เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 359 การถือกำเนิดใหม่และการดับสูญ

ตอนที่ 359 การถือกำเนิดใหม่และการดับสูญ

สามารถแลกชีวิตให้กันได้..ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจะมีคนใดคนหนึ่งหายไปตลอดกาล..นั่นก็คือผลร้ายของเคล็ดวิชาสองประสาน..และตัวตนที่จะต้องถูกลบให้หายไปก็ถือ..เหิงหวง!!

“ สองประสานรวมเป็นหนึ่ง!! ”

เคล็ดวิชาบรรพกาลที่หายสาบสูญไปจากยุทธภพนับหมื่นนับแสนปี บัดนี้ได้ถูกนำออกมาใช้อีกครั้ง..การรวมใจเป็นหนึ่งและการเสียสละครั้งยิ้งใหญ่..

สัตว์อสูรในพันธะโลหิตและผู้เป็นนายจะต้องรวมกันเป็นจิตเดียวกายเดียวไม่อาจมีสอง..นั่นก็หมายถึงจะต้องมีตัวตนของคนใดคนหนึ่งหายไปตลอดกาลไม่อาจกลับสู่กระแสลำธารแห่งวิญญาณได้เฉกเช่นเดียวกับดวงวิญญาณอื่นๆ..

บัดนี้วิหคสวรรค์อัมตะได้ถือกำเนิดใหม่ ณ ใต้ท้องทะเลที่ส่องแสงสว่าง ทำให้ทั่วทั้งก้นมหาสมุทรที่มืดมิดกลับสว่างไสว สามารถมองเห็นโดยรอบได้อย่างชัดเจน..

ตึงง!!!

“ สถานการณ์อยู่เหนือความคาดหมาย ถอย!! ”

เดียร์รอสกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลเพราะระดับพลังที่สุดแสนจะหยั่งถึงเบื้องหน้านี้นั้นอันตรายเกินไป…

“ ใครอนุญาตให้พวกเจ้าไปจากที่แห่งนี่.. ”

สุรเสียงที่เต็มไปด้วยพลังและความน่าเกรงขามสะกดปีศาจชั้นสูงทั้งสองเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น..

เปลวเพลิงทั้งหมดค่อยๆหายไป..ปรากฎรูปลักษณ์ชายหนุ่มที่แม้แต่เมดูซ่าได้เห็นย่อมเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี..

เส้นผมสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงนัยต์ตาสีแดงที่มองเข้าไปคล้ายกับถูกต้องมนต์สะกด คิ้วสีแดงดูเฉียบคมราวกับกระบี่..

ผิวกายขาวเรียบเนียลร่างกายล่ำสันสมชายชาตรีมัดกล้ามทั่วทั้งร่างกายสามารถเห็นได้ชัดขึ้นอย่างชัดเจน..

“ นี่มัน..สองประสานรวมเป็นหนึ่ง..ข้าคิดว่ามันเคล็ดวิชาที่หายสาบสูญไปแล้ว..แต่นี่มัน..ก็หมายความว่าเฟิงหวงรวมจิตวิญญาณเข้ากับเจ้าเป็นหนึ่งเดียวนั่นก็หมายความว่าจิตดั้งเดิมของเฟิงหวงนั้นได้หายจากโลกนี้ไปแล้ว…เท่ากับว่าเด็กคนนั้น.. ”

เมดูซ่ามองพินิจทั้งระดับพลังที่มีมหาศาลจนน่าอัศจรรย์และรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปนั่น…

“ อู้เฉียงในตอนนี้คือ วิหคสวรรค์ที่ถือกำเนิดใหม่ขึ้นอย่างสมบูรณ์!! ”

ทั้งเดียร์รอสและเซร่าต่างคาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น..

“ ร่างสถิตของวิหคสวรรค์รวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียวแล้วใต้ท้องทะเลแบบนี้เราเสียเปรียบถอยกันก่อนเถอะ..หลังจากนั้นคทอยว่ากันอีกที.. ”

“ ข้าก็อยากทำเช่นนั้นแต่ดูเหมือนว่า..เด็กนั่นจะไม่ยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆอย่างแน่นอน.. ”

อู้เฉียงค่อยๆลงมาแตะพื้นเคียงข้างกับเมดูซ่าพร้อมกับรักษาบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ขึ้นทั้งหมด..

“ ข้าขอโทษท่านด้วยที่ต้องทำให้ท่านเจ็บตัวเช่นนี้.. ”

ชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงแตกต่างจากน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด…แม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปแต่นิสัยนั้นยังคงเดิม

“ หึ บาดแผลแค่นี้ไม่ต้องให้เจ้าช่วยข้าก็รักษาตนเองได้..อย่าอวดเก่งไปหน่อยเลยเด็กน้อย.. ”

“ ก็จริงของท่าน..ข้าขอสะสางปัญหาที่อยู่เบื้องหน้านี้ก่อนแต่ทว่าก่อนอื่น.. ”

ปกติแล้วนั้นหากเมดูซ่าเรียกอู้เฉียงว่าเด็กน้อยจะต้องแสดงท่าทีโวยวายออกมา..แต่บัดนี้ตัวชายหนุ่มกลับนิ่งสงบไม่แม้แต่ที่จะโต้เถียงหรือแสดงท่าทางที่ไม่ชอบใจออกมา..

แม้แต่เมดูซ่ายังอดที่จะตกตะลึงไม่ได้..

อู้เฉียงกางฝ่ามือออกไปพร้อมกับส่งคลื่นพลังสีส้มอ่อนไปหล่อเลี้ยงม่านพลังจนกลับมาอยู่ในสภาวะปกติน้ำที่ไหลเข้ามาค่อยๆหยุดไหลลงอย่างช้าๆ!!

ขณะเดียวเดียร์รอสและเซร่ามองหน้ากันราวกับว่ามีแผนการบางอย่าง..แต่ทว่า..

“ อย่าคิดว่าจะหนีพ้น.. ”

“ !!!! ”

เพียงชั่วพริบตาอู้เฉียงก็มาโผล่ตรงข้างหลังของเซร่าและเดียร์รอสพร้อมกับจับไหล่ของทั้งสองเอาไว้..ซึ่งแน่นอนว่าตามสัญชาติญาณการต่อสู้ย่อมรับรู้ได้ในทันทีว่าหากไม่ต่อสู้แบบเอาจริงละก็..ตัวมันจะต้องเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบและพ่ายแพ้อย่างแน่นอน..

……………………………………………………

ขณะเดียวกัน ณ แดนสวรรค์ ท่ามกลางการประชุมของ4มหาเทพแห่งแดนสวรรค์

เทพทั้งหมดตามรับรู้ได้ถึงการถือกำเนิดใหม่ของวิหคสวรรค์นั่นก็หมายความว่า..

“ เฟิงหวงนางได้ใช้เคล็ดวิชา สองประสานรวมเป็นหนึ่ง..ตอนนี้ร่างสถิตของวิหคสวรรค์กลับกลายเป็นวิหคสวรรค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว..อะไรกันที่ทำให้นางทำเช่นนั้น.. ”

อาเธน่ากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย..

การถือกำเนิดใหม่ของวิหคสวรรค์แม้แต่สัตว์อสูรเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือก็ยังสัมผัสได้ได้ถึงการสูญเสียและการกำเนิดใหม่..

ตัวตนของเฟิงหวงนั้นได้ตายจากไปแล้ว..

ไป๋หลงที่ได้ฟังเช่นนั้นก็ย่อมรับรู้ถึงสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีเพราะตนนั้นก็รู้ถึงความสามารถของเคล็ดวิชานี้เช่นกัน…

“ อู้เฉียงเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่… ”

…………………………………………………….

ณ ห้วงมิติจิต..

“ นางทำไปจนได้สินะ..”

เต่าทมิฬกล่าวขึ้นด้วยความรู้สึกที่ราวกับว่าสหายคนสำคัญนั้นได้หายตายจากไปแล้ว..

“ นี่เป็นการตัดสินใจของนาง…ไม่แน่ว่านางนั้นอาจจะรู้อยู่ก่อนแล้วก็เป็นได้ว่าต้องมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น..และนางก็ยอมรับและพร้อมที่จะทำมัน ”

มังกรทองอย่างหวงหลงเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าเฟิงหวงนั้นจะทำอะไรที่บ้าบิ่นได้ขนาดนี้…

“ ว่าแต่เจ้าเถอะ ได้ข่าวบาดเจ็บสาหัสเอาการนี่ เจ้าแมวน้อย.. ”

หวงหลงกล่าวขึ้นพลางชายตามองพยัคฆ์สวรรค์ที่กำลังทำหน้าซึม..เพราะหากให้พูดกันตามตรงแล้วเฟิงหวงและไป๋หู่นั้นเป็นสหายที่อยู่ร่วมกันมาอย่างช้านาน

นับตั้งแต่ทั้งสี่ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับพยัคฆ์สวรรค์และวิหคอัมตะ ดูเหมือนจะมีความสนิทสนมมากกว่าสัตว์เทพตนอื่น..

แม้จะทะเลาะกันบ่อยก็ตามที..

“ นะ..นี่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ..ถ้าข้าเป็นแมวเจ้ามันก็เป็นกิ้งกือ ไม้เดือน..ใช่ไหมเจ้านก— ”

ไป๋หู่นัเรไม่สามารถที่จะพูดประโยคและชื่อนี้ได้ในตอนนี้ก่อนที่พยัคฆ์สวรรค์จะหายออกไปจากห้วงมิติ..เหลือแค่เพียงเท่ามิฬและมังกรทอง…

“ ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการที่เบี่ยงเบนความสนใจ..หวงหลง แต่เจ้าเนี่ยน่า..ปลอบผู้อื่นไม่เป็นด้วยอุปนิสัยที่เย่อหยิ่งของเจ้า คงจะยากสำหรับการที่ต้องปลอบใครสักคนสินะ.. ”

“ เต่าทมิฬเจ้าอย่ามารู้ดีไปมากกว่าตัวข้า.. ”

“ ข้าก็ไม่ได้บอกว่ารู้ดีกว่าเจ้า..ข้าก็แค่บอกให้เจ้าเข้าใจก็เท่านั้น..เฟิงหวงและไป๋หู่นั้น บนแดนสวรรค์เมื่อครั้งที่เรามีหน้าที่พิทักษ์ประตูแดนสวรรค์..สองคนนั้นเปรียบดั่งพี่น้อง..การที่ไป๋หู่จะเป็นเช่นนั้นก็ไม่แปลก แม้เจ้ากับข้าจะรู้สึกเศร้าอยู่บ้างแต่เชื่อสิ..ไป๋หู่เจ้านั่นเสียใจมากกว่าพวกเรารวมกันเสียอีก..เพราะเราไม่ได้มีความสัมพันธุ์ที่แน่นแฟ้นเช่นนั้น.. ”

สิ่งที่เต่าทมิฬพูดมานั้นย่อมเป็นความจริงทั้งหมด..การที่จะทำใจยอมรับว่าคนสำคัญในชีวิตนั้นได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ..

และไม่มีทางที่จะได้กลับมาเกิดใหม่ได้อีกแล้ว..เป็นความเศร้าและความทุกข์ของพยัคฆ์สวรรค์ที่ต้องแบกรับความรู้สึกเหลือคณานับในตอนนี้..

จบตอน

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท