บทที่ 167 คุณรีบมาช่วยฉัน
การที่ลู่หย่าฉีวิงวอนขอร้องหยู่ถิงอย่างยากลำบากและมีผมอยู่ด้านข้างเป็นข้อพิสูจน์ที่น่าเชื่อถือ เหมือนว่าสุดท้ายหยู่ถิงก็เกิดมีจิตใจสงสารขึ้นมา
หลังจากอ้อนวอนอยู่สองชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดหยู่ถิงก็รับปากว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อของเธอเป็นการชั่วคราว
ใช้คำพูดที่เคยพูดไปแล้วก่อนหน้านี้ “ฉันกับปู้หนานเป็นเหมือนพี่น้องกัน ฉันรู้ไม่มีความเจ็บปวดของแม่ ดังนั้นฉันไม่อยากให้ปู้หนานต้องมาเจอกับความเจ็บปวดแบบนี้”
การให้อภัยของหยู่ถิง ทำให้ลู่หย่าฉีตื้นตันใจกับเธอเป็นอย่างมาก
“คุณไม่จำเป็นต้องมาขอบคุณฉันหรอก หลายปีที่ผ่านมาคุณดูแลฉันอย่างดีมาโดยตลอด ไม่สนว่าจะเป็นการเสแสร้งแกล้งทำหรือว่าเป็นเรื่องจริงก็ตาม ฉันก็ไม่อาจลงมือผลักคุณลงไปในกองไฟได้ ตั้งแต่เมื่อก่อนนานมาแล้ว ฉันเตรียมตัวจะเรียกคุณว่า ‘แม่’ในงานเลี้ยงวันเกิดปีนี้ แต่คุณทำให้ฉันผิดหวังเป็นอย่างมาก ขอเพียงต่อจากนี้ประพฤติตัวดี พวกเราก็ยังคงเป็นแม่ลูกกัน ถึงแม้ว่าในอนาคตพ่อฉันจะจากไปแล้วก็ตาม ฉันก็จะให้คุณกับปู้หนานมีอนาคตที่ดี……”
หยู่ถิงพูดออกมามากมาย ดูเหมือนว่าจะทำให้ลู่หย่าฉีทั้งดีใจและรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
ความดีใจก็คงเป็นการที่หลบหายนะออกไปได้ และความรู้สึกผิด เดาว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เธอเก็บไว้ในใจเมื่อก่อนเกี่ยวกับความคิดของลู่ปู้หนาน
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เรื่องของลู่หย่าฉีก็คลี่คลายลงอย่างน่าพอใจ อย่างงั้นต่อไปก็หมุนมาตาผมแล้ว
หยู่ถิงลุกขึ้น สวมรองเท้าส้นสูงเดินมาอยู่ตรงหน้าผม
“ถิง……”
ชื่อยังไม่ทันจะเรียกจบ ได้ยินเสียงตบดังฟังชัดตรงหน้าของผม
“ไสหัวไป จากนี้ไปฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีก คุณไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างงั้นฉันจะให้ผังบายีฆ่าคุณทิ้งซะ!!!”
หยู่ถิงโกรธมาก ผมยังอยากจะพูด แต่ว่าโดนจ้องเขม็งด้วยความโกรธของหยู่ถิง และการผลักต่อเนื่องของลู่หย่าฉี ผมก็ออกจากประตูใหญ่ของตระกูลหยู่
เห็นสภาพของลู่หย่าฉีที่ยืนอยู่หน้าประตูมองลงพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก ผมก็ฝืนยิ้มออกมา จากนั้นก็เรียกรถออกไป
บนรถ ผมลูบไปที่หน้า ผู้หญิงคนนี้ลงมือได้อย่างร้ายกาจมาก คราวหน้าผมจะเอาคืนเธอให้หนักเลย
คนขับถามผมว่าจะไปไหน ผมบอกเขาไปว่าโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ
ภายในโรงแรม ผมอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นก็ลงนอนบนเตียง
รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย เมื่อคืน ‘ช่วยชีวิต’ลู่หย่าฉี ทำเอาผมเหนื่อยจนถึงขีดสุด เป็นการเจ็บปวดทรมานที่น่าอึดอัดใจมาก เหนื่อยกว่าการที่ให้ผมมีเซ็กซ์สามรอบเสียอีก แต่ลู่หย่าฉีร่างกายที่แสนมีเสน่ห์นั้น จุ๊ๆ……
นอนอยู่บนเตียง ตอนที่กำลังสะลึมสะลือจะหลับอยู่นั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ผมรับโทรศัพท์เอามาแนบข้างหู เสียงของหยู่ถิงดังออกมาจากข้างใน เธอถามว่าผมอยู่ที่ไหน ผมบอกที่อยู่ของโรงแรมและหมายเลขห้องให้ไป
สิบกว่านาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดัง จากนั้นหยู่ถิงก็เดินเข้ามา
ร่างกายยังคงอยู่ชุดสูทตัวเล็กสีดำ ยังคงสวมถุงน่องดำอยู่ด้านในรองเท้าส้นสูง ทุกสัดส่วนเต็มไปด้วยความยั่วยวนอันแสนมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องพูดหรือแสดงท่าทีล่อลวงใดๆ ก็ทำเอาผมไฟลุกโชนได้แล้ว
“ถิงถิง ช่วยชีวิตผมด้วย!”
ผมเปิดผ้าปูที่นอนออก จากนั้นก็ดึงดันแข็งกร้าวเปิดเผยออกมา
หยู่ถิงที่แสนงดงามอ่อนช้อยเดินเข้ามาใกล้ๆ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวน ทำให้อารมณ์ของผมยิ่งปะทุมากขึ้น ขณะที่ผมเตรียมจะพูดอะไรหยอกล้อเธอสักหน่อย เธอก็ตรงเข้ามาตบที่ตรงนั้นด้านบนของผม ตอนนั้นตบไม่ตรงกับหัว จากนั้นน้องชายก็ลงไป……
“คุณทำอะไรนะ จากนี้ไปคุณยังจะใช่อีกมั้ย คุณอยากเป็นเหมือนลู่หย่าฉีอย่างงั้นเหรอ?!”
ผมยุ่งกับการลูบส่วนตรงนั้นที่เจ็บปวดแสบปวดร้อน บ่นอย่างโกรธๆออกมา
“อยากพูดถึงลู่หย่าฉีกับผมได้มั้ย!” หยู่ถิงใบหน้าเรียวเล็กที่แสนสวยสดงดงามก็โกรธขึ้นมา “พูด คุณทำไมไม่รีบบอกฉัน ทำไมจะต้องนอนกับผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้นทั้งคืนถึงจะส่งข้อความมาบอกฉัน คุณไม่ใช่ว่าสุขสมอยู่บนตัวเธอเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย?!”
“ให้ตายเหอะ ฟ้าดินเมตตา ผมเพิ่งมองคุณแล้วถึงจะขึ้นมา เหมือนคนที่ได้กินแล้วหรือเปล่า?! ผมทำไมถึงบอกคุณช้า ถ้าไม่ใช่ว่าจะให้คุณหาหลักฐานมัดตัวแบบคาหนังคาเขา ตอนนั้นที่ผมอยู่ที่ห้องนอนกับเธอ ถึงแม้คุณจะจับได้แต่ถ้าอยากจะจะขู่อะไรเธอละก็ ยังไงผมก็ต้องหลอกให้เขาแก้ผ้า……”
“ผมต้องอดทนอดกลั้นอย่างทรมานทั้งคืนไปรับใช้ผู้หญิงแก่ นิ้วมือผมชาไปหมดแล้ว คุณลองดูเองซิคุณลองดูเอง ตอนนี้ยังขาวซีดอยู่เลย ฉันจะวางแผนอะไรได้ ทั้งขายตัวทั้งรับใช้ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากจะช่วยคุณจัดการเธอยอมลำบากตอนนี้สบายวันหน้า!”
ผมพูดไปตั้งมากมาย ทั้งหมดคือบอกว่าคืนที่ผ่านมาของผมนั้นได้คิดอย่างลึกซึ้งรอบคอบแล้วเหมือนกัน ดังนั้นมีเหตุและผล ไม่ได้มีอะไรให้เธอหลงเหลือคาใจเลย
จากนั้นพักใหญ่ ผมก็จุดบุหรี่ขึ้นมา หันหน้าไปทางด้านข้างอย่างโมโห ทิ้งหยู่ถิงไว้ข้างหลัง
ผมไม่ได้รับเป็นธรรมอย่างมาก ผมไปเป็นสายลับ แล้วยังถูกสงสัยความรักที่จริงใจของผมที่มีต่อเธออีก!
น้ำเสียงแห่งความสงสัยของหยู่ถิงก็ค่อยๆน้อยลง “ถ้าอย่างงั้นลู่หย่าฉีถึงเอาความลับมาบอกคุณกัน?”
ความลับนั้นคงเป็นเรื่องที่อยู่เสี้ยงเฉียนใช้การไม่ได้
“ตอนแรกหลังจากที่เขาตามหาผมเพื่อทำร้ายคุณ ผมจงใจเข้าใกล้ความรู้สึกของเธอ ไม่คิดว่าเธอจะระเบิดออกมาหมดเลย เหมือนว่าแห้งแล้งมานานหลายปี ดังนั้นผมสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา วิธีของผมคุณไม่ใช่ไม่รู้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงมีอายุ เธอก็เป็นแม่ของปู้หนาน แต่เพื่อคุณแล้ว ผมเลยจำใจปรนนิบัติเธอ……”
ร้องทุกข์ไปหนึ่งฉาก หลังจากคลี่คลายความสงสัยหลายอย่างของเธอไปได้ ในที่สุด หยู่ถิงก็ปล่อยวางทั้งหมดลง
“ไม่ว่าสิ่งที่คุณพูดจะจริงหรือเท็จ ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงอยู่ก็ตาม แต่ว่าทั้งหมดนี่ก็ไม่เลวเลยทีเดียว คุณยอมสละชีวิตช่วยฉัน ดังนั้นยังไงฉันก็ต้องขอบคุณคุณ”
สละชีวิตช่วยเธอ ก็คือเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อมัดลู่หย่าฉีให้อยู่ด้วย จากนั้นก็กลายเป็นหลักฐานให้หยู่ถิงเอามาใช้ควบคุมเธอ
“ที่ผมต้องการไม่ใช่คำขอบคุณของคุณสิ่งที่ผมต้องการคือคุณคนนี้ ใจดวงนี้ของคุณ ถ้าผมวางแผนที่จะได้เงิน เงินของจางหงหวู่ไม่ได้มีมากกว่าคุณในอนาคต แต่ว่าตอนนี้มีมากกว่าคุณแน่นอน ลู่หย่าฉีเองก็มีเงินเหมือนกัน ผมหาใครก็ได้เหมือนกัน ผมจะหาคุณทำไมกัน ถ้าไม่ใช่เพราะผมดันไปชอบคนอย่างคุณ!”
หลังจากปล่อยความโกรธออกมา ผมรู้สึกได้ว่ามือคู่เล็กที่อบอุ่นโอบกอดเอวของผมจากด้านหลัง หัวเล็กๆอิงแอบมาที่หัวไหล่ของผม
“ใช่แล้วใช่แล้ว ผู้ชายของฉันอย่าโกรธแล้วได้มั้ย คุณนี่ขี้น้อยใจจริงๆ ฉันจูบคุณมา”
พอพูดไป หยู่ถิงก็จูบที่หน้าของผมหนึ่งที
“ไม่ใช่แค่หน้าที่โดนทำร้าย!”
แน่นอนว่าหยู่ถิงเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร หน้าเล็กๆของเธอจึงปรากฏสีแดงออกมา
แต่ถึงเป็นอย่างงั้น เธอก็ยังคงโน้มตัวลงมา จากนั้นก็จูบเบาๆไปที่ตรงนั้นของผม
ทันใดนั้นเอง มันก็ฟื้นคืนชีพเลือดกลับมาสูบฉีดอย่างอาจหาญอีกครั้ง ฮึกเหิมพร้อมรบอีกครั้ง
ผมดับก้นบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่ กดร่างกายที่แสนมีเสน่ห์ของเธอลงบนเตียง
“ถิงถิง เมื่อคืนผมอดกลั้นมาทั้งคืน คุณจะชดเชยให้ผมยังไง?”
หยู่ถิงปิดตาด้วยความเขินอาย ไม่พูดอะไรออกมา
ไม่พูดและปิดตานี่คือคำตอบที่ตรงตัวที่สุด นั่นเป็นการยินยอมพร้อมใจอีกแบบหนึ่ง
นี่เป็นคำตอบที่ผมต้องการทั้งหมด แต่ว่ากระบวนการนั้นไม่เหมือนกัน ผมอยากจะให้เธอเป็นคนพูดออกมาเอง
ดังนั้น ผมถอดชุดสูทสีดำตัวเล็กของเธอออก จากนั้นถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวลายดอกไม้ด้านในออก เผยให้เห็นถึงภูเขาหิมะที่อวบอิ่มเต่งตึง ด้านบนถูกห่อหุ้มด้วยชุดชั้นในเซ็กซี่สีชมพู ไม่นานก็ถูกผมกระชากออกไปโยนไปซอกตรงไหนซักที่
จูบอย่างดูดดื่มรุนแรง เปลี่ยนเป็นเสียงครางน่าหลงใหลกลับมา
เมื่อร่างกายที่แสนมีเสน่ห์ที่อยู่ตรงหน้าเริ่มขยับบิดตัว ผมก็กางเกงสแล็คออก แม้แต่กางเกงในสีดำที่แสนเซ็กซี่ก็ไม่เหลือเอาไว้ ทั้งหมดปลิวตกหายไป
ถุงน่องดำที่แสนมีเสน่ห์กับเท้าเล็กๆสีขาว ตอนนี้เปรียบเทียบกันได้อย่างชัดเจน ทำให้แรงปรารถนาของผมลุกเป็นไฟจนไม่มีที่สิ้นสุด และความรู้สึกที่ไฟแห่งความปรารถนาแผดเผาอยู่นี้ ผมเองก็ต้องการให้หยู่ถิงได้รับรู้เช่นกัน
อดทนต่อแรงปรารถนาที่ลุกเป็นไฟ ผมก็หยอกล้อเล่นกับเท้าหยกคู่สวยและขางดงามนั้น ก้มหัวลงไปจูบส่วนที่เขินอายเย้ายวนมีเสน่ห์ของเธอ
เสียงครางที่ออกมานั้น เหมือนเสียงเพลงของเทวดาบนสวรรค์ดังกึกก้องลงมาที่แดนมนุษย์ ทำให้ผมลืมทุกสิ่งทุกอย่าง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มัวแต่คิดที่จะครอบครองร่างกายที่สวยอ่อนโยนหยาดเยิ้มของเธอเท่านั้น
ทนแล้วทนอีก สุดท้าย ผมก็มาถึงขั้นตอนที่ผมต้องการมากที่สุด
หยู่ถิงควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เธอดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งบนเตียง บิดกายไปมา ขณะที่ครางร้องขอด้วยความปรารถนาอย่างทรมาน
“เฟิง ให้ฉัน รีบให้ฉันเถอะ ฉันจะตายอยู่แล้ว คุณรีบช่วยฉันเร็ว……”
ชั่วพริบตานั้นเอง เหมือนผมได้โทรศัพท์ไป119แจ้งเหตุไฟไหม้ เสียงสายฟ้าฟาดยังไม่ทันจะอุดหู เสียง‘ปั๊ก’ บุกเข้าไปในกองไฟที่กำลังปะทุนั้น
เสียงครางที่ได้รับความเติมเต็มอย่างพึงพอใจที่แสนน่าหลงใหลนั้น สัมผัสที่แสนอบอุ่นและมั่นคงนั้น ช่างเหมือนได้ดื่มยาโป๊ที่มีประสิทธิภาพรุนแรงเข้าไปทิ่มแทงหัวใจถึงสองขวดด้วยกัน ทำให้ผมพลุ่งพล่านจนถึงขีดสุด ยากที่จะสกัดกั้น และนั่นก็ได้เพิ่มเติมความสุขของหยู่ถิง ตามใจมากขึ้น..