หลังจากส่งJasonกลับที่พัก ผมก็กลับไปในห้องของกู้ฟางเฟยนั้น
คืนนี้เธอไม่อยู่ มีผมที่อยู่ที่นั่น ขณะที่ครุ่นคิด ผมก็ค่อยๆผล็อยหลับไป
ตอนเช้าของวันที่สอง
ขณะที่ผมกำลังหลับสนิทอยู่นั้นก็ถูกเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาปลุกจนตื่น คลำหยิบขึ้นมาดู บนหน้าจอแสดงชื่อคนที่โทรเข้ามาติดต่อว่าเป็นหลี่เกอ “ขอบคุณ เฉินเฟิง พี่หูจื่อของคุณทำได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะเพียงแค่ไม่กี่สิบนาที แต่ว่าก็อึดแต่ก่อนเยอะมากแล้ว ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ……”
ผมนำยาเม็ดสีแดงหนึ่งเม็ดที่นำมาจากอยู่เสี้ยงเฉียนเมื่อไม่กี่วันก่อนให้กับหลี่เกอ ช่วงนี้มีเรื่องมากมายจนค่อยๆลืมไปหมดแล้ว จนถึงตอนนี้ที่เธอพูดผมจึงนึกขึ้นมาได้
“สิบกว่านาที ถ้ารวมกับเล้าโลมแล้วก็กระตุ้นพอให้คุณบินได้สู่จุดสุดยอดได้ทีหนึ่งแล้ว ชีวิตก็ผ่านไปอย่างมีความสุขแล้วนะ!”
คุยเล่นเล็กน้อยไม่กี่ประโยคกับหลี่เกอ จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์
ขับรถไปหาหวูเจิ่นดง หลังจากเปลี่ยนรถกับเขา ผมก็มาถึงที่พักของJason ซ่อนตัวอยู่ในรถเพื่อเฝ้าดู
รอช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย ขนาดข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้กิน ผมจึงเห็นJasonออกไป
รอจนเขาออกไปไกลแล้ว ผมเลยลงจากรถขึ้นชั้นบน จากนั้นหยิบกุญแจเปิดประตูห้อง ไปหาเฉินหลินที่กำลังหลับอยู่ในห้องนอน
ไม่มีการพูดจาไร้สาระ ผมตรงเข้าไปเปิดผ้าห่มออก จากนั้นแยกขาเรียวงามคู่นั้นออกจากกัน นำร่างกายของที่ขาวนวลของเธอมาฝึกการใช้นิ้วมือ……
หลังจากกินข้าวเย็น ผมไปหาหวูเจิ่นดงเพื่อไปเปลี่ยนรถกลับ
หลังจากรับสายโทรศัพท์ของเฉินหลินแล้ว ผมก็วางสาย จากนั้นก็มาที่พักของJasonและเธอ
หลังจากเปิดประตูเข้าไป ผมพลิกบัตรธนาคารไปมาในมือ มีเสียงดังก๊อกแก๊กออกมา “คืนทุนแล้วคืนทุนแล้ว คืนนี้ข้าจะเอาทุนคืนแล้ว ซานตั้นตั้น คนล่ะ?”
พอเดินมาถึงหน้าประตูห้องนอนของพวกเขา จากนั้นผมมองเห็นจางซานตั้นที่นั่งซื่อบื้ออยู่บนเตียง และเฉินหลินที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างๆ
“พวกคุณสองคนนี่เล่นสนุกกัน ที่บ้านก็ยังเล่นข่มขืนเหรอ? ช่างมีรสนิยมจริงๆ!”
‘ข่มขืน’สองคำ กระตุ้นจางซานตั้นได้อย่างลึกซึ้งชัดเจน เขาเงยหัวขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ราวกับว่าอยากจะฆ่าคนแบบนั้น
“เป็นอะไรไป Jason?”
ผมค่อนข้างมีความตกตะลึง ถามไปแล้วหลายครั้ง แต่Jasonก็ไม่ยอมพูดออกมา เฉินหลินยิ่งร้องไห้ฟูมฟายออกมาเพิ่มมากขึ้น ร้องไห้เป็นสายฝน ทำเอาคนรู้สึกเจ็บปวด
ขณะที่ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี เฉินหลินตรงเข้าไปในห้องครัว จากนั้นหยิบมีดมาพาดตรงลำคอ
โชคดีที่การตอบสนองของJasonนั้นว่องไว รีบแย่งออกมา และกอดเฉินหลินแน่นไว้ในอ้อมกอดทันที
ชั่วพริบตา เฉินหลินที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ไอ้เหี้ยนั่น ฉันจะต้องฆ่ามันให้ได้!”
หลังจากนั้นพอสมควร Jasonระเบิดคำพูดออกมาจากความเงียบ จากนั้นหยิบมีดเดินพุ่งตรงออกไปข้างนอก
เฉินหลินรีบร้อนไปอยู่ตรงหน้าประตู คุกเข่าอ้อนวอน ไม่ง่ายเลยที่จะยับยั้งไม่ให้Jasonออกไปแก้แค้นทำเรื่องเลวร้าย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เฉินหลินคุณบอกผมหน่อยเถอะ คุณไปทำอะไรมากันแน่ Jasonถึงได้โกรธได้ถึงขนาดนี้?”
“ไม่ใช่เธอ เป็นไอ้เหี้ยคนหนึ่ง เถ้าแก่ร้านยู่โห่KTVนั่นต่างหาก!!!”
Jasonฟันเข้าไปที่กรอบประตูอย่างรุนแรง ตัวมีดนั้นฝังเข้าไปแล้วครึ่งหนึ่ง เห็นได้ถึงความโกรธของเขาว่ามากมายเหลือเกิน
ทันทีที่ผมสอบถามออกไป ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เฉินหลินเห็นว่าJasonนั้นทำงานของตัวเองจนเหน็ดเหนื่อยเกินไป ดังนั้นจึงอยากจะไปเป็นพนักงานหญิงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของยู่โห่KTV แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปกับแขก และสามารถหาเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตของตัวเองและJasonได้ และเพื่อออมเงินบางส่วนสำหรับการแต่งงานในวันข้างหน้า
แต่ก็ไม่คิดว่า ตอนช่วงบ่ายที่เธอไปสมัครงานนั้น เถ้าแก่ร้านยู่โห่KTVนั้นเห็นว่าเธอสวย รูปร่างดี จากนั้นจึงบังคับลากเธอเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัว แล้วก็ถูก……
“ช่างเป็นสัตว์เดียรัจฉานจริงๆ แข่งกันใช้เงินเลี้ยงดูหญิงโสมมเอาไว้เป็นเบี้ยล่างไม่กี่คนก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วอย่างนั้นเหรอ? แจ้งความ จับเขา!”
ผมหยิบมือถือออกมาจะโทรศัพท์ไปแจ้งความ เฉินหลินรีบเข้ามาห้าม ขอร้องพร้อมกับน้ำตา
“อย่าแจ้งความ คุณแจ้งความ ต่อไปฉันจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไร ยังจะมีหน้าไปพบผู้คนได้อย่างไรกัน!!!”
“แล้วจะให้ทำยังไง หรือว่าคุณจะมองดูซานตั้นเอามีดไปฟันไอ้เหี้ยนั่น จากนั้นให้เขาชดใช้ด้วยชีวิต?!”
เฉินหลินร้องไห้ไม่หยุด Jasonอยากจะพุ่งออกไปอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกผมห้ามเอาไว้ได้ทั้งหมด
หลังจากที่วุ่นวายอยู่หนึ่งชั่วโมงกว่า ผมที่ไม่มีทางเลือกอื่น ท้ายที่สุดก็ให้คำแนะนำกับJasonไป
“ไปซื้อรถมือสองมาสักคัน ประกันให้ครอบคลุมทั้งหมด จากนั้นชนให้เขาตาย คุณเองก็ไม่ต้องหนี พอถึงเวลานั้นตำรวจตรวจสอบและวินิจฉัยว่าเป็นอุบัติเหตุทางจราจรที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดทำให้ถึงแก่ความตาย อย่างมากคุณก็จะถูกคุมขังอยู่ไม่กี่วัน จากนั้นเงินชดเชยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทางบริษัทประกันจะเป็นคนไปทำเอง”
ตาของJasonเป็นประกาย แต่ในที่สุดก็เลือกที่จะส่ายหน้า “ไม่ได้ คุณไม่รู้หรอกนะว่าคนนั้นเป็นใคร ลูกน้องเขามีมากมายหลายคน ถ้าผมปรากฏตัว ยังไงก็ตายแน่นอน”
“แต่ว่าความคิดของคุณนั้นเตือนผมให้นึกขึ้นมาได้ ผมสามารถหารถโจรกรรมที่ไม่มีขั้นตอนมาสักคัน จากนั้นชนเขาให้ตายแล้วค่อยหนี แบบนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สงสัยมาถึงตัวของผม”
ตอนที่พูดเรื่องนี้ Jasonก็กำชับให้ผมช่วยดูแลเฉินหลินด้วย เขาจะออกไปข้างนอก
ผมรีบเข้าไปห้ามเขา “ดึกขนาดนี้แล้วยังจะไปไหนอีก คืนนี้เฉินหลินนั้นต้องการคุณ คุณอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอเถอะ!”
หลังจากที่Jasonปลอบเฉินหลินแล้ว ช่วยพวกเขาจัดลำดับแก้ไขความสำคัญ แนะนำพวกเขาว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนจัดการอย่างละเอียดรอบคอบ จากนั้นผมก็ออกมา กลับไปที่ผับหมอชิ่งไปทำงานต่อ
เท้าด้านหน้าของผมนั้นเพิ่งจะเหยียบเข้าไปในผับ จากนั้นตามมาด้วยเท้าหลังก็มีลูกค้าเลือกผมจากเวที
ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง จากนั้นก็พบกับซูเสี่ยวฉินที่แต่งตัวด้วยกระโปรงสั้นและชุดรัดรูป
หลังจากเข้าไปในห้องส่วนตัว ผมจ้องมองดูเธออย่างละเอียดลออ รองเท้าส้นสูงสีทอง ประดับไปด้วยลายดอกไม้สีสันสดใส ขาเรียวยาวคู่นั้นปกคลุมด้วยถุงน่องสีดำที่ปักลายดอกกุหลาบ จากนั้นเป็นกระโปรงสั้นเสมอตูด สัดส่วนเต่งตึงของเธอนั้นเค้าโครงสมบูรณ์ทั้งหมดเผยออกมาดึงดูดผู้คนให้ชวนหลงใหล
ไม่ต้องไปดูหน้าอกขาวนุ่มที่เผยออกมาครึ่งหนึ่งของร่างกายส่วนบนนั้นอีก แค่ขาคู่นี้ ก็เพียงพอที่จะล่อใจให้ผมแทบจะคลั่งได้แล้ว
“คืนนี้สวมชุดเซ็กซี่ขนาดนี้มาหาผม คุณอยากจะทำอะไร?”
ซูเสี่ยวฉินมองผม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนมีเสน่ห์ เหมือนกับสุนัขจิ้งจอกที่โตเต็มวัยงดงามตัวหนึ่ง “คุณว่าฉันอยากจะทำอะไร?”
ผมครุ่นคิด “เอาผม?”
ซูเสี่ยวฉินยิ้มอย่างเกเร “ฉลาดมาก”
นั่งลงบนโซฟา พิจารณาร่างกายที่แสนยั่วยวนของเธอ จากนั้นนั่งลงบนตักของผม ใช้มือสัมผัสเบาๆสำรวจลูบคลำบริเวณถุงน่องบางเรียบลื่นเย็นนั้น หยอกล้อขาสวยที่มีเสน่ห์คู่นั้นอย่างละเอียด
“คุณไม่ใช่อยากตายเหรอ?”
“ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้จัดการกินคุณเลย ฉันก็ยังไม่อยากตาย ตอนนี้คุณเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างเดียวที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ หรือจะพูดว่าอารมณ์ทางร่างกาย”
ไม่ต้องพูดไร้สาระอีกแม้แต่ครึ่งประโยค ผมเข้าไปถอดชุดเกาะอกของเธอออก จากนั้นจูบตรงไปที่ความอวบอิ่มกลมกลึงนั้น มือนั้นตรงเข้าไปนวดคลึงด้วยความรักอย่างรวดเร็ว ลูบไล้อย่างหลงใหลและเร่าร้อนบนเนื้อนุ่มของต้นขานั้น
หลังจากนั้นหลายนาที มีเสียงร้องครางอันน่าหลงใหลออกมาจากคอของซูเสี่ยวฉิน นั่นคือไฟราคะแห่งแรงปรารถนาที่ปลุกปั่นวิญญาณรูปแบบหนึ่ง นั่นคือรูปแบบของเสียงจากสัญชาตญาณที่ร่างกายได้รับการปลุกปั่นเร้าอารมณ์
เธอที่กำลังกระหาย กระหายในความรักที่กำลังจะบังเกิดขึ้น ปรารถนาที่จะให้ผมเข้าไปในร่างกายที่แสนเย้ายวนของเธอ
ผมวางเธอลงบนโซฟา ยกขาสวยของเธอขึ้นมา ถอดรองเท้าออก เริ่มจากนิ้วหัวแม่เท้าที่แสนเซ็กซี่สีขาว ตรงไปที่น่อง ตรงไปที่ต้นขานั้น ท้ายที่สุดเปิดกระโปรงสั้นของเธอออกมา จากนั้นเคลื่อนหัวเข้าไปต้นทางระหว่างขายาวใหญ่ทั้งสองข้างที่แสนมีเสน่ห์คู่นั้นของเธอ……
ถ้าจะพูดว่าครั้งที่แล้วพิชิตด้วยนิ้ว อย่างนั้นครั้งนี้ก็คงจะตกอยู่กับการหักโหมหยอกล้อของลิ้น
หลังจากผ่านไปสามชั่วโมงกว่า ซูเสี่ยวฉินเปลี่ยนเป็นเหมือนครั้งที่แล้วอีกครั้ง ขนาดแรงที่จะด่าคนก็ยังไม่มีแล้ว ทำได้เพียงนอนแผ่อยู่บนโซฟาหายใจถี่กระชั้น จากนั้นสายตาภายในดวงตา เปิดเผยให้เห็นถึงความเคียดแค้น แค้นที่ผมทำแค่เพียงหยอกล้ออีกครั้ง ไม่แก้ปัญหา
ผมถอดกางเกง จากนั้นยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“เสี่ยวฉิน ตรงนั้นของคุณอยากได้หรือเปล่า?”
ซูเสี่ยวฉินใช้แรงทั้งหมดที่มี ร้องพึมพำเบาๆออกมา “อยาก”
ดังนั้น ผมจึงถอดถุงน่องและกางเกงในแสนเซ็กซี่ของเธอออก
เธอหลับตาลงด้วยความคาดหวัง เธอเฝ้ารอคอย เฝ้ารอคอยความรักที่กำลังจะมาถึง แม้แต่ผมยังสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ตอนนี้เธอใฝ่ฝันความรักแบบดุเดือดรุนแรง สมใจปรารถนา เติมเต็มโดยไม่ลังเลเสียดายเลยสักนิด มอบให้อย่างรุนแรงเต็มเหนี่ยวเกือบจะแตกสลาย
ผมตัดสินใจที่จะทำให้เธอพอใจ และผมเองก็จะทำแบบนั้นด้วยเช่นกัน
ยื่นมือออกไปหนึ่งข้าง ผมฟาดเข้าไปอย่างรุนแรงตรงบริเวณที่คาดหวังนั้นของเธอ อยากที่จะทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ฝันไปเถอะ!”