เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 371 เจ็ดสิบสองเสาหลักแห่งโลกมาร 3

ตอนที่ 371 เจ็ดสิบสองเสาหลักแห่งโลกมาร 3

ในตอนนี้นั้นเทียร์และอัลเบียร์ ยืนมองไป๋หลงที่กำลังเขียนอักขระโบราณบางอย่างอยู่บนพื้นศิลาโดยใช้ตรีศูลเทวะปีกดำในการเขียนเปรียบเหมือนกับพู่กัน..

ทุกอักขระล้วนเต็มไปด้วยพลังงานลึกลับที่ไม่สามารถบรรยายได้..

ซึ่งแน่นอนว่าอัลเบียร์ย่อมรู้ดีว่าไป๋หลงนั้นกำลังเขียนอักขระในการเรียกเสาหลักแห่งโลกมารทั้ง72ตนมาที่แห่งนี้แต่ทว่ามีบางอย่างที่อัลเบียร์นั้นยังคงคาใจอยู่เกี่ยวกับไป๋หลง…

“ ไม่ได้เจอกันเพียงชั่วคราวกลิ่นอายของเด็กคนนั้น…ดูลึกลับและแฝงไปด้วยความน่าสะพรึงสุดหยั่งถึง..สิ่งใดกันที่ทำให้เด็กน้อยในตอนนั้นเติบโตและดูลึกลับถึงเพียงนี้… ”

เมื่อเทียร์ได้ยินอัลเบียร์พูดเช่นนั้น เด็กสาวก็กล่าวอธิบายให้อัลเบียร์รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที…

“ ท่านผู้อาวุโสท่านอาจจะยังไม่รู้แต่..ไป๋หลงนั้นได้เลือกจุติใหม่เป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ..นั่นอาจจะทำให้กลิ่นอายของเขาผิดแปลกไปก็เป็นได้.. ”

“ อะไรนะ!!! ”

“ ท่านได้ยินไม่ผิด…ไป๋หลงตัดสินใจจุติใหม่เป็นเผ่าปีศาจด้วยเจตจำนงของตัวเองและก็ดูเหมือนว่าไป๋หลงนั้นจะมีแผนการบางอย่างถึงได้ทำ— ”

ขณะที่เทียร์กล่าวอธิบายอัลเบียร์ก็หัวเราะออกมา…ทำให้เทียร์รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย

“ ท่านผู้อาวุโสมีอะไรอย่างงั้นหรือ.. ”

“ เปล่าๆ ฮ่าฮ่าฮ่า..ข้าก็แค่อดคิดไม่ได้ว่านิสัยของเด็กคนนั้นเหมือนกับพ่อของตนเอง..นิสัยมุทะลุแบบนั้นแล้วไหนจะทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อต่างๆอีกมากมาย..เหมือนกันไม่มีผิดราวกับว่าถอดแบบออกมายังไงยังงั้น…”

อับเบียร์พูดจบก็หันมามองหน้าเทียร์พร้อมกับลูบหัวเทียร์เบาๆไปมาด้วยความเอ็นดู…ทำให้เทียร์นั้นรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว..

“ เทียร์ ดิอาร์ค..ข้าขอถามเจ้าในฐานะท่านป้าของไป๋หลง..สิ่งที่พูดกันต่อไปนี้เด็กคนนั้นคงจะไม่ได้ยินเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการเขียนอักขระ และข้าได้ใช้พลังในการปิดกั้นการได้ยินทั้งหมด…เอาล่ะ..ข้าจะขอถามเจ้าตรงๆเลยแล้วกัน..ต่อหน้าราชินีแห่งแวมไพร์..เจ้าชอบไป๋หลงหรือไม่.. ”

คำถามที่เทียร์ได้ยินนั้น ทำให้เด็กสาวถึงกับหน้าเปลี่ยนสีราวกับลูกตำลึงสุก…อีกอย่างเทียร์นั้นย่อมรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่การถามเล่นๆทั่วไป…

“ ถะ..ถ้าจะให้พูดตรงๆ..ขะ..ข้าก็ไม่ได้เกลียดเจ้าคนบ้ามุทะลุทำอะไรก็ไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำอะไรก็ไม่เคยรู้เลยว่าคนอื่นต้องเป็นห่วงขนาดไหน..แต่ว่าสำหรับความรู้สึกของข้าในตอนนี้นั้นบอกได้เพียงว่า..ขะ..ข้าอาจจะชอบ..เจ้าบ้าไป๋หลง!!! ”

เทียร์พูดพลางนำมือทั้งสองข้าปิดหน้าของตัวเองเอาไว้ด้วยความเขินอาย…

ทางด้านไป๋หลงที่กำลังเขียนอักขระอยู่ก็เห็นทั้งสองคนคุยกันแต่ก็ไม่ได้ยินว่าทั้งสองนั้นกำลังคุยอะไรกันอยู่..

“ ดีมากที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง..ต่อจากนี้เป็นต้นไปเจ้าคือหลานสะใภ้ของข้าอย่างเต็มตัว..เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลงข้าจะจัดพิธีหมั้นหมายให้พวกเจ้าทั้งสองคน..”

“ !!!!!! ”

“ แต่ก็นะคงต้องรอให้เรื่องทุกอย่างจบลงก่อน…อ้อ อีกอย่างข้าลืมบอกเจ้าเกี่ยวกับพ่อของเจ้า…พ่อของเจ้าต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายเพื่อปกป้องเจ้า..เขาเป็นพ่อที่ดี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกตัวช้าไปหน่อยก็เท่านั้น… ”

เทียร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มอ่อนออกมาพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องนภา…

“ ข้ารับรู้ได้ว่าท่านพ่อกำลังเฝ้ามองข้าอยู่..จากสถานที่อันห่างไกลออกไป..”

“ นั่นสินะ… ”

อัลเบียร์พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ยอดไม้ต้นหนึ่งที่มีเงาสีดำคล้ายกับว่ามีใครบางคนกำลังหลบซ่อนอยู่..อัลเบียร์ที่ได้เห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย…

“ ท่านอัลเบียร์เป็นอะไรอย่างงั้นหรือ.. ”

เทียร์สังเกตเห็นอับเบียร์นั้นถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าไปมาจึงเกิดความรู้สึกเป็นห่วง…

“ เปล่าหรอก..อีกอย่างหนึ่งต่อไปนี้เรียกข้าว่าท่านป้าก็พอ..”

“ แต่ว่า— ”

“ นี่เป็นคำขอของข้า..”

แน่นอนว่าเทียร์นั้นไม่สามารถขัดอัลเบียร์ได้ด้วยความเกรงใจของเด็กสาวที่มีต่อราชินีแวมไพร์ผู้นี้…

“ ข้า..ข้าเข้าใจแล้วท่านป้า.. ”

ขณะนั้นเองดูเหมือนว่าไป๋หลงจะเขียนอักขระเสร็จสิ้นพอดี…ชายหนุ่มเหงื่อไหลโชคก่อนจะกัดนิ้วของตัวเองให้โลหิตไหลออกมา…

ทันทีที่โลหิตของไป๋หลงหยดลงโดนอักขระที่อยู่บนพื้นทันใดนั้นก็อักขระทั้งหมดก็ส่องแสงเรืองรองสีแดงออกมา…

พร้อมกับการปรากฎตัวของกลุ่มเงาประหลาดที่ค่อยๆโผล่ออกมาจากอักขระ จาก หนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนมีเงาครบทั้ง 72 ซึ่งกลุ่มเงาเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น..

แต่เป็นเสาหลักทั้ง 72 ของโลกมารที่คอยปกป้องราชวงศ์และโลกมารเอาไว้ภายในเงามืด!!!

“ จงแสดงหลักฐานความเป็นนายเหนือหัวของเจ้าออกมา..หากเจ้าไม่ใช่..รับรองได้เลยว่าเจ้าไม่ได้ตายดีแน่…”

หนึ่งในเงามืดทั้ง 72 กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแห่งความเย่อหยิ่งและแฝงไปด้วยโทสะ..แต่ในขณะนั้นเอง

อัลเบียร์ที่ได้ยินเข้านั้นดูเหมือนจะรู้สึกไม่สบอารมณ์..แม้แต่เทียร์เองก็ไม่สามารถห้ามอัลเบียร์เอาไว้ได้..

“ พวกเจ้าทั้งหมดคงจะปีกกล้าขาแข็งขึ้นสินะถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับหลานเพียงคนเดียวของข้า..ใจกล้าไม่เบาเลยหนิที่บังอาจจะมาเอาชีวิตหลานชายของข้าเพียงคนเดียว…ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสั่งสอนเรียกสติพวกเจ้าหน่อยแล้วสินะ… ”

ตึง!!!!

อัลเบียร์ปลดปล่อยแรงกดดันออกมาสะกดข่มเสาหลักทั้ง 72 เอาไว้อย่างง่ายดาย..ก่อนที่ทั้งหมดจะเปิดเผยร่างที่แท้จริงออกมา..

แม้แต่ไป๋หลงเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกกับแรงกดดันแบบนี้..ขนาดตนนั้นไม่ใช้เป้าหมายของแรงกดดันนี้ก็ยังสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวที่แผ่ออกมาผ่านแรงกดดัน…

“ ท่านป้าของเราแข็งแกร่งขนาดนี้เลยอย่างงั้นเหรอ..ถึงกับขนาดสยบเหล่าเสาหลักและบังคับให้เปิดเผยร่างที่แท้จริงออกมาแบบนี้ได้.. ”

“ ช่างเป็นสตรีที่งดงามและน่าสะพรึงในเวลาเดียวกัน เส้นผมสีทองนั่น นัยต์ตาสีแดงราวกับอัญมณี เคี้ยวเล็กๆทั้งสองข้างนั่นอีก ..อ่าาา..ทำให้ข้ารู้สึกใจเต้นขึ้นมาเลย..หรือว่านี่คือความรัก!!! ที่มนุษย์มักจะพูดกัน.. ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าบึ้งตึงในทันที…

“ นั่นท่านป้าของข้านะ…อีกอย่างข้าคิดว่านั่นไม่ใช่ความรัก..แต่ท่านเป็นแค่ไอบ้าโรคจิตคนหนึ่งเท่านั้น ท่านไม่ใช่ผู้พิทักษ์คลังสมบัติแดนสวรรค์อะไรนั่นหรอก..อ่าข้ามองท่านผิดไปสินะ..คิดว่าจะเป็นเทพที่มีคุณธรรมหนักแน่น..แต่ที่ไหนได้ก็เป็นแค่ไอบ้าโรคจิตคนหนึ่ง.. ”

คล้ายกับว่ามีเสียงบางอย่างแตกก็เป็นเสี่ยงๆคล้ายกับเป็นเสียงของกระจก..หลังจากนั้น กาเบรียลก็เงียบหายไป…

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าอัลเบียร์นั้นมีความงดงามที่น่าดึงดูดและชวนหลงไหลเป็นอย่างมาก..นี่อาจจะเป็นพลังในการล่อลวงศัตรูด้วยเสน่ห์แต่ว่าตอนนี้นั้น…

เหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง72 ของโลกมารที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ค้ำจุนโลกมารและคอยช่วยเหลือราชวงศ์อย่างลับๆกำลังก้มหัวให้กับอัลเบียร์ด้วยความหวาดกลัว…

“ ทะ..ท่านอัลเบียร์เรื่องเมื่อครู่ที่ท่านพูด.. ”

“ ลองเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองเด็กหนุ่มคนนั้นดีๆสิ..พวกเจ้าทั้งหมดนั่นแหละ..เจ้าคิดว่าใครจะสามารถเรียกพวกเจ้ามาได้ถ้าไม่ใช่เชื่อพระวงศ์สายเลือดแท้.. ”

อัลเบียร์พูดขึ้นพร้อมกับสลายแรงกดดันออกไปทั้งหมด…

เหล่าเสาหลักทั้ง 72 ต่างมองไปที่ไป๋หลงก่อนจะกวาดสายตาไปเห็นตรีศูลเทวะปีกดำในมือของไป๋หลง!!!

“ นะ..นั่นมัน!! ”

“ ไม่เป็นไรๆ..ข้าเข้าใจพวกท่านทั้งหมดคงจะคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่ดูไร้พิษสงจะเป็นเชื้อราชวงศ์และเรียกพวกท่านมา…งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกันเพื่อเป็นการพิสูจน์ข้าจะไม่ใช้ตรีศูลเทวะปีกดำ.. ”

ไป๋หลงเก็บตรีศูลเทวะปีกดำไว้ในห้วงมิติก่อนจะเดินไปหาเหล่าเสาหลักทั้ง 72 คน..

ซึ่งทั้งหมดนั้นรับรู้ได้ในทันทีตั้งแต่ที่เห็นตรีศูลเล่มนั้น..แต่ทว่าไป๋หลงนั้นเมื่อมองภายนอกก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไป..แต่ทว่า…

“ สมกับที่เป็นหลานของข้า.. ”

“ ไป๋หลงคิดจะทำอะไร.. ”

“ เจ้ารอดูให้ดี…ข้าคิดว่าข้าเริ่มจะรู้สึกสงสารเสาหลักทั้ง 72 ตนนั่นซะแล้วสิ.. ”

เทียร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้กล่าวถามสิ่งใดออกไป…เพียงแค่มองดูต่อไป..

“ ข้าควรจะแสดงให้พวกท่านเห็นสินะ.. ”

ไป๋หลงยิ้มเย็นออกมาก่อนจะค่อยๆปลดปล่อยจิตสังหารที่บ้าคลั่งออกมา!!

ตู้มมม!!!

ถ้าแรงกดดันของอัลเบียร์คือการสะกดข่มและทำให้ศัตรูหวาดหลัว..แรงกดดันของไป๋หลงไม่ได้ใช้สะกดข่มแต่เป็น..

จิตสังหารที่มากพอจะทำลายใจสู้ของอีกฝ่ายได้อย่างย่อยยับ!!!

เหล่าเสาหลักทั้ง 72 พลันใบหน้าซีดเผือดและรู้สึกสั่นกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน…พวกมันนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเกรงกลังต่อสิ่งใด..

ผ่านสนามรบก็มาตั้งมากมาย..แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่น่ากลัวถึงเพียงนี้!!!

ภายนอกที่ดูไร้พิษสงแต่กลับเป็นเพียงเปลือกนอกของนักล่าที่อยู่บนจุดสูงสุดแห่งห่วงโซ่อาหาร!! แม้ทั้งหมดนั้นจะมีระดับพลังที่เหนือกว่าไป๋หลง..

แต่จิตสังหารนั้นไม่ใช่..ความรู้สึกของเหล่าเสาหลักที่ตอนนี้รับรู้ได้เหมือนกันก็คือ..คล้ายกับมีเคียวของพญามัจุราชกำลังจ่ออยู่ที่คอของตนราวกับว่าจะถูกช่วงชิงวิญญาณไปได้ชั่วทุกขณะ..ความรู้สึกนั้นก็คือ..

“ ความตาย!!! ”

จบตอน..

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท