เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 370 72 เสาหลักแห่งโลกมาร 2

ตอนที่ 370 72 เสาหลักแห่งโลกมาร 2

หลังจากที่ไป๋หลงพาเผ่ามารทั้งหมดที่ไม่เกี่ยวข้องไปพักอาศัยที่หมู่บ้านเงาลับแลเป็นการชั่วคราว…โดยหมู่บ้านเงาลับแลนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่มิติพิเศษ ที่ยากต่อการถูกโจมตี อีกทั้งยังมีผู้อาวุโสของเกาะต่างๆคอยให้การช่วยเหลือให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี…

ไม่นานเทียนร์ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดพร้อมกับความจริงที่โหดร้าย….

“ ไป๋หลง..ท่านพ่อของข้าไม่อยู่อีกต่อไปแล้วอย่างงั้นเหรอ..”

เทียร์พูดพร้อมกับเอาศีรษะมาพิงกับไหล่ของไป๋หลงที่นั่งอยู่ใกล้กับตน…ดูเหมือนว่าหลังจากที่ไป๋หลงจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเกี่ยวกับการอพยพ..ตัวของไป๋หลงก็นั่งเฝ้าเทียร์อยู่ตลอด…

“ การสูญเสีย..ข้าเข้าใจความรู้สึกนั้นดี..ข้าก็เคยสูญเสียคนที่ข้าเคารพไปแล้ว..เป็นอาจารย์ที่ดูพึ่งพาไม่ได้แต่พอถึงช่วงเวลาสำคัญ..ก็ทำอะไรที่มันไม่สมเป็นตัวเองเอาซะเลย…”

หญิงสาวพิงไหล่ของไป๋หลงพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมา..แม้เทียร์จะพยามจะสะกดข่มความรู้สึกเสียใจเอาไว้..แต่น้ำตามันมักจะออกมาในเรื่องที่เราไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้…เป็นความรู้สึกที่ยากจเพูดออกมา

“ ท่านพ่อ..ข้าเป็นลูกที่ดีของท่านหรือไม่..”

เทียร์พูดขึ้นพร้อมกับมองพระจันทร์สีแดงโลหิตที่อยู่บนท้องนภา…

แน่นอนว่าไป๋หลงนั้นระหว่างรอเทียร์ให้ฟื้นคืนสติ ตัวของไป๋หลงเองนั้นได้ศึกษาวิธีการเรียกเสาหลักทั้ง72 ของโลกมาร…ผ่านสัญลักษณแห่งเทพมาร..ที่ส่งข้อมูลที่ไป๋หลงต้องการเข้ามาภายในจิตใต้สำนึก..เพียงแค่ตั้งจิตให้มั่นเท่านั้น

แต่ทว่าตัวไป๋หลงนั้นยังคงติดใจคลังสมบัติหลังบัลลังก์นั่น…

“ เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้นะ..ข้าจะไปตรงนั้นสักหน่อย..หากเจ้าไม่อยากอยู่คนเดียวจะตามมาด้วยข้าก็ไม่ว่า ”

“ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย…”

ไป๋หลงที่เห็นเทียร์ตอบตกลงก่อนจะช่วยจับแขนของเทียร์ให้ตัวของเทียร์นั้นลุกขึ้นมา…ภายในแววตามีความโศกเศร้าแฝงไว้อย่างชัดเจน…

แต่เรื่องนี้ไป๋หลงนั้นไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว..ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับเทียร์ว่าจะจมปลักอยู่หรือลุกขึ้นมาและเดินหน้าตา…

ขณะที่ไป๋หลงและเทียร์กำลังเดินตรงไปที่คลังสมบัติอยู่ๆก็มีฝูงค้างคาวหลายพันตัวปรากฎขึ้นตรงหน้าขวางทางไป๋หลงกับเทียร์เอาไว้..

เป็นกลิ่นอายที่ไป๋หลงนั้นรู้จักเป็นอย่างดีเมื่อนานมาแล้ว…

“ สัมผัสแบบนี้มัน… ”

“ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะไป๋หลง..”

และผู้ที่มาปรากฎตัวหน้าไป๋หลงก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นราชินีแห่งเผ่าพันธุ์แวมไพร์สายเลือดแท้..อีกทั้งยังมีฐานะเป็นท่านป้าของไป๋หลง!!!

เส้นผมสีเหลืองทองที่ส่องกระทบกับแสงจันทร์ทำให้เส้นผมดูเป็นประกายและนัยน์ตาสีแดงทับทิม ปีกค้างคาวหลังหนึ่งคู่..รวมถึงเขี้ยวเล็กๆที่อยู่มุมปาก..

เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ที่ยั่วยวนบุรุษได้เป็นอย่างดี แม้ภายนอกจะดูอายุ30ปี แต่ความจริงแล้วนั้นอยู่ไม่ต่ำกว่าสามหมื่นปี!!

“ ท่าน… ”

“ ข้าจับสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างก็เลยมาดู พอดีข้าอยู่แถวนี้พอดีแต่..ใครจะไปคิดเล่าว่าเจ้าของพลังประหลาดนั่นจะเป็นหลานของข้า…อีกทั้งยังลงมือสังหารเหล่าผู้นำตระกูลมารชั้นสูงแบบนี้..นิสัยเด็ดขาดเหมือนกับพ่องี่เง่าของเจ้าไม่มีผิด..ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นสินะ..”

เทียร์ที่ได้เห็นทั้งสองคนเผชิญหน้ากันและการพูดคุยไม่กี่ประโยคก็พอจะทราบความสัมพันธ์ของทั้งสองคน…

“ ท่านป้า…จริงๆแบ้วท่านมาทำอะไรที่นี่กันแน่ คงไม่ได้มาเพื่อทักทายข้าเป็นแน่.. ”

อัลเบียร์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็พูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจออกมา..

“ เฮ้อ..เจ้าดูสิอัลบาร์ลูกของเจ้าทำตัวเหินห่างกับข้าจริงๆ..ถึงแม้ข้าจะเป็นราชินีของเผ่าแวมไพร์ แต่ข้าก็เป็นท่านป้าของเจ้าด้วยเหมือนกันนะ.. ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นอยู่ดีๆก็รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก…

“ข้าขออภัย..ท่านป้า.. ”

“ ช่างเถอะๆ เจ้าจะเข้าไปในนั้นใช่ไหม..ถ้าเจ้าจะเข้าไปก็ไม่ต้องหรอกข้าเอาทุกอย่างมาเก็บไว้ในคลังเก็บสมบัติมิติของข้าแล้ว…อ้อ แล้วอีกอย่างเด็กสาวที่อยู่ข้างหลังเจ้าเป็นใครกัน.. ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับในทันที..ดูเหมือว่าเทียร์จะรู้สึกกล้าๆกลัวๆท่ี่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับอัลเบียร์

“ ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกของ..เทพมารซีส..แต่ตอนนี้— ”

“ ตายไปแล้ว..ใช่เทพมารซีสนั้นตายไปแล้ว..ในวาระสุดท้ายของชีวิตทำอะไรที่ไม่สมเป็นตัวเองเอาซะเลย..แต่อย่างน้อยเจ้านั่นก็ทำหน้าที่พ่อที่ดี..ได้เหมือนกัน.. ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น…

“ อย่าเข้าใจข้าผิด..คนที่สังหารเทพมารซีสก็คือเดียร์รอสหนึ่งขุนพลมารและยังเป็นมือขวาของเบลเซบับ..ดูเหมือนว่าเผ่าปีศาจต้องการอะไรบางอย่างจากจากคลังสมบัติ..ซึ่งซีสเอง นั้นก็ดูเหมือนจะเก็บสิ่งล้ำค่าไว้ในนั้น..เพราะกลัวจะถูกนำสิ่งนั้นไปจนสู้จนตัวตาย..ข้านับถือใจสู้ของเขา…และในฐานะพ่อคนนึง..”

เทียร์ที่ได้รับรู้ความจริงก็แขนขาอ่อนแรงแต่พยามฝืนทดกัดฟันไม่แสดงความอ่อนแอออกมา!!

“ โห..น่าสนใจ..สาวน้อยรับสิ่งนี้คืนไปสิ..นี่เป็นสิ่งที่พ่อของเจ้าพยามจะปกป้องมันเอาไว้ด้วยชีวิต.. ”

อัลเบียร์เดินไปหาเทียร์พร้อมกับยื่นขวดแก้วบางอย่างที่ส่องแสงสีทองออกมา..ไป๋หลงที่มีดวงตาแห่งเทวะอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา..

“ นี่มัน!!! ”

“ ปฐมวิญญาณของเด็กสาวผู้นี้อย่างไรเล่า..แน่นอนว่าปฐมวิญญาณนี้คงจะถูกแยกออกมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ..พ่อของเจ้าคงจะรักและเป็นห่วงเจ้ามาก..ถึงขนาดนำปฐมวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งของเจ้ามาเก็บไว้เป็นหลักประกัน… ”

แน่นอนว่าคนเราทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งไป๋หลงนั้นล้วนมีปฐมวิญญาณอยู่ภายในร่างทั้งนั้น หากตายปฐมวิญญาณจะดับสูญ..แต่ทว่า

การแยกปฐมวิญญาณออกมาเป็นสองส่วนก็รับประกันได้ว่า คนผู้นั้นจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งเปรียบเสมือนชีวิตที่สอง..แต่การจะทำแบบนี้ได้นั้นไม่ใช่ใครจะทำก็ได้..

ต้องเป็นผู้ที่มีพลังอยู่ในระดับสูงอย่างน้อยก็เทพสงคราม..ปฐมวิญญาณไม่ได้มีแค่นั้น..การที่ปฐมวิญญาณถูกดึงไปครึ่งหนึ่งก็เหมือนกับความสามารถที่ถูกแบ่งออกไปรวมถึงระดับพลัง…

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากนำปฐมวิญญาณมารวมกันซึ่งแน่นอนว่านั่นก็หมายถึงการถือกำเนิดใหม่ของพลัง การกลับสู่สภาพเดิมอย่างที่มันควรจะเป็น..ของดวงวิญญาณที่ขาดหายไป!!!

“ ปฐมวิญญาณของเทียร์ ดิอาร์ค!!! ”

แม้แต่ไป๋หลงเองก็ไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น…

“ แม่หนูคนนั้น…ถูกแบ่งดวงวิญญาณออกเป็นสองส่วนตั้งแต่ยังเด็กๆ…หากให้ง่ายต่อการเข้าใจ ต่อให้ตายไปครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณก็จะย้ายมาอยู่ในดวงวิญญาณที่ถูกแบ่งเอาไว้…แม้จะเป็นข้าเองก็ทำไม่ได้…ใครกันที่มีความสามารถถึงขนาดแบ่งแยกดวงวิญญาณได้… ”

กาเบรียลพูดขึ้นในจิตใต้สำนึกของไป๋หลง…จากการแสดงออกของเทียร์ก็เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ตัวเองนั้นยังไม่เคยรับรู้มาก่อน….

เทียร์มองปฐมวิญญาณของตัวเองก่อนจะตัดสินใจเก็บมันไว้ในคลังห้วงมิติ…

“ ไป๋หลง เจ้าจัดการเรื่องของเจ้าเถอะ ข้าไม่เป็นไร…อย่าเป็นกังวลไปเลย… ”

อัลเบียร์ที่ยืนดูอยู่ก็รู้สึกชื่นชมจิตใจที่เข้มแข็งของเทียร์..โดยปกติถ้าเป็นคนทั่วไปก็ต้องรู้สึกตกตะลึงและถามหาเหตุผล..แต่ทว่าเด็กสาวผู้นี้กลับนิ่งสงบ..

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมีหรือที่ไป๋หลงจะมองไม่ออกว่าเทียร์นั้นต้องแบกรับความรู้สึกไว้ขนาดไหน…ตัวของไป๋หลงเดินเข้าไปหาเทียร์..

ก่อนที่จะสวมกอดเทียร์ด้วยความอบอุ่น..พร้อมลูบหัวเทียร์ก่อนจะพูดบางอย่าง…

“ อย่าได้แบกรับความรู้สึกทั้งหมดนี้ไว้คนเดียว..เจ้าอย่าลืมสิว่ามีข้าอยู่ทั้งหมด…ให้ข้าช่วยแบ่งเบาภาระที่เจ้าได้แบกเอาไว้.. ”

เทียร์ร้องไห้ออกมาพร้อมกับเอาหน้าซุกไปที่อกของไป๋หลง…

อัลเบียร์ที่มองดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ความเข้าอกเข้าใจและความพร้อมที่จะแบกรับภาระของกันและกัน…นั้นเป็นคุณสมบัติของคู่ชีวิตที่หาได้ยากยิ่ง!!!

“ นี่สินะ..หลานสะใภ้ในอนาคตของข้า.. ”

ทำให้เทียร์และไป๋หลงพลันหน้าแดงระเรื่อขึ้นพร้อมกันในทันที….

จบตอน

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท