เป็นไปอย่างที่คิดไว้Jasonนั้นทำตามที่ผมกำชับไว้ กดอารมณ์โมโหเดือดดาลเอาไว้ชั่วคราว จัดการอดทนเล็กน้อย สามารถดูได้จากเรื่องที่เขาเปลี่ยนมาเลือกรถคันนั้น
เดิมทีเป็นรถGreat Wall SUVธรรมดาคันหนึ่ง เขาขับไปถึงศูนย์ซ่อมรถในชนบท ไปขัดหมายเลขรถยนต์ทั้งหมดออก หมายเลขที่กระจกนิรภัยของหน้าต่างรถทั้งหมดก็ใช้มีดขูดออก ร่องรอยข้อมูลของรถทั้งหมดนั้น ถูกเขาจัดการลบออกจนสะอาดหมดจด
ถึงขนาดสีของตัวรถเองก็เปลี่ยนเหมือนกัน สีรองพื้นทั้งหมดเองนั้นก็ทำจนไม่เหลือทิ้งไว้ จากนั้นก็พ่นสีใหม่อีกครั้ง สว่างสดใสเหมือนใหม่
และยิ่งละเอียดรอบคอบไปอีกก็คือ ขนาดภายในตัวรถเองนั้นเขาก็แปะป้องกันการมองเห็นอีกชั้นหนึ่ง แบบนี้ ถึงจะตรวจสอบไปก็ไม่สามารถถ่ายรูปลักษณะของเขาภายในรถได้เลย รถคันนี้ไม่มีทางมองทะลุเห็นอะไรได้เลย
ใช้เวลาในการเตรียมตัวหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เขาเตรียมการทั้งหมดอย่างเพียบพร้อมแล้ว ถึงจะมาพบกับผม
“ที่ศูนย์ซ่อมรถนั้นคุณไม่ถูกพวกเขาเห็นหน้ามาก่อนใช่ไหม?”
“ไม่มี ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว คุณวางใจได้เลย หลังจากนี้ถ้ามีคนเจอที่นี่ เอารูปของฉันออกมา ศูนย์ซ่อมรถเองก็ไม่มีคนที่รู้จักฉันอยู่ดี”
สอบถามเยอะแยะมากมาย Jasonเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว พูดได้เลยว่า เจ้านี่ของผมที่ทั้งขี้เหนียวและชอบต่อต้าน พอทำเรื่องแบบนี้นั้นทำทุกอย่างออกมาได้อย่างราบรื่นมากทีเดียว คิดรอบด้าน
ผมยื่นบุหรี่หนึ่งมวนให้Jason จุดให้ตัวเองอีกหนึ่งมวนเช่นกัน “ไม่ไหวพวกเราก็ยอมแพ้เถอะ คุณฆ่าเขาไปเรียบร้อยแล้ว รีบหนีไปให้ไกลกับเฉินหลินเถอะ ไปจากเมืองนี้ซะ”
“พอแล้ว เรื่องแบบนี้คุณไม่จำเป็นพูดเยอะให้มากความ หลังจากที่ฆ่าคนแล้วฉันเตรียมที่จะไปจากที่นี่กับเฉินหลิน ถ้าคุณถือว่าเป็นพี่น้องกันมากพอ ให้ฉันยืมเงินหลายแสนหน่อย ถ้าไม่คิดว่าฉันเป็นพี่เป็นน้อง ก็ให้ฉันมาสักสามหมื่นห้าหมื่นก็ได้”
ไอ้เจ้าพวกนี้เห็นผมเป็นกระเป๋าเงินที่ถลุงเงินเป็นว่าเล่นตั้งแต่ต้นจนจบ ยังไงก็ต้องเป็นแพะรับบาปเรื่องนี้ไป ฉันรู้สึกขอโทษตัวเองอย่างมาก!
“ก็ได้ ฉันจะช่วยคุณเตรียมเงินเอาไว้หน่อย ตอนจะปฏิบัติการก็บอกผมละกัน ผมจะไปดึงตัวเฉินหลินมาก่อน จากนั้นพอคุณทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเราค่อยกลับมารวมตัวกัน ตอนนั้นผมจะเตรียมเอาไปด้วย”
“นี่ค่อยยังชั่วหน่อย โชคดีที่พวกเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน!”
ขณะที่พูด จางซานตั้นก็เอาบุหรี่ของผมยัดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของตัวเอง
“ใช่แล้ว จำไว้นะว่าเตรียมเป็นเงินสดนะ ฉันไม่เอาบัตรธนาคารนะ”
หลังจากที่แยกจากJason ก็ช่วงพลบค่ำแล้ว ใกล้จะถึงเวลากินข้าวแล้ว
พอคิดไปคิดมาหลายวันนี้ไม่ได้เจอฮองเฮาของตัวเองเลย ดังนั้นผมเลยโทรศัพท์หาจางหงหวู่
“ฮองเฮาที่รัก ทานข้าวแล้วหรือยัง ท้องของข้ายังหิวอยู่เลย!”
“ไม่มีเนื้อ รองท้องด้วยหมั่นโถวไปจนอิ่มแล้ว”
จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป
หลังจากมาถึงดี้เล่สิงซิง ผมก็ตรงไปที่ห้องทำงานของจางหงหวู่
ตอนนี้ เธอที่ใส่ผ้ากันเปื้อนกำลังทำกับข้าวอยู่ในห้องครัว หอมมาก กับข้าวก็หอม คนเองก็หอมเหมือนกัน
ผมกัดไปที่ติ่งหูหนึ่งที หอมหวานมาก
“เมียจ๋า คืนนี้กินหูหมูกับหมั่นโถวดีไหม?”
จางหงหวูจ้องมองมาที่ผมอย่างบริสุทธิ์ใจ “ยังมีนมหมูด้วยนะ คุณไม่ดื่มสักหน่อยเหรอ?”
ผมพยักหน้าอย่างจริงจัง “นี่ก็ต้องมี!”
ลวนลามเรียบร้อยแล้ว ช่วยเธอจัดเก็บโต๊ะ จากนั้นเอาอาหารทั้งหมดไปจัดวาง
กับข้าวหกอย่างน้ำแกงสอง อุดมสมบูรณ์จริงๆ
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรอออกมา จากนั้นผมก็ไปนั่งที่เก้าอี้สำนักงานของเธอ ดื่มน้ำ มองสำรวจตรวจตรา จากนั้นก็เห็นรถของตัวเองคันนั้นและรถของจางหงหวู่และรถของหวูเจิ่นดง
รถสามคันนี้มีจุดร่วมกันอยู่ แน่นอนว่านั่นก็คือความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับดี้เล่สิงซิง
ความคิดนี้เหมือนว่าจะไร้สาระ ค่อนข้างมีความหมายไร้สาระ แต่สำคัญมาก
“เมียจ๋า ช่วยผมหารถสักคัน จะต้องไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเลยกับคุณ หาที่จอดมันไว้ ผมสามารถจะใช้ได้ตลอดเวลา”
จางหงหวู่เก็บโต๊ะจนสะอาด จากนั้นก็โทรศัพท์ จัดการเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากนั้น เธอมาด้านหลังของผม “รู้สึกว่าคุณคืนนี้ไม่ค่อยจะร่าเริงสนุกสนานเท่าไหร่ เตรียมการคิดจะทำอะไรไม่ดีอยู่หรือเปล่า”
“คุณดูจากตรงไหนกันว่าผมดูไม่ค่อยร่าเริง ผมก็แค่อยากได้รถสักคันก็เท่านั้นเอง นี่ก็ดูไม่ปกติแล้วเหรอ?”
จางหงหวู่นวดไหล่ของผมเบาๆ “คืนนี้ตอนทานข้าวคุณดูมีมารยาทมาก วันนี้หลังจากเจอฉันคุณก็ดูมีมารยาทตลอด หรือว่านี่ยังดูไม่ออกอีกว่าไม่ปกติ?”
ผมจับกุมมือเล็กที่อ่อนนุ่มไม่มีกระดูกของเธอไว้ จากนั้นโอบกอดเธอมานั่งบนตัก จากนั้นหยอกล้อกับหน้าอกที่อวบอิ่มเต่งตึง ตรงเข้าไปจูบที่กระดูกไหปลาร้าและคางของเธอ
“จงใจเกินไป”
จางหงหวู่นั้นรู้จักคุ้นเคยกับผมเป็นอย่างดี ทุกการกระทำของผม เธอสามารถวิเคราะห์อารมณ์ของผมตอนนี้ออกมาได้
“ไม่มีอะไร ก็แค่ช่วงนี้ได้สัมผัสซูเสี่ยวฉิน ซูเสี่ยวฉินคุณเองก็รู้จักนี่ ที่เป็นผู้หญิงของตั่นโก๋ซูน……”
เล่าเรื่องของซูเสี่ยวฉินให้กับจางหงหวู่ฟัง จากนั้นพยักหน้าเบาๆ “ซูเสี่ยวฉินน่าจะไม่มีความรู้สึกกับตั่นโก๋ซูนไปตั้งนานแล้วละ เพียงแต่ไม่ยอมล้มเลิกเท่านั้นเอง ส่วนตั่นโก๋ซูนนั้นแค่ตั้งแต่ต้นจนจบรักแต่กู้ฟางเฟย นี่กลับเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย”
“เหนือความคาดหมายถึงจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น”
ตีเบาๆไปที่ก้นของจางหงหวู่ จากนั้นเธอยืนขึ้น ผมเองก็ยืนขึ้นเหมือนกัน
จูบเธอเบาๆ จากนั้นผมก็หมุนตัวจากไป
ตอนที่ผมจะปิดประตูสำนักงานของเธอนั้น เธอพูดกับผม “ระวังตัวด้วย”
ผมดันประตูเปิดห้องอีกครั้ง “ยังรอให้คุณคลอดทีมนักฟุตบอลให้ผมอยู่นะ!”
จางหงหวู่กลั้นหัวเราะ จากนั้นก็พยักนั้นตอบรับ
ออกจากดี้เล่สิงซิง ผมก็ยังใช้ชีวิตต่อไปแบบในอดีตที่ผ่านมา ขับรถมาที่ผับหมอชิ่ง
คืนนี้ธุรกิจก็ดำเนินกิจการอย่างปกติ ถึงแม้ว่าภายในห้องโถงใหญ่ยังคงมีคนเดินขวักไขว่ไปมา ผู้หญิงมากมายส่งเสียงร้องเชียร์ผู้ชายที่รูปร่างดีพวกนั้นบนเวที แต่ว่าภายในห้องส่วนตัวนั้นกลับมีลูกค้าเพียงไม่กี่ท่าน มีมาบางครั้งบางคราว ก็เป็นพวกลูกค้าเก่า ต่างคนต่างก็มีหนุ่มน้อยของตัวเองอยู่แล้ว
เวลาประมาณห้าทุ่ม มีลูกค้าเข้ามา อายุยังน้อย รูปร่างอ่อนช้อยงดงาม ดูแล้วอายุน่าจะเพิ่งยี่สิบต้นๆ ความรักวัยรุ่น มีน้ำมีนวล ไหลเติมเต็มแอ่งน้ำให้ชุ่มชื่น
ไม่เลวเลยทีเดียว หลังจากที่เข้ามาที่ห้องส่วนตัว ก็พบว่ารูปร่างหน้าตาของเธอนั้นไม่เลวเลย
เวลาที่พบกันนั้นเหมือนมีไฟโหมแรงออกมา คืนนี้สามารถปลดปล่อยอารมณ์บนร่างกายของเธอ ก็คงดีทีเดียว ไม่รู้ว่าร่างกายที่อ่อนนุ่มงดงามของเธอนี้จะรับไหวหรือเปล่า
สายตาของเธอนั้นกวาดมองไปที่ร่างกายของเพื่อนร่วมงานแต่ละคน สุดท้ายก็มีหยุดที่ตัวผม
นี่ดีมาก นี่เหมือนที่ผมหวังเอาไว้ทั้งหมด
สวรรค์เป็นใจ เธอชี้มาที่ผมจริงๆ จากนั้นคนอื่นก็ออกไปหมด
แต่เวลานั้นเอง โทรศัพท์มือถือของผมมีเสียงเรียกดังขึ้น หยิบออกมาดู ที่แท้ก็คือจางซานตั้น
“ขออภัย ขอรับโทรศัพท์”
หญิงสาวคนนั้นพยักหน้าเบาๆ และไม่ได้ใส่ใจอะไร
หลังจากรับโทรศัพท์ จางซานตั้นก็พูดออกมาอย่างตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม “คืนนี้ฉันจะลงมือแล้ว คุณช่วยไปรับเฉินหลินมาที อย่าลืมเอาเงินมาด้วย มีเท่าไหร่เอามาเท่านั้น”
จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป
ผมค่อนข้างตกตะลึง คิดไม่ถึงแม้แต่น้อย คิดไม่ถึงว่าไอ้หลานคนนี้จะลงมือไวได้ขนาดนี้ ผมยังไม่ทันจะเตรียมเงินสดไว้เลย
เห็นผมตกตะลึง หญิงสาวเลยถามผมว่าเป็นอะไร
ผมตอบ “พี่ชายคนหนึ่งของผมเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้กำลังกู้ชีพอยู่ที่โรงพยาบาล ผมต้องไปส่งเงินให้”
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นคุณรีบไปเถอะ ฉันมีเงินสดอยู่สองพัน คุณเอาไปใช้ก่อน”
ความกระตือรือร้นของเธอนั้นทำให้ผมค่อนข้างตกตะลึง เดิมทีผมคิดว่าเธอจะต้องโกรธ ทั้งๆที่เพิ่งจะเลือกผมออกมาจากเวทีแท้ๆผมก็จะไปซะแล้ว แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เธอไม่เพียงแต่จะไม่โมโหเท่านั้น แต่กลับต้องการมอบเงินให้ผมอีกสองพัน
นี่เป็นความจริงใจที่แสนจะบริสุทธิ์อย่างแท้จริง นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีอย่างอื่น ความจริงใจแบบนี้นั้น เป็นเรื่องที่หายากมากจริงๆ
ผมเดิมทีอยากจะปฏิเสธการรับเงิน แต่สุดท้ายก็เก็บเอาไว้ “คุณทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ผม ผมจะรีบเอามาคืนคุณ”
เธอส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก คุณรีบไปเถอะ รอฉันมาอีกทีแล้วคุณค่อยคืนฉันละกัน”
“ขอบคุณ”
เสียงขอบคุณนี้ จริงใจเป็นอย่างมาก ไม่มีความไม่จริงใจปะปนเลยแม้แต่น้อย ผมนั้นไม่เคยเจอหญิงสาวที่มีความจริงใจแบบนี้มาก่อน จริงใจจนดูโง่ไปหน่อย แต่ว่าดูแล้วใสซื่อบริสุทธิ์เป็นพิเศษ ทำให้ผมนั้นไม่อาจที่จะฝืนทนโกหกเธอได้
เพียงแค่หวังว่า หลังจากนี้ยังมีโอกาสได้พบเธออีกครั้ง