หลังจากออกจากสำนักงานย่อยแล้ว ตามคำขอของจี้หลิน จางหงหวู่ส่งเธอกลับไปยังโรงแรม
“พักผ่อนซะ ไม่ต้องกลัว มันเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้นเอง ชีวิตคนเรานั้นเพราะว่าเส้นทางที่ไม่เหมือนกันแบบนี้ จึงถูกปรุงแต่งให้มีสีสันมากมายตามประสบการณ์ที่คาดไม่ถึงจากเส้นทางที่คาดไม่ถึง ตอนนักเรียนคนอื่นเบื่อที่จะอยู่ข้างกายพ่อแม่แล้ว คุณก็คงกล้าที่จะเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว นี่ก็คือสิ่งที่ชีวิตของคุณมีมากมายมากกว่าพวกเขา…”
ผมได้โบกมือลาจี้หลิน จากนั้นก็มองดูเธอเดินเข้าไปในโรงแรม
หลังจากผมกลับขึ้นรถมา จางหงหวู่หันกลับมามองผม “นับวันยิ่งเล่ห์เหลี่ยมจัดขึ้นไปเรื่อยๆ”
ผมส่ายหัว “ เหลี่ยมจัดยังไงก็ยังเทียบกับปีศาจแบบคุณไม่ได้หรอก ความสามารถยังตื้นเขิน และยังถูกคุณปราบได้มานานแล้ว”
จางหงหวู่หัวเราะคิกคัก มันคมชัดราวกับเสียงกระดิ่งเงิน ราวกับเสียงธรรมชาติที่เคลื่อนไหว
ผมจุดบุหรี่ขึ้นมาสองมวน มวนหนึ่งส่งให้เธอ ส่วนอีกมวนหนึ่งเข้าปากตัวเอง
หลังจากดูดบุหรี่เข้าไปลึกๆแล้วหนึ่งที ผมก็ถามเธอว่า “ที่อื่นโดนกวาดล้างแบบนี้ไหม?”
จางหงหวู่ส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่มี ฉันเข้าใจความหมายของคุณ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าผังบายีเล่นสกปรกอะไรหรือเปล่า และคนแจ้งเบาะแสก็ฉลาดมาก ถ้าบอกว่าข้างในมีการค้าประเวณี ไม่ต้องรอให้ตำรวจมาถึง คนที่มีความพัวพันกับผับนี้คงหนีแยกย้ายกันไปหมด”
“ความฉลาดของผู้แจ้งเบาะแสคือเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงโกหกว่ามีคนมารวมแก๊งกันเสพยา คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นคดีที่ใหญ่มาก เลยไม่มีใครกล้าปิดบัง ทางตำรวจจึงส่งตำรวจไปอย่างแน่นหนาและรวดเร็ว จากนั้นก็พบว่าไม่มีการเสพยาแต่เป็นการค้าประเวณี พวกเขาก็ไม่สามารถทำเมินเฉยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปตามความต้องการของผู้แจ้งเบาะแสทำให้กลุ่มเจ้านายและลูกค้าของเขาถูกจับกลับมา”
จางหงหวู่ดูดบุหรี่เข้าไปเต็มปอด จากนั้นเลื่อนกระจกลงและพ่นเขม่าควันบุหรี่ออกไป ทิ้งให้สายลมพัดพาเขม่าจางหายไป
“ตอนนี้สิ่งที่ไม่แน่ใจก็คือ คนแจ้งเบาะแสนั่นเป็นใคร ดังนั้นไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเขามีปฏิปักษ์กับเจ้าของผับหมอชิ่งหรือมีปฏิปักษ์กับฉัน แต่จุดประสงค์มันแน่ชัดอยู่แล้วว่า เขาไม่ต้องการให้ผับหมอชิ่งนี้อยู่อย่างสงบ”
ผมพยักหน้า “คอยดูต่อไปว่าหลังจากนี้ผับหมอชิ่งจะยังถูกแจ้งความอยู่อีกหรือเปล่าแค่นี้ก็จะรู้แล้ว”
จางหงหวู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียง ‘อืม’ “ฉันได้ตามหาคนมาสอบถามเกี่ยวกับผู้แจ้งเบาะแสแล้ว แต่เป็นแจ้งผ่านโทรศัพท์สาธารณะ ดังนั้นจึงหาไม่เจอ ดังนั้นคุณพูดนั้นถูกต้อง ทำได้แค่คอยดูผับหมอชิ่งต่อไป”
“ตามกฎหมายแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้แจ้งเบาะแสถูกเก็บเป็นความลับหรอกเหรอ?”
ผมยิ้มแล้วถามจางหงหวู่ จากนั้นจางหงหวู่ก็ยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร
การไม่พูดอะไร นั่นมันก็ชัดเจนมากแล้ว กฎหมายยังมีข้อบัญญัติห้ามเจ้าหน้าที่รับสินบน…
ระหว่างทางผมได้พูดคุยกับจางหงหวู่เยอะแยะมากมาย นั่นเลยทำให้รู้ว่า เหตุผลที่เธอกลับมาที่นี่ เพราะเจ้าของผับหมอชิ่งโทรมาหาเธอ นี่มันเหมือนกับสิ่งที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด
ถ้าเจ้าของนั้นไม่โง่ แน่นอนว่าเขาจะต้องสงสัยว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับจางหงหวู่หรือไม่ จากนั้นก็จะติดต่อเธออย่างรวดเร็ว
หลังจากกลับถึงบ้าน จางหงหวู่ได้รินน้ำสองแก้ว ยื่นมาให้ผมหนึ่งแก้ว
“คุณพูดมาเถอะ!”
ผมรู้อยู่แล้วว่าเธออยากให้ผมพูดว่าอะไร แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของจางเถ่ฉวยของหมู่บ้านพวกเรา
“แค่ลูกค้าคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อก่อนเคยรับบริการในห้องรับรองส่วนตัวที่ผับนั้น แต่ที่แปลกคือเธอตั้งท้องอยู่ และที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือเธอต้องการร่วมรักกับผมเพื่อทำให้ลูกเธอแท้ง ดังนั้นผมจึงให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนี้มาก แต่เธอก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย”
จางหงหวู่ยกขาทั้งสองของตนขึ้น พร้อมเอนกายลงบนโซฟา และดวงตาอันสวยงามของเธอก็ปิดลง
“คุณหญิงของสำนักงานย่อย ต้องการใช้ตัวคุณเพื่อทำให้ลูกเธอแท้ง ดูน่าสนใจ ผู้หญิงคนนี้ช่างดูมีเรื่องราว”
“ฉันชอบที่เธอดูมีเรื่องราว และยิ่งชอบกว่านั้นคือเธอที่มีหน้าตาทางสังคมขนาดนี้ยังดูมีเรื่องราว หญิงที่ไม่มีเรื่องราวก็เหมือนไข่ที่ไม่มีรอยแตกร้าว ดูแข็งแกร่งเกินไป”
จางหงหวู่หลับตาแล้วยิ้ม “ถ้างั้นคุณก็เป็นแมลงวัน?”
“อืม มาต่อยแมลงวันยาวแคบของคุณนั่นแหละ”
เอ่ยพูดไป ผมโยกย้ายตัวเองไปอยู่ข้างๆเธอ แล้วถอดรองเท้าที่ห่อหุ้มเท้าของเธอออก จากนั้นก็หยอกล้อกับเรียวขาคู่สวยที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงน่องสุดโปร่งคู่นั้น
เท้าเล็กๆอันบอบบางขาวคู่นั้น ส่วนโค้งเท้าที่โค้งได้รูปสวย ผิวที่บอบบางละเอียดลออ และเต็มไปด้วยผิวที่ยืดหยุ่นเรียบเนียน
“ที่รัก คุณจำครั้งแรกที่คุณช่วยผมไว้ได้ไหม ก็ด้วยเท้าคู่นี้ แต่ทำไมผมถึงชอบมันไม่มากพอ?”
จางหงหวู่เปรยตามองที่ด้านข้างของผม “คุณชอบแค่เท้าของฉันเองเหรอ?”
“ยังมีขาของคุณ ยังมีก้นกลมมนน้อยๆของคุณ ยังมีเอวของคุณ ยังมีคอของคุณ ยังมีใบหน้าของคุณ ยังมีผมของคุณอีก และแน่นอนว่ายังมีมือเล็กๆที่คล่องแคล่วคู่นั้นและแขนที่เรียบเนียนของคุณ ผมชอบทุกส่วนทุกๆเนื้อผิวสัมผัสที่อยู่บนร่างกายของคุณ ผมก็ชอบทั้งหมด”
จางหงหวู่มองมาที่ฉัน ดวงตาของเธอค่อยๆเปร่งประกายแสดงความปรารถนาอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ “ทุกครั้งที่ฉันอยู่กับคุณ คุณมักจะหยิบยกถ้อยคำหวานมาโกหกฉัน หยอกให้ฉันดีใจ แต่ทำไมฉันรู้สึกยังฟังมันไม่มากพอ?”
“เพราะว่าทุกอย่างที่ผมพูดมันคือความจริง…”
ผมไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปริปากพูดอีก ค่อยๆหอมแก้มเธอเบาๆ จากนั้นให้เธอเอนหัวไปข้างๆ และกอดจูบเธอเบาๆ
จากจูบที่ตื้นเขินก็ค่อยๆช่วงชิงล้ำลึกเข้าไป ปรนเปรอริมฝีปากที่หอมละมุนอย่างระมัดระวัง จากนั้นบรรจงสำรวจไปที่ลิ้นอันอ่อนนุ่มหนืดเหนียวนั้น
หลังจากจูบกันอย่างเร่าร้อน ผมก็ค่อยๆปลดเสื้อผ้าของเธอ เผยให้เห็นเสื้อชั้นในสไตล์พระราชวังสีขาวราวดังหิมะ เสื้อชั้นในตัวนี้ที่สวมอยู่บนร่างกายของเธอ ทำให้เธอดูสง่างามขึ้นมาอย่างมาก ดั่งกับหญิงงามผู้มียศอันสูงส่งของขุนนางในราชวัง ทำให้ส่วนกลมกลึงอวบอิ่มนั้นถูกเติมเต็มสมบูรณ์ด้วยรสนิยมอันสูงส่ง
แต่รสนิยมอันสูงส่งนี้ จะทำให้คนหวาดกลัวจนอยากหนีห่าง หรือไม่ก็ ทำให้คนเราเกิดความปรารถนาอยากจะพิชิตความสูงส่งนี้ แต่ตอนนี้ก็ผมพูดเกี่ยวกับมันได้เพียง มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ชะโงกหน้าขึ้นไป บรรจงดูดเลีย ผมใช้ฟันคาบเกี่ยวเสื้อชั้นในขึ้นไป เผยให้เห็นหน้าอกคู่กลมสวยที่ออกมาชูชันอย่างผยอง
“ที่รัก ถ้ามีเกณฑ์มาตรฐานการตัดสินนมละก็ คุณจัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานโดยไม่มีข้อกังขาใดๆเลย ใหญ่เล็กกำลังพอดี ไม่มีหย่อนยานหรือโอนเอียง ยิ่งไปกว่านั้นมันยืดหยุ่นดีเยี่ยม บีบจับได้เต็มไม้เต็มมือโดยไม่เสียรูปทรง และที่ดียิ่งกว่านั้นคือเจ้าดอกตูมสีชมพูระเรื่อสองช่อนั้น…”
ยังไม่ทันได้พูดคำว่า “ตูม” จางหงหวู่หายใจถี่อย่างต่อเนื่องพร้อมกับจับหัวผมกดบดขยี้อย่างรุนแรงอยู่ด้านบน
“ฉันได้ชื่อเป็นภรรยาในอนาคตของคุณอยู่แล้ว คุณยังมัวแต่ทำเป็นร่องรอยอยู่แบบนี้ คุณอยากเห็นฉันตายอย่างทรมานเหรอ รีบช่วยฉันซะที!”
อืออือ ทั้งรู้สึกเขินอาย ยังรู้สึกหายใจหอบถี่ เพราะเธอกดรุนแรงมากเกินไปแล้ว ไม่ให้หายใจกันเลย
หลังจากที่หยอกล้อพรมจูบกัน ผมก็ได้ถอดกางเกงสแล็คตัวเล็กนั้นออก เผยให้เห็นเรียวขาขาวงามทั้งสองข้าง
เรียวขาขาวเนียนนุ่ม ที่แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เชยชม ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้หยอกล้อ แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นก็ทำเอาผมถอนตัวจากไฟราคะแห่งปรารถนานี้ไม่ได้เลย
“ที่รัก เรามาปรึกษากันสักเรื่องมั้ย?”
จางหงหวู่ได้จับเข้าที่มือของผม จากนั้นได้ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธออย่างแผ่วเบา
“ช่วยฉันแก้ปัญหานี้ ขอแค่ทำให้ฉันสบายตัวขึ้น ถ้าคืนนี้ทั้งคืนคุณต้องการฉัน ฉันจะไม่ปฏิเสธคุณเลยที่รัก!”
หญิงคนนี้นี่ร้ายจริงๆ รู้อยู่แล้วว่าผมนั้นอดกลั้นครอบปากตัวเองเอาไว้ ยังจะตั้งใจมายั่วอารมณ์ หยอกล้อผมอีก
ดังนั้นผมเลยแยกมือเธอออก ยกก้นเล็กๆอันเซ็กซี่ของเธอขึ้น เอาศีรษะดันขึ้นไป
ไม่มีการหยอกล้อ ก็ไม่มีการทำร้าย
มีการทำร้าย ร่างกายอันบอบบางของจางหงหวู่กลายเป็นเหมือนปลาที่เลื้อยไหลไปตามโคลน บิดไปมาอยู่บนโซฟา เสียงนั้นยิ่งเต็มไปด้วยเสียงครางของความปรารถนาอย่างเร้าร้อน
“ที่รัก ช่วยฉันด้วย ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
ผมไม่เคยปฏิเสธการร้องขอของหญิงสาวที่ไหนเลย รวมทั้งหญิงสาวในบ้านของผมด้วย ผมทำตามคำร้องเสมอ
ดังนั้น ผมจึงจัดการถอดสีดำตัวนั้นของเธอ กางเกงในลายผีเสื้อนั้นออก จากนั้นก็ยื่นนิ้วเข้าไปสองนิ้ว…”
การบรรเลงฉากรักที่ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ร่างกายอันเย้ายวนของจางหงหวู่ได้ถึงจุดสูงสุดและทรุดตัวตัวลงแน่นิ่งบนโซฟา นอกจากการกระตุกเกร็งและหอบถี่ ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอีก
เมื่อช่วยให้เธอสำเร็จความใคร่แล้ว ต่อมาก็ถึงตาของผมแล้ว
ดังนั้น เรียวขาอันเซ็กซี่ที่ปนเปื้อนไปด้วยคราบรักเหนียวหนืดนั้น ก็ได้กลายเป็นเป้าหมายใช้เป็นเครื่องเล่นประเทืองอารมณ์ของผม
คืนนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เกิดจากความรัก แต่มันช่างสุดแสนโรแมนติก