อัลเบียร์เคลื่อนที่ในพริบตาก่อนจะเหยียบหัวของราชามังกรให้หมอบราบลงกับพื้นอีกครั้ง…
ตึง!!!
ท่ามกลางเหล่ามังกรกว่าร้อยตนที่หมอบราบลงกับพื้นอย่างมิอาจแข็งขืน…
“ แต่หากเจ้าปฏิเสธ ก็จงสูญพันธุ์ไปซะ!!! ”
กลับมา ณ ปัจจุบัน
เสียงของอัลเบียร์ยังคงดังกึกก้องอยู่ภายในส่วนลึกของราชามังกร..ยิ่งนึกถึงความโหดเหี้ยมและฝีมือระดับนั้นยิ่งทำให้แม้แต่ราชามังกรยังหวาดผวา…แต่อย่างน้อยการท่ี่ราชินีแวมไพร์จะยอมรับฟังคำขอบางอย่าง..มันอาจจะคุ้มค่าก็เป็นได้..ราชามังกรได้แต่นึกครุ่นคิด..
ส่วนไป๋หลงนั้นก็รู้สึกแปลกใจอยู่พอสมควรแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสงสัยถึงที่มาของเผ่าพันธุ์มังกร…ตอนนี้นั้นจำนวนกำลังรบฝั่งของไป๋หลงคือห้าหมื่น เมื่อเทียบกับเผ่าปีศาจที่มีกำลังรบไม่ต่างกว่าแสนตน ทำให้เห็นถึงความแตกต่างของกำลังรบอย่างชัดเจน..
“ เรียน ท่านจ้าวสวรรค์บัดนี้กำลังรบของเราเตรียมพร้อมรบแล้วขอเพียงแค่ท่านถ่ายทอดคำสั่ง พวกเราก็พร้อมที่จะเคลื่อนทัพในทันที.. ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าก่อนจะถ่ายทอดคำสั่งให้ทหารและชาวยุทธทุกคนตั้งขบวนรบโดยให้ชาวยุทธที่ถนัดด้านการโจมตีและจู่โจมโดยฉับพลันให้อยู่ยังแถวหน้า..
ฝ่ายป้องกันให้คอยปกป้องเหล่าชาวยุทธและทหารเทพที่เชี่ยวชาญถนัดในด้านการใช้เคล็ดวิชาสายควบคุมและเสริมกำลังให้กับพันธมิตร
และส่วนเผ่ามังกรนั้นไป๋หลงได้ออกคำสั่งแก่ราชามังกร ให้คอยโจมตีทางอากาศและปกป้องไม่ให้เผ่าปีศาจเข้ามายังใจกลางของกระบวนทัพได้..ซึ่งราชามังกรนั้นก็ยอมทำตามแต่โดยดีโดยไม่ปริปากถามแม้แต่คำเดียว…
“ ท่านจ้าวสวรรค์กำลังรบของฝั่งเราน้อยกว่าเผ่าปีศาจหลายเท่าตัวนักแบบนี้เกรงว่า…”
ขุนพลสวรรค์กล่าวขึ้นด้วยความวิตกกังวล..ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่หลายฝ่ายนั้นจะเกิดความกังวล..จริงอยู่ที่กำลังรับนั้นสำคัญ..แต่ทว่ากำลังรบที่มากด้วยฝีมือสำคัญยิ่งกว่า..
“ เจ้าคิดว่าพวกเรามีกำลังรบเพียงแค่นี้อย่างงั้นเหรอ… ”
โซโลม่อนที่ยืนอยู่ใกล้กับไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นพร้อมกับค่อยๆเก็บพัดขนนกสีดำเข้าในแขนเสื้ออย่างช้าๆก่อนที่มิติกลางอากาศจะบิดเบือนกลายเป็นช่องว่างระหว่างมิติขึ้นมา!!!
ร่างที่ก้าวออกมา กลิ่นอายล้วนแฝงไปด้วยความน่าสะพรึง หนึ่งในจตุอาชาของโซโลม่อน จตุอาชาแห่งความตาย พร้อมกับจตุอาชาคนอื่นๆที่เดินออกมาจากช่องว่างนั้น..
ยังไม่หมดแค่นั้นยังมีเหล่าผู้พิทักษ์จากนครอันธกาลกว่าหนึ่งร้อยคนเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ตามคำสั่งของโซโลม่อน!!
เหล่าชาวยุทธรวมถึงทหารสวรรค์ต่างสัมผัสได้ถึงสิ่งเดียวกันคือแรงกดดันที่แผ่ออกมาสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีกำลังคนแค่ 200 กว่าคนแต่ความรู้สึกที่ทุกคนสัมผัสได้นั้นราวกับว่ามีทัพเรือนแสนคนเข้ารวมสงครามรบในครั้งนี้
ไม่เว้นแม้แต่ราชามังกรที่กำลังสะพัดปีกลอยอยู่กลางอากาศยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ออกมา…
“ นี่มันวันรวมญาติของสัตว์ประหลาดกันรึยังไง.. ”
ไป๋หลงเองนั้นแม้จะได้ยินว่าโซโลม่อนจะพากำลังเสริมมาสนับสนุนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นถึงยอดฝีมือที่ในยุทธภพแห่งนี้อาจจะไม่มีใครเทียบเท่าพวกคนเหล่านี้เลยก็เป็นได้..
“ พวกข้ามาตามคำบัญชาของนายท่านแล้ว โปรดออกคำสั่งแก่พวกเราได้เลย หากท่านต้องการให้ศัตรูพินาศย่อยยับ พวกเราก็ยินดีที่จะลงมือตามความปราถนาของท่าน… ”
จตุอาชาแห่งความตายพูดพร้อมกับก้มศรีษะแสดงความเคารพแก่ผู้เป็นนายเหนือหัว…แต่ทว่าอยู่ๆไป๋หลงกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล เมื่อเห็นโซโลม่อนนั้นมองตนพร้อมกับปริยิ้มออกมา!!
“ หรือว่า!!! ”
“ ผิดแล้ว..คนออกคำสั่งและบัญชาการรบในครั้งนี้ไม่ใช่ตัวข้าแต่เป็นไป๋หลง..ซึ่งข้าเองก็ทำตามคำบอกของไป๋หลงเช่นกัน เพราะเรื่องใช้กลยุทธข้านั้นไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก..เพราะโดยปกติแล้วข้าใช้แต่พลังในการบดขยี้คู่ต่อสู้มากกว่าละนะ..เอาเป็นว่าคำสั่งของไป๋หลงก็เหมือนกับคำสั่งของข้าก็แล้วกัน… ”
“ !!!!!!!! ”
ไป๋หลงรับรู้ถึงแรงกดดันผ่านสายตากว่าร้อยคู่นั้นได้เป็นอย่างดี และย่อมรับรู้ระดับพลังของกลุ่มคนพวกนี้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน..เพราะส่วนใหญ่นั้นอยู่ในระดับชนชั้นมหาเทพแทบทั้งหมด!!
เรียกได้ว่าแค่สองร้อยคนนี้อยู่ภายใต้คำสั่งของไป๋หลงการที่จะนำยุทธภพมาครอบครองย่อมไม่เกินจริงแต่อย่างใด…
“ นี่ท่าน… ”
ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับสูดหายใจลึกๆก่อนที่บรรยากาศรอบตัวของไป๋หลงนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง..
“ พวกท่านทั้งหมดคอยรับคำสั่งข้า หากข้าไม่สั่งห้ามเคลื่อนไหวโดยพลการเด็ดขาด..ส่วนที่เหลือ.. ”
ไป๋หลงจัดแจงหน้าที่ของเหล่าชาวยุทธและรูปแบบของกองทัพเล็กน้อยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง….
“ ไป๋หลง..ข้าจะเข้าร่วมศึกในครั้งนี้ด้วย.. ”
เสียงของเด็กหนุ่มผู้นี้ไป๋หลงย่อมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นน้ำเสียงของสหายคนสนิท..
“ อู้เฉียง เจ้าออกมาทำไมร่างกายของเจ้ายัง.. ”
“ เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าคืออู้เฉียงเปลวเพลิงอัมตะไม่มีวันตาย บาดแผลแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก…อีกอย่างข้าไปเจออะไรมาบ้างใต้สมุทร ข้าเจอเข้ากับขุมสมบัติของจักรพรรดิ์ยุคโบราณ อีกทั้งข้ายังได้สืบทอดสมบัติระดับเทวะมาด้วย เป็นไง— ”
“ อู้เฉียงสหายรักพวกเราก็รู้จักกันมานานแล้ว…”
ทั้งไป๋หลงและอู้เฉียงเผลอหลุดขำออกมาชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวไป๋หลงจึงค่อยๆผ่อนคลายลง..สิ่งที่อู้เฉียงทำนั้นก็เพื่อไม่ให้ไป๋หลงรู้สึกกดดันจนเกินไป…
ส่วนเว่ยซิ่วนั้นก็มายืนขนาบข้างของอู้เฉียงก่อนจะก้มหัวแสดงความเคารพไป๋หลง ทำให้เด็กหนุ่มแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา..เพราะเว่ยซิ่วนั้นถือเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งพอๆกับเหล่าจตุอาชาแห่งความตายที่ยืนอยู่ใกล้ชิดกับโซโลม่อน..
“ นี่ท่าน..อย่าได้ทำเช่นนี้เลย.. ”
“ เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของบุตรชายข้า..ข้าได้ฟังเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้าจากใจจริง.. ”
อู้เฉียงค่อยๆดึงให้พ่อของตัวเองขึ้นมาเพราะตนนั้นก็รู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย…ไป๋หลงที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ย่อมรับรู้ได้ในทันทีว่า ปม ของพ่อลูกคู่นี้นั้นได้คลายลงหมดสิ้นแล้ว…
ขณะนั้นเองอยู่ๆเสาแสงสีแดงนั้นก็ค่อยๆหายไป แม้จะอยู่ห่างไกลแต่ทุกคนนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเสาแสงสีโลหิตนั้นได้เลือนลางก่อนที่มันจะหายไปราวกับว่า…
ทั้งหมดรับรู้ได้ในทันทีว่ามันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว…
“ ท่านจ้าวสวรรค์ให้พวกเราเคลื่อนพล… ”
“ ไม่ต้องแล้ว… ”
ดูเหมือนว่าในที่นี่จะมีเพียงแค่โซโลม่อนและไป๋หลงเท่านั้นที่สัมผัสได้ถึงกลุ่มก้อนพลังชั่วร้ายขนาดใหญ่กำลังพุ่งตรงมา ณ ที่แห่งนี่ด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง!!!!!
ไป๋หลงนั่งชันเข่าลงกับพื้นก่อนจะปลดปล่อยพลังแห่งพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ออกมา..แต่ทว่าอยู่ๆพลังชั่วร้ายเหล่านั้นค่อยๆหายไป..เป็นเวลาเดียวกันกับที่กาเบรียลนั้นตะโกนดังขึ้นภายในห้วงจิตของไป๋หลง!!
“ ระวัง!!!!! ”
เพล้ง!!!
อยู่ๆท้องฟ้าก็ปริแตกก่อนจะมีพลังมหาศาลพุ่งตรงลงมาโจมตียังใจกลางสนามรบ!! เป็นเวลาเดียวกันกับที่ไป๋หลงนั้นเร่งเร้าพลังแห่งพฤกษา!!
“ เขตแดนพฤกษาศักดิ์สิทธิ!!! ”
ตู้มมมมมม!!!!!
จบตอน
ขออภัยในความล่าช้านะครับ แต่ไรท์อยากจะแจ้งว่า วันที่ 10 ตุลาคม 2564 – 20 ตุลาคม 2564 ไรท์จะหยุดอัพนิยายชั่วคราว เพราะต้องสอบปลายภาค ของมหาวิทยาลัย ขออภัยในความล่าช้านะครับ