เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 365 เทพปีศาจสยบสามภพ 2

ตอนที่ 365 เทพปีศาจสยบสามภพ 2

ณ ที่พักชั่วคราว

เป็นที่พักที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับและรักษาผู้บาดเจ็บจำนวนหลายน้อยคน…มีสำนักต่างๆที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านการแพทย์ ได้เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้..

แม้แต่องค์ชายถังเทียนและองค์หญิงถังอวี้ก็ช่วยกันรักษาบาดแผลให้กับผู้บาดเจ็บ..แม้พวกตนจะเป็นราชวงศ์ที่ปกครองทวีปนี้ก็ตามที..แต่บัดนี้ก็มีแต่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น..ยศหรือแม้แต่บรรดาศักดิ์ก็ไม่มีค่าแม้แต่น้อย

ขณะนั้นเองไป๋หลงก็บินลงมาพร้อมกับแบกร่างของอู้เฉียงเอาไว้โดยที่มีเทียร์และเมดูซ่าติดตามมาด้วย..

“ ทำความเคารพท่านจ้าวสวรรค์!! ”

ขณะนั้นเองเหล่าทหารเทพก็ใบหน้าซีดเผือดพร้อมชี้ปลายแหลมของคมหอกและดาบใส่หญิงสาวที่อยู่ข้างกายของเทียร์.. ”

“ นะ..นางคือเมดูซ่า..นางมาที่นี่ได้ยังไง!! ”

ตุลาการสวรรค์ทั้งสองที่กลับมาพอดีรีบพุ่งทะยานร่างด้วยความเร็วดุจอัสนีหมายจะโจมตีเมดูซ่า…แต่ในช่วงระยะเวลานั้นเอง…

“ หยุด!! นางเป็นพันธมิตรของเรา!! ห้ามทำร้ายนางเป็นอันขาด..ข้าไม่ได้ห่วงนาง..แต่ห่วงชีวิตของพวกเจ้าตังหาก..หากนางหมายเอาชีวิตพวกเจ้า..พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสได้ใช้หอกที่อยู่ในมือมาชี้ใส่นางเป็นแน่… ”

สิ่งที่ไป๋หลงกล่าวขึ้นมาย่อมไม่ใช่เรื่องโกหก ตุลาการสวรรค์ทั้งสองหยุดการโจมตีในทันที..พร้อมสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น..

ไป๋หลงได้ให้ทหารสวรรค์ทั้งหมดกระจายข่าวออกไปว่าเมดูซ่านั้นได้เข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ในฐานะพันธมิต..หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ได้ให้ตุลาการสวรรค์ทั้งสอง

รวมถึงแม่ทัพเทพบางคนเข้าร่วมการประชุมในกระโจง..ไป๋หลงไม่ลืมที่จะวาดอักขระโบราณไว้บนพื้น..มันคืออักขระในการป้องกันเสียงในนี้ออกไปด้านนอก

หลังจากนั้นไป๋หลงก็พยุงอู้เฉียงในสภาพหมดสติลงไปตอนบนเตียงก่อนที่ตนนั้นจะลุกมานั่งที่เก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมไว้โดยที่มีเทียร์และเมดูซ่านั่งขนาบข้าง…

“ เอาล่ะ..เรามาเริ่มการประชุมในครั้งนี้กันเถอะ…แม่ทัพสวรรค์รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นมาในช่วงระยะเวลาที่ข้าไม่อยู่..เกิดอะไรขึ้นบ้างในบริเวณพื้นที่โดยรอบ ”

แม่ทัพสวรรค์ก้มหัวแสดงความเคารพไป๋หลงก่อนจะเริ่มพูดในสิ่งที่ตนไปพบเจอมา…

“ ตอนนี้พวกปีศาจทั้งหมดถอยล่นกลับไปแล้ว..แต่พวกเรานั้นไม่อาจรู้ได้ว่าที่อยู่จริงๆของพวกมันนั้นอยู่ที่ไหน…ซึ่งพวกเรานั้นพยามจะติดเพื่อไปดูให้แน่ชัดแต่ว่าอยู่ๆก็มีกลุ่มหมอกดำปรากฏขึ้นมาปกคลุมหลังจากหมอกดำจางหายไป..พวกมันก็หายไปจนหมดแล้ว..ข้าเกรงว่าเรื่องนี้มันจะ…ร้ายแรงกว่าที่คิด ”

ไป๋หลบที่ได้ยินเช่นนั้นก็พูดขึ้นกลางที่ประชุมในทันที..

“ ตอนนี้ข้าเจอแหล่งที่อยู่ของพวกมันแล้ว..คราแรกข้าก็คิดที่จะบุกไปโจมตี..แต่ทว่าพวกท่านโปรดดูสิ่งที่ข้าจะส่งให้ผ่านจิตใต้สำนึก.. ”

“ !!!! ”

ละอองแสงสีทองอ่อนค่อยๆเข้าไปในร่างกายของผู้ที่เข้าร่วมการประชุมทั้งหมด..ก่อนที่ทั้งหมดจะแาดงสีหน้าตกตะลึงออกมา…

“ นะ..นี่มัน!!! ”

“ ใช่..สิ่งที่พวกท่านเห็นก็คือ ทัพปีศาจที่แท้จริงทั้งหมด..ปีศาจก่อนหน้านี้ที่โผล่ออกมาก็เพื่อตัดกำลังของฝ่ายเรา..หากประเมินด้วยสายตาแล้วไม่ต่ำกว่า สามแสนตน…ในขณะที่ทัพแดนสวรรค์ของเรานั้นมีราวๆประมาณ สอง แสนตน…เป็นไปได้ยากมากที่ปะทะกันตรงๆ…แต่เหนือสิ่งอื่นใด..ผลึกสีใสนั่นตั้งอยู่ใจกลางของพวกปีศาจ..ข้าก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่านั่นคือสิ่งใดกันแน่คล้ายกับมีพลังบางอย่างใช้ปกปิดผลึกนั่น… ”

แต่ทว่าในขณะที่กำลังประชุมอยู่นั้นเองก็ปรากฎห้วงมิติสีเทาขึ้นใจกลางที่ประชุม…ทั้งๆที่ไป๋หลงนั้นสร้างข่ายอาคมป้องกันการเคลื่อนย้ายรูปแบบมิติ!!..

ข่ายอาคมเทวะคือข่ายอาคมที่ไป๋หลงนั้นให้กาเบรียลช่วยสอนให้..โดยใช้แกนอสูรระดับสูงนับพัน..สาเหตุที่ข่ายอาคมใช้ไม่ได้ผลมีเพียงอย่างเดียว…ความแข็งแกร่งที่แม้แต่ข่ายอาคมก็เอาไม่อยู่!!

“ เด็กน้อยไม่ต้องกังวล..นั่นไม่ใช่ศัตรูของเจ้า.. ”

กาเบรียลกล่าวขึ้นภายในจิตใจของไป๋หลง…

“ ทุกคนลดอาวุธลง..นี่ไม่ใช่ศัตรูของเรา..”

ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม..ซึ่งทั้งหมดก็ต่างลดระดับพลังพร้อมกับเก็บอาวุธในทันทีตามคำสั่งของไป๋หลง…ขณะนั้นเองก็มีร่างของชายหนุ่มโผล่ออกมาจากมิตินั้น..

นัยน์ตาสีเท่าหม่นเลือนผมสีดำ..กลิ่นอายที่แผ่ออกมาเทพก็ไม่ใช่ปีศาจก็ไม่เชิง…แต่เมดูซ่าที่เห็นใบหน้าของผู้มาใหม่นั้น…

“ นี่เจ้า..โซโลม่อน!!! ”

“ ไม่เจอกันนานนะงูน้อย.. ”

ทุกคนที่ได้ยินต่างแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามได้…

“ โซโลม่อน..ผู้ปกครองดินแดนลับแห่งนครอันธกาล..มาทำอะไรที่นี่!! ”

“ ไม่น่าเชื่อ….คนจากนครอันธกาลต่างพลิกแผ่นดินเพื่อหาเจ้า..นี่เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา..”

เมดูซ่าแม้จะถูกเรียกว่างูน้อยก็ไม่มีท่าทางฉุนเฉียว..แค่รู้สึกไม่พอใจเพียงชั่วครู่เท่านั้น..ซึ่งแปลกมาสำหรับอุปนิสัยของนาง

“ อืม…ถ้าพวกเจ้าถามว่าข้ามาทำอะไร..ข้าก็แค่มาช่วยน้องไป๋หลงของข้าเท่านั้น.. ”

“ อะไรนะ!!! เมื่อกี้เจ้าหมายความว่ายังไงที่เป็นพี่ของท่านจ้าวสวรรค์..หรือว่าเจ้า..”

ตุลาการสวรรค์กล่าวขึ้นความตกตะลึง…แม้แต่ไป๋หลงเองก็ยังไม่แน่ใจถึงที่มาของชายผู้นี้..แต่สามารถเข้ามาได้โดยทะลวงตาข่ายกั้นมิติที่ตนสร้างขึ้นมาก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย…

“ นั่นสหายของเจ้าใช่ไหมที่นอนอยู่บนเตียงด้านหลัง… ”

เพียงชั่วพริบตาเดียวบุรุษผู้นั้นก็เข้าถึงตัวอู้เฉียงพร้อมกับให้กลืนเม็ดยาโอสถบางอย่างลงไปโดยที่ไป๋หลงเเม้แต่เมดูซ่าและคนอื่นๆก็มองความรวดเร็วนี้ไม่ทัน…

เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจใช้ดวงตาเทวะในการประเมินระดับพลังของอีกฝ่าย..แต่กลับไม่สามารถมองดูระดับพลังที่แท้จริงของคนผู้นี้ได้..นี่เป็นครั้งแรกที่ดวงตาเทวะของไป๋หลงนั้นใช้ไม่ได้ผล!!

“ ไม่ต้องกังวลเพื่อนของเจ้าแค่เหนื่อยล้าจากการใช้พลังของตนเองที่พึ่งได้รับมา..เพื่อนของเจ้าในตอนนี้นั้นได้กลายเป็นวิหคสวรรค์อัมตะโดยสมบูรณ์ จากการต่อสู้ที่ดุเดือดใต้ทะเล..ทำให้สภาวะร่างกายมาจนถึงขีดสุด ต้องรอการปรับตัวอีกสักพักใหญ่ๆ ”

ชายผู้นั้นรับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด..อีกอย่างความสัมพันธุ์เกี่ยวยังไงกับไป๋หลงกันแน่..ทุกคนก็ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย…เกี่ยวกับภูมิหลังที่แท้จริงของโซโลม่อน

“ พวกเจ้าสงสัยใช่ไหมว่าในผลึกคริสตัลที่พวกเจ้าไม่รู้ว่าสิ่งใดนั้นอยู่ข้างใน…และนั่นเกี่ยวพันธ์กับข้าที่ต้องมายังสถานที่แห่งนี้…กว่าจะหาเจ้าเจอก็ลำบากไม่ใช่น้อยเลยไป๋หลง..”

“ นี่เจ้า..เป็นใครกันแน่ ”

ชายผู้นั้นได้ยินเช่นนั้นก็เดินมากอดคอของไป๋หลงพร้อมกับเอ่ยขึ้นใบหน้ายิ้มแย้ม..

“ ถ้าจะพูดให้ถูกข้าไม่ใช่พี่แท้ๆของเจ้าหรอก..แต่ข้าก็มีความเกี่ยวพันธ์กับเจ้าในทางสายเลือดราชวงศ์ของเผ่าเทพ…และในผลึกนั่นก็คือพ่อของข้าเอง..”

“ พ่อ? ”

“ ถ้าพวกเจ้ายังไม่เข้าใจ..พ่อของข้าก็คือ..เบลเซบับเทพปีศาจที่อยู่ในผลึกนั่นที่พวกเจ้ากำลังสงสัยนั่นไง…”

เหล่าแม่ทัพสวรรค์และตุลาการสวรรค์ทั้งสองต่างแสดงสีหน้าแข็งค้าง..ไม่เว้นแม้แต่เทียร์..นี่มันตัวตนระดับหายนะเดินได้ชัดๆ!!!

“ !!!!!!!! ”

จบตอน

ไรท์= ช่วงนี้ที่ไรท์นั้นลงนิยายช้า เพราะไรท์นั้นต้อง

เตรียมตัวสอบและอ่านหนังสือ ทำให้เวลาในการลงนิยายนั้นลดน้อยลง ไรท์สัญญาว่าจะมาลงให้เรื่อยๆในตอนว่าง อาจจะช้าไปบ้างแต่จะมาลงให้แน่นอนครับ อีกอย่างด้วย สถานการณ์โควิด ทำให้ไรท์ต้องทำงานพิเศษหาเงินช่วยครอบครัวของไรท์ครับ ถึงช้าแต่มาลงแน่ครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามแล้วก็คอมเมนต์ทุกคอมเมนต์ด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับที่ยังคอยสนับสนุน รักนักอ่านทุกท่านเลยนะครับ

ดูแลรักษาตัวเองกันให้ดีๆนะครับ ไปไหนก็ระวังๆด้วยนะครับใส่แมส ล้างมือทุกครั้งด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ..

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท