บทที่165 ความเร้าใจของยาหม่อง
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ใบหน้าของลู่หย่าฉีตกใจกลัวมาก จนซีดขาวแบบไม่มีเลือด
ผมเคล้นคลึงที่หน้าอกอันอวบอิ่มของเธอ แสดงเจตนาให้เธอใจเย็นๆ จากนั้นเธอเหมือนกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ปากอันเซ็กซี่ก็ถูกปิดลง
เสียงเคาะประตูดังอยู่สามครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงรองเท้าดังอยู่หน้าห้อง ค่อยๆเดินลงบันไดลงไป จนเสียงหายไป
“น่าจะเป็นเพราะคุณไปบอกหยู่ถิงว่าปวดหัว เธอจึงอยากมาดูแลคุณ”
ลู่หย่าฉีพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็วางหัวนอนลง เหมือนกับกำลังจะนอนหลับอย่างนั้น
ผมพอจะเดาออกว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่ว่าคำพูดเหล่านั้นผมก็ไม่ควรพูดมันออกมา
นานมาก เธอจึงเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเต็มที่เต็มไปด้วยความทำตัวไม่ถูก“ เฉินเฟิง ถิงถิงดีกับฉันมาก แต่ฉันยังจะอยากให้คุณจัดการกับหล่อนอีก ฉันมันแย่มากเลยใช่ไหม”
“มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูดหรอก ถ้าเป็นผมก็คงทำแบบคุณ อยู่เสี้ยงเฉียนไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ คุณมีความต้องการสูงแต่เขากลับไม่สามารถทำให้คุณพอใจได้ หากคุณไม่วางแผนเพื่อตัวเอง แล้วทั้งชีวิตนี้คุณจะทำอะไรได้ ?”
คำพูดของผม แทงใจดำของลู่หย่าฉีดังนั้นเธอจึงมาซบที่หน้าอกผม อ่อนโยนเหมือนแมวน้อย “คุณไม่เพียงแต่ทำให้สุขกาย แต่ยังเข้าใจความในใจของฉัน มิน่าล่ะฉันจึงอยากใช้ชีวิตร่วมกับคุณ”
“งั้นพวกเราต่อกันเลยไหม คุณเสร็จหรือยัง ของผมมันเริ่มมาอีกแล้ว มันคงได้กลิ่นจากข้างล่างของคุณ!”
ลู่หย่าฉีไม่ได้ลุกไปไหน นอนซบอยู่ที่อกผมเงียบๆ
แต่มือของเธออ่อนระทวนราวกับไม่มีกระดูก ขาทั้งสองค่อยๆถ่างออกเอง จากนั้นก็ใช้มือน้อยๆจับเข้าไปข้างใน
เพียงแต่ เธอขยับได้ช้ามาก ดูราวกับกำลังต่อสู้กับความคิด
ในที่สุด เธอก็ส่ายหัวอย่างเด็ดเดี่ยว “ไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ ถ้าเกิดอยู่เสี้ยงเฉียนไม่ดีขึ้น พวกเราต้องตายแน่นอน”
พูดแล้ว ลู่หย่าฉีเอามือสองทั้งข้างไปกุมขมับ จับผมแล้วสะบัดลงอย่างรุนแรง แม้ว่าผมจะร่วงไม่กี่เส้น แต่เธอก็ถูกสถานการณ์บังคับให้ทำแบบนั้น
ณ ขณะนี้ในใจเธอคงวุ่นวายมาก เธอต้องการ แต่ว่าก็ไม่กล้ายอมรับ เหมือนกับคนที่กำลังมีอาการติดยาแล้วต้องเผชิญกับยาที่อยู่ตรงหน้า ระหว่างความตายกับการเย้ายวน เธอไม่มีทางเลือก
เธอเจ็บปวดทรมาน ด้วยเหตุนี้ผมตัดสินใจยกโทษให้เธอ จะไม่ยั่วยุเธออีกแล้ว
“หย่าฉี ผมใช้มือหรือไม่ก็ลิ้นช่วยคุณดีกว่า คุณไม่ต้องช่วยผมแล้ว อย่างน้อยผมก็สามารถไปหาผู้หญิงอื่นช่วยผมได้ในเรื่องนี้ แต่คุณต้องกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก คิดคิดแล้วรู้สึกรักและสงสารเธอ….”
ผมนั้นรักและสงสารเธอจริงๆ เธอเป็นคนดีมาก ถูกละเลยมาโดยตลอด เป็นใคร ใครก็รักและสงสารเธอ?
ลู่หย่าฉีรู้สึกตื้นตัน เธอตื้นตันที่ผมเข้าใจเธอ เข้าใจถึงความทุกข์ทรมานของเธอ
“เฉินเฟิง ขอบคุณคุณมากนะคะ บนโลกนี้นอกจากคุณและอยู่เสี้ยงเฉียนแล้ว ก็ไม่มีใครที่เข้าใจความทุกข์ทรมานของฉันได้ ขนาดอยู่เสี้ยงเฉียนที่ฉันหวงแหน เขายังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นฉันเลยได้แต่เก็บกด อดทนมาโดยตลอด โชคดีที่มาเจอกับคุณ เมื่อมีคุณเข้ามา ฉันถึงได้ปลดปล่อยความทุกข์ในใจฉันออกมา ขอบคุณคุณจริงๆ…..”
ในระหว่างเสียงขอบคุณของเธอ ผมก็ได้ค่อยๆถ่างขาอันผอมบางของเธอออก แล้วก็ก้มหัวลงไปตรงระหว่างขาที่กางออก
แต่ขณะที่ผมบรรจงจูบตรงนั้นเพื่อช่วยเธอ ขาทั้งสองข้างของเธอก็หุบเข้า ทำให้หัวของผมถูกหนีบแน่นอยู่ แสดงเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการให้ผมก้าวไปอีกขั้น
“เฉินเฟิง ฉันไม่กล้า ฉันกลัวว่าฉันจะอดใจไม่ไหวแล้วร้องออกมา ถ้าเกิดหยู่ถิงได้ยินเข้า พวกเราตายแน่นอน”
ผมคิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็หยุดการกระทำเหล่านั้น ค่อยๆนอนลงช้าๆ กอดเธอไว้ในอ้อมแขน
กอดจูบลูกไล้หน้าอกอันกลมของเธอ ไม่นานผม ก็ให้เธอเอาโทรศัพท์มา แล้วหาคำว่า ‘ยาหม่องยาหม่อง’ในอินเตอร์เน็ต หาเสร็จแล้วผมก็เอาไปให้เธออ่าน
“มันจะสบายจริงๆหรอ?มันจะไม่ทำให้บาดเจ็บใช่ไหม?”
“ไม่เจ็บหรอก ตอนเด็กๆผมเคยกิน”
“มิน่าล่ะตอนนี้คุณที่ได้เก่งกาจขนาดนี้ ที่แท้สาเหตุมาจากตอนเด็กคุณกินมาแล้วทุกอย่าง….”
ผมคุยกับหย่าฉีสักพัก จากนั้นผมก็โน้มน้าวหล่อน “หย่าฉีที่บ้านมียาหม่องยาหม่อง ไหม”
เธอยังมีความกังวลอยู่ “มีนะมีอยู่ เสี้ยงเฉียนชอบใช้เวลาทำงานตอนดึก ดังนั้นเขาจึงเป็นสิ่งจำเป็น ในห้องนี้ก็มี แต่ว่า แต่ว่า….”
“คุณกังวลว่าคุณจะฟินมาก แล้วหยู่ถิงจะได้ยินใช่ไหม?”
ลู่หย่าฉีพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าที่สวยมีเสน่ห์นั้นเต็มไปด้วยความกังวลใจ แต่ก็มีสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเบาๆ
“ถ้าจะให้ฟินอีก ผมก็จะใช้มือหรือลิ้นช่วยเพิ่ม?”
ในที่สุด ผมก็กล่อมเธอสำเร็จ หล่อนนอนเปลือยบนเตียง จากนั้นก็เอายาหม่องยาหม่อง ออกมา หยดบนมือผม
“จะเอาแบบนี้จริงๆใช่ไหม?”
ลู่หย่าฉีกังวลนิดหน่อย เอามือมาปิดขาของตัวเอง แล้วสั่นเล็กน้อย
ไม่มีคำตอบ ผมเอาของผมไปถูและเสียดสีตรงบริเวณนั้นของเธอเบาๆไม่กี่ที
เพียงแค่ไม่กี่ที ลู่หย่าฉีก็เปลี่ยนเป็นบ้าแล้วเรียบร้อย จริงๆแล้วในค่ำคืนนี้ เธอได้รับการยั่วเย้ามาหลายครั้งแล้ว เธอคงทนกับระดับการปลุกเร้าแบบนี้ไม่ไหวอีกแน่ๆ
ดังนั้น ในแววตาที่รอคอยของเธอ ผมเลยหมุนเปิดขวดยาหม่องยาหม่อง ออก แล้วหยอดไปสามหยด
“เหมือนกับไม่รู้สึกอะไรนะ?”
ดังนั้น ผมเลยหยอดไปอีกหน่อย จากนั้นก็ช่วยยกขาของเธอขึ้น
“เย็นๆ เหมือนจะรู้สึกสบายๆ คุณ….หยอดอีกหน่อย”
ในน้ำเสียงที่เขินของลู่หย่าฉีนั้น ผมก็หยอดน้ำมันเพิ่มไปอีกหน่อย
แต่ยังไม่ทันหยอดหมด อยู่ดีๆลู่หย่าฉีก็ลุกขึ้นมา เหมือนกับแมวถูกเหยียบหางแล้วกระโดด 3ฟุต จากที่นอนก็ลุกขึ้นมานั่งคุกเข่า มือทั้งสองกำแน่นปิดบังตรงนั้น
จากเดิมใบหน้าอันสวยงาม ก็เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและดูดุร้าย “เฉินเฟิง คุณมันคนเลว คุณหลอกฉันอีกแล้ว ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!!!”
ลู่หย่าฉีนอนฟุบบนเตียง ยังด่าผมไม่จบ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเจ็บมากจนไม่มีแรงจะด่าแล้ว ได้แต่อ้าปากกัดหมอน กำลังดิ้นรนอยู่ อดทนอยู่ ใบหน้าเธอนั้นก็แดงขึ้นมาฉับพลัน เหงื่อก็ไหลออกมาทั้วตัว
“ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ในอินเตอร์เน็ตบอกว่ามันสบายมาก ผมอยากทำเพื่อคุณผมเลยเสนอวิธีนี้มา!”
“คุณบอกคุณเคยกิน!”
“ใช่ ผมเคยกิน แต่มันไม่ปวดนะ….”
ผมพูดออกไปแบบขาดความมั่นใจ ใครจะว่างมานั่งกินของแบบนั้นเล่น ตอนเด็กๆผมไม่เคยกิน ตอนนี้ผมก็ไม่กล้าบอกความจริง
ในขณะผมกำลังจะเตรียมคำพูดบางอย่าง แค่พริบตาเดียว ผมก็เห็นว่ามีของเหลวออกมาจากระหว่างมือของเธอ ‘ติ๊ง ติ๊ง’ ของเหลวไหลออกมา
“เชรดแม่ เพลิดเพลินมากเลยเหรอ มันฟินได้ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?!”
ผมนึกว่าผมจะเจออุปกรณ์ที่ช่วยปลอบประโลมลูกค้าได้แล้ว แต่หลังจากนั้นลู่หย่าฉีก็มองมาที่ผมซึ่งบ่งบอกว่าไม่ใช่ในแบบที่ผมคิดไว้
“นี่มันคือฉี่ ไม่ใช่แบบนั้น ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันอยากฉี่เอาออกให้หมด!”
“อ่ออ่อ แล้วคุณฉี่ออกหมดหรือยัง?”
ลู่หย่าฉีพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง และนอนขดตัว
เธอไม่ต้องบอก ผมก็รู้ ว่ายังเอาออกไม่หมดแน่
ผมเลยปลอบเธอ “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะใช้มือช่วยคุณเอง น้ำคุณเยอะ เป่านิดนึงก็จะดีขึ้นเอง”
“แล้วคุณยังรออะไรละ เร็วสิ ช่วยฉันหน่อย ที่รัก ฉันขอร้องคุณละ….”
ลู่หย่าฉีจะเป็นบ้าแล้ว ทั้งออกคำสั่งทั้งขอร้องให้ช่วย จากนั้นก็กางเรียวขานุ่มขาวออกด้วยตัวเอง แววตาเต็มไปด้วยความหวังและรอคอยที่จะให้ผมใช้มือสอดใส่เข้าไปช่วยเธอ
ไม่มีเวลามาเล้าโลม แล้วก็ไม่มีมากระตุ้นให้เธอปรารถนา ผมตรงไปใช้นิ้วสำรวจ อย่างเบามือแต่ไม่ได้สอดเข้าไปข้างใน และรุนแรงขึ้นกับตำแหน่งที่คุ้นเคย จากนั้นก็ให้ สอดใส่เข้าไปช่วยเธอให้เสร็จสมความใคร่
เพียงพริบตาเดียว มืออีกข้างก็หยิบหมอนขึ้นมา จากนั้นก็กดไปที่หน้าของลู่หย่าฉี
ดูเหมือนว่าเธอกำลังอดกลั้นด้วยตัวเองอยู่ แต่ในความเป็นจริง ผมรู้ว่าเธออดทนไม่ไหวกับเสียงครางของเธอ
ความรู้สึกทุกข์ทรมานกับความสุขที่เปี่ยมล้น ทำให้เธอเหมือนตายแล้วขึ้นสวรรค์ ใกล้จะบ้าคลั่ง….