บทที่ 152 คฤหาสน์ตระกูลหยู่
บนเตียงใหญ่ หยู่ถิงที่เต็มไปด้วยเหงื่อหอมหวนหยดลง หอบหายใจต่อเนื่อง
หลังจากที่สงบลงได้ชั่วครู่ เธอก็เอียงกายมาจูบตรงหน้าอกของผม พูดด้วยเสียงอ่อนหวาน: “เฟิง ฉันอยากอาบน้ำ”
“ได้ ผมพาคุณไป”
จากนั้น ตอนที่ผมกำลังจะลุกขึ้น ผมมองเห็นหยู่ถิงที่กำลังพยายามลุกขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย ผมจึงถามออกไป “แรงของคุณนี่ไหลลงไปที่เตียงหมดแล้วเหรอ?”
หยู่ถิงอายจนโกรธเลยให้หมัดผมมาหนึ่งที แต่พูดได้ว่าไม่มีเรี่ยวแรงเลย
ให้เธอนอนคว่ำหน้าบนเตียง ช่วยเธอนวดสักพัก รินน้ำให้เธอ
พอดื่มน้ำหมดแล้ว หยู่ถิงก็มีเรี่ยวแรงกลับมาบ้าง สามารถที่จะลุกด้วยตนเองได้
หลังจากที่ตามเธอไปถึงห้องอาบน้ำ ผมช่วยเธอเตรียมน้ำอุ่น จากนั้นอาบน้ำด้วยกันกับเธอ
อาบไปอาบมา จากนั้นผมก็ถูกดึงดูดจากสะโพกที่กลมกลึงของเธอ
ไม่นานหลังจากนั้น หยู่ถิงก็ตีมันเบาๆ บ่นพึมพำ: “น่าเกลียด!”
ผมชอบเวลาผู้หญิงน่ารักหยาดเยิ้มพูดว่าผมน่าเกลียด เพราะว่าน่าเกลียดแบบนี้แสดงถึงความต้องการหรือว่าพอใจ
ผมไม่รู้ว่าหยู่ถิงตอนนี้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ผมเอนตัวไปข้างๆหูเล็กสวยสดใสของเธอ “ถิงถิง คุณพอใจแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่พอใจผมสามารถทำให้คุณได้เสพสุขโบยบินอีกหลายครั้งจนกว่าจะพอใจ เป็นผู้หญิงของผม ผมจะต้องทำให้คุณอิ่มแน่นอน ไม่ยอมให้เกิดเรื่องหิวโหยได้อย่างเด็ดขาด”
จากนั้น ผมก็ถูกหยู่ถิงผลักออกมาจากห้องอาบน้ำอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเธอพอใจแล้ว และยังพอใจมาก……
คืนนี้ พวกเรานอนกันอย่างสุขกายสบายใจ มีความคลุมเครือที่อบอุ่นเล็กๆอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบกระแทกกันอย่างอารมณ์เร่าร้อนอีก ถึงแม้ว่าผมจะไม่ถือสาน้ำที่สาดกระเด็น แต่ว่าใครบางคนมีน้ำจำกัด น่าจะเกิดภัยแล้งในไม่ช้า ดังนั้นผมเลยโอบกอดเธอไว้ในอ้อมกอด ผ่านคืนนี้ไปอย่างมีความสุข
ผังบายี หยู่ถิง จางหงหวู่ สามปัญหาใหญ่ในขณะนี้ สุดท้ายก็แก้ปัญหาสำเร็จไปอีกหนึ่ง
วันที่สองตอนเช้าตรู่ บังเอิญสุดๆ ขณะที่ผมลืมตาเปิดขึ้นมา หยู่ถิงก็งัวเงียตื่นขึ้นมาทันที เรื่องนี้เหมือนจะพูดได้ว่าเป็นสายสัมพันธ์ลึกลับที่รู้กันระหว่างคนรัก
“อรุณสวัสดิ์ คุณนี่น่ากลัวขนาดนี้ จากนี้ไปยังจะกล้าอยู่กับคุณด้วยกันทั้งวันเหรอ?”
รู้สึกได้ถึงมือเล็กอบอุ่นของหยู่ถิงกำลังเล่นเบาๆอยู่ใต้ผ้าห่ม ผมจูบเธอหนึ่งที
“ดังนั้นเพิ่มอีกสักหลายทีคงไม่เป็นไร ช่วยคุณแบ่งเบาภาระละกัน!”
พูดจบ จากนั้นมือเล็กของหยู่ถิงก็ออกมาหยุดยั้งเอาไว้ แต่ว่าแรงนั้นเยอะขึ้นมาก
“ฉันเตือนคุณไว้นะ ฉันสามารถยอมรับจางหงหวู่หรือผู้หญิงคนอื่นอยู่ในชีวิตของคุณได้ แต่ว่าหลังจากนี้ไปยกเว้นปู้หนาน ฉันจะไม่ยอมให้คุณนอนกับผู้หญิงคนอื่นอีกเด็ดขาด!”
ผมพยักหน้าไปหัวเราะไป นี่เป็นการเริ่มต้นที่งดงามทีเดียว ผมมีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ความปรารถนาของเธอจะค่อยๆเพิ่มขึ้น เธอก็จะค่อยๆยอมรับทำอะกันกับหลายๆคนได้มากขึ้นไปเอง
พอตอนที่เธอพลิกตัวเตรียมที่ลุกจากเตียงนั้น ไม่มีการบรรเลงนำใดๆ ผมก็ใช้แรงดันเธอมาอยู่ใต้ร่าง จากนั้นก็เข้าไปอย่างดุเดือด
ตอนนั้นเอง หยู่ถิงที่ถูกฆ่าโดยตรงก็ร้องเสียงคร่ำครวญครั้งแล้วครั้งเล่า ความเจ็บปวดที่อ่อนหวานไม่มีที่สิ้นสุด……
สิ้นสุดการต่อสู้ สวมเสื้อผ้า ล้างหน้าบ้วนปาก ทานข้าว จากนั้นหยู่ถิงก็โทรหาอยู่เสี้ยงเฉียน
อยู่เสี้ยงเฉียนตอนนี้ออกไปข้างนอก แต่ว่าเขารับปากว่าจะกลับบ้านไปทานข้าว จากนั้นสามารถเจอผมตอนทานข้าวได้
นี่ยังมีความนัยแฝงอยู่ด้วย ผมต้องกินข้าวบนโต๊ะอาหารของอยู่เสี้ยงเฉียน เหตุการณ์นี้ สำคัญมากๆ สำคัญมากๆ
หยู่ถิงตอนเช้าไม่ได้ไปทำงาน จะต้องพาผมไปซื้อเสื้อผ้าให้ได้ แต่ว่าจากความมุ่งมั่นขัดขวางของผม เธอไม่ได้รูดบัตร คนจ่ายเงินก็คือผม และตอนที่เธอไม่ได้สังเกต ผมก็ไปซื้อเสื้อคู่รักมาเพิ่มอีกชุดหนึ่ง
พอหยู่ถิงเห็นเขา บนใบหน้าเล็กที่แสนงดงามนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขล้นออกมา จากนั้นอดทนรอไม่ไหวรีบหาห้องลองเสื้อผ้าเปลี่ยนทันที ขนาดซักก็ยังไม่ได้ซัก
แน่นอน ผมก็ถูกบังคับให้เปลี่ยนด้วยเช่นกัน
จูงมือเดินบนถนน ใบหน้าของหยู่ถิงเต็มไปด้วยความสุขที่น่าภาคภูมิใจ เหมือนจะระเบิดออกมา
การแสดงออกของเธอทำให้ผมรู้ว่า ความรู้สึกต้องการและความรู้สึกมีความสุขของผู้หญิงนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นอะไรที่มีความหรูหรา หรือเป็นสิ่งของที่มีความหมายลึกซึ้งอะไร แค่เพียงเสื้อคู่รักราคาไม่กี่สิบหยวนง่ายๆชุดหนึ่ง ก็เพียงพอให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างมากแล้ว……
ช่วงสิบเอ็ดโมงกว่า เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ จากนั้นผมที่ถือชามหนึ่งใบก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลหยู่
“ฉันบอกให้ซื้อของขวัญแสดงความสนิทสนมให้พ่อฉัน ยังไงก็เป็นครั้งแรกที่พบกัน คุณยังจะถือแค่ชามแตกๆว่างเปล่ามาอีก”
“ความเรียบง่ายคือการแสดงถึงความจริงใจ ทานข้าวกับพ่อตาในอนาคต ผมจะเอารัดเอาเปรียบเขาไปเพื่ออะไร พูดก็พูดเถอะ มองอย่างพิจารณาดูแล้ว ผมหนึ่งร้อยคนมัดรวมกันยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ้งจอกเฒ่าแบบเขาเลยด้วยซ้ำ”
หยู่ถิงหยิกผมแรงๆทีหนึ่ง “คุณต่างหากที่เป็นจิ้งจอกเฒ่า คุณทั้งตระกูลเป็นจิ้งจอกเฒ่ากันหมด!”
“อืม รอคุณเข้าประตูไปก็จะเป็นนังจิ้งจอกแล้ว”
หยู่ถิงอยากจะหยิกผมอีก แต่ว่าไม่ทันได้ลงมือ ก็ถูกผมถือชามมากันเอาไว้
ระหว่างที่เล่นกันอย่างสนุกสนาน จากนั้นผมก็ได้พบกับลู่หย่าฉี
เห็นได้ชัดว่าลู่หย่าฉีไม่เคยคิดมาก่อนว่าผมจะมาปรากฏตัวในบ้านของเธอ ดังนั้นดูเหมือนว่าจะประหลาดใจอยู่บ้าง
“สวัสดีครับคุณป้าลู่!”
หลังจากลงมือทักทายอย่างสุภาพก่อน หยู่ถิงก็ช่วยผมอธิบายจุดประสงค์การมาของผม และเหมือนกับที่ผมพูดเหตุผลไปทั้งหมด มีเพื่อนคนหนึ่งประสบปัญหาเลยอยากจะปล่อยของเก่าโบราณของที่บ้านออก ดังนั้นจึงมาขอพบท่านผู้เฒ่าหยู่
มองออกทันที ลู่หย่าฉีเลยวางใจ
หลังจากทักทายอย่างอบอุ่นผมก็นั่งลงดื่มชา เธอพูดคุยนิดหน่อยไม่กี่คำก็รีบไปห้องครัวอย่างเร่งรีบ
หยู่ถิงให้ผมนั่งรอสักครู่ เธอจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอน
ลุกขึ้นและมาที่ห้องครัว ตอนแรกคิดว่ามีแม่บ้านคนรับใช้ทำอาหารโดยที่ลู่หย่าฉีคอยกำกับ อย่างน้อยก็ต้องมีผู้ช่วยคอยช่วยลู่หย่าฉี แต่คิดไม่ถึงว่า ในห้องครัวจะมีแค่เพียงเธอคนเดียว
“สาวงามคนโต บ้านที่ร่ำรวยมากมายขนาดนี้ คุณทนไม่ได้ที่จะให้พ่อครัวทำอาหารให้คุณ? คราบเขม่าคราบน้ำมันมันไม่ดีต่อผิวของคุณ คุณดูมือขาวเล็กๆที่เรียบลื่นนุ่มนวลของคุณ จะไปทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”
ลู่หย่าฉีจ้องมองมาที่ผม “นี่อยู่ในตระกูลหยู่ ระวังคำพูดหน่อย”
ใบหน้าที่หัวเราะอย่างสนุกสนานของผม ท้ายที่สุดเธอก็ส่ายหน้าออกมาอย่างช่วยไม่ได้ อธิบายกลับคำถามของผม บอกว่าอยู่เสี้ยงเฉียนตอนที่อยู่บ้านชอบกินอาหารฝีมือของเธอ
“ใช่ ผมก็ชอบทานอาหารฝีมือคุณ อุดมไปด้วยพืชฉ่ำน้ำ ดีมาก”
ลู่หย่าฉีฟังเข้าใจความหมายของผม หยิบมีดทำครัวขึ้นมาขู่ให้ผมกลัว
ไม่สนใจการขู่ของเธอ ตอนที่เธอกำลังหั่นผักอยู่นั้นผมก็มาอยู่ตรงด้านหลังของเธอ มือซ้ายยกชุดนอนขึ้น มือขวาตรงเข้าไปด้านใน สัมผัสถึงดินแดนสามเหลี่ยมลึกลับที่เต็มไปด้วยน้ำนั้น
ลู่หย่าฉีร้องเตือนเสียงต่ำ มองมาด้วยสายตาดุร้ายทันที “คุณหาเรื่องตายนะ!”
ขนาดตอนก่อนหน้านี้ที่มือของเธอชูมีดทำครัวผมยังไม่กลัว ผมจะมากลัวคำขู่ของเธอที่เป็นคนแข็งนอกอ่อนในได้อย่างไรกัน?
ตรงไปหมุนร่างกายที่บอบบางของเธอ ออกแรงถอดกางเกงในที่ฉลุลายครึ่งหนึ่งสีดำของเธอออก มีความสุขกับช่องทางด้านล่าง
ความคิดที่ว่ากลัวหยู่ถิงจะมาเจอแบบนั้น ความสดชื่นที่ได้มาอย่างกะทันหันแบบนั้น ทำให้ตอนนี้ลู่หย่าฉีเสียการควบคุมคลั่งไปแล้ว
ระหว่างร้องบรรเลงอันอ่อนหวานยากที่จะปฏิเสธ “อย่า เฉินเฟิง อย่าทำแบบนี้ ถ้าถูกหยู่ถิงเจอเข้าพวกเราทั้งหมดต้องตาย……”
พอลู่หย่าฉีร้องขอผมก็ลุกขึ้น เธอถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ขณะนั้นเอง ผมก็เอานิ้วสอดลุกล้ำเข้าไปด้านในโดยตรง ขยับโดยใช้ความเร็วที่รวดเร็วที่สุด ทำให้เธอคลุ้มคลั่ง
เพียงแค่เวลาสั้นๆไม่ถึงหนึ่งนาที น้ำรักของเธอก็ไหลออกมา บนพวงแก้มมีเสน่ห์ของเธอนั้นเต็มไปด้วยความน่าหลงใหล
“เฉินเฟิง เปลี่ยนสถานที่เถอะ เปลี่ยนสถานที่แล้วฉันจะให้คุณทำ อย่าทำที่นี่เลย อ๊ะ~!”
ผมจูบที่ปากเล็กๆอันมีเสน่ห์ของเธอหนึ่งที จากนั้นผมก็ช่วยเธอใส่กางเกงชั้นใน
ส่วนความเปียกชื้นที่ดินแดนลึกลับตรงนั้นไม่รู้ว่าจะเปื้อนไปบนกางเกงชั้นในมั้ย งั้นผมก็คงไม่ต้องรับผิดชอบ
“หย่าฉี ขอถามคุณสักเรื่อง คุณเคยคิดมาก่อนมั้ย จะให้ผมเข้าไปในร่างกายอันสวยงามอ่อนช้อยของคุณด้านใน?”
ลู่หย่าฉีที่พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะให้คลื่นหัวใจที่เต้นระรัวกลับมาเป็นปกติ สักพักใหญ่จึงตอบกลับ “เคยคิดมาก่อน แต่เพียงแค่เพ้อฝันเท่านั้น ไม่มีทางที่จะให้เกิดขึ้นในชีวิตจริง ไม่มีทาง”
“สามารถทำให้มันเป็นจริงได้ รับรองว่าจะทำให้คุณสุขสมเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลย”
ลงไปลูบเบาๆที่สะโพกอันอวบอิ่มกลมกลึงของคุณ จากนั้นผมก็ลุกขึ้นกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น หลงเหลือลู่หย่าฉีไว้ในห้องครัวโดยที่เธอไม่รู้ตัวจนเธองงสงสัยอยู่ตรงนั้น