เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 380 การรวมตัวของเหล่าสัตว์ประหลาด 3 จบ

ตอนที่ 380 การรวมตัวของเหล่าสัตว์ประหลาด 3 จบ

อัลเบียร์เคลื่อนที่ในพริบตาก่อนจะเหยียบหัวของราชามังกรให้หมอบราบลงกับพื้นอีกครั้ง…

ตึง!!!

ท่ามกลางเหล่ามังกรกว่าร้อยตนที่หมอบราบลงกับพื้นอย่างมิอาจแข็งขืน…

“ แต่หากเจ้าปฏิเสธ ก็จงสูญพันธุ์ไปซะ!!! ”

กลับมา ณ ปัจจุบัน

เสียงของอัลเบียร์ยังคงดังกึกก้องอยู่ภายในส่วนลึกของราชามังกร..ยิ่งนึกถึงความโหดเหี้ยมและฝีมือระดับนั้นยิ่งทำให้แม้แต่ราชามังกรยังหวาดผวา…แต่อย่างน้อยการท่ี่ราชินีแวมไพร์จะยอมรับฟังคำขอบางอย่าง..มันอาจจะคุ้มค่าก็เป็นได้..ราชามังกรได้แต่นึกครุ่นคิด..

ส่วนไป๋หลงนั้นก็รู้สึกแปลกใจอยู่พอสมควรแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสงสัยถึงที่มาของเผ่าพันธุ์มังกร…ตอนนี้นั้นจำนวนกำลังรบฝั่งของไป๋หลงคือห้าหมื่น เมื่อเทียบกับเผ่าปีศาจที่มีกำลังรบไม่ต่างกว่าแสนตน ทำให้เห็นถึงความแตกต่างของกำลังรบอย่างชัดเจน..

“ เรียน ท่านจ้าวสวรรค์บัดนี้กำลังรบของเราเตรียมพร้อมรบแล้วขอเพียงแค่ท่านถ่ายทอดคำสั่ง พวกเราก็พร้อมที่จะเคลื่อนทัพในทันที.. ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าก่อนจะถ่ายทอดคำสั่งให้ทหารและชาวยุทธทุกคนตั้งขบวนรบโดยให้ชาวยุทธที่ถนัดด้านการโจมตีและจู่โจมโดยฉับพลันให้อยู่ยังแถวหน้า..

ฝ่ายป้องกันให้คอยปกป้องเหล่าชาวยุทธและทหารเทพที่เชี่ยวชาญถนัดในด้านการใช้เคล็ดวิชาสายควบคุมและเสริมกำลังให้กับพันธมิตร

และส่วนเผ่ามังกรนั้นไป๋หลงได้ออกคำสั่งแก่ราชามังกร ให้คอยโจมตีทางอากาศและปกป้องไม่ให้เผ่าปีศาจเข้ามายังใจกลางของกระบวนทัพได้..ซึ่งราชามังกรนั้นก็ยอมทำตามแต่โดยดีโดยไม่ปริปากถามแม้แต่คำเดียว…

“ ท่านจ้าวสวรรค์กำลังรบของฝั่งเราน้อยกว่าเผ่าปีศาจหลายเท่าตัวนักแบบนี้เกรงว่า…”

ขุนพลสวรรค์กล่าวขึ้นด้วยความวิตกกังวล..ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่หลายฝ่ายนั้นจะเกิดความกังวล..จริงอยู่ที่กำลังรับนั้นสำคัญ..แต่ทว่ากำลังรบที่มากด้วยฝีมือสำคัญยิ่งกว่า..

“ เจ้าคิดว่าพวกเรามีกำลังรบเพียงแค่นี้อย่างงั้นเหรอ… ”

โซโลม่อนที่ยืนอยู่ใกล้กับไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นพร้อมกับค่อยๆเก็บพัดขนนกสีดำเข้าในแขนเสื้ออย่างช้าๆก่อนที่มิติกลางอากาศจะบิดเบือนกลายเป็นช่องว่างระหว่างมิติขึ้นมา!!!

ร่างที่ก้าวออกมา กลิ่นอายล้วนแฝงไปด้วยความน่าสะพรึง หนึ่งในจตุอาชาของโซโลม่อน จตุอาชาแห่งความตาย พร้อมกับจตุอาชาคนอื่นๆที่เดินออกมาจากช่องว่างนั้น..

ยังไม่หมดแค่นั้นยังมีเหล่าผู้พิทักษ์จากนครอันธกาลกว่าหนึ่งร้อยคนเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ตามคำสั่งของโซโลม่อน!!

เหล่าชาวยุทธรวมถึงทหารสวรรค์ต่างสัมผัสได้ถึงสิ่งเดียวกันคือแรงกดดันที่แผ่ออกมาสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีกำลังคนแค่ 200 กว่าคนแต่ความรู้สึกที่ทุกคนสัมผัสได้นั้นราวกับว่ามีทัพเรือนแสนคนเข้ารวมสงครามรบในครั้งนี้

ไม่เว้นแม้แต่ราชามังกรที่กำลังสะพัดปีกลอยอยู่กลางอากาศยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ออกมา…

“ นี่มันวันรวมญาติของสัตว์ประหลาดกันรึยังไง.. ”

ไป๋หลงเองนั้นแม้จะได้ยินว่าโซโลม่อนจะพากำลังเสริมมาสนับสนุนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นถึงยอดฝีมือที่ในยุทธภพแห่งนี้อาจจะไม่มีใครเทียบเท่าพวกคนเหล่านี้เลยก็เป็นได้..

“ พวกข้ามาตามคำบัญชาของนายท่านแล้ว โปรดออกคำสั่งแก่พวกเราได้เลย หากท่านต้องการให้ศัตรูพินาศย่อยยับ พวกเราก็ยินดีที่จะลงมือตามความปราถนาของท่าน… ”

จตุอาชาแห่งความตายพูดพร้อมกับก้มศรีษะแสดงความเคารพแก่ผู้เป็นนายเหนือหัว…แต่ทว่าอยู่ๆไป๋หลงกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล เมื่อเห็นโซโลม่อนนั้นมองตนพร้อมกับปริยิ้มออกมา!!

“ หรือว่า!!! ”

“ ผิดแล้ว..คนออกคำสั่งและบัญชาการรบในครั้งนี้ไม่ใช่ตัวข้าแต่เป็นไป๋หลง..ซึ่งข้าเองก็ทำตามคำบอกของไป๋หลงเช่นกัน เพราะเรื่องใช้กลยุทธข้านั้นไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก..เพราะโดยปกติแล้วข้าใช้แต่พลังในการบดขยี้คู่ต่อสู้มากกว่าละนะ..เอาเป็นว่าคำสั่งของไป๋หลงก็เหมือนกับคำสั่งของข้าก็แล้วกัน… ”

“ !!!!!!!! ”

ไป๋หลงรับรู้ถึงแรงกดดันผ่านสายตากว่าร้อยคู่นั้นได้เป็นอย่างดี และย่อมรับรู้ระดับพลังของกลุ่มคนพวกนี้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน..เพราะส่วนใหญ่นั้นอยู่ในระดับชนชั้นมหาเทพแทบทั้งหมด!!

เรียกได้ว่าแค่สองร้อยคนนี้อยู่ภายใต้คำสั่งของไป๋หลงการที่จะนำยุทธภพมาครอบครองย่อมไม่เกินจริงแต่อย่างใด…

“ นี่ท่าน… ”

ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับสูดหายใจลึกๆก่อนที่บรรยากาศรอบตัวของไป๋หลงนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง..

“ พวกท่านทั้งหมดคอยรับคำสั่งข้า หากข้าไม่สั่งห้ามเคลื่อนไหวโดยพลการเด็ดขาด..ส่วนที่เหลือ.. ”

ไป๋หลงจัดแจงหน้าที่ของเหล่าชาวยุทธและรูปแบบของกองทัพเล็กน้อยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง….

“ ไป๋หลง..ข้าจะเข้าร่วมศึกในครั้งนี้ด้วย.. ”

เสียงของเด็กหนุ่มผู้นี้ไป๋หลงย่อมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นน้ำเสียงของสหายคนสนิท..

“ อู้เฉียง เจ้าออกมาทำไมร่างกายของเจ้ายัง.. ”

“ เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าคืออู้เฉียงเปลวเพลิงอัมตะไม่มีวันตาย บาดแผลแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก…อีกอย่างข้าไปเจออะไรมาบ้างใต้สมุทร ข้าเจอเข้ากับขุมสมบัติของจักรพรรดิ์ยุคโบราณ อีกทั้งข้ายังได้สืบทอดสมบัติระดับเทวะมาด้วย เป็นไง— ”

“ อู้เฉียงสหายรักพวกเราก็รู้จักกันมานานแล้ว…”

ทั้งไป๋หลงและอู้เฉียงเผลอหลุดขำออกมาชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวไป๋หลงจึงค่อยๆผ่อนคลายลง..สิ่งที่อู้เฉียงทำนั้นก็เพื่อไม่ให้ไป๋หลงรู้สึกกดดันจนเกินไป…

ส่วนเว่ยซิ่วนั้นก็มายืนขนาบข้างของอู้เฉียงก่อนจะก้มหัวแสดงความเคารพไป๋หลง ทำให้เด็กหนุ่มแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา..เพราะเว่ยซิ่วนั้นถือเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งพอๆกับเหล่าจตุอาชาแห่งความตายที่ยืนอยู่ใกล้ชิดกับโซโลม่อน..

“ นี่ท่าน..อย่าได้ทำเช่นนี้เลย.. ”

“ เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของบุตรชายข้า..ข้าได้ฟังเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้าจากใจจริง.. ”

อู้เฉียงค่อยๆดึงให้พ่อของตัวเองขึ้นมาเพราะตนนั้นก็รู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย…ไป๋หลงที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ย่อมรับรู้ได้ในทันทีว่า ปม ของพ่อลูกคู่นี้นั้นได้คลายลงหมดสิ้นแล้ว…

ขณะนั้นเองอยู่ๆเสาแสงสีแดงนั้นก็ค่อยๆหายไป แม้จะอยู่ห่างไกลแต่ทุกคนนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเสาแสงสีโลหิตนั้นได้เลือนลางก่อนที่มันจะหายไปราวกับว่า…

ทั้งหมดรับรู้ได้ในทันทีว่ามันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว…

“ ท่านจ้าวสวรรค์ให้พวกเราเคลื่อนพล… ”

“ ไม่ต้องแล้ว… ”

ดูเหมือนว่าในที่นี่จะมีเพียงแค่โซโลม่อนและไป๋หลงเท่านั้นที่สัมผัสได้ถึงกลุ่มก้อนพลังชั่วร้ายขนาดใหญ่กำลังพุ่งตรงมา ณ ที่แห่งนี่ด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง!!!!!

ไป๋หลงนั่งชันเข่าลงกับพื้นก่อนจะปลดปล่อยพลังแห่งพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ออกมา..แต่ทว่าอยู่ๆพลังชั่วร้ายเหล่านั้นค่อยๆหายไป..เป็นเวลาเดียวกันกับที่กาเบรียลนั้นตะโกนดังขึ้นภายในห้วงจิตของไป๋หลง!!

“ ระวัง!!!!! ”

เพล้ง!!!

อยู่ๆท้องฟ้าก็ปริแตกก่อนจะมีพลังมหาศาลพุ่งตรงลงมาโจมตียังใจกลางสนามรบ!! เป็นเวลาเดียวกันกับที่ไป๋หลงนั้นเร่งเร้าพลังแห่งพฤกษา!!

“ เขตแดนพฤกษาศักดิ์สิทธิ!!! ”

ตู้มมมมมม!!!!!

จบตอน

ขออภัยในความล่าช้านะครับ แต่ไรท์อยากจะแจ้งว่า วันที่ 10 ตุลาคม 2564 – 20 ตุลาคม 2564 ไรท์จะหยุดอัพนิยายชั่วคราว เพราะต้องสอบปลายภาค ของมหาวิทยาลัย ขออภัยในความล่าช้านะครับ

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท