เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 375 ไม่สมบูรณ์

ตอนที่ 375 ไม่สมบูรณ์

หลังจากนั้นไม่นานผลึกคริสตัลใสก็แตกออกจนหมด..ร่างที่ถูกผนึกค่อยๆลืมตาขึ้น..ทันทีที่เดียร์รอสได้เห็นก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างในทันที…

“ ยินดีต้อนรับกลับท่านเบลเซบับ!!! ”

บุรุษผู้มีเลือนผมสีดำสลวยลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาสีม่วงเพียงแค่ได้จ้องมองก็ราวกับว่าถูกกระตุ้นความกลัวภายในจิตใจขึ้นมา…

เพียงแค่การฟื้นคืนของราชันย์ปีศาจเบลเซบับก็ทำให้ปีศาจทั่วทั้งหุบเขาต่างต้องหมอบราบอยู่กับพื้นด้วยความหวั่นเกรง ความหวาดกลัว..และความเคารพ..หลากหลายความรู้สึก

เหล่าปีศาจชั้นสูงต่างนั่งชันเข่าก้มหน้าต่ำลงไม่มีใครปริปากพูดออกมาแม้แต่คำเดียว…เพราะอะไรอย่างงั้นเหรอ..ก็เพราะว่าพวกมันเหล่านั้นยังไม่ได้รับอนุญาติให้พูด ยกเว้นแค่เดียร์รอสผู้ที่เปรียบดั่งมือขวาของเทพปีศาจผู้นี้!!

“ ข้าหลับไหลไปนานเท่าไหร่แล้ว..เดียร์รอส.. ”

“ ประมาณสองหมื่นปีขอรับนายท่าน.. ”

เบลเซบับได้ยินเช่นนั้นก็เคลื่อนย้ายด้วยเคล็ดวิชามิติชั้นสูงไปโผล่อยู่ที่ด้านนอกลอยอยู่กลางนภา..ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูก…ราชันย์ปีศาจผู้นั้นกำลังเหยียบย่างบนอากาศเปรียบเสมือนเดินอยู่บนพื้นดิน!!

เป็นระดับความสามารถที่ไป๋หลงนั้นก็ยังไม่สามารถทำได้…การที่จะทำเช่นนี้ได้นั้นจะต้องมีความแข็งแกร่ง..อีกทั้งจะต้องเข้าใจถึงพลังของธรรมชาติที่ไหลผ่านอยู่รอบตัวเรา…

ซึ่งเบลเซบับนั้นรับรู้ได้ถึงมันทั้งหมด..และสามารถควบคุมมันได้อย่างใจนึก!!!

เหล่ามารชั้นสูงหลายร้อยตนต่างก็ออกมาด้านนอกเพื่อเฝ้ามองผู้เป็นนายเหนือหัวที่กำลังยืนนิ่งอยู่บนอากาศ…

พระจันทร์สีแดงสาดแสงส่องลงตกกระทบร่างพร้อมกับสายลมเบาๆที่พัดผ่านมา…

“ ผ่านมาสองหมื่นปีแล้วสินะ…โลกใบนี้ก็ยังเน่าเฟะไปเคยเปลี่ยนอีกทั้ง… ”

เบลเซบับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เป็นที่ตั้งของแดนเทพ….

“ แดนสวรรค์..ข้าจะฉุดกระชากพวกเจ้าลงมาด้านล่างเอง…เฮร่า ข้ากลับมาแล้ว ข้าจะล้างแค้นให้เจ้าไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม..พวกมันทั้งหมดจะต้องถูกบดขยี้ให้ราบคาบ!! ”

ตึง!!!

ออร่าปีศาจระดับสูงถูกระเบิดออกมาจากตัวเบลเซบับที่เป็นจุดสูญกลางของออร่าที่ชั่วร้าย…เหล่าปีศาจทั่วขุนเขาต่างสั่นผวาไปด้วยความกลัว..ในขณะเดียวกันพวกมันทุกตนก็เคารพเบลเซบับผู้เป็นนาย..

“ แกร็ก.. ” ( เสียงคล้ายกับกิ้งไม้เกิดรอยแตก )

ตรงนิ้วชี้ของเบลเซบัลนั้นปรากฏรอยแตกขึ้นมาได้อยากชัดเจน..คล้ายกับแก้วที่เกิดเริ่มเกิดรอยร้าวแต่ละนิด….

เบลเซบัลตัดสินใจใช้พลังในการพรางตาปกปิดมันเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้นกับตนเอง…

“ การคืนชีพ..ไม่สมบูรณ์สินะ แต่ก็เอาเถอะเท่านี้ก็เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายที่ข้าตั้งไว้ ”

แต่ทว่าดูเหมือน เดียร์รอสที่ยืนอยู่ด้านล่างจะรับรู้ได้ในทันทีว่าเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น จึงตัดสินใจกางปีกออกมา พร้อมกับบินไปที่เบลเซบับ..

ในหมู่ปีศาจชั้นสูงคงมีเพียงแค่ เดียร์รอสเท่านั้น ที่กล้าจะเคลื่อนไหวในสถานการณ์แบบนี้..ปีศาจชั้นสูงได้แต่มองแผ่นหลังของเดียร์รอสที่บินไปหาเบลเซบับผู้เป็นนาย…

“ เดียร์รอสนี่มัน..ไม่กลัวตายเลยจริงๆ”

“ ก็เป็นถึงคนโปรดของท่านเบลเซบับก็คงไม่แปลก… ”

“ พวกท่านพอได้แล้ว ถ้าท่านเบลเซบัลได้ยินเข้า พวกท่านทั้งสองได้ไปโลกหน้าก่อนแน่ๆ.. ”

ในที่สุดเดียร์รอสยืนอยู่ด้านหลังเบลเซบับ…

“ เจ้ามีอะไรอย่างงั้นหรือเดียร์รอส… ”

เดียร์รอสที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตอบผ่านกระแสจิตในทันที…

“ ท่านเบลเซบับข้าไร้ความสามารถ ที่ไม่อาจทำให้ท่านฟื้นคืนชีพได้อย่างสมบูรณ์ โปรดลงโทษข้าด้วย หากข้าทำได้ดีกว่านี้ ท่านก็คง… ”

เบลเซบับหัวเราะในลำคอพร้อมกับจับไหล่ของเดียร์รอสเอาไว้…

“ ไม่ใช่ควรมผิดของเจ้า..เจ้าทำงานรับใช้ข้ามาตั้งแต่สองหมื่นปีก่อนหน้านี้ ข้ารู้ว่าตัวเจ้านั้นมีความสามารถเพียงใด…. เวลาสองหมื่นปีที่ข้าอยู่ในผลึกข้าได้ใช้พลังบางส่วนของตนเองในการยื้อเวลาเอาไว้..การจะคงอยู่ในผลึกคริสตัลใสนั้น หากเป็นหนึ่งหมื่นปี ข้าสามารถทนได้..แต่ระยะเวลาสองหมื่นปีทำให้ข้าต้อง ใช้พลังของตัวเองในการคงพลังแห่งชีวิตเอาไว้ให้คงที่..หยดเลือดของวิหคสวรรค์นั้นทำให้ข้าตื่นก็จริง…แต่ถึงจะได้หยดโลหิตมามากกว่านี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้ โลหิตวิหคสวรรค์เพียงทำให้แค่ฟื้นคืนพลังบางส่วน…ไม่อาจคืนพลังดั้งเดิมให้แก่ข้าได้… ”

เดียร์รอสได้แต่แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา…ไม่คิดเลยว่าผลึกคริสตัลใส เคล็ดวิชาหวนคืนนั้นจะมีผลร้ายถึงเพียงนี้

และเบลเซบับก็ได้ใช้พลังดั้งเดิมแห่งชีวิตในการคงอยู่..การทำแบบนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการใช้อายุขัยที่เหลืออยู่…

“ ถ้าข้าดำเนินแผนการให้เร็วกว่านี้ท่านก็คงไม่… ”

“ แค่นี้ก็เกินไปพอแล้ว…อย่างมากครั้งนี้ข้าก็มีชีวิตมากสุดได้ก็แค่10ปีเท่านั้น…ไม่ใครเป็นอัมตะ..ตัวข้าก็เช่นกัน…เอาล่ะ..เรามาเริ่มเทศกาลเลือดกันเลยดีกว่า..เตรียมเปิดศึกกับมนุษย์ หลังจากนั้นเราจะไปถล่มแดนเทพให้พินาจย่อยยับ!! ”

“ รับบัญชาขอรับนายท่าน!! ”

เดียร์รอสรับคำสั่งแต่ในขณะนั้นแม่ทัพปีศาจผู้นี้ก็กล่าวถามบางอย่างขึ้น…

“ ท่านเบลเซบับ..แล้วหลานเหลน ที่มีเชื้อสายจากท่านเฮร่าพวกเราควรจะ… ”

“ ข้าได้เจอกับเด็กคนนั้นในนิมิตมาแล้ว…เป็นไปได้ข้าก็ไม่อยากสังหารผู้ที่เชื้อสายของเฮร่า..ถึงแม้จะแค่น้อยนิดก็ตามที…แต่ทว่า หากดื้อรั้นมากนัก..ก็มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่ข้าจะมอบให้ได้..”

เป็นคำตอบที่ไม่ต้องถามต่อ…เดียร์รอสที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตัดสินใจบางอย่างเกี่ยวกับไป๋หลง…

ไม่นานเดียร์รอสก็ถ่ายทอดคำสั่งจัดตั้งรูปกระบวนทัพ…

หนึ่งทัพจะมีปีศาจอยู่ในสังกัดทั้งหมดหนึ่งหมื่นตน โดยมีแม่ทัพเป็นปีศาจระดับสูงอยู่ หนึ่งตนและรองแม่ทัพอีกหนึ่งตน..

รวมทั้งหมดยี่สิบทัพ..การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่ใช่การบุกแบบสะเปะสะปะอีกต่อไป..แต่เป็นการต่อสู้ที่มีแบบแผน โดยผู้นำทัพใหญ่ทั้งหมดในการกวาดล้างแดนมนุษย์ก็คือ..ราชันย์ปีศาจเบลเซบับ!!

“ เจ้าจะเป็นศัตรูกับข้าผู้นี้จริงๆสินะ…โซโลม่อน.. ”

เบลเซบับกล่าวขึ้นพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า..แน่นอนว่าเบลเซบับย่อมสัมผัสได้ถึงสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของตน…

“ บุตรแห่งราชันย์เทพปีศาจเบลเซบับ..โซโลม่อน!! ”

จบตอน

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท