยวนะนี่เจ้า..มิวอย่างงั้นเหรอ..ทำไมรูปลักษณ์ของเจ้าถึงเป็นสตรีเช่นนี้.. ”

ไป๋หลงพูดขึ้นพร้อมกับพยามกักเก็บความโกรธเอาไว้..แม้ภายในไป๋หลงจะยังคงนิ่งสงบแต่ใครจะรู้เล่าว่าภายในใจตอนนี้นั้น..พังพินาศไม่เหลือแม้แต่น้อย..

“ อะไรกัน..เจ้ารู้ได้ยังไง ข้ากะจะมาหยอกเจ้าเล่นสักหน่อยไม่เห็นสนุกเลย…ว่าแต่ว่าเจ้าก็เปลี่ยนไปเยอะนะไป๋หลง..คนที่ทำอะไรบู่มบ่าม ทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจจนถึงสายตาของปีศาจทั้งหมดไปได้ ข้าละนับถือเจ้าจริงๆ.. ”

มิวกล่าวเหน็บแนมไป๋หลงเล็กน้อย..ซึ่งสาเหตุที่ไป๋หลงรู้นั้นก็เพราะว่าตัวชายหนุ่มในตอนนี้นั้นสามารถมองคลื่นวิญญาณภายในร่างได้เป็นความสามารถพิเศษที่ถูกปลุกขึ้นโดยบังเอิญ..และคลื่นวิญญาณของสตรีผู้นี้ก็เป็นแบบเดียวกันกับของมิว!!

“ เจ้าก็ยังคงโชคดีเหมือนเคยสินะ.. ”

“ ข้าว่า..ก็ไม่ขนาดนั้น… ”

มิวเปิดบาดแผลตรงหน้าท้องข้างขวาให้ไป๋หลงและคนอื่นๆดู..ทั้งหมดแสดงสีหน้าตื่นตะงึงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ผ่านมาสามวันแล้วแผลยังคงไม่สมาน มิหนำซ้ำพฤกษาทองคำหวนคืนก็ยังใช้ไม่ได้ผล..

“ มิวนี่เจ้า!! บาดแผลนั่นมัน.. ”

“ ข้าประมาทไปหน่อยเลยถูกปีศาจตนหนึ่งที่ใช้พิษบรรพกาลเล่นงานเข้า..จนอยู่ในสภาพแบบนี้ ถึงคราวที่ข้าดวงตกสินะ..แต่ไม่เป็นไรไกลหัวใจข้าตั้งเยอะ.. ”

ถึงปากจะพูดเช่นนั้นแต่ใบหน้าของมิวก็ซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด..ก่อนที่มิวจะล้มนอนหมดสติไป๋หลงก็รีบเข้ามาประคองเอาไว้..ก่อนที่ไป๋หลงจะติดต่อหน่วยแพทย์ของแดนสวรรค์ให้ลงมาช่วยดูอาการของมิว

หลังจากนั้นไม่นานหน่วยแพทย์สวรรค์ที่ลงมายังโลกมนุษย์พร้อมกับวิเคราะห์อาการของนาง..ซึ่งพิษที่มิวโดนนั้นคือหนึ่งในราชันย์พิษ..

“ พิษดำกลืนกระดูก..เป็นหนึ่งในราชันย์พิษที่อันตรายที่สุดทางเดียวจะรักษาได้ก็คือต้องทำลายพิษภายในร่างด้วยความร้อนบริสุทธิ์สูง..ซึ่งวิทยาการของเผ่าเทพในตอนนี้นั้นไม่สามารถทำเช่นนี้ได้..แต่หากเป็นเพลิงของวิหคสวรรค์ก็ไม่แน่..ขอเพียงแค่ให้วิหคสวรรค์ใช้เปลวเพลิงของตนนั้นแผดเผาพิษในร่างโดยการส่งผ่านพลัง…”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ย่อมรับรู้ความเสี่ยงนี้ได้เป็นอย่างดี…ระยะเวลาสามวันที่เผ่าปีศาจหยุดเคลื่อนไหว..ราวกับว่ากำลังเฝ้ารอโอกาสบางอย่าง..

“ แบบนี้ชักจะไม่เข้าท่าแล้ว..ราวกับว่าเรื่องนี้กำลังเป็นไปตามแผนของพวกมัน.. ”

ซึ่งตัวไป๋หลงเองในตอนนั้นก็รู้สึกราวกับว่าปีศาจสองตนนั้นไม่ได้เข้ามาขัดขวางตนแต่อย่างใด และยังปล่อยให้ตนนั้นช่วยจักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงออกมาได้..

และในตอนนี้ราวกับว่ามันกำลังเฝ้ารอให้ไป๋หลงเริ่มเคลื่อนไหว..

ซึ่งสงครามในครั้งนี้หากพวกมันได้ตัวอู้เฉียงไปทุกอย่างก็จบ..

“ จ้าวสวรรค์..ไม่ใช่เฉพาะความร้อนเท่านั้นที่จัดการพิษร้ายนั้นได้..แต่ความเย็นก็สามารถแช่แข็งพิษภายในร่างจนสลายหายไปได้เหมือนกัน..บนสวรรค์คงจะไม่มีสอนเรื่องนี่สินะ.. ”

เสียงที่ดังขึ้นในหัวของไป๋หลงนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ…

“ มังกรน้ำแข็ง.. ”

จบตอน

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท