ภายในห้องพี่ฉินหัวเราะคิกคัก หน้าอกของเธอเต็มแน่นไปด้วยดอกไม้อันชูชันสั่นเครือ สวยเกินคำบรรยาย
“คุณพูดโกหก ฟ้าผ่าลงมาแล้ว”
“ถ้าโดนฟ้าผ่าลงมาจริงๆ ผมก็พูดได้เพียงแค่ว่าเทวดานี่ไม่ตาถึงเอาซะเลย ไม่เห็นถึงความสวยงามและเสน่ห์ที่ดึงดูดของพี่ฉินเลยหรือจะเป็นเพราะความชอบความดื่มด่ำในสุนทรีของเทวดากับมนุษย์โลกไม่เหมือนกัน ในสายตาของผม พี่ฉินสวยกว่านางเอกในละครตั้งเยอะ ถ้าให้คุณแสดงละครสักเรื่อง ไม่จำเป็นต้องมีตัวละครตัวอื่นอยู่ คุณแค่ยืนอยู่ที่นั่น จำนวนผู้ชมจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ขอพรจากเทพทั้งเจ็ดก็ไม่เร็วเท่าคุณ!”
ผมแหย่เขาเล่นด้วยความจริงจัง ดังนั้นเธอจึงยิ้มอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น
ผ่านไปสักพัก เธอยื่นมือขาวเนียนของเธอ ออกมาลูบไปที่ต้นขาของผมเบาๆ บางครั้งเธอก็เหยียดนิ้วเรียวยาวมาหยอกล้อผม และสุดท้ายก็เอ่ยถามผมอย่างแผ่วเบา“พี่สวยขนาดนั้นเลยจริงเหรอ? พี่มีเสน่ห์ต่อเธอมากจริงๆใช่มั้ย?”
ผมพยักหน้าอย่างจริงจัง แต่ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกไป ณ ตอนนี้ความเงียบมันก็สื่อได้ดีกว่าคำพูดอีก
พี่ฉินพยักหน้า “โอเค งั้นพี่จะให้โอกาสเธอ นอนลงสิ”
เธอย่นตัวลงมาทาบทับอย่างกะทันหัน ทำให้ผมตั้งตัวไม่ทันเลย ไม่ใช่สิ แม้กระทั่งเตรียมดอกไม้มาเพื่อต้อนรับเธอยังเตรียมไม่ทันเลย
ดังนั้นผมจึงรีบนอนลงไปยังมุมโซฟา ให้พี่ฉินถอดรองเท้าและยืนขึ้นโซฟาตัวนั้น จากนั้นค่อยๆถอดกระโปรงยาวสีดำนั่นออก ทัศนียภาพที่สวยงามภายใต้ร่มผ้านั่นปรากฏยังสายตาของผม
ขาคู่นั้นทั้งขาว และเรียวยาวมาก ผิวก็เรียบเนียนละเอียด ไม่ต้องใช้มือลงไปสัมผัส ก็รู้แล้วว่าความรู้สึกมันต้องสบายแน่ๆ มีแค่สิ่งเดียวที่น่าเสียดาย มันสิ่งที่สวยไม่มากพอ คือใต้น่องขามีรอยแผลเป็นรอยหนึ่ง ความยาวอยู่ประมาณยี่สิบกว่าเซนติเมตร เหมือนตะขาบตัวใหญ่ที่ขดตัว ทั้งสองขาต่างก็มีร่องรอยแผลเป็นนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นการทำลายเรียวขานี่อย่างอำเภอใจ
“กลัวหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ร่องรอยแผลเป็นนี้มันพิสูจน์ได้ว่าแม้กระทั่งเหล่านางฟ้าก็ต่างอิจฉาในความสมบูรณ์แบบของพี่ฉินแต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำลายมัน ดังนั้นมันจะติดอยู่ที่หน่องของคุณ นี่ถือเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ความสวยงามและเสน่ห์ของพี่ฉิน!”
แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ผมอยากจะบอกออกไปคือแผลเป็นนี่มันน่าหงุดหงิดมาก แต่เมื่อคำพูดที่จะหลุดออกจากปาก คำพูดดีๆก็ปรากฏขึ้นมาเอง โดยที่ผมไม่ต้องคิดอะไรเลย
พี่ฉินเม้มปากกระจับน้อยนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ปากของเธอนี่มันเก่งจังเลยนะ จากนี้พี่ฉินคงต้องให้เธอดูแลดีๆแล้วละ แค่คุณพูดเท่านี้ ไม่ว่าปากของคุณจะเป็นยังไง พี่ให้คุณหนึ่งพันอย่างน้อย เพิ่มได้ไม่จำกัด!”
“ผมไม่ต้องการเงิน แค่สลึงเดียวก็ไม่เอา ผมพูดจริงๆนะ ถ้ารับเงินก็เท่ากับผมได้กลายเป็นคนมีมลทิน”
พี่ฉินยังคงพูดต่อไป แต่ผมไม่ได้ตั้งใจฟัง เพราะยังไงมันก็เป็นคำพูดที่เอ่ยชมฝีปากของผม จนกระทั่งตอนนี้ผมถึงสังเกตเห็น หญิงสาวปีศาจที่กำลังต่อสู้ในสนามรบอันว่างเปล่า ไม่มีท่าทีเขิลอายอะไรแล้ว
แต่ที่น่าสนุกไปกว่านั้นคือ รอบๆนั้นมันสะอาดหมดจด ถ้าหนวดที่ผมได้โกนไปเมื่อเช้าเกลี้ยงเกลาและเปล่งปลั่งราวกับได้รับพรจากสวรรค์ งั้นสักพักต้องขยับลิ้น หยอกล้อกับสิ่งเรียบเนียนนั้น มันทำได้อย่างไรกัน? มันน่าสนุก!
“มาสิ ในเมื่อเธอชอบพี่ พี่ก็จะให้เธอได้ลิ้มรสของพี่”
เธอพูดอย่างไม่เต็มใจ ผมรู้สึกละอายใจแล้ว
จากนั้น เธอก็ได้ถกกระโปรงตัวยาวขึ้น และมานั่งยองๆ เอากระโปรงครอบหัวของผมไว้
“พี่สาว ทำแบบนี้ไม่ดีมั้ง…”
ผมพูดออกไปอย่างเขินอาย แต่เธอกลับแสดงสีหน้าที่ค่อนข้างตื่นเต้น “ไม่เห็นมีอะไรไม่ดีเลย มา คุณอ้าปากคุณสิ เดี๋ยวพี่จะฉี่ใส่ปากเธอเอง”
……นี่มันแย่จริงๆ มันแตกต่างกับที่ผมคิดไว้อย่างสิ้นเชิง นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมตั้งตารอเลย!
ตอนที่เธอพยายามจะปล่อยฉี่ออกมา ผมร้อง ‘หึหึ’เจาะเข้าไปจากหว่างขาของเธอทั้งคู่
ในชั่วพริบตา ผมก็ได้ยินเสียงร้อง ‘ติ๋งติ๋ง’ ไหลออกมา แต่เธอก็ควบคุมเสียงนั้นได้อย่างรวดเร็ว
“นี่คุณหมายความว่ายังไง”
เสียงของพี่ฉินเปลี่ยนเป็นเสียงเย็นลง เธอหันมามองนัยน์ตาของผม มันเต็มไปด้วยแววตาความเยือกเย็น
ผมค่อยๆลูบบั้นท้ายที่หอมหวานของเธอ จากนั้นปีนไปอยู่ข้างไหล่ของเธอ และเลียที่ติ่งหูของเธอนั้นเบาๆ
“พี่ฉินเรือนร่างของเราคุณมันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน ผมทนไม่ไหวแล้วอยากจะเข้าไปสร้างความอบอุ่นในตัวของพี่”
“เฮอ เฮอเฮอ เฮอเฮอเฮอ!”
พี่ฉินยิ้มแปลกอย่างขัดแย้งกัน รอยยิ้มเต็มไปด้วยความแปลกใจ
ผ่านไปสักพัก เธอมองมายังผม ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนและพูดว่า “คุณเหมาะแล้วเหรอ คุณกล้าไหมละ?”
เหมาะสมไม่เหมาะสม มันก็ต้องลองก่อนถึงจะรู้ มันก็เหมือนการเลือกคู่ให้ม้ากับลา แต่ความกล้าไม่กล้านี่ จะเริ่มพูดจากอะไรดีละ?
ไม่รอให้ผมถาม พี่ฉินก็ได้ทาบทับลงมาบนโซฟา และใส่รองเท้ากลับเข้าไปใหม่ จากนั้นก็ได้กวาดขวดเหล้าเบียร์ที่อยู่บนโต๊ะลงพื้นไปเสียสิ้น เลื่อนก้นของตนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะแทน
“ดูเหมือนคุณจะเป็นเด็กใหม่จริงๆ แม้กระทั่งฉันเป็นผู้หญิงของใคร คุณก็ไม่รู้ ยังกล้ามาบอกว่าอยากนอนกับฉันอีก?”
บอกตามตรงเลยว่า ผมก็ยังไม่รู้จักว่าปีศาจสาวตรงหน้าผมนี้คือใคร แต่ผมคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเขานี่ไม่ใช่คนที่กินเงินเดือนจากรัฐบาลแน่นอน เพราะคนที่กินเงินเดือนรัฐบาลมักใส่ใจกับภาพลักษณ์ของภรรยาตนเอง เช่นเดียวกับหญิงที่แวบแรกคิดว่าเป็นคนสวยคนนั้นเช่นกัน
แต่คนนี้ เป็นภาพวาดที่แสนมีเสน่ห์จริงๆ เกือบจะเหมือนว่าบนใบหน้ารูปไข่ทั้งสองด้านซ้ายขวานั้นใช้ลิปสติกเขียนว่า “ทำเถอะ”สองคำนี้
ในเมื่อไม่ใช่คนของทางการ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะมีความจำเป็นอะไรให้ผมเลือก ‘ไม่กล้า’
ในเมืองนี้ ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่ได้ลิ้มลองลู่หย่าฉีของอยู่เสี้ยงเฉียน กู้ฟางเฟยของผังเจี้ยนจวิน แต่ผมก็ได้หยอกล้อกอดกันข้ามคืน ส่วนที่เป็นส่วนลับมันก็ถูกเก็บเป็นเหมือนร่องรอยแผลเป็นของผม ดังนั้นการที่เรายังไม่ร่วมรักกัน มันเกิดจากเหตุผลส่วนตัวของพวกเขาเลย
ดังนั้น ผมเลยเอ่ยปากอยากจะปรึกษาเธอ “งั้นพี่ฉินผู้ชายของคุณคือใครหรือครับ?”
“ตั่นโก๋ซูน”
ตั่น-โก๋แห่งพรรครัฐเหรอ?!
จากนั้นผมก็คิดแล้วคิดอีก ชื่อของเขามันคุ้นหูมาก แล้วเหมือนผมจะเคยได้ยินการหยอกล้อชื่อนี้
จากนั้นผมก็คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ชื่อนี้เคยได้ยินจากปากของจางหงหวู่
นี่เอง
คุณงามความดีของตั่น-ซูนนั้นยังไม่ถึงขั้น แต่ของผังเจี้ยนจวินถึงขั้นแล้ว เพราะตอนนี้เขาเป็นผู้ช่วยของผังเจี้ยนจวิน เขามีพลังอำนาจในมืออย่างมากมาย แน่นอนว่าอำนาจนั้นมันเป็นอำนาจที่มองไม่เห็นอีกด้วย
ผู้หญิงของตั่นโก๋ซูนเองเหรอ งั้นก็น่าสนใจมาก ผู้แกร่งกล้าสามอันดับของเมืองนี้ อยู่เสี้ยงเฉียน ผังเจี้ยนจวินตั่นโก๋ซูนผู้หญิงของพวกเขาผมต่างเคยพบเจอมาหมดแล้ว สองคนแรกผมได้ควบคุมให้อยู่ในโอวาทได้ ถ้างั้นคนนี้ พี่ฉินผู้หญิงของตั่นโก๋ซูนจะปล่อยไปไม่ได้
มีแค่เรื่องที่อยากจะควบคุมให้ดื่มน้ำฉี่เท่านั้นที่ผมยังทำให้ไม่ได้
“พี่ฉิน นอกจากจะให้เลือกทางนี้ ยังมีทางอื่นให้เลือกอีกมั้ย?”
พี่ฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถกกระโปรงของเธอขึ้น และดันก้นอันเย้ายวนเซ็กซี่ของเธอขึ้นมา
“มา ช่วยเลียให้ฉันที”
บอกตามตรงเลยว่า ผมยังไม่มีความปรารถนาที่จะโลมเลียส่วนล่างของเธอนับประสาอะไรกับช่องทางด้านหลังละ
ดังนั้นผมจึงกดเธอลงบนโต๊ะกลาง
“อ่ะ คุณจะทำอะไร!”
ผมขี้เกียจที่จะตอบอะไรเธอแล้ว ลงมือต่อทันที และยื่นมือออกไปด้วยความไวของมือที่เร็วที่สุด ลงมือหยอกล้อ ไม่ทำงาน แน่นอนว่าไม่เข้าไป!
ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงร้องของพี่ฉินที่ดังลั่นก็ค่อยๆกลายเป็นเสียงครวญครางอันบอบบาง ราวกับดอกไม้ที่อ่อนแรงปลิดปลิวตามแรงพัดของสายลม ร่างกายที่บอบบางสั่นสะท้านเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาของเธอ และการรอคอยการตอบสนองอย่างร้อนแรงต่อจุดที่อยู่ลึกที่สุดของร่างกายอันบอบบางของเธอ
สิบกว่านาทีต่อมาอีก เสียงอันบอบบางของพี่ฉินก็ได้กลายเป็นเสียงตะโกน ที่ดังลั่นแต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ ดังนั้นมันจึงดูมีเสน่ห์และทำให้คนมัวเมาลุ่มหลงไปกับเสียงที่ได้ยิน
ดังนั้นผมจึงผายมือตีไปยังเรือนร่างของเธอนั้นอย่างเต็มแรง
ในชั่วพริบตา ท่ามกลางเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็ได้มีกระแสน้ำยืดเหนียวไหลออกมาและห้องก็เต็มไปด้วยเสียงลมหายใจที่หอบถี่ไม่เป็นจังหวะ
นี่คือการแสดงสดจริง และฉี่ก็เป็นฉี่จริง……
หลังจากปล่อยพี่ฉินเสร็จ ผมก็ได้ไปที่โซฟาและจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ
เธอมองลงมายังกระโปรงที่เปียกโชก และทอดสายตาความเกลียดชังมาที่ผม “เธออยากตายเหรอ!”
ผมไม่เข้าใจว่าเธอคิดยังไง ถึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ผมอีก ดูเหมือนเทวดาจะมีความยุติธรรมอยู่บ้าง ประทานให้ความสวยงามแก่ร่างนี้ แต่ก็ไม่ให้สมองเธอมาด้วย อย่างน้อยพี่ฉินก็เป็นแบบนี้
“ถ้างั้นคุณก็ไปบอกตั่นโก๋ซูนเลยสิ บอกเขาไปว่าคุณมาหาผู้ชายขายบริการ แล้วให้ผู้ชายขายบริการพวกนี้โลมเลียตรงนั้นของคุณ ดื่มน้ำฉี่ของคุณ ผมก็อยากจะรู้นัก ว่าตกลงแล้วตั่นโก๋ซูนจะฆ่าแค่ผมคนเดียว หรือจะฆ่าคุณไปพร้อมกับผมซะเลย”
ในชั่วพริบตา พี่ฉินก็ได้ตกเข้าไปอยู่ในโลกของความเงียบ และดูเหมือนเป็นความเงียบที่แฝงด้วยความบาดเจ็บทางจิตใจ
หรือความเงียบนั้นหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงตราบาปในจิตใจเท่านั้น