เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 366 เส้นทางแห่งการจุติ

ตอนที่ 366 เส้นทางแห่งการจุติ

“ ถ้าพวกเจ้ายังไม่เข้าใจ..พ่อของข้าก็คือ..เบลเซบับเทพปีศาจที่อยู่ในผลึกนั่นที่พวกเจ้ากำลังสงสัยนั่นไง…”

เหล่าแม่ทัพสวรรค์และตุลาการสวรรค์ทั้งสองต่างแสดงสีหน้าแข็งค้าง..ไม่เว้นแม้แต่เทียร์..นี่มันตัวตนระดับหายนะเดินได้ชัดๆ!!!

“ !!!!!!!! ”

ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสะงัด…โซโลม่อนผู้ปกครองนครอันธกาลความจริงแล้วคือบุตรแห่งเทพปีศาจเบลเซบับ..

ที่เคยทำศึกสงครามกับแดนเทพเมื่อหลายหมื่นปีก่อน…

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตั้งสติพร้อมกับกล่าวถามบางอย่างแก่โซโลม่อนในทันที…

“ ทำไมท่านถึงต้องการช่วยพวกเรา..ทั้งๆที่ท่านเองจะไปอยู่ฝ่ายปีศาจก็ได้..หรือแม้แต่จะขึ้นปกครองเผ่าปีศาจในตอนนี้ยังได้แล้วทำไม… ”

“ ข้าบอกแล้วไง..ข้ามาเพื่อหยุดท่านพ่อแล้วก็ช่วยเหลือเจ้า…อีกอย่างเจ้าคงจะได้เจอกับท่านแม่ของข้าแล้วตอนอยู่บนแดนเทพ..”

ตุลาการสวรรค์ฝ่ายขวารีบกล่าวถามขึ้นในทันทีด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน…

“ ทะ..ท่านแม่ของเจ้า..ไม่สิ..ท่านแม่ของท่านคือ… ”

“ ท่านแม่ของข้ามีนามว่า เฮร่า เทพแห่งการถือกำเนิด…เป็นเทพที่นำทัพแดนสวรรค์เพื่อต่อสู้กับเบลเซบับ..หรือก็คือท่านพ่อของข้านั่นเอง.. ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกต่อไปแล้วจากพลังเทพที่แผ่ออกมาจากตัวของโซโลม่อน…และเรื่องราวนั่นใกล้เคียง..ไม่สิแทบจะเรียกได้ว่าเหมือนกันกับของไป๋หลงเลยทีเดียว

เหล่าแม่ทัพสวรรค์ต่างนั่งกันไม่ติดเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่…

และไป๋เองก็ย่อมจับผิดสังเกตได้ในทันที…

“ ข้าเกรงว่า..มีเรื่องที่พวกท่านยังไม่ได้บอกข้า..ว่ามันเกิดอะไรขึ้น..จะว่าไปแล้วเบลเซบับต้องการทำลายแดนเทพ..เพราะว่าความอยากจริงๆอย่างงั้นเหรอ..สาเหตุที่แท้จริงคืออะไรกันแน่…. ”

คำพูดของไป๋หลงที่กล่าวขึ้นมาก็เพื่อดูท่าทีของเหล่าแม่ทัพสวรรค์และตุลาการสวรรค์ทั้งสอง..เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดล้วนไม่กล้าสบตากับไป๋หลง…

“ อย่าโทษพวกเขาเลย..ความจริงแล้วนี่มันก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาแต่เป็นเทพที่อยู่ตั้งแต่สมัยที่ท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่….ในตอนนั้นเรียกได้ว่าท่านแม่ แข็งแกร่งประดุจเทพสงคราม…แต่แล้วก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ทั้งแดนสวรรค์และแดนปีศาจต่างสะเทือนไปทั้งสองดินแดน..ทั้งสองได้พบรักกัน..แม้จะต่างเผ่าพันธุ์กัน แต่ท่านพ่อรักท่านแม่สุดหัวใจถึงขนาดยอมหยุดสงครามระหว่างเทพและปีศาจ…ทุกอย่างคล้ายจะลงเอยด้วยดี แต่กฎเกณฑ์บนสวรรค์นั้นเคร่งครัดเป็นอย่างมาก…ในตอนนั้นระหว่างที่ท่านพ่อไม่อยู่และท่านแม่ก็อยู่ในสภาวะอ่อนแอ หลังจากคลอดข้าได้ไม่นาน…นางก็ถูกผู้คุมกฎแดนสวรรค์สังหารอย่างลับๆ…หลังจากนั้นไม่นานท่านพ่อก็ได้ส่งข้าไปที่อื่นหลังจากสืบทราบความจริงและระเบิดพลังทำลายแดนสวรรค์ไปมากกว่าครึ่งด้วยตัวคนเดียว..สุดท้ายก็อยู่ในสภาวะจำศีลที่ต้องการโลหิตของวิหคสวรรค์เพื่อให้ท่านพ่อตื่นโดยสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง… ”

โซโลม่อนบอกเล่าเรื่องราวความจริงทั้งหมดให้กับไป๋หลงได้ฟัง…แม่แต่เมดูซ่าก็ยังคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้น

“ แสดงว่าเมื่อตอนนั้น..ท่านตาก็ช่วยท่านแม่กับท่านพ่อไว้สินะ..เพราะไม่เช่นนั้นผู้คุมกฎแดนสวรรค์จะต้องสังหารท่านแม่เป็นแน่…และหากเป็นเช่นนั้น ข้านี่แหละจะกวาดล้างแดนสวรรค์ตัวเอง!!! ”

ไป๋หลงพอจะเข้าใจความรู้สึกเคียดแค้นของเบลเซบับแล้วเพราะหากเป็นตัวเอง..ก็อาจจะทำแบบเดียวกันก็เป็นได้…

“ แล้วตอนนี้ผู้คุมกฎแดนสวรรค์อยู่ไหน.. ”

“ เรื่องนั้นข้าจะนั้นข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังแต่ก่อนอื่น…เจ้ามีปีกของท่านพ่อของเจ้าใช่ไหมเอามันออกมาสิ..ข้าจะให้เจ้าดูอะไรบางอย่าง… ”

“ เรื่องนั้น…พอดีเกิดเรื่องหลายๆอย่างขึ้นทำให้ปีกของท่านพ่อข้ารวมกับข้าโดยสมบูรณ์.. ”

“ ข้าเข้าใจแล้วงั้นเจ้าก็หันหลังให้กับข้า ข้าจะให้เจ้าดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันหลังให้กับโซโลม่อนในทันที..แน่นอนว่าเทียร์นั้นเฝ้ามองทุกการกระทำของโซโลม่อนอย่างไม่คลาดสายตา…

“ ข้ามาเพื่อช่วยเขา..ข้าไม่ทำอะไรคนรักของเจ้าหรอกน่าสาวน้อย.. ”

เทียร์พลันหน้าแดงระเรื่อในทันที..หลังจากที่โซโลม่อนกล่าวผ่านกระแสจิต..

“ นะ..นี่เจ้า!! ”

ขณะนั้นเองที่โซโลม่อนนำนิ้วมือไปแตะแผ่นหลังของไป๋หลง..ปีกสีดำขนาดใหญ่คู่หนึ่งก็กางออกมาพร้อมกับภาพบางอย่างที่รอยตัวอยู่กลางอากาศ..เเต่เมื่อลองพิจารณาดูแล้วนี่คือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน!!!

“ ท่านพ่อ… ”

เหล่าเทพสวรรค์ต่างตกตะลึงในความสามารถของโซโลม่อนเป็นอย่างมาก…พลังในการดึงความทรงจำของวัตถุออกมา..น่าหวาดหวั่นยิ่ง…

ภาพที่ไป๋หลงได้เห็นก็คืออัลบาร์พุ่งตรงไปทำลายสถานที่แห่งหนึ่ง..แม้จะมีเทพหลายตนขัดขวางไว้เแต่อัลบาร์ก็สังหารเทพเหล่านั้นไม่มีเหลือ..โดยที่เทพเหล่านั้นไม่อาจต้านความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเทพมารได้…

ซึ่งไม่นานสถานที่แห่งนั้นก็ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ…

“ ภาพที่พวกเจ้าเห็นก็คืออดีตของเทพมารอัลบาร์..ดูเหมือนว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ราฟาเอล จะต้องไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอนจึงละทิ้งตำแหน่งเทพมารและสังหารผู้คุมกฎแดนสวรรค์ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว… ”

ความจริงทั้งหมดก็ได้ถูกแถลงไขลง ณ ที่แห่งนี้แล้ว..เรื่องราวต่างๆยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจะเจ้าสู่ประเด็นหลัก….

“ ไป๋หลงเจ้าจงจำไว้ให้ดีว่า ปีศาจชั้นสูงที่แข็งแกร่งไม่ได้มีแค่เดียร์รอสและเซร่าเท่านั้น แต่ยังมีขุนพลมารที่แข็งแกร่งหลบซ่อนอยู่เพื่อเฝ้ารอสงครามที่แท้จริงต่อจากนี้…ปัญหาเดียวที่มีในตอนนี้คือ จำนวนของฝ่ายเรา…. อีกอย่างที่สำคัญที่ข้าอยากจะบอกเจ้าเอาไว้ไป๋หลง จงฟังไว้ให้ดี..ข้าไม่สามารถลงมือสังหารปีศาจระดับสูงที่มีความเกี่ยวพันธ์กับท่านพ่ออย่างเช่น เดียร์รอสได้..แต่ถ้าเป็นปีศาจชั้นต่ำข้าจะจัดการให้เอง ส่วนเหตุผลนั้นข้าบอกไม่ได้ ”

ซึ่งไป๋หลงเองก็ไม่คิดที่จะซักไซร้ให้มากความ…คนเราย่อมมีความลับที่ไม่อาจเปิดเผย…

“ เรื่องนั้นข้าย่อมทราบดี..แต่ว่า.. ”

หากเป็นไปได้นั้นตนก็ไม่อยากที่จะดึง หมู่บ้านเงาลับแล เข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย…เพราะเรื่องนี้มันใหญ่เกินไป…

โซโลม่อนย่อมเจ้าใจความนึกคิดของไป๋หลงที่ไม่อยากให้สหายคนสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องหรือแม้แต่พวกพ้อง…

“ ข้าให้เจ้าตัดสินใจ…ระหว่างนั้นข้าจะกลับไปที่ นคร อันธกาล เพื่อพาทัพเสริมมา…เผ่าปีศาจคงจะไม่เคลื่อนไหวราวๆ2-3 วันจากการคาดการณ์ของข้า..อ้อ อีกอย่างข้ามีของขวัญมอบให้เจ้าด้วย… ”

โซโลม่อนแตะไปที่มือของไป๋หลงก่อนจะถ่ายโอนพลังบางอย่างไปให้กับไป๋หลง…

“ นี่มัน!!! ”

“ เจ้าในตอนนี้สามารถทะลวงพลังขั้นถัดไปได้แล้ว..เส้นทางแห่งการจุติใหม่รอเจ้าอยู่ในชนชั้นเทพสงคราม..อีก3 วันเจอกัน.. ”

ก่อนที่โซโลม่อนม่อนจะหายไปนั้นได้กล่าวทิ้งท้ายบางอย่างไว้กับไป๋หลงภายกระแสจิต…

“ 72 เสาหลักแห่งโลกมาร..ถ้าเป็นเจ้าละก็ทำได้แน่..แต่จงระวังไว้ให้ดี การยกระดับพลังแบบฉับพลันโดยทะลวงชนชั้นเทพนักรบเข้าสู่ ชนชั้น เทพสงคราม ร่างกายของเจ้าจะต้องแบกรับภาระอันใหญ่หลวง..”

ส่วนเทียร์และเมดูซ่า ต่างจับจ้องทุกการกระทำของโซโลม่อนอีกครั้ง..แต่ก็ไม่มีอะไรผิดสังเกตก่อนที่บรรยากาศในห้องจะกลับมาเป็นแบบเดิมอีกครั้ง…

“ เอาล่ะ ในเมื่อเราได้พันธมิตรสุดแกร่งมาแล้ว..อีกทั้งเรามีเวลาเพียงสามวัน ที่ก่อนเผ่าปีศาจจะเคลื่อนไหว..ซึ่งเป็นไปได้ว่าพวกมันนั้นกำลังทำการบางอย่างอยู่อย่างแน่นอน…เราจะใช้โอกาสนี้ในการเตรียมรับมือ!!! ”

“ ท่านจ้าวสวรรค์..ท่านเชื่อในสิ่งที่ครึ่งปีศาจนั่น— ”

หนึ่งในแม่ทัพสวรรค์กล่าวขึ้น..แต่ทว่า..

“ งั้นเจ้าก็ไม่เชื่อสายเลือดครึ่งเทพและมารอย่างข้าสินะ.. ”

“ ขะ..ขออภัยท่านจ้าวสวรรค์!! ข้าแค่เกรงว่าพวกเราจะถูกหลอก… ”

ไป๋หลงย่อมเข้าใจในสิ่งที่แม่ทัพสวรรค์ผู้นั้นเป็นกังวลแต่…

“ เจ้ารู้ไหมว่า โซโลม่อนสามารถสังหารพวกเจ้าที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย..อาจจะรวมถึงข้าด้วยก็เป็นได้…จะมีศัตรูที่ไหนเข้ามาในนี้เพื่อ บอกเล่าเรื่องราวที่แท้จริง…ข้าเข้าใจความหวาดระแวงของพวกท่านดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะมาทะเลาะกันเอง… ”

ชายหนุ่มพูดจบก็แจกแจงรายละเอียดต่างให้กับแม่ทัพแดนสวรรค์และมอบหมายหน้าที่ให้แต่ละคนไปเตรียมความพร้อมของทัพสวรรค์ทั้งหมด..

หลังจากทุกคนออกไปในกระโจมนี้เหลือเพียงแค่เมดูซ่าและเทียร์เท่านั้น….

“ ข้าต้องการยกระดับพลัง..เกรงว่าข้าจะต้องให้ท่านไปแดนสวรรค์คนเดียวซะแล้ว..ท่านเมดูซ่า.. ”

“ อืม..ข้าเข้าใจดี ไม่นานข้าจะกลับมา…”

เมดูซ่าพูดขึ้นก่อนจะเข้าไปกระซิบใกล้ๆหูของเทียร์..

“ ดูแลคนรักของเจ้าให้ดีล่ะ…”

เทียร์ใบหน้าแดงก่ำแต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งใดออกไป…จนในที่สุดเมดูซ่าก็เดินทางไปแดนสวรรค์เพื่อไปเอาอะไรบางอย่าง..

“ เทียร์ ข้าจะยกระดับพลังของตัวเองฝากเจ้าคอยคุ้มกันข้าและอู้เฉียงที่นอนอยู่แทนข้าด้วย..แล้วหลังจากนั้นพวกเราจะเดินทางไปที่แดนมาร… ”

“ ตกลง… ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หลับตาลงพร้อมกับค่อยๆดูดซับพลังที่โซโลม่อนนั้นถ่ายทอดมาให้..ชายหนุ่มดำดิ่งสู่ห้วงจิตระดับพลังสูงขึ้นเรื่อยๆจนทะลวงเข้าสู้ขั้น เทพนักรบ…แต่ทว่าดูเหมือนพลังที่โซโลม่อนถ่ายทอดให้มานั้นจะมีมากจนเกินไป…

ตัวของไป๋หลงเหงื่อไหลออกมาท่วมตัวใบหน้าแดงก่ำเส้นเลือดผุดขึ้นมาทั่วตัวอย่างเห็นได้ชัด…ระดับขั้นพลังชนชั้นเทพนักรบกำลังเข้าสู่ขั้นถัดไปอย่างรวดเร็ว

เทียร์ที่ได้เห็นก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ดีเอาซะเลย…

ตึง!!!!

ไป๋หลงดำดิ่งไปในจิตใต้สำนึกในขณะนั้นเองก็มีประตูขนาดใหญ่ 5 บานปรากฎขึ้นมาตรงหน้า…ขณะนั้นเองกาเบรี่ยลก็โผล่ออกมาพร้อมกับแสดงสีหน้าแปลกประหลาดใจ…

“ เจ้านี่มันสัตว์ประหลาดโดยแท้..จะลวงข้ามขั้นเทพนักรบทั้ง 9 ขั้นเข้าสู่ชนชั้นเทพสงครามชั้นที่ 1 … เอาเถอะ ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง ประตูทั้ง 5 บานที่เจ้าเห็นก็คือประตูแห่งการจุติ— ”

ขณะที่กาเบรียลอธิบายอยู่นั้นไป๋หลงก็เดินตรงไปที่ ประตูสีดำทมิฬ…กาเบรียลที่ได้เห็นชนชั้นพลันใบหน้าซัดเผือด…

“ ข้าเลือกบานนี้… ข้ามีแผนการอยู่ในใจแล้ว..หากข้าต้องการสู้กับปีศาจ..ข้าก็ต้องกลายเป็นปีศาจซะเอง!!! ”

“ นะ..นี่เจ้า!!! ”

ประตูแห่งการจุติบานสีดำ..

“ ประตูแห่งการจุติเป็นปีศาจ!! ”

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท