ในเวลาห้าวันต่อมา ตอนกลางวันก็อยู่ดูแลหันเจิงลู่ ตอนกลางคืนก็ไปทำงาน ก่อนเที่ยงคืนก็กลับบ้านตรงเวลาดังนั้นความรู้สึกที่มีต่อหันเจิงลู่ ก็เริ่มใกล้เข้าไปอย่างรวดเร็ว มองเผินๆ เหมือนสามีภรรยาคู่หนึ่ง คล้ายคู่รักที่มีความสัมพันธ์หยาดเยิ้ม
แต่แค่ ตัวผมเองรู้สึกว่ามันมากเกินไปหน่อย อะไรที่มันเกินพอดี มันก็ดีไม่เหมาะสม ผมเลยคิดว่าต้องทำตัวเฉยชาเสียหน่อย การตีตัวออกมาไม่ใช่เรื่องง่าย เฉยชาเกินไปก็ไม่ได้ จะเฉยเมยจนดูผิดแปลกไปก็คงไม่ได้อีกเพราะเรื่องนี้เลยทำให้รู้สึกปวดหัว เป็นเรื่องที่ทำไม่ใช่ง่าย ๆ เลย
ตอนบ่ายที่ออกไปซื้อของ ผมขับรถอยู่ก็ไปเจอเข้ากับเงาของใครบางคนที่ผมคุ้นเคย
เมื่อจอดรถ แล้วมองไปที่กระจกมองหลัง ผมก็เจอเข้ากับเธอ
นานแล้วที่ไม่ได้เจอเธอ มิน่าล่ะว่าทำไมช่วงนี้ผมถึงรู้สึกแปลก ๆ พอเห็นเธอก็นึกขึ้นมาได้ ครึ่งเดือนกว่า ๆ แล้วสินะ ที่ผมไม่ได้แกล้งเธอ นี่คงจะเป็นสาเหตุที่ใจของผมมันกระสับกระส่ายอยู่ไม่นิ่งแบบนี้
เพราะงั้น ผมเลยจุดบุหรี่แล้วสูบเพื่อรอเธอ
ในมือเธอที่ถือฮาเก้นดาสหนึ่งแท่ง เมื่อเธอเดินผ่านข้าง ๆ รถ ผมเลยเปิดประตูที่นั่งข้างตนขับ ” ขึ้นรถสิ ”
เธอยืนตะลึงอยู่สักพัก ก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งไป
” จ้าวเย่นซวน ถ้าคุณกล้าวิ่งผมก็กล้าที่จะไปหาคุณที่บ้านเหมือนกัน! ”
ผมมองไปที่กระจกมองหลัง ตะโกนเสร็จก็ค่อย ๆ หลับตาสูบบุหรี่อย่างใจเย็น
เป็นไปตามคาด ไม่นานนัก ก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนขึ้นมาบนรถ จากนั้นก็มีเสียงประตูรถที่เหมือนจะถูกปิดอย่างแรงดัง ‘ ปัง ‘ ในนั้นแฝงไปด้วยความน้อยใจปนโกรธเล็ก ๆ
” ทำไมคุณถึงขี้น้อยใจขนาดนั้นล่ะ ผมไม่ได้เลียหรือสัมผัสคุณสักหน่อย แต่ก็นะ เห็นลิ้นของคุณเลียฮาเก้นดาสได้ลื่นไหลขนาดนั้นน่ะ ดูเหมือนว่าพักนี้สกิลการเลียของคุณจะพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะ ผมขอลองสักทีได้รึเปล่าล่ะ”
” คนหยาบคาย! ”
จ้าวเย่นซวนด่าออกมาอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะมองไปที่ฮาเก้นดาส อารมณ์จะกินก็ไม่มีอีกแล้ว เลยเปิดกระจกรถแล้วทิ้งมันลงไปในถังขยะข้างถนน
ผมไม่ได้ยั่วเธอต่อ ก่อนจะขับรถแล้วลากเธอไปที่ลานจอดรถของห้างแห่งหนึ่ง
” จะทำอะไรของคุณเนี่ย! ”
” หุ่นของคุณกับผู้หญิงที่ผมพึ่งเอามาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นี่ รูปลักษณ์น่ะเหรอ ถึงคุณจะแย่กว่าเธอราวฟ้ากับเหวก็เถอะ แต่ยังไงก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ถ้างั้นคงต้องยืมรสนิยมคุณมาหน่อยละกัน ช่วยซื้อของขวัญให้เธอหน่อยสิ”
จ้าวเย่นซวนถลึงตามองผมอย่างโกรธจัด อย่างกับเสือที่กำลังจะเขมือบคนลงไปอย่างไรอย่างนั้น แต่น่าเสียตรงที่ฟันกับเขี้ยวของเธอมันคงไม่พอนี่สิ
” เลิกมองได้แล้ว รีบพาผมไปซื้อสิ อ้อ แล้วอย่ามาเลือกมั่ว ๆ นะ ต้องตั้งใจเลือกให้มันดี ๆ ด้วยล่ะ ถ้าคุณกล้าแกล้งผมล่ะก็ ผมจะไปสู่ขอคุณที่บ้าน บอกคุณท่านของคุณท้องอยู่! ”
จ้าวเย่นซวนกำมือน้อย ๆ นั้นแน่น ” เฉินเฟิง คุณมันบัดซบ หยาบคาย เสเพล คนสารเลว! ”
ที่ผ่านมาเธอเรียกผมด้วยชื่อเรียกมากมาย ผมเลยไม่รู้สึกรู้สาอะไร
เมื่อเธอด่าจบ ผมก็ลากเธอเข้าไปในห้างนั่น
” อย่าอืดอาดล่ะ รีบ ๆ เลือก เธอไม่ได้ เลือกอันที่ไม่เหมาะสมออกมา ผมบอกเลยว่าคุณต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปแน่ ๆ ”
เมื่อโดนผมดุ จ้าวเย่นซวนรู้สึกน้อยใจ ก่อนจะรีบก้าวขาสวบ ๆ ไม่ได้บ่งบอกถึงการเดินเลือกอย่างใจเย็น แต่เป็นการเดินตรงดิ่งไปยังชั้นสองที่เป็นร้านขายเครื่องประดับโดยเฉพาะ
ในตู้โชว์เครื่องประดับนั้น เธอชี้ไปที่สร้อยข้อมือเส้นหนึ่ง
” อันนี้ เอาไปห่อเลยค่ะ! ”
ผมเหลือบมองไปที่จ้าวเย่นซวน แล้วมองไปที่สร้อยข้อมือเส้นนั้น ” เงินแท้ ราคาหมื่นกว่า ตอนนี้ราคาเงินพุ่งขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ?! ”
” บ้านนอกจริง ๆ ! ”
จ้าวเย่นซวนขี้เกียจจะอธิบาย ก่อนจะหันตัวเดินไป แต่ก็ถึงผมฉุดเอาไว้
จากนั้น พนักงานขายก็รีบอธิบายให้ผมฟังอย่างกระตือรือร้น เธอบอกผมว่า มันเรียกว่าสร้อยข้อมือแพนโดร่าคือหนึ่งในเครื่องประดับของตี้หวัง ถึงแม้ตัวของเครื่องประดับจะขึ้นรูปมาจากเงินบริสุทธิ์ แต่บนตัวเครื่องประดับเองถูกเคลือบไปด้วยตัวเคลือบวัสดุสีแดงที่เลี่ยมกรอบเพชรรูปหัวใจ
โดยเฉพาะมันคือแบรนด์ของแพนโดร่า ราคาเลยสูงเป็นพิเศษ
ผมไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ผมชี้ไปที่จ้าวเย่นซวน แล้วถามพนักงานขายว่า ” ถ้าเธอใส่คุณจะอิจฉาไหม ”
พนักงานขายพยักหน้า ” แน่นอนว่าต้องอิจฉาสิคะ หญิงสาวที่ตามเทรนด์คนไหนจะไม่รู้จักสร้อยข้อมือแพนโดร่ากันล่ะคะ อีกอย่างสร้อยข้อมือรุ่นนี้คือรุ่นเดียวกับดาราหญิงชื่อดังที่ชื่อหลินซิงหรูใส่อีกต่างหาก เป็นที่รู้จักกันมากมายเลยค่ะ แล้วก็….”
” ออกใบเสร็จเลยครับ ”
ไม่ได้สนใจพนักงานขาย ผมก็ลากจ้าวเย่นซวนเข้ามาใกล้ ๆ แล้วเอาสร้อยข้อมือขึ้นมาใส่ให้กับมือเล็ก ๆ นั่นความยาวของสร้อยกำลังพอดี แต่จะว่าไปก็ดูสวยดีเหมือนกัน
ขณะที่เธอกำลังชื่นชมอยู่นั้น ผมก็ถอดมันออก จนทำให้เธอโกรธจนต้องกระทืบเท้า
เมื่อห่อสร้อยข้อมือใส่กล่องเสร็จ ผมก็รับใบเสร็จเพื่อไปจ่ายเงิน จ่ายเสร็จผมก็เอาของที่พึ่งซื้อมายื่นให้จ้าวเย่นซวน
” ช่วยผมถือที แล้วเราไปกันได้แล้ว ”
จ้าวเย่นซวนสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ยอมถือให้ ก่อนจะถูกผมลากไปที่ลานจอดรถ
เมื่อขึ้นรถแล้ว จ้าวเย่นซวนก็ทิ้งกล่องของขวัญลงแล้วเดินไป จึงโดนผมรั้งไว้ แล้วบังคับให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถ
” จะทำอะไรอีก ฉันก็ช่วยคุณเลือกเสร็จแล้ว คุณจะเอายังไงกันแน่! ”
” ก็จะใส่มันให้คุณไง แล้วผมจะซื้อมันทำไมกันล่ะ ”
คำพูดของผมทำให้จ้าวเย่นซวนงงจนเป็นไก่ตาแตก ” คุณไม่ได้ซื้อให้ผู้หญิงที่คุณกำลังจีบอยู่หรอกเหรอ ”
” เมื่อกี้ผมจีบคุณอยู่ไม่ใช่หรือไง ถ้าไม่จับคุณเอาไว้ คุณหนีผมไปตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ถ้าผมใส่สร้อยข้อมือนี้ให้คุณแค่นี้คุณก็เป็นของผมแล้ว ผมไม่อนุญาตให้คุณหนีไป ถ้าบังอาจหนีไปอีกล่ะก็ ผมจะตัดขาให้เลี้ยงไม่โตกันไปข้างนึง! ”
เมื่อใส่สร้อยข้อมือให้จ้าวเย่นซวนเสร็จ เห็นสีหน้าเธอที่คาดไม่ถึงกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น ผมเลยเอากล่องสร้อยข้อมือโยนออกไปนอกหน้าต่าง
” คุณทำอะไรเนี่ย ฉันยังต้องใช้มันใส่สร้อยข้อมืออีกนะ ”
” แล้วคุณจะถอดทำไมล่ะ ใส่มันบนข้อมือคุณ แบบนี้สิถึงจะเหมาะที่สุด ”
จ้าวเย่นซวนดูดีใจเล็กน้อย แล้วก็มีบางมุมที่ดูเคอะเขิน เม้มปากไม่พูดอะไรแต่สายตาบอกถึงความสุขที่แสดงออกมา
ตอนที่เธอกำลังดีใจอยู่นั้น ผมก็ขับรถพาเธอไปยังโรงงานทิ้งร้างเปลี่ยว ๆ ที่หนึ่งซึ่งปลอดผู้คน
เมื่อเธอเห็นว่าโดยรอบไม่มีใครอยู่เลย ก็เข้าใจทันทีว่าต่อไปผมจะทำอะไรเธอ แล้วรู้ว่าต่อไปเธอจะเป็นยังไง
เธอไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเปิดประตูเพื่อหนี แต่ผมเตรียมตัวไว้แล้ว ใครจะยอมให้เธอหนีกันล่ะ
เพียงชั่วพริบตา ร่างของเธอก็ถูกผมกดไว้กับเบาะรถ
” เฉินเฟิง คุณมันเลวที่สุด คุณจะทำอะไร จะแกล้ง…. ”
ผมไม่ปล่อยโอกาสให้จ้าวเย่นซวนพูดต่อ ก็บรรจงลิ้นไปอุดที่ปากอันเซ็กซี่ของเธอ ผมละเลงมันลงไปอย่างตามใจ ทั้งยั่วเย้า และเรียกร้องบางอย่างจากเธออย่างบ้าคลั่ง
แน่นอน ขณะที่กำลังทำสิ่งนั้นกับเธอ มือของผมก็ไม่ได้อยู่นิ่งแต่อย่างใด ผมถอดรองเท้าของเธอออก ใช้นิ้วค่อยๆ เขี่ยถุงน่องที่เธอใส่อยู่ไปมาอย่างหยอกเย้า จากนั้นก็ถอดเข็มขัดของเธอออก ในขณะที่เธอกำลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่ ผมก็ถอดกางเกงยีนขาด ๆ ของเธอออกในที่สุด มันเผยให้เห็นกางเกงในตัวจิ๋วสีชมพูอ่อน ๆ ของเธอที่บ่งบอกถึงความเป็นสาวแรกแย้ม
” เฉินเฟิง เฉินเฟิง….อ๊า~! ”
ไม่มีคำพูดใด ๆ ต่อจากนั้น ก็เริ่มลงมือ ขณะที่ผมไล่มือเล่นไปมาบนขาที่อ่อนนุ่มและเซ็กซี่คู่นั้น ลิ้นของผมก็ยั่วเย้าตัวเธออยู่อย่างบ้าคลั่ง ทำให้เธอออดอ้อนครวญครางอย่างไม่รู้จบ ร่างกายอันงดงามนี้กำลังต่อต้านและบิดตัวไปมา…
ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านไปพร้อมกับการจูบแลกลิ้นอย่างเร่าร้อน ในหัวของจ้าวเย่นซวนนั้นปั่นป่วนไปหมดเป็นอีกครั้งที่เธอสับสนในตัวเอง รู้สึกบ้าคลั่งราวกับหญิงที่เสียสติไปแล้ว แล้วแยกเขี้ยวขู่ไปมา
” อย่าบ้าไปเลย วันนี้ผมต้องการคุณ ทำตัวดี ๆ หน่อยสิ ”
เมื่อคำพูดหลุดจากปากผมไป จ้าวเย่นซวนก็จริงจังขึ้นมา ใบหน้าน้อย ๆ นั่นที่ก่อนหน้าแดงระเรื่อก็แดงหนักขึ้นไปอีก มันเป็นสีหน้าที่บอกถึงความกระดากอายอย่างไงอย่างงั้น
ผมจูบลงบนปากที่นิ่มและเซ็กซี่ของเธอเบา ๆ แล้วถามต่อ ” ซวนซวน คุณจะยอมมอบร่างกายของตัวเองให้ผมไหม ”
จ้าวเย่นซวนหลับตาแน่น จากนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ อย่างเคอะเขิน
เพียงแค่ชั่วขณะ ผมก็ยกมือขึ้นตบไปที่กลางเป้ากางเกงในน้อย ๆ ที่เปียกชุ่มอยู่อย่างรุนแรง
” ฝันไปเถอะ ผมยังแกล้งคุณไม่เสร็จเลย หึหึ! ”
ในขณะที่ร้องอย่างเจ็บปวด ความบ้าคลั่งของจ้าวเย่นซวนก็ทวีมากขึ้น หมัดน้อย ๆ นั่นกระหน่ำทุบลงบนตัวของผม
” เฉินเฟิง คุณมันเลวที่สุด ทำไมถึงชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อย ฉันไปติดหนี้อะไรคุณไว้เหรอ ทำไมคุณต้องทำกับฉันอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้ มันเป็นเพราะอะไรกันแน่! ”
” เพราะผมชอบที่คุณโดนแกล้งแบบนี้ไว ผมยินดี ไม่ต้องขอบคุณ~ “