ท่าทางที่จริงจังและน่ารักของซือโย่วทำให้เหยาซื่อหัวเราะ ดูเหมือนว่าซื่อโย่วต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจ ทว่าสำหรับเหยาซื่อแล้ว มันกลับเป็นเรื่องง่าย ๆ ซะอย่างนั้น
ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มีอุดมคติเสียมาก เขาจะไม่แกล้งแหย่เล่นได้อย่างไร
เหยาซื่อมีเงินมากมายและไม่กลัวปัญหาของซือโย่วเลยสักนิด
“รอแปบนะ ผมขอไปอาบน้ำก่อน”
รอเขางั้นเหรอ? ซือโย่วรู้สึกระแวดระวังกับสายตาของเขา ทันใดนั้นความคิดสกปรกก็ทำให้เธอหน้าแดงระเรื่อขึ้น
เหยาซื่ออาบน้ำ เขานุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวและเดินออกมาจากห้องน้ำ
….
คนที่กำลังจะเป็นพ่อลูกสอง เขาจะทำตัวให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้อย่างไร
แผนการสร้างเนื้อสร้างตัวของเขาเริ่มขึ้นแล้ว จงอี้จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!
ในขณะนี้จงอี้และซูเหยาเหยา นั่งจ้องหน้ากัน โดยไม่พูดอะไรกันสักคำ
ซูเหยาเหยารู้สึกเพียงว่าตัวเองกำลังหายใจไม่ออก พวกเขาคุยกันนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ตั้งแต่การพบกันครั้งแรก กระทั่งเจอสถานการณ์วันนี้ มีหลากหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่เว้นทุกประเภทที่เกิดระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกันอย่างชัดเจน
ซูเหยาเหยาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เพราะจงอี้ได้อธิบายเรื่องทั้งหมด รวมไปถึงเรื่องแผนการในอนาคตของเธอกับเขาไปแล้ว
จิตใจของซูเหยาเหยาว่างเปล่า เขาให้คำมั่นสัญญากับเธอว่าจะมอบครอบครัวที่ปลอดภัยและอบอุ่นให้กับทั้งเธอและลูก แต่เมื่อเธอคิดถึงท่าทีของแม่เขาแล้ว ซูเหยาเหยาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหน็บหนาว
“แล้วแม่ของคุณล่ะ แม่คุณจะว่ายังไงบ้าง?”
แม้ว่าเขาจะไม่มีคู่หมั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ท่ามกลางผู้หญิงเหมือนแต่ก่อน เธอเชื่อนะว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีได้ แต่ตระกูลจงรับเธอไม่ได้ แม้ว่าเธอจะมีลูกแฝดกับเขา แต่เธอก็ไม่อยากเอาเรื่องในอดีตมาโกรธ
“เรื่องแม่ของผม คุณไม่ต้องกังวล คุณอยู่กับผม ไม่ใช่อยู่กับเขา เขามีลูกตั้งกี่คนในตระกูลจง เธอไม่จ้องตามติดผมตลอดเวลาหรอก อีกอย่างผมก็ย้ายออกมาแล้วด้วย เชื่อผม ผมทำได้ ผมจะดูแลคุณและลูกของเรา โอเคมั๊ย”
จงอี้อธิบายให้ซูเหยาเหยาฟังอย่างเป็นกังวล เขาแทบจะรอฟังคำตอบจากเธอไม่ไหว!
ซูเหยาเหยาเงียบและไม่ได้พูดอะไร เธอไม่สามารถตั้งป้อมใส่เขาได้อีกแล้ว สุดท้ายจึงยอมรับความรักระหว่างเธอและเขาอย่างสมบูรณ์
รักที่จะที่จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอ ไม่บังคับเธออีกต่อไป แต่งานที่บริษัทเธอไม่สามารถทำได้อีกต่อไปแล้ว ซูเหยาเหยาได้สัญญาว่าจะขอลาออกในวันพรุ่งนี้เพื่อออกมาเลี้ยงดูลูกของเธอ เธอมีสุขภาพไม่ดี และเธอไม่สามารถทำให้ลูกน้อยทั้งสองตกอยู่ในอันตรายได้
จงอี้รู้ดีว่าซูเหยาเหยาไม่ได้ขัดขืนเขาอีกต่อไป หลังจากนอนกับเธอ จงอี้พยายามทำงานล่วงเวลาเพื่อหาทางขยายอาชีพการงานของเขา ด้วยความช่วยเหลือของเหยาซื่อ เขาได้เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ เขาต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อให้ภรรยาของเขามีชีวิตที่ปลอดภัย
…….
เหยาซื่อไม่ได้สร้างปัญหากับซือโย่วในเย็นวันนี้ เขาพาซือโย่วเข้านอนหลังจากขอเธอแค่ครั้งเดียว เรื่องราวต่อไปในอนาคตจะยั่งยืนหรืออย่างไร เขาจะไม่กังวล
ซือโย่วอยู่ในอารมณ์ที่แสนสุขแม้กระทั่งยามหลับไปแล้ว มุมปากเธอยังคงโค้งขึ้น นี่เธอต้องฝันหวานอยู่เป็นแน่
เช้าวันรุ่งขึ้นซือโย่วลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา เธอลืมตาตื่นขึ้นพบว่าเหยาซื่อได้ออกไปจากห้องแล้ว
“สามีคะ?” เธอร้องเรียกอย่างเย้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เดินไปที่ประตูห้องเล็ก ๆ อีกห้อง
เหยาซื่อสวมผ้ากันเปื้อนและหลังที่สลัวของเขาแกว่งไปมาท่ามกลางควันไฟ
เขากำลังทำอาหารเช้า โดยได้รับวัตถุดิบสดใหม่ที่บริกรนำมาส่งให้ เขากำลังทำอาหารเช้าให้กับซือโย่วด้วยตัวเอง
เมื่อเข้ามาเห็นเขา ซื่อโย่วตาแดงก่ำ ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ
“สามี…” ซื่อโย่วเดินเข้ามาใกล้และกอดเขาจากด้านหลัง “เป็นอะไรไป หิวแล้วเหรอ? อีกแปบเดียวอาหารเช้าก็จะเสร็จแล้วล่ะ ไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
เหยาซื่อหันทัพพีอย่างชำนาญ จานผัดผักแสนอร่อยเพิ่งออกจากเตา!
ซื่อโย่วแทบทนความเย้ายวนของอาหารไม่ไหว จึงรีบไปล้างหน้าแปรงฟัน รอทานอาหารเช้า
หลังอาหารเช้า เหยาซื่อพาซือโย่วไปที่ ที่หนึ่ง
นอกจากคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยดอกไม้แล้วยังมีทุ่งหญ้าสีเขียวขจีและต้นไม้ผล บนยอดใหญ่มีน้ำค้างอันงดงาม
มีบ้านหลังเล็ก ๆ มากมาย กระจัดกระจายอยู่ตามเชิงเขา พร้อมกับสายหมอกที่คดเคี้ยวไปมาตามไหล่ขาว
ที่นี่เป็นสถานที่ที่มักพบในเทพนิยายจริง ๆ ไม่มีสิ่งรบกวนจากภายนอก ภายในมีแต่ความสงบเงียบ
เหยาซื่อพาซือโย่วไปตกปลาและเก็บผลไม้สดมามากมาย ในรถมีห้องครัว พวกเขาสามารถปิกนิกกันได้อย่างไม่มีปัญหา ณ สถานที่แห่งนี้
“ว้ายสวยจัง ฉันล่ะไม่อยากไปจากที่นี่เลย”
ไม่รู้กี่ครั้งที่ซือโย่วพูดเช่นนี้ เหยาซื่อดีใจมากที่เขาพาเธอมาที่นี่ หากเมิ่งเยียนเปิดให้บริการ ที่นี่คงไม่ใช่สถานที่เงียบสงบเช่นนี้อีกต่อไป
“ถ้าอย่างนั้น คุณจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวและกำหนดคนเข้าต่อวันดีไหม หากมีคนเยอะจนเกินไป สถานที่คงถูกทำลายแน่ ๆ เลย!” ขณะที่ซือโย่วพูด เธอคิดถึงฉากกองขยะเกลื่อนกลาด ยิ่งทำให้ปวดใจ
“อืม ที่เมียพูดก็ถูก”
เหยาซื่อรู้สึกดีใจที่เธอก็คิดเช่นเดียวกับเขา เขาจึงป้อนผลไม้ชิ้นเล็ก ๆ เข้าไปในปากของเอ สาวน้อยคนนี้ช่างฉลาดเสียจริง!
เมื่อรสหวานกระจายไปทั่วปากของซือโย่ว ทำให้เธอหัวเราะออกมาเบา ๆ เธอโยนผลไม้ให้กับเหยาซื่อที่นั่งลงบนพื้นโดยไม่สนใจดินที่เปื้อนติดกางเกงของเขา ทั้งสองหยอกเย้ากันอย่างสนุกสนาน
เหยาซื่อคิดว่าซือโย่วไม่ชอบชีวิตดั้งเดิมแบบนี้ หลายคนคัดค้าน ตอนที่เมื่อตอนที่เขาบอกว่าจะสร้างสวนแห่งความฝันแห่งนี้
ตอนนี้เป็นยุคของข้อมูล ใครกันเล่าจะชอบวิถีชีวิตโบราณเหล่านี้ ทว่าเหยาซื่อแค่อยากจะทำตามความฝันของแม่ เขาดีใจที่ซือโย่วชอบที่นี่และ เข้าใจเขามากที่สุด ขณะที่นั่งอยู่หน้าบ้านไม้สัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่ค่อยดีนัก ทำให้เพิ่งจะได้อ่านข้อความ
ซือเหนียนกล่าส่งข้อความมาบอกว่าผู้อาวุโสมักจะมาเยี่ยมที่บ้านเขาบ่อย ๆ ใช้เวลาพูดคุยและเล่นหมากรุกกับลุงของเธอ เมื่ออ่านข้อความนั้น เธอยกมุมปากขึ้นเบา ๆ ดูเหมือนว่าปู่จะรู้แล้วว่าลุงเป็นลูกชายของเขา ตั้งแต่ที่เธอบอกความจริงนั้นกับเขา เธอคิดอยู่แล้วว่าปู่ของเธอต้องทำเช่นนี้
เธอไม่รู้ว่าปู่ของเธอจะบอกความจริงกับลุงของเธออย่างไร ตราบใดที่ตระกูลฉินจะเข้ามาทำร้ายพวกเขา ซือโย่วจะไม่ก้าวเข้าไปยุ่งเกี่ยว
“คิดอะไรอยู่?” เหยาซื่อสะบัดหน้าผากของซือโย่วเบา ๆ
ซือโย่วส่งยิ้มหวานให้กับเขา รอยยิ้มเช่นนี้จะไม่ให้คนที่ได้เห็นยิ้มตามได้อย่างไร
“เกิดอะไรขึ้น เล่าให้สามีฟังหน่อยสิ?”
ซือโย่วเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้กับเหยาซื่อฟัง
ขณะที่พูดถึงการที่ตระกูลฉินข่มแหงแม่ของเธอ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะยกกำปั้นขึ้นอย่างโกรธแค้น
“ฉันต้องล้างแต้นให้แม่ให้ได้”
เหยาซื่อไม่คาดคิดว่าจะได้รับรู้เรื่องราวความโหดร้ายเช่นนี้ในบ้านของซือโย่ว
ขณะที่รับฟังเกี่ยวกับความคับข้องใจในวัยเด็กของเธอ เขาก็อดทนไม่ได้ที่จะต่อสู้เพื่อภรรยาของเขา!
“ไม่ต้องกังวลไป สามีจะคอยสนับสนุนเอง ทำในสิ่งที่คุณอยากทำเถอะ!”
ซือโย่วประหลาดใจที่ได้ยินเหยาซื่อพูดขึ้นเช่นนั้น มันทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย
“อืม ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำอะไรไม่ดีหรอก…”
สาวน้อยเขินอายก้มหน้ามองพื้น เหยาซื่อรู้ว่าหัวใจของซือโย่วต้องเจ็บปวดมามากเพียงใด เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น
“ไม่ต้องกลัว ผมจะคอยเป็นที่พึงให้คุณในอนาคตเอง”